xs
xsm
sm
md
lg

เคล็ดลับ “หน้าเด็ก” สไตล์...หญิง สุกัญญา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หญิง - สุกัญญา ไรวินท์” สาวหมวย เวิร์กกิ้งวูแมน อารมณ์ดี มีทั้งงานพิธีกร ดีเจ เจ้าของธุรกิจ และอีกมากมาย หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่าเธอมีเคล็ดลับอย่างไรให้หน้าเด็ก มาล้วงความลับฉบับสาวหมวยหน้าเด็ก ที่ทำให้เธอดูหน้าตาสดใสและอ่อนกว่าวัยจนลืมอายุจริงว่าเธอคือสาววัย 30+

ปรับนาฬิกาชีวิตตัวเอง

กลายเป็นสาวเวิร์กกิ้งวูแมน ทั้งเก่ง มากความสามารถ รับทั้งงานพิธีกร ดีเจ เจ้าของคลื่นวิทยุ รวมถึงเจ้าของร้านตัดผมอีกด้วย เพียงแค่งานพิธีกรตามอีเว้นต์ต่างๆ ของเธอก็เรียกได้ว่า 24 ชั่วโมง ใน 1 วันเธอรับงานมากที่สุดถึง 5 งาน จนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนดูแลตัวเอง

เธอยอมรับว่า เพราะงานล้นมือจนแทบจะไม่มีเวลาให้แก่ตัวเอง ทำให้ต้องกลับมาคิดว่าจะต้องดูแลสุขภาพตัวเอง และด้วยวัย 30+ เพราะการทำงานจนไม่มีเวลาพักจึงต้องทำให้หญิงต้องหันกลับมาดูแลสุขภาพตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม

“วิธีดูแลตัวเอง จริงๆ เราทำงานเยอะแล้วเราก็จะเน้นเรื่องของการพักผ่อนมากกว่า ถ้างานเยอะแล้วไม่ได้พักผ่อนมันจะเพลีย ต้องนอนให้หลับ เราจัดวิทยุตั้งแต่สองทุ่ม ถึงสี่ทุ่ม พอถึงบ้านก็จะประมาณห้าทุ่ม เราจะต้องเข้านอนเลยทันที เพราะเคยไปเจอคุณหมอ แล้วคุณหมอบอกว่า ถ้าไม่อยากให้แก่เร็วก็จะต้องนอนก่อนเที่ยงคืนให้ได้เลยนะ เพราะว่า ฮอร์โมนที่มีส่วนสร้าง ซ่อมแซมส่วนต่างๆจะทำงานได้ดีถ้าเรานอนก่อนเที่ยงคืน ไม่อย่างนั้นนอนดึกกว่านี้ก็จะแก่เร็วเลยนะ เท่านั้นแหละ ทำทุกอย่างที่ดูแลตัวเองให้ดี จะตื่นแต่เช้า เจ็ดถึง แปดโมงเราก็ตื่นแล้วนะ แล้วมันจะทำให้นาฬิกาชีวิตของเราปกติ แล้วก็นอนเร็วขึ้น ”

“ส่วนเรื่องการกินเราจะนิสัยเสียหน่อย เราจะตามใจปากมากเลยนะ แต่ก็ต้องเลือกที่ไม่ใช่ว่าจะกินจังก์ฟู๊ดตลอดเวลา เพราะงานของหญิงก็ต้องการความเร่งรีบเหมือนกัน อย่างมาถ่ายรายการ เราเลือกไม่ได้เวลาน้อย ก็กินในรถก็มี และที่สำคัญต้องมีน้ำ เราต้องดื่มน้ำตลอดเวลา เพราะว่าเป็นคนนิสัยเสียที่ดื่มน้ำวันนึงน้อยมาก ก็เลยต้องบังคับตัวเองให้ดื่มน้ำโดยการเอาน้ำวางไว้รอบตัว ทุกที่ ไม่ว่าในรถ เวลาทำงานหรือมีโอกาสก็จะดื่มทันที โต๊ะเครื่องแป้ง ก็ต้องมี ผิวเราหมองคล้ำ ผิวแห้ง ท้องผูก น้ำจะมีความสำคัญสำหรับเรามาก”

“แต่เราไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ดื่มกาแฟ ไม่สูบบุหรี่ แค่นี้ก็ช่วยได้แล้วนะ ให้เรามีสุขภาพดี หน้าไม่แก่เร็วด้วยนะ ใครที่มายืนสูบบุหรี่ข้างเรานี่เดินหนีก่อนเลยนะ เพราะควันบุหรี่จะทำให้เราแก่ไว แล้วก็กาแฟด้วย ไม่แตะเลยนะ อย่างมาก เราอยากกินอะไรหวานๆ ก็ดื่มน้ำอัดลมนิดหน่อย แต่ก็อย่างที่บอกว่าก็มีน้ำเปล่าติดตัวไว้ตลอดเลย คาเฟอีน กาแฟจะทำให้แก่เร็ว น้ำเปล่าก็ต้องไม่เย็นนะ ปาร์ตี้นานๆ ไปที ไปเจอเพื่อนๆที่คอนโดเพื่อน ชิวล์ๆ บ้านเพื่อน เราก็อายุเยอะแล้ว ก็มีวิตามินซีเสริมบ้าง ฟีชออยล์ คิว 10”

หญิงเล่าว่า เมื่อไม่นานเธอไปพบกับแพทย์ เพือตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งก็ทำให้พบว่าตนเองเริ่มมีโรคประจำตัวนั่นคือ โรคภูมิแพ้ ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยเป็นโรคนี้ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรวมถึงสถานที่การทำงานที่ต้องเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปทำงานต่างประเทศที่มีอากาศหนาว และกลับมาเมืองไทย ซึ่งอุณหูมิต่างกันมาก ทำให้เริ่มเกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นกับตัวเอง

“ เรามีโรคประจำตัวเกิดขึ้นเลย เพราะเมื่อก่อนไม่เคยเป็นภูมิแพ้ แต่ว่าช่วงที่ผ่านมาไม่นานเป็นภูมิแพ้ เพราะอากาศมันเปลี่ยน เราเป็นมาปีนึงแล้ว หมอเลยแนะนำให้นอนให้เยอะขึ้น ห้ามนอนในที่ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส แล้วก็ต้องงดใช้เสียง แล้วที่หมอแนะนำเรามา เราทำไม่ได้สักอย่างเลย มันก็เลยต้องออกกำลังกาย ถ้าออกกำลังกาย อาการก็จะลดน้อยลง เวลาที่จะออกกำลังกายเราก็ไม่ค่อยจะมี เพราะวันนึงเราก็วิ่งงานเยอะมาก 3 งาน หรือบางวันก็วิ่ง 5 งาน นี่เยอะที่สุด วันไหนว่างสุดก็ไปจัดรายการ ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายเลย”

ตอนนั้นไปถ่ายรายการที่เกาหลี สองเดือนไป ไป-กลับอยู่ 6 ครั้ง แล้วอากาศมันหนาวมาก -16 องศา อากาศมันหนาวแล้วเราก็อยู่กลางแจ้งด้วย หลังจากนั้นน้ำมูก แล้วก็เป็นภูมิแพ้ กลายเป็นโรคประจำตัวไปเลย เพราะเราไปเจออากาศหนาวๆ แบบนั้นแล้วก็บินกลับไทยซึ่งอากาศร้อนมาก ไปๆ มาๆ แบบนี้ร่างกายมันก็ปรับสภาพไม่ได้ ก็เลยกลายเป็นโรคประจำตัวมาจนตอนนี้เลย อย่างที่บอก ถ้าช่วงไหนออกกำลังกายบ่อยๆ ก็จะไม่ค่อยเป็นภูมิแพ้ จะหายนะ แต่ก็ไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เสียงก็จะขึ้นจมูก แต่ก็เริ่มชินแล้วค่ะ ถ้ามีเวลาก็จะออกำลังกาย ไปวิ่ง ครึ่งชั่วโมง อาทิตย์ละ 3-4 วันจะพยายามทำให้ได้มากที่สุดค่ะ”

เล่นเกม คลายเครียด

ต้องดูแลทั้งงานส่วนตัว เจ้าของธุรกิจ หลากหลายงานรุมเร้าแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงเก่งคนนี้เครียดกับงาน “เราจะเหนื่อยมากกว่าเครียดนะ เพราะว่าเราต้องใช้สมองเยอะ เวลาเหนื่อยก็จะพักผ่อน วันไหนเราพักผ่อนน้อย มันก็จะเป็นวงจรของมันอย่างนี้ ยิ่งเหนื่อย ยิ่งนอนน้อย นอนน้อยก็ยิ่งเหนื่อย เพราะการนอนสำคัญมาก”

ส่วนใหญ่เวลาคลายเครียดของเธอคือการ พูดคุยกับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก นัดรับประทานอาหารกับเพื่อนๆ ในช่วงวันว่าง แต่ส่วนใหญ่จะติดเกมมากกว่า

“เราติดเกมมาก ว่างเมื่อไหร่ก็ต้องหยิบออกมาเล่นตลอด วันนึงเราต้องชาร์ตแบตโทรศัพท์สามครั้ง เมื่อก่อนจะเป็นคนติดอ่านหนังสือ แต่พอมีเกมเข้ามาก็ติดเกม เหมือนเด็กๆ เลยค่ะ บางทีเล่นเกมมากๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองโง่จังเปลี่ยนจากเล่นเกมมาอ่านหนังสือ ตื่นมาตอนเช้าก็หยิบเกมมาเล่นก่อนเลย เพราะช่วงวันทำงานเราจะไม่ค่อยมีเวลาแบบตอนเช้าเลย

หญิงว่าการไปนั่งรอใครเฉยๆ มมันน่าเบื่อนะ มันต้องหาอะไรไปทำเพื่อฆ่าเวลา อยู่คนเดียมันคลายเครียดได้เราเป็นคนแอคทีฟตลอดเวลา ไฮเปอร์ มัลติฟังก์ชั่น ทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันทีเดียวไปเลย เราก็จะเป็นคนแบบนี้ ดูทีวี ดูหนัง ต้องทำอะไรไปด้วย มันต้องมีกิจกรรมเสริมที่แบบไม่ต้องมานั่งนิ่งๆ ดูอย่างเดียวอ่ะ ”

นอกจากนี้เธอยังบอกว่า การจะทำให้ตัวเองดูสดใสตลอดเวลา ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตนเองด้วย ซึ่งบางครั้งอาจจะวีนหรือเหวี่ยงบ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนโมโหร้ายเสมอไป เพราะพื้นฐานครอบครัวเป็นคนยิ้มเก่ง ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรมา ก็สามารถปลงได้ ใจเย็นมากขึ้นกว่าเดิม

“เมื่อก่อนไม่ใช่เลยนะตอนวัยรุ่นจะต้องอยากได้ทุกอย่าง อะไรทำไม่ทันก็จะหงุดหงิดตลอด แต่เล่นเกมส์ก็ช่วยให้เย็นขึ้นนะ แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน บางคนเล่นเกมโหดก็อาจจะก้าวร้าว โซเชียลเน็ตเวิร์กก็ช่วยได้ ซึ่งบนโลกออนไลน์ก็จะช่วยได้นะ เพราะเวลาหญิงตอบทวีตเพื่อน แล้วมันดูเหวี่ยงๆ นะ เพื่อนก็จะรู้เลยว่าเราเป็นอะไร ตอบกวนๆ แรงๆ ก็แล้วแต่อารมณื เมื่อก่อนเป็คนค่อนข้างใจร้อน เพราะเราจะเป็นคนอยากทำอะไรออกมาให้มันเพอร์เฟ็กต์ที่สุดนะ ให้มันได้ตามที่เราวางเอาไว้เปะๆ นะ ในอีกมุมนึงมันก็กดดันตัวเองนะ บางอย่างมันแพลนก็ต้องยืดหยุ่นบ้าง”

“บางครั้งเราไปเป็นพิธีกรในงานแล้วแขกรับเชิญไม่ตรงเวลาเราก็จะเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ แล้วก็จะไม่ค่อยอยากคุย อยากจะถามมากมาย มันก็ส่งผลแย่กับการทำงานนะ หลังๆ เราก็โตแล้ว นิ่งขึ้นเยอะ ประสบการณ์จะเป็นสิ่งที่บอกว่าเราควรจะทำอย่างไร อย่างบางครั้งตอนเด็กๆ เราจะเป็นคนที่คิดว่า บ้าหรือป่าว ทำไมผู้ใหญ่จะต้องนอนไม่หลับ เพราะอะไร แต่พอเราโตขึ้นมันก็มีอาการแบบว่าเรานอนไม่หลับเหมือนกันนะ พออายุเยอะ เลขสามขึ้นมันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไปปาร์ตี้เมื่อก่อนเราอยู่ได้จนงานเลิกเลยนะ แต่เดี๋ยวไม่ได้นะ ต้องหนีกลับบ้าน ลืมการปาร์ตี้ไปนานมาก เราก็คิดว่าทำไมเราต้องมาตะโกนคุยกันในนี้ หรือเรายืนบนรองเท้าส้นสูงนานๆ ได้ไง เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้วนะ”


เอาใจเขามาใส่ใจเรา

หญิงบอกว่าคนเราอย่าไปตามสังคมมากนักเลย เพราะปัจจุบันวงจรสังคมมันหมุนเร็ว วิ่งตามไม่ทัน ต่างคนต่างทำมาหากิน ก็ต้องใช้ชีวิตที่เราสามารถอยู่ได้และไม่เดือดร้อนกับตนเองและคนอื่น ซึ่งเมื่อตอนน้ำท่วมหญิงว่า มันดีนะ น้ำมาช่วยชะลอการใช้ชีวิตของผู้คนได้ดี ไม่ต้องไปคิดอะไร ข้าวของที่ซื้อกันมาก็ทำให้รู้ว่า สุดท้ายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ มันก็กลับกลายมาเป็นภาระให้แก่ตัวเอง ทุกคนต้องคิดแบบปลงๆ สะ จิตใจจะได้ไม่ร้อนรุ่ม

“คนเราติดทุนนิยมเกินไป เราเองก็เป็นนะ แต่ก็ตอบสนองความต้องการในระดับที่เราหาได้และก็จำเป็นเท่านั้นนะ คนเราเดี๋ยวนี้ใจร้อน เราจะเป็นคนไม่โกรธคนอื่นนะ แต่จะโกรธตัวเองมากกว่าคือเราจะโกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจนะ ทำไมฉันไม่ทำอย่างนั้น อย่างนี้ เวลาเหนื่อยมากๆ ก็คิดว่าเราเหนื่อยไปเพื่ออะไร เดี๋ยวนี้ก็เลือกงานมากขึ้น เลือกที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนาตัวเองมากขึ้น
ถ้าเราทำงานมากเกินไปก็ไม่รู้จะหาเงินเพื่อตัวเองหรือว่าต้องหาเงินไปหาหมอกันแน่ ”
การทำงานที่ต้องเจอคนมากๆ ไม่ใช่เพียงแค่ต้องดูแลตัวเองเท่านั้นต้องดูแลคนรอบข้าง และดูแลจิตใจกันด้วย เมื่อไหร่ที่งานมีปัญหาก็จะต้องงัดเอาจิตวิทยามาคุย เพราะการทำงานกับคนหลายคนมันยาก เพราะต้องทำให้ทุกคนต้องปรับความเข้าใจกันมากขึ้น

“เราก็ต้องทำงานเพื่อเอาใจลูกค้าเพราะว่าเราก็ต้องเป็นคนกลางเพื่อจะคอยไกล่เกลี่ยงานให้เสร็จ เพื่อนเหนื่อย ไม่ไหว คนนึงมีปัญหา เราก็ต้องใช้จิตวิทยาคุยกับเพื่อน เพราะว่าการทำงานกับคนมันยากที่สุดเลยนะ หลักในการใช้ชีวิต ก็เอาใจเขามาใส่ใจเรานะ เพราะว่า ถ้าเราไม่ชอบให้เขาปฏิบัติกับเรายังไง เราก็อย่าปฏิบัติกับเขาอย่างนั้น ซึ่งสังเกตเลยนะว่า หญิงจะเป็นคนที่แฮปปี้กับทุกคนนะ เพราะว่าถ้ารู้ว่าใครเยอะไป ก็จะเหวี่ยงเขาตรงๆ พูดกันตรงๆ เราจะมีวิธีในการพูด งานของตัวเองอยู่กับคนจะยากที่สุด เคยอยากมีผู้จัดการส่วนตัวแต่เขาไม่สามารถทำตามอย่างที่เราอยากทำได้ หรือเขาไม่ได้มารู้ใจตัวเราเท่ากับตัวเราเองนะ แล้วก็ไม่ชอบให้ใครมารอ แล้วมาคิดว่าเราเองก็เริ่มโหลด ทุกอย่างมันก็เหนื่อย เราเป็นคนขี้เกรงใจ ใครมีงานอะไรให้ทำเราก็รับๆ จนบางทีกลับมาดูตารางงาน มันเยอะมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราก็คงทำนะ แต่เราไม่ใช่สาวๆ เอ๊าะๆ แล้วนะ”

สำหรับสาวๆ วัยทำงานหญิงฝากเอาไว้ให้คิดว่า อย่าคิดว่าเข้าสู่วัยทำงานแล้วงานเยอะ จนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก ยิ่งวัยทำงานแล้วต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม ต้องใช้กฎ “work hard play hard” แต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องสุดโต่งอย่างเดียว ก็ต้องพักผ่อนกันด้วย

ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์

ภาพโดย อดิศร ฉาบสูงเนิน 


กำลังโหลดความคิดเห็น