xs
xsm
sm
md
lg

'ช้างป่า' โศกนาฏกรรมบนผืนป่าแผ่นดินไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัญหาการล่าช้างป่าเพียงเพื่อสนองตัณหาของมนุษย์นั้น เป็นปัญหาใหญ่ที่หมกเม็ดอยู่ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน อาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์ของช้างป่าในประเทศไทยกำลังเผชิญภาวะวิกฤตเข้าทุกที แม้จะพระราชบัญญัติรักษาช้างป่า แต่โทษอันน้อยนิดแค่ปรับหรือจำคุกไม่กี่ปีก็ไม่ได้สร้างความเกรงกลัวต่อกลุ่มนักล่าแม้แต่น้อย ยิ่งในเรื่องมนุษยธรรมคงไม่ต้องเอ่ยถึง เพราะหาก 'พวกเขา' ยังพอมีสำนึกอยู่บ้าง เพื่อนร่วมโลกตัวโตอย่าง 'ช้างป่า' คงไม่ถูกคุกคามอย่างทุกวันนี้

สำหรับประชากรช้างป่าที่เหลืออยู่ในประเทศไทยนั้น ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้สำรวจพบว่ามีประมาณ 3,000 ตัว อาศัยกระจายอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ 61 แห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่แถบป่าตะวันตก อาทิ กลุ่มป่าดงพญาเย็น เขาใหญ่ ป่ากุยบุรี และป่าแก่งกระจาน แน่นอนในผืนป่าตะวันตก เป็นพื้นที่ที่ช้างป่าถูกลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ฆ่าช้างป่าเอางาอย่างอำมหิต ไม่เพียงทิ้งซากศพอันน่าเวทนากลางป่า แต่ยังสร้างความสะเทือนใจต่อสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างล่าสุดเมื่อช่วงต้นปี 2555 ก็เกิดโศกนาฏกรรมช้างป่าเพศผู้ 4ตัว ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ถูกแก๊งล่าช้างฆ่าตัดงาเฉือนอวัยวะเพศ ซึ่งชาวบ้านก็ยืนยันว่าในป่าลึกยังมีซากช้างป่าอีก 3 ตัว ราวกับว่าขบวนการล่าช้างป่าไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้น แถมยังกระทำการอุกอาจตามออเดอร์หรือคำสั่งซื้ออยู่เรื่อยๆ

คงต้องยอมรับว่าบทบาทของช้างก็ถูกลดทอนไปตามกาลเวลา กลับกันมูลค่าในตัวมันดันเพิ่มสูงขึ้นทุกทีๆ หากตีราคาช้างป่าเป็นๆ นั้น ซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณสองล้านบาท ส่วนช้างตายชำแหละขายได้หลายส่วนตีเป็นเงินแล้วมูลค่าสูงกว่าช้างเป็นเสียอีก

ช้างป่า ถูก 'ล่า-ฆ่า' ไปทำอะไร?
ก่อนอื่นคงต้องมาสำรวจกันก่อนว่าช้างป่า 1 ตัว นั้นถูกล่าไปทำอะไรบ้าง ซึ่งตรงนี้คงตอบคำถามถึงพฤติกรรมการล่าได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะกระทำด้วยคติความเชื่อใด ก็ล้วนแล้วมีเงินเข้ามาเป็นปัจจัยล่อแทบทั้งสิ้น ...เรียกว่าออเดอร์มาปุ๊บ ก็รีบจัดไปปั๊บ

1. งานำโชค (ร้าย)
ถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทยนับเป็นร้อยๆ ปีแล้ว เพราะว่ากันว่าใครมีไว้ครอบครองจะเป็นสิริมงคล ดูมีบุญบารมี เป็นเครื่องหมายของการมีอำนาจ ขณะเดียวกันมันยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นเครื่องประดับได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นต่างหู สร้อย เป็นสินค้าขายดีที่บรรดานักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากเอเชียตะวันออก เช่น จีน ฮ่องกง เกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น (ซึ่งความเชื่อคล้ายๆ คนไทย) เห็นแล้วต้องรีบซื้อกลับบ้านโดยทันใด
แถมราคาของงาช้างนั้นอย่าให้บอก เพราะมันสูงลิ่วจนน่าตกใจ โดยเฉพาะที่ขายเป็นงาคู่ ยิ่งงาอันไหนที่สวยๆ ราคาก็จะพุ่งไปแตะหลักล้านบาทกันเลยทีเดียว ทั้งนี้เท่าที่มีการสำรวจออกมาพบว่างาช้างหนักเพียง 1 กิโลกรัมนั้นสามารถปั่นราคาได้เฉียดแสน

2. งานประจำของช้าง ‘ลากซุง’
หลายคนเวลานึกถึงช้าง ก็มักจะนึกถึงงานลากไม้ลากซุง แน่นอนแม้ปัจจุบันจำนวนช้างจะลดลงสักเพียงใด แต่ช้างก็ยังเป็นสัตว์ที่มนุษย์เลือกมาใช้งานนี้ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพราะด้วยพละกำลังที่มากกว่ามนุษย์หลาย 100 เท่า เพราะฉะนั้นมีหรือบรรดานักทุนจะเลือกยอมจ่ายเงินให้แก่คนงานนับชีวิตมากกว่าจะเลือกช้างสักตัวมาทำงาน และเนื่องจากงานนี้เป็นงานที่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นช้างที่ถูกนำมาใช้ ส่วนใหญ่จึงถูกเอามาแบบผิดกฎหมายเสียด้วย โดยว่ากันว่า ปีๆ หนึ่ง เมืองไทยมีช้างป่าถูกล่าไปใช้งานนับ 100 ตัว และในจำนวนนี้มีบางส่วนต้องสังเวยชีวิตให้แก่งานนับ 10 ตัว ยิ่งตัวที่ดุร้าย ไม่เชื่องด้วยแล้ว จะเป็นเป้าหมายของการถูกสังหารก่อนเพื่อน

3. อวัยวะก็ไม่เว้น
ต้องเรียกว่ากำลังมาแรงจริงๆ สำหรับนักสะสม เพราะจากเดิมที่เก็บเฉพาะงาช้าง แต่เดี่ยวนี้อวัยวะช้างก็ไม่เว้นเหมือนกัน เพราะโลกยุคใหม่นั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับของพวกนี้เต็มไปหมด เช่น หากเก็บใบหูช้างไว้ก็จะทำให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ส่วนเท้าช้างก็จะทำให้ชีวิตมั่งคงหนักแน่น หางช้างไว้บูชาเป็นมงคลนาคราช หรือแม้แต่ ขนหางช้างจะป้องกันภูตผีปีศาจ แน่นอนแม้งานนี้ยังไม่การพิสูจน์ว่าทำได้จริงเหมือนที่กล่าวอ้างไว้หรือไม่ แต่ความเชื่อแบบนี้ก็พัดไปเร็วยิ่งกว่าลมมรสุมเสียอีก จึงทำให้กิจกรรมการลากอวัยวะมาขายด้วย ได้รับความนิยมอย่างมาก

4. เมนูเปิบพิสดาร
แม้จะเพียงแต่อาหารเท่านั้นที่พิสดาร คนกินคนทำเองก็คงจะแปลกไม่แพ้กัน เพราะแต่ไหนแต่ไรไม่เคยได้ยินข่าวว่าคนเอาช้างมากิน แต่ตอนนี้เมนูช้างกลายเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวสุดๆ อย่างไม่กี่วันมานี้ก็มีข่าวออกจากปาก ตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตว่า ภัตตาคารในจังหวัดหลายๆ แห่งได้สั่งอวัยวะของช้างป่า โดยเฉพาะงวง หาง และอวัยวะเพศมาทำเป็นอาหารเพื่อบริการนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่อยากสัมผัสกับช้างไทยแบบใกล้ชิดโดยเฉพาะ ซึ่งเมนูส่วนใหญ่ก็เห็นจะพ้นการนำไปผัดเผ็ด หรือนำไปใส่ในอาหารที่มีเครื่องแกงเยอะๆ เพราะต้องยอมรับว่าถึงอย่างไร ช้างก็เหม็นคาวอยู่วันยังค่ำ

5. ขอทานมือใหม่
อาจจะดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่แก๊งประเภทนี้เกิดขึ้นจริง และเกิดขึ้นมากในเมืองใหญ่ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ โดยช้างที่ถูกจับมานั้นส่วนใหญ่จะเป็นลูกช้างที่ตัวไม่ใหญ่ไม่โตมากนัก นำไปตระเวนร่อนตามถนน เพื่อขอให้ผู้ใจบุญซื้ออ้อยให้พวกเขาได้กิน

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันแก๊งพวกนี้มีน้อยลง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครที่มีนโยบายผลักดันช้างออกจากพื้นที่ให้หมด ซึ่งทางแก้ของเหล่ามิจฉาชีพพวกนี้ก็คือ นำไปขายให้แก่บรรดาแคมป์ช้างหรือสถานบันเทิงต่างๆ เพราะเฉพาะในเมืองไทยเองก็มีสถานที่แบบนี้ โดยเฉพาะบริษัทท่องเที่ยวแนวผจญภัยนับสิบๆ แห่งแล้ว และจากการประเมินพบว่าในช่วง 2-3 ปีมานี้ น่าจะมีช้างป่า (รวมทั้งป่าข้างเคียงอย่างในประเทศพม่าด้วย) ตกเป็นเหยื่อของแก๊งพวกนี้นับ 100 ตัวกันเลยทีเดียว

6. การสวมสิทธิแทนช้างบ้าน
ช้างนั้นเป็นสัตว์ที่มีพรสวรรค์ในการเล่น การฝึก และขวัญใจของคนทั่วโลก เสียแต่ว่าปริมาณช้างและภูมิประเทศที่มันอยู่ในกลับไม่สมดุลกับความต้องการของโลก เป็นที่มาของธุรกิจการส่งออกช้างไปสู่เมืองนอกจึงเติบโต ทั้งนี้บางส่วนก็เอาไปในสวนสัตว์ บางส่วนก็เพื่อเอาแสดงโชว์ในกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ซึ่งช้างที่ได้รับอนุญาตนั้น รัฐจำกัดเฉพาะช้างบ้านเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่าจำนวนช้างเลี้ยงบ้างครั้งก็ไม่เพียงพอ แถมบางครั้งต้องไปซื้อกับเจ้าของเก่า ซึ่งแต่ละเชือกราคาไม่ใช่น้อย (คิดง่ายๆ แค่งาก็เป็นแสนแล้ว) เพราะฉะนั้นจึงมีคนหัวใสไปหาช้างป่ามาสวมสิทธิแทนจะคุ้มกว่า นอกจากนี้ยังมี บางปางช้างก็กลายเป็นแหล่งฟอกช้างที่สำคัญ ก็คือ จู่ๆ ก็มีช้างเข้ามาอยู่ในปางนับร้อยตัว ซึ่งหลายๆ ครั้งกระบวนการตรวจสอบก็ไม่ดี หรืออาจจะมีการทุจริตเกิดขึ้นทำให้ช้างพวกนี้กลายเป็นช้างเลี้ยง และสุดท้ายก็ถูกนำไปขายต่อกันต่อไป

ก้าวต่อไปของช้างป่า
แน่นอน สถานการณ์ช้างป่าของไทยในตอนนี้นั้นน่าเป็นห่วงมาก ซึ่งเป็นคำยืนยันจากปาก วายุพงศ์ จิตร์วิจักษณ์ ผู้จัดการโครงการอนุรักษ์ช้างป่า กองทุนสัตว์ป่าโลก (ประเทศไทย) ที่กล่าวไว้ในการประชุมเพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาช้าง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เขาเปิดเผยว่าการล่าช้างป่าในไทยนั้นเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสัตว์ป่าโลกที่ปลายทางอยู่ในประเทศเวียดนามและประเทศจีน เนื่องจากงาช้างแอฟริกาถูกจับมากขึ้น จึงมีความต้องการงาช้างเอเชีย โดยเฉพาะงาช้างของไทยเนื่องจากมีคุณภาพดี

จึงไม่แปลกใจเลย หากพบว่ามีเหตุการณ์ที่ช้างป่าถูกคุกคามเอาชีวิตอยู่บ่อยครั้ง จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมที่สังคมไทยต้องทนรับรู้มาตลอดอย่างหาทางแก้ไขไม่ได้เสียที แค่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็เกิดเหตุสะเทือนใจกับช้างป่าจำนวนไม่น้อย

โดยเหตุการณ์ที่ช้างป่าถูกคุกคามมีให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างกรณี เจ้าหน้าที่นำกำลังลงพื้นออกลาดตระเวนที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี แล้วได้ยินเสียงปืน 1 นัด ทันทีที่เจ้าหน้าที่เข้าโอบล้อมคนร้ายไหวตัวทันวิ่งหายไปในป่า เหลือไว้เพียงร่างช้างป่ากับลมหายใจที่ใกล้จะหมดลง

หรือจะเป็น เหตุพบศพช้างเพศเมียลอยอืดอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานีโดยสาเหตุการตายมาจากถูกยิงเพื่อขโมยลูกช้างไปขาย ในราคาประมาณ 300,000 บาท เหตุการณ์ถัดมาเจ้าหน้าที่พบซากช้างป่า ถูกปาดงวง และงา บริเวณหุบปลากั้ง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นอกจากสถานการณ์การฆ่าช้างป่าเพื่อธุรกิจ ช้างป่ายังต้องเผชิญกับสภาวะขาดแคลนอาหารจนต้องเร่รอนออกมาตามแนวชายป่ารุกเข้าพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านเพื่อหาอาหาร จนสร้างความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง ถึงขั้นต้องฆ่าเพื่อป้องกันพื้นที่ทำกิน ก็สร้างความเศร้าสลดใจแก่ผู้ทราบเรื่องไม่น้อย

ซึ่ง พงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร นายอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้คลุกคลีอยู่กับงานเกี่ยวกับช้างป่า ก็ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ของช้างป่าในประเทศไทยว่า สาเหตุการตายของช้างป่านั้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภท

“หนึ่ง-ก็คือมันมีกลุ่มขบวนการที่ต้องการล่าช้างเอางา เพราะมันก็จะมีออเดอร์มาเพื่อซื้อไป ช้างที่ล่ากันเพราะว่าต้องการเอางา หาง และอวัยวะของช้าง สอง-ประเด็นของการล่าช้างที่ช้างตาย มันก็เกิดจากการขาดอาหารของช้าง ณ ตอนนี้ช้างในป่าอย่างของป่ากุยบุรีมันแล้งมา 3 ปี เมื่อหมดอาหารช้างก็จำเป็นต้องเดินออกหาอาหารแต่ประจวบเหมาะว่าไร่สับปะรดมันมารุกป่า ขณะเดียวกันเกษตรกรก็ไม่มีการเฝ้าไร่ ช้างมากินสับปะรดก็เลยถูกฆ่า พอถูกฆ่าเสร็จก็เอางาต่อได้ด้วย มันเป็นผลโยงกัน”

ซึ่งยอมรับว่าอนาคตนั้นจะยังมีขบวนการล่าช้างป่าอยู่ กระบวนการที่ว่าก็ยังมีอีกตราบที่ยังมีต้นตอที่ยังไม่ยอมเลิก และยังจับไม่ได้ อนึ่ง มีคำกล่าวกันว่า คน ช้าง และป่า เคยพึ่งพาและผูกพัน การแก้ปัญหาเรื่องช้างป่า ต้องแก้ด้วยความเข้าใจสภาพปัญหาที่แท้จริง ตั้งอยู่บนฐานแห่งเมตตาธรรม

“การจะแก้ปัญหาเรื่องล่าช้างป่ามันเกี่ยวข้องกับทางด้านมนุษยธรรมอยู่มาก ต้องบอกว่ากลุ่มล่าช้างมันมีพวกกระเหรี่ยง พวกนี้จะมีความสามารถมาก ประกอบกับกลุ่มนายทุนหรือกลุ่มการเมืองซึ่งต้องการเอางาไปเสริมบารมี มันมีใบสั่งทั้งไทยและต่างประเทศด้วย การล่าจะมีตลอด ตราบใดที่ยังไม่มีการสร้างจิตสำนึก และต้องมีบทลงโทษขั้นรุนแรง”

อย่างไรก็ตาม ถึงหลายๆ หน่วยงานเริ่มตื่นตัวในเรื่องปัญหาการล่าช้างป่ามากขึ้น รวมทั้งเริ่มจัดเตรียมมาตรการปราบปรามอย่างเข็มงวด แต่นายอำเภอพงษ์พันธ์ ก็เชื่อว่าหากนายทุนยังมีความต้องการที่ไม่จบสิ้น กระบวนการล่าช้างป่าก็ยังคงเป็นเหลือบไรของสังคมไทยต่อไป
..........

สถานการณ์ของช้างป่าในปัจจุบัน ไม่เพียงต้องเผชิญกับการเป็นผู้ถูกล่า แต่ยังต้องเผชิญสภาวะขาดแคลนอาหารเพราะผืนป่าทรุดโทรม ก็คงต้องย้อนกลับมามองที่ตัวบทกฎหมายคุ้มครองช้างป่ากันอีกครั้ง เพราะมาตรการที่เด็ดขาดและปฏิบัติอย่างจริงจัง กระบวนการล่าช้างป่าก็อาจจะลดน้อยลงได้บ้าง แต่ที่แน่ๆ คงต้องมาปรับกันในเรื่องทัศนคติความเชื่อต่างๆ เกี่ยวกับช้างป่า เพราะตรงนี้คือตัวกระตุ้นสู่กระบวนการล่าช้างป่าที่ไม่จบไม่สิ้นเสียที ตามดังหลักเศรษฐศาสตร์ที่ว่า 'ถ้าไม่มีอุปสงค์ อุปทานก็จะไม่เกิด'

>>>>>>>>>>

……….
เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
ช้างเอเชีย
ช้างแอฟริกา
กำลังโหลดความคิดเห็น