กลายเป็นเรื่องฮือฮาอยู่ในโลกออนไลน์ เมื่อจู่ๆ ก็มีคลิปสยิวกิ้วของนักเรียนสาวคนหนึ่งที่ออกมาวาดลวดลายโชว์สเต็ปการแดนซ์ไปเปลื้องผ้าไปอยู่ภายในห้องเรียนนานนับ 3 นาที พร้อมกับฉีกยิ้มให้แก่เพื่อนฝูงที่คอยลุ้นว่า เธอจะถอดสักกี่ชิ้นอย่างสนุกสนานก่อนที่จะตามมาด้วยคลิปของสัมพันธ์สวาทระหว่างนักเรียนชายหญิงที่ออกมาเรียกเรตติ้งความแรงไปจากคลิปแรก ด้วยความหนักกว่า น่าตื่นเต้นกว่าเสียอีก หรือแม้แต่ล่าสุด ก็เป็นคลิปน้กเรียน 6-7 คนนุ่งน้อยห่มน้อย โชว์ทรวดทรวงบนรูปอย่างไม่ยี่หระ
ทั้งหมดนี้ถือเป็นส่วนเล็กส่วนน้อย เพราะที่ปรากฏอยู่ตามเว็บฝากไฟล์วิดีโออีกเพียบ เอาง่ายๆ เพียงเขียนคำว่าค้นหาว่า 'โชว์เสียว' เข้ามาก็มีผุดออกมาให้เลือกจนดูไหว แน่นอนซึ่งแม้บางชิ้นจะเข้าข่ายอนาจารแต่พอคลิกไปดูก็ทำเอาหัวตุ๊มๆ ต้อมๆ ด้วยเสียวซ่านได้ไม่แพ้กัน
จากปรากฏการณ์โชว์สยิวที่ว่อนผ่านทางอินเทอร์เน็ตนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมาตงิดๆ ว่าทำไมจู่ๆ ของแบบนี้มันถึงมีเยอะแยะให้ดูจนตาแฉะกันขนาดนี้ จึงจะมาวิเคราะห์ถึงวิวัฒนาการของปรากฏการณ์โชว์เสียวบนโลกออนไลน์ว่า สรุปแล้วมันเป็นมาอย่างไรกันแน่ และที่สำคัญอะไรคือสาเหตุที่ทำให้การโชว์แบบนี้มันถึงได้ระบาดหนักในหมู่เด็กวัยรุ่น
จากสยิว 'ส่วนตัว' สู่สยิว 'สาธารณะ'
ในช่วงประมาณปี 2545 ที่โปรแกรมแคมฟรอกซ์เริ่มเข้ามาระบาดในประเทศไทย รูปแบบการโชว์ความเสียวให้ดูก็เริ่มเข้ามาโลกออนไลน์กันแบบเต็มตัว ด้วยเหตุนี้เอง จึงกลายเป็นช่องทางสำคัญที่บรรดาสิงห์นักโชว์ จะปฏิบัติการได้ ตั้งแต่การโชว์หน้าโชว์ตาโชว์ท่าทางแบบน่ารักๆ หรือไม่ก็โชว์ลีลาการเต้น เรื่อยไปจนถึงการโชว์เสียว อย่างเช่นเปิดหัวไหล่ ถอดเสื้อ เปลื้องผ้า จนถึงการแสดงพฤติกรรมอนาจารเลยก็ยังมี
ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ความนิยมในโปรแกรมดังกล่าวพุ่งกระฉูด จนเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องแบบนี้ออกมาท้วงติงกันใหญ่ และนำมาสู่ความพยายามทลายเส้นทางนักโชว์กันแบบขนาดใหญ่
แต่ถึงแม้งานนี้เจ้าหน้าที่จะทำงานกันหนักแค่ไหน แต่เมื่อมาดูผลงานกลับแปรผกผันอย่างสิ้นเชิง และเริ่มขยายตัวไปสู่เว็บไซต์ที่มีความเป็นสาธารณะมากขึ้น ตั้งแต่ทางไฮไฟว์ เฟซบุ๊ก ซึ่งแม้จะเป็นส่วนตัวอยู่บ้าง แต่เมื่อพูดถึงวิธีใช้งานแล้วถือเป็นกึ่งสาธารณะ เรื่อยมาจนถึงเว็บไฟล์ฝากวิดีโอโดยเฉพาะอย่าง ยูทูบ ซึ่งเรียกว่ามีจำนวนมากเกลื่อนกลาดอย่างเห็นได้ชัด ชนิดที่เพียงว่าคุณใส่ข้อความสั้นที่ค่อนข้างเข้าเค้ากับจุดประสงค์สักอย่าง อย่าง โชว์เสียว นักเรียนสาวนักศึกษา หรือคำที่บ่งบอกเป็นกิจกรรมทางเพศทั้งหลาย รับรองว่ามีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่คุณจะประสบความสำเร็จต่อการค้นหาในครั้งนี้
โดยรูปแบบของคลิปก็เรียกว่ามีหลายระดับ ตั้งแต่โชว์ลีลาการเต้นแบบอยู่หน้ากล้อง เปิดเพลงแล้วออกสเต็ปเลยทันใด ไล่ไปจนถึงการปลดกระดุมเสื้อแวบๆ แวมๆ บางก็ใส่ผ้าขนหนูผืนเดียวคล้ายๆ จะสร้างอารมณ์ปริศนาว่า อะไรเอ่ย? อยู่ใต้ผ้าเช็ดตัว บ้างก็มีการเอาคลิปจากบรรดานิตยสารแนวนี้มาลง โดยตัดต่อเลือกเฉพาะตอนเด็ดๆ มาลงอย่าง เป่ายิ้งฉุบแก้ผ้า หรือล้างรถด้วยตัว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคลิปที่อยู่ในเว็บนี้จะสร้างปลุกปั่นอารมณ์ได้สุดขีดแค่ไหน แต่สุดท้ายงานนี้ก็มีลิมิตอยู่เหมือนกัน เพราะหากเข้าข่ายอนาจาร หรือมีคนแจ้งว่าไม่เหมาะสม ก็มีสิทธิ์ถูกสั่งแบนหรือสั่งลบเอาได้ง่ายๆ เลย ซึ่งตัวอย่างที่เห็นคือคลิปของนักเรียนสาวนักโชว์คนที่จั่วหัวเรื่องนั่นเอง
'เซ็กติ้ง' เทรนด์นี้มาแรง!!!
ในสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย กำลังปวดหัวและตกตะลึงกับปรากฏการณ์ 'เซ็กติ้ง' (Sexting) ซึ่งกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะเด็กสาวทั่วประเทศนิยมใช้กล้องในโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพนู้ด-ภาพเปลือย-ภาพเซ็กซี่ของตัวเอง และส่งต่อให้กลุ่มเพื่อนดูโดยไม่คิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นตามมาเมื่อภาพหลุดไปถึงสายตาคนอื่น เด็กบางคนถูกจับกุม ต้องลาออกจากโรงเรียน หรือร้ายแรงถึงขั้นฆ่าตัวตายหนีความอับอาย สะท้อน
มุมมืดจากการใช้เทคโนโลยียุคใหม่ผิดวิธี
'เซ็กติ้ง' เป็นคำที่ใช้เรียกพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ บันทึกการโป๊เปลือยของ ตัวเองเป็นภาพนิ่งหรือคลิปเก็บไว้ดู การถ่ายคลิปวิดีโอ ในลักษณะล่อแหลม อนาจาร ยั่วยุทางเพศเพื่ออวดกันหรือแลกเปลี่ยนกันในหมู่เพื่อฝูงอาจไม่ใช่ความผิดปกติรุนแรงถึงขึ้นป่วยทางจิต แต่ก็เป็นค่านิยมด้านลบที่ผู้ใหญ่ต้องช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกัน แต่หากหลุดไปสู่สายตาสาธารณชนทุกที่ และบางครั้งก็อาจเป็นข่าวใหญ่โตให้ต้องอับอายเสียใจภายหลัง
จีจี้ สโตน ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอบีซีสหรัฐอเมริกา เขียนบทความ "Sexting Teens Can Go Too Far" ตีแผ่แฟชั่นเซ็กติ้งในหมู่วัยรุ่นอเมริกันปัจจุบันว่า พฤติกรรมแหวกขนบสังคม ทำเรื่องขวางหูขวางตาผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นธรรมชาติของวัยรุ่น วัยหัวเลี้ยวหัวต่อเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่
แต่เชื่อเถอะมีอยู่อีกเรื่องหนึ่งหลายคนอาจสงสัยอยู่ในใจ ก็คือทำไมจู่ๆ ของแบบนี้ถึงมาเกิดขึ้นกับประเทศไทยได้ แถมฮิตติดลมบนชนิดมีคนออกมาทำตามกันเป็นแถว คำตอบที่น่าจะเป็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นกระแสที่เกิดทั่วโลก แต่ในอีกทางหนึ่งก็มีอีกไม่น้อยที่มองว่า การโชว์แบบนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการได้กลับมาสำรวจรูปร่างตัวเอง ซึ่งข้ออ้างนี้มักจะเห็นว่าที่บรรดาคนดังใช้เป็นข้ออ้างในการถ่ายรูปหรือวิดีโอหวือหวาว่า เก็บเอาไว้ดูในอนาคต
ธีรดนัย (สงวนนามสกุล) ชายหนุ่มผู้นิยมชมชอบโชว์รูปโป๊เปลือย ที่บอกเล่าถึงเหตุผลที่ชอบโชว์นั้นเป็นเพราะอยากให้คนดูได้แสดงความคิดเห็นเพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุงในข้อบกพร่องทางสรีระของตน
"ที่อยากโชว์ เพราะเราอยากให้คนอื่นมาดูหุ่น ดูสัดส่วนของเรามันก็เป็นการเช็กเรตติ้งหน่อยๆ นะ แล้วก็ผมอยากให้คนอื่นมาวิจารณ์ว่า เออ! หุ่นผมดีหรือเปล่า เฟิร์มไหม ดูดี ดูหล่อหรือเปล่าจะได้เอาความคิดเห็นตรงนั้นมาปรับปรุงตัวเองให้ดูดียิ่งขึ้น"
เพี้ยนหรือเปล่าเนี่ย?
แม้งานนี้จะมีเหตุผลดีสักแค่ไหน แต่ถ้าพูดถึงสังคมโลกโดยปกติแล้ว พฤติกรรมชอบโชว์ก็เป็นกระแสรองของสังคมไหนๆ อยู่ดียิ่งสังคมไทยด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง
หลายคนถึงขั้นบอกว่า ของแบบนี้มันต้องบ้า ต้องเพี้ยน หรือจิตไม่ปกติแน่ๆ ถึงทำได้ แต่เมื่อไปพูดคุยกับ นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ นายกสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย กลับได้ความจริงในอีกรูปแบบหนึ่งว่า พฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการแสดงออกของมนุษย์เพื่อเรียกร้องให้ผู้อื่นสนใจและได้รับการยอมรับจากสังคม มากกว่าที่จะเป็นภาวะอย่างหนึ่งของจิตที่ไม่ปกติ
การชอบโชว์ ลักษณะทางจิตแพทย์เขาเรียกว่า Sexual Perversion คือมีความสุข มีความพึงพอใจที่ผิดจากคนทั่วไป หนึ่งในนั้นคือ เรื่องการมีความสุขทางเพศโดยการที่โชว์ แต่ถ้าถามว่าเจ็บป่วยทางจิตไหม บางคนก็อาจไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งสาเหตุมีหลายอย่างส่วนใหญ่โดยกระบวนการทางด้านจิตวิเคราะห์ ก็ถือว่าบุคคลนั้นยังไม่ค่อยมีวุฒิภาวะในเรื่องของการแสดงออกทางเพศ พูดง่ายๆ คือยังไม่สามารถมีความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ ก็เลยแสดงออกมาในรูปแบบที่ผิดปกติ อีกส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นการลดปมด้อยในจิตใจของตัวเอง โดยการแสดงออกทางร่างกายให้คนอื่นดูว่า ฉันมีอะไรที่แสดงออกได้
"ส่วนการที่จะเข้าเกณฑ์การป่วยได้นี่ จะเป็นรูปแบบที่นำมาสู่การตอบสนองความพึงพอใจทางเพศของตนเอง พูดง่ายๆ คือ โชว์เสร็จแล้ว ก็อาจจะนำไปสู่ตัวเองช่วยตัวเอง หรือว่ามีเพศสัมพันธ์ถ้าไม่ได้ก็จะไม่มีความสุขความพึงพอใจทางเพศได้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่เป็นก็ไม่ได้ถึงขึ้นนั้นนะ"
อย่างไรก็ดี จิตแพทย์คนดังก็ยอมรับว่า ทุกวันนี้ในสังคมมีจำนวนคนชอบโชว์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสาเหตุก็คงเป็น เพราะสังคมให้คุณค่ากับเรื่องรูปร่างส่วนสัด สังเกตได้จากโฆษณาที่เน้นการอวดรูปลักษณ์หรือแม้แต่สื่อมวลชนเองก็มีจะนำข่าวประเภทนี้มาลง จนในที่สุดก็กลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานทางสังคม และทำให้คนรู้สึกยอมรับว่าเรื่องแบบนี้กำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติในที่สุด เพราะมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดและดีไม่ดีสังคมเองก็อาจจะรู้สึกตื่นเต้นกับการกระทำแบบนี้ด้วยซ้ำซึ่งเมื่อสังคมสนใจ เรื่องพวกนี้ก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเป็นธรรมดา
................
เรื่อง : ทีมข่าว CLICK