“ติ่น ไท่ ฟง” เปิดตำนานความอร่อยลัดฟ้าจากประเทศไต้หวัน ที่มีชื่อเสียงมานานเกือบ 40 ปีแล้ว ด้วยเมนูที่ทุกคนต้องสั่ง “เสี่ยวหลงเปา” ได้รับการการันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลินสตาร์ และติดอันดับ 1 ใน 10 ร้านอาหารยอดเยี่ยมของโลกโดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ ซึ่งเมืองไทยเป็นสาขาล่าสุดบนพื้นที่ที่ใหญ่โตอลังการที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หญิง-ทวิกานต์ ฉัตรจุฑามาศ Brand Manager ติ่น ไท่ ฟง ประเทศไทย ชวนนักชิมย้อนตำนานสู่ยุคต้นตำรับ ติ่น ไท่ ฟงเพื่อประมวลเรื่องราวความเป็นมาของร้านที่มีชื่อเสียงเลื่องลือมาอย่างยาวนาน
“จากลูกจ้างร้านขายน้ำมันปรุงอาหาร มร.หยาง ชิ-หัว กลายเป็นผู้ก่อตั้ง ติ่น ไท่ ฟง แห่งแรกที่ประเทศไต้หวัน ในปี 1972 เขาหันมาเปิดร้านอาหาร เริ่มต้นจาก 3 โต๊ะเท่านั้น โดยใช้ชื่อว่าร้าน ติ่น ไท่ ฟง”
ความอร่อยได้บอกกันปากต่อปาก จนขยายสาขามากมาย โดยเฉพาะที่ไต้หวัน และประเทศต่างๆ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง (มาเก๊า) จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย รวมถึงสาขาล่าสุดในประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เปิดมา 7 เดือนแล้ว และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในเมืองไทย สังเกตได้จากคิวที่ยาวเหยียดในช่วงบ่ายของวัน
อาหารขึ้นชื่อที่ต้องแนะนำ “เสี่ยวหลงเปา” (เกี๊ยวหมูนึ่ง) เมนูที่ทำให้หลายคนรู้จัก ติ่น ไท่ ฟง ไม่เฉพาะไส้หมูที่รสเลิศเท่านั้น ยังมีหลายไส้ให้ชวนชิม ทั้งไส้ผัก ไส้กุ้ง ไส้ปู ฯ ซึ่งมีเชฟฝีมือเยี่ยมแสดงวิธีการทำเรียกลูกค้าอยู่ตรงหน้าร้าน ทนยืนดูได้ไม่นานก็ต้องเดินเข้ามานั่งในร้านพร้อมสั่งเสี่ยวหลงเปา ดั่งโดนมนต์สะกด ด้วยความพิถีพิถันในการทำ และการใส่ใจในคุณภาพของอาหาร จึงเป็นเมนูที่ลูกค้าทุกคนต้องลอง
“ติ่น ไท่ ฟง ทั้ง 11 ประเทศทั่วโลก ต้องมีน้ำหนักของเสี่ยวหลงเปาเท่ากัน ประมาณ 20.8-21.4 กรัม เส้นผ่านศูนย์กลางห้ามเกิน 6 ซม. และการจับจีบที่ได้มาตรฐานจะต้องอยู่ระหว่าง 18-22 จีบเท่านั้น”
ความอร่อยของเสี่ยวหลงเปา อยู่ที่ความละมุนของเนื้อหมูและแป้งที่หอมนุ่ม รวมถึงน้ำซุปสูตรเด็ดของร้านที่อยู่ด้านในเกี๊ยว เมื่อสัมผัสลิ้นจะรับรู้ได้ถึงรสชาติของซุปที่อร่อยลงตัว พร้อมเสิร์ฟด้วยน้ำจิ้มขิงสอยที่ลูกค้าผสมได้เอง ในอัตราส่วนที่ร้านแนะนำ จิ๊กโฉ่ว 70% ผสมซอสถั่วเหลือง 30%
ตามมาด้วย “ซุปไก่ตุ๋น” ไก่เนื้อสะโพกที่แสนนุ่ม น้ำซุบหอมเตะจมูก มีรสชาติออกหวานเค็มเล็กน้อย เคล็ดลับของเมนูนี้อยู่ที่การนำเนื้อไปตุ๋นถึง 6 ชั่วโมง โดยทำทีละชามๆ เพื่อรักษาคุณภาพของอาหารทุกชามที่เสิร์ฟ กว่าจะได้รสชาติที่อร่อยลงตัวจึงไม่ง่ายเลย
มาที่เมนูสุดคุ้มแบบจานเดียวอิ่ม “ข้าวผัดหน้าพอร์คชอพ” ซึ่งมีหน้าตาน่ากินเป็นที่สุด เนื้อสันนอกหมูทอดไร้ซี่โครงถูกจัดวางบนข้าวผัดไข่ส่งกลิ่นหอมโชยชวนน้ำลายสอ รสชาติอร่อย จึงยากที่จะปฏิเสธ ขอรับรองเลยว่าจานนี้ถูกใจคนไทยแน่นอน
ลองเมนูเพื่อสุขภาพกันบ้าง “พริกเขียวยัดไส้หมู” พริกหยวกเม็ดใหญ่เบ้อเริ่มที่ด้านในยัดไส้เนื้อหมูบด สามารถกินพริกได้ทั้งเม็ดแบบไม่มีเผ็ด จะได้กลิ่นหอมของพริกและสัมผัสถึงเนื้อหมูแสนนุ่มในคราวเดียวกัน ทั้งจัดวางได้ชวนรับประทานมากทีเดียว
ตบท้ายด้วยของหวานสักหน่อย “พุดดิ้งมะม่วง” น่าจะถูกใจคุณผู้หญิงที่ชื่นชอบรสชาติความหวานของมะม่วงลูกเต๋าสีเหลืองสุก ด้านบนมีเนื้อมะม่วงเปรี้ยวเล็กน้อยถูกฝานเป็นชิ้นเล็ก นำมาจัดวางอย่างสวยงาม พร้อมราดด้วยนมกลิ่นวานิลลา จึงอร่อยได้ถึง 3 รส คือ หวาน เปรี้ยว และมัน แบบครบรสจริงๆ
เมนูแนะนำยังไม่หมดเพียงเท่านี้ นอกจากนี้ยังมียำสาหร่าย และข้าวผัดกุ้ง ซึ่งลูกค้ามักสั่งเป็นประจำ ส่วนของหวานอีกจานหนึ่งที่อร่อยจนต้องยกนิ้วให้คือ ข้าวเหนียวดำใส่เฉาก๊วย ที่เอาสองสิ่งมารวมกันได้อย่างลงตัว และอย่าลืมสั่งน้ำตะไคร้มาดื่มให้คล่องคอ รับรองว่าอร่อย ชัวร์! แถมยังได้สุขภาพดีจากสมุนไพรไทยอีกด้วย
เมื่อได้ลิ้มลองความอร่อยจากอาหารหลากหลายชนิดแล้ว ยังได้พักสายตากับความสวยงามของการตกแต่งร้าน ที่มีความโมเดิร์น แต่ก็คงความเป็นต้นตำรับอยู่ในนั้น ดูเรียบหรูมองแล้วสบายตา สบายใจ ภายในร้านสามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 140 ที่นั่ง แต่ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัว สามารถสั่งจองห้องวีไอพี ซึ่งรองรับได้ 8-10 ท่าน
“การเน้นคุณภาพวัตถุดิบ สูตรต้นตำรับ และความใส่ใจในการทำ” ทำให้มีลูกค้าประจำมารับประทานที่นี่ทุกวัน จึงอย่าตกใจถ้าคุณมาช่วงบ่ายและเย็น แล้วเห็นคนต่อแถวยาวเพื่อรอคิวฝากท้องในแต่ละวัน ลูกค้าขาจรที่เดินผ่านไปมาก็ต้องพาตัวมาต่อคิวให้หายสงสัยว่า ทำไมหลายคนต้องอดทนต่อคิวรออยู่หน้าร้าน ติ่นไท่ ฟง
ร้าน ติ่น ไท่ ฟง (Din Tai Fung) ตั้งอยู่บนชั้น 7 โซนบีคอน ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
เปิดบริการ : 11.00-22.00 น.
ราคา : 350-400 บาท /ท่าน
โทร. : 0-2646-1282
แนะนำเมนูเด่น
1.เสี่ยวหลงเปา (ชุดใหญ่ 195 บาท/10 ลูก, ชุดเล็ก 145 บาท/6 ลูก)
2. ซุปไก่ตุ๋น (185 บาท)
3. ข้าวผัดหน้าพอร์คชอพ (210 บาท)
4.พริกเขียวยัดไส้หมู (145 บาท)
5. พุดดิ้งมะม่วง (80 บาท)
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย พงศ์ศักดิ์ ขวัญเนตร
