สลัดความเบื่อหน่ายทิ้งไป หนีออกจากแบรนด์ดังๆ ห้างซ้ำๆ ร้านอาหารเดิมๆ ในเมืองหลวง แล้วมานัดรวมพลกันใหม่ในร้านขนาดกะทัดรัดแห่งนี้ ร้านที่จะทำให้คุณทั้ง “อบอุ่น” และ “เย็นใจ” ไปในเวลาเดียวกัน
“I-So!” คือชื่อเก๋ๆ ของร้านไอศกรีมขนาดหนึ่งห้องแห่งนี้ “I” ชื่อตัวหน้า ย่อมาจากคำว่า “Ice” ซึ่งแปลว่าน้ำแข็ง ส่วนคำว่า “So” ย่อมาจาก “Society” ซึ่งหมายถึงการรวมพล เมื่อรวมทั้งสองคำเข้าด้วยกันจึงทำให้ร้านไอศกรีมแห่งนี้กลายเป็นที่รวมพลแห่งใหม่ซึ่งสามารถมอบความเย็นชุ่มฉ่ำใจจากเกล็ดน้ำแข็งให้ผู้มาเยือนได้ พร้อมๆ กับความอบอุ่นใจที่ได้รับจากการบริการและบรรยากาศโดยรอบอย่างเป็นกันเอง
“จุดเริ่มต้นมาจากไปกินไอติมกับเพื่อน เป็นไอติมเกล็ดผลไม้เหมือนกันนี่แหละครับ แต่เป็นร้านริมทาง ก็เลยนึกอยากเปิดร้านของตัวเองขึ้นมา คิดคอนเซ็ปต์ไว้ว่าอยากให้เป็นที่รวมตัวของกลุ่มคน มานั่งคุยกันไปกินไอติมไปแบบสบายๆ เป็น Ice Society ของคนเมืองชลฯ พอดีมีห้องเก็บของอยู่ติดกับที่ทำงานอยู่ห้องหนึ่ง ก็เลยเอามาแปลงเป็นร้านแล้วลองเปิดดู ตอนนี้ก็เปิดมาได้ประมาณ 6 เดือนแล้วครับ” บอย-ปริญญา อุดม เจ้าของร้านอารมณ์ดีเท้าความให้ฟัง ก่อนปิดท้ายด้วยรอยยิ้มเป็นกันเอง
ความพิเศษของไอศกรีมอยู่ที่เนื้อละมุนๆ ของเกล็ดน้ำแข็งที่ถูกปั่นออกมาจากตัวเครื่องชั้นดี ดูแค่ตายังรับรู้ได้ถึงความละเอียด ยิ่งได้ชิมยิ่งสัมผัสถึงความละเมียดนุ่มลิ้นสมราคาคุย แต่กว่าจะออกมาลงตัวน่าลิ้มลองได้อย่างที่เห็น คุณบอยต้องใช้เวลาเฟ้นหาอยู่เป็นเดือนกว่าจะเจอรสชาติที่ถูกใจ ไหนจะวิธีปั่นเกล็ดน้ำแข็งซึ่งแบ่งความหนา-บางของเนื้อไอศกรีมได้หลายระดับ เรียกได้ว่าต้องลองผิดลองถูกอยู่นานเหมือนกัน
“กว่าจะเลือกรสไอติมได้ ต้องตระเวนชิมมาเยอะเหมือนกันครับ เพราะไอติมเกล็ดน้ำแข็งแบบนี้มีหลายยี่ห้อ หลายเจ้าที่ทำ ชิมไปเรื่อยจนมาลงตัวที่ของนำเข้าจากไต้หวัน แต่ก็ไม่ทั้งหมดนะครับ มีบางรสที่เป็นของไทยอย่างรสกะทิ เพราะเราอยากเน้นที่รสชาติมากกว่า ไม่เน้นที่แบรนด์เท่าไหร่ ส่วนเรื่องเนื้อไอติมก็ยากพอๆ กัน ตอนแรกที่ทำยังไม่ได้เนื้อแบบนี้นะ เพราะที่ตัวเครื่องมีระดับใบมีดให้ปรับด้วย แล้วไอติมแต่ละรสก็มีความนุ่มความแข็งไม่เท่ากัน ทำไปช่วงหนึ่งถึงจะรู้ว่ารสไหนต้องปรับใบมีดให้หนา-บางเท่าไหร่ถึงจะอร่อย”
“ความใจป้ำ” ก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายของร้านนี้ แค่ดูท็อปปิ้งที่โรยหน้ามาก็รู้แล้วว่าคนทำจัดเต็มให้ขนาดไหน จะเลือกโรยหน้าด้วยอะไรก็ได้ตามใจ เลือกได้สองอย่าง แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้น ต้องจ่ายเพิ่มท็อปปิ้งละ 10 บาท ส่วนรสไอศกรีมเองก็ยังสั่งได้ว่าจะเอาถ้วยละรสหรือแบบดูโอ สองรสในถ้วยเดียว จ่ายเพียง 59 บาท กับบรรยากาศ บริการ และ Wi-Fi ฟรี คุ้มจนไม่รู้จะคุ้มอย่างไรแล้ว
ว่าแล้วก็ประเดิมความคุ้มกันด้วยดูโอคู่นี้ก่อน “ช็อกโกแลต-นมเย็น” สองรสที่เด็กๆ นิยมสั่งกันมากที่สุดเพราะมีส่วนผสมของนมเป็นหลัก ลิ้มรสช็อกโกแลตเข้มข้น ไม่หวานจนเลี่ยน ตัดสลับกับนมเย็น แทรกรสปนหวานนิดๆ สมแล้วที่เป็นดูโอคู่แท้ยอดนิยม กินควบกับเยลลี่และช็อกโกแลตแท่งที่แต่งหน้ามาให้ ช่วยเพิ่มรสสัมผัสเคี้ยวหนุบหนับ อร่อยมันเข้าไปอีก
“ชาเย็น-นม” ก็เป็นอีกสองรสตระกูลนมที่น่าลิ้มลอง โดยเฉพาะชาเย็นที่ส่งให้ได้กลิ่นชาแท้ที่จมูก โรยหน้าด้วยคอนเฟล็กต์และเอ็มแอนด์เอ็ม สามารถล่อลวงให้เด็กที่เกลียดการดื่มนมกินได้เพลิน จนลืมไปเลยว่ากำลังกินไอศกรีมรสนมอยู่
ปิดท้ายด้วยไอศกรีมเกล็ดผลไม้รส “เสาวรส” ซึ่งผู้ชิมขอจัดอันดับให้เป็นนัมเบอร์วัน ด้วยรสเปรี้ยวหวานที่มาบรรจบกันอย่างลงตัวที่ปลายลิ้น ไม่เปรี้ยวปรี๊ดจนถึงกับตาหยีอย่างหลายๆ ที่ ยิ่งกินคู่กับเยลลี่และวุ้น ยิ่งช่วยเสริมรสให้เข้ากันได้ดี คนที่กำลังเหนื่อยๆ เครียดๆ ขอแนะนำให้สั่งเมนูนี้ก่อนใคร รับรองว่าจะรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย ลืมเรื่องหนักๆ ได้เป็นปลิดทิ้ง
ไอศกรีมตระกูล “เบอร์รี่” ก็มีเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรสที่วัยรุ่นนิยมสั่ง เพราะรสชาติค่อนข้างร่วมสมัย ผู้ใหญ่ที่ไม่ชินกับรสปรุงแต่ง ผู้เขียนไม่แนะนำให้ลิ้มลอง อาจเปลี่ยนมาเป็นรส “กาแฟ” หรือ “ชา” จะเหมาะกว่า โดยเฉพาะรส “ชาเขียว” ที่ขายดีเสียจนหมดก่อนผู้เขียนจะได้ชิม
“I-So!”
ขับตรงมาจากเส้นสุขุมวิท กลับรถไปทางเดียวกับห้างฯ เซ็นทรัล ชลบุรี เมื่อถึงห้างให้ขับอ้อมไปทางด้านหลัง จะเจอตึกแถวของหมู่บ้าน Casa Arcadia ร้านตั้งอยู่ทางขวามือ
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 - 21.30 น.
เบอร์ติดต่อ 08-5226-2442
3 อันดับเมนูเย็นใจ
1. เสาวรส : เปรี้ยวหวานที่ปลายลิ้น อร่อยสดชื่นต้องลอง
2. ชาเย็น-นม : เกล็ดนมเนื้อนุ่ม กลิ่นชารสละมุน หอมขึ้นจมูก
3. ช็อกโกแลต-นมเย็น : รสช็อกเข้มข้นปนนมรสหวาน คู่แท้ที่ลงตัว
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย... ศุภมิตร ลือรุ่งโรจน์วุฒิ, พีรพล สุขะมงคล