xs
xsm
sm
md
lg

'โหรกีตาร์หยั่งรู้'...กฤษณะ วงศ์นาวัฒน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปรียบเทียบคอร์ดและเฟร็ตของกีตาร์กับห้องชีวิตของมนุษย์
"กฤษณะ วงศ์นาวัฒน์" หรือที่รู้จักในนามโหรกีตาร์ เขามีความเชื่อว่าตนเองเกิดมาพร้อมความสามารถพิเศษในการหยั่งรู้ และทำนายชะตาชีวิตได้ เริ่มจากความชอบทางด้านดนตรี ประกอบกับการศึกษาความรู้ด้านโหราศาสตร์ตั้งแต่วัยเยาว์ ผ่านการสังเกต นำมาคิดวิเคราะห์ พัฒนาศาสตร์แห่งการทำนายดวงชะตารูปแบบใหม่ด้วยการใช้กีตาร์เป็นเครื่องมือ และใช้คอร์ดกีตาร์เป็นรูปแบบการทำนายชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นการทำนายดวงชะตาที่แปลกใหม่ และถือว่าเป็นคนเดียวในโลกที่คิดค้นศาสตร์นี้ขึ้นมา

โหรกีตาร์คนเดียวในโลก
เห็นบุคลิกท่าทางของชายผิวเข้ม สวมเสื้อเคอปกสีขาว กางเกงยีนส์ บวกกับท่าทางถือกีตาร์คู่ใจ ยิ่งดูเหมือนนักร้อง นักดนตรีเพลงร็อกมากกว่าหมอดู ซึ่งเขาเล่าว่าเขาเคยเป็นนักดนตรีเล่นอยู่ที่ ป. กุ้งเผามาก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มคิดค้นศาสตร์การทำนายดวงโดยการใช้กีตาร์ เริ่มมีคนเข้ามาให้เขาทำนายดวงชะตา มีความแม่นยำ และเกิดการบอกต่อ จนกลายมาเป็นโหรกีตาร์ที่มีคนรู้จักอย่างทุกวันนี้

"ผมคิดว่าผมน่าจะเป็นคนแรกในโลกเลยนะ เป็นคนคิดอุบายหลายอย่างที่เกี่ยวกับกีตาร์ได้ ก่อนหน้านี้ผมเคยเล่นดนตรีอยู่ที่ ป.กุ้งเผา ตั้งแต่ปี 39 ตอนแรกไม่ตั้งใจที่จะเป็นหมอดูนะ รู้แต่ว่าจะเอาบทเพลงผ่านดนตรี ให้คนรู้ในพระธรรม บอกคนเรื่องพระธรรม ก็เลยเอาอาชีพตัวเองมาเสริมกับดนตรี พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตอนหลังมาพัฒนา เขียนคอร์ด เขียนอะไรเอง

คนที่มาหาผมส่วนใหญ่จะผ่านการบอกปากต่อปากเหมือนลูกโซ่ ส่วนมากเขาบอกว่าไปที่อื่นไม่สำเร็จ มาที่นี่สำเร็จทั้งเรื่องความรัก การงาน อาชีพคนมีอยู่ 3 อย่าง หนึ่งยังชีพกินเงินเดือนธรรมดา สองอาชีพที่ทำแล้วรวย สามอาชีพที่ผลักดัน พลิกชีวิต มาหาผมไม่มีแก้กรรม แต่คุณไปทำตามที่ผมแนะนำ เท่านั้นแหละ เหตุการณ์บ้านเมือง เหตุการณ์โลก บอกได้หมด ต่อไปจะมีต่างชาติแห่เข้ามาล้นเมืองไทย ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เกษตรกรรมจะรุ่งเรือง”

เห็นเขาถือกีตาร์อยู่ตลอดเวลา จึงอดถามไม่ได้ว่านอกจากการให้คนที่อยากทราบดวงชะตาเลือกคอร์ดกีตาร์แล้ว มีการเล่นดนตรีให้ฟังบ้างหรือเปล่า

"บางคนมาหาผมรู้ว่าอกหักก็เล่นเพลงอกหักให้ฟัง บางคนจะแต่งงานก็เล่นเพลงแต่งงาน แต่ส่วนมากก็จะให้เลือกคอร์ด เป็นเชิงพูดคุยกันแบบพี่แบบน้องมากกว่า บางคนอยากดูกีตาร์ก็สาธิตให้เขาดูได้ แล้วแต่คนจะชอบ บางคนชอบร้องเพลงก็ร้องเพลงให้เขาฟัง ถ้าคนที่มีปัญหาก็จะให้ปัญญามากกว่าแก้กรรม การแก้กรรมนี่เป็นอวิชชา ส่วนปัญญาคือการแก้ไข หรือป้องกัน

ชีวิตคนมันมีขึ้นมีลง เวลาตกต่ำตกต่ำอยู่นาน เวลาเป็นเศรษฐีแป๊บเดียว มีลูกค้ามาหาไม่มีเงินสักบาท ผมให้เงินไป ตอนนี้จะได้แต่งงานกับเจ้าของโรงงานแล้ว ค่าดูดวง แล้วแต่ศรัทธา บางคนไม่มีตังค์ยังให้ค่าข้าวเขาเลย

ส่วนตัวผมก็ดูดวงให้ตัวเองด้วย อนาคตเป็นศิลปิน เป็นผู้กำกับ นักธุรกิจ นักเขียน ตอนนี้เป็นหุ้นส่วนทำโรงงานค้าข้าว ตอนนี้กำลังทำเพลง"

คอร์ดกีตาร์เชื่อมโยงกับห้องชีวิต
ด้วยความชอบ ความสนใจทางด้านดนตรีเป็นพื้นฐานที่ทำให้เขาสนใจคิดค้นศาสตร์การทำนายดวงชะตา โดยใช้กีตาร์เครื่องดนตรีที่เขาใช้เป็นประจำ มาสังเกต เปรียบเทียบ ทดลอง แล้วพบว่ามันมีอะไรที่มากกว่าเป็นเพียงเครื่องดนตรี เพราะสามารถนำคอร์ดกีตาร์ มาเปรียบเทียบกับห้องชีวิตของคนได้ เกณฑ์ในการเลือกคอร์ด เขาบอกว่ามาจากอารมณ์ ณ ตอนนั้นส่งมายังเฟร็ตกีตาร์ สามารถทำนายชะตาชีวิตออกมาได้อย่างแม่นยำ

"เริ่มจากการสังเกตตั้งแต่ตอนเด็กเลยว่าทำไมขงเบ้งต้องตีขิม และในขณะที่ตีขิมรู้ได้ยังไงว่าจะชนะ แสดงว่าเขาต้องรู้ก่อน เขาตีขิมเพลิน ยิ้ม เล่นดนตรีให้ศัตรูฟังด้วย ก็เลยคิดเอาไว้ว่าสักวันจะต้องนำมาประยุกต์ใช้ พระกฤษณะเป่าขลุ่ยสอนคน ก็เป็นหลักพระคีตาสูงสุด พระพิฆเนศเล่นซีตาร์ ก็เป็นบรมครูแห่งศาสตร์ทุกๆ ศาสตร์ ผมก็เลยคิดว่าดนตรีมันมีอะไรให้น่าค้นหา มีอะไรที่ลึกล้ำกว่านั้นเยอะ ก็เลยไล่ดูประวัติผู้หยั่งรู้ระดับสูงสุด ซึ่งมักจะมีดนตรีเกี่ยวข้อง เพราะว่าดนตรีมันเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์

เฟร็ตของกีตาร์มีทั้งหมด 24 เฟร็ตทั่วคอกีตาร์ เทียบกับโลกหมุนรอบตัวเอง 24 ชั่วโมงเท่ากับเฟร็ตกีตาร์ทั้งคอพอดี โลกเรามีกลางวัน-กลางคืน แบ่งเวลาเป็น 2 ส่วนอย่างละ12 ชั่วโมงหรือ 12 ห้องดนตรี ตัวโน้ตก็ 12 ห้อง เทียบกับ 12 ห้องชีวิต คอร์ดมี 27 คอร์ด ตัวโน้ตตัวหลักมี 7 คอร์ด A-Gเป็นการเทียบตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ มี 7 วัน/สัปดาห์ โลกมี 7 ทวีป เลข 7 ทั้งนั้นเลย
ผมไม่เคยคำนวณเลย รู้แต่ว่ามันบังคับในเสียงไว้แล้ว เฟร็ตที่ 1ไล่ไปจนถึง 24 เฟร็ต มันก็จะไล่ชีวิต ต่อชั่วโมง ต่อวินาที ของมนุษย์อยู่แล้ว ส่วนเส้น 6 เส้นเทียบกับปัญญามนุษย์ 6 ระดับ เส้นที่ 1 ความรู้ 2ความจำ 3 ปัญญา 4 หยั่งรู้ 5 ธาตุ 6 ตรัสรู้

เสียงคนก็เป็นคีย์ อย่างเสียงคนสองคนก็ไม่มีทางที่จะเหมือนกัน บางคนเป็นคีย์ C อีกคนเป็นคีย์ E คีย์ E ต้องเป็นนักธุรกิจใหญ่โต หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องเสียง คนที่เป็นคีย์ C เอาแค่พอเพียง เอาไม่ใหญ่มาก แต่อยู่ได้นาน ผมฟังเสียงออก ทุกอย่างมันเป็นเสียงหมด มีพลังเสียงสามารถทำนายได้" เขายกตัวอย่างเปรียบเทียบให้ฟัง

"เสียงสูงต่ำของมนุษย์มันมีนัยยะทางจิตว่า คุณทำอะไรอย่าผลีผลามนะ อย่าคิดเร็วเกินไป อย่าช้าเกินไป พยายามอยู่ตรงกลาง ดนตรีมันมีเสียงสูง เสียงกลาง เสียงต่ำอยู่ทุกเพลงอยู่แล้ว ท่อนกลาง คือเสียงเรียบหมายถึงชีวิตยังเรียบๆ อยู่นะ แต่ถ้าท่อนฮุก หมายถึงชีวิตมัน สูงปรี๊ด ชีวิตจะขึ้นสูง ก่อนที่จะสูงก็ต้องจนก่อน"

นอกจากการทำนายดวงด้วยกีตารืแล้ว เขายังบอกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่นก็สามารถนำมาใช้ทำนายชะตาชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นเปียโน หรือคีย์บอร์ด ทั้งยังเปรียบสายกีตาร์กับทางสายกลาง พร้อมทั้งยกตัวอย่างพิณสาย 3 สาย ที่มีตึง หย่อน มีตรงกลาง "ดนตรีเป็นสัญลักษณ์ของทางสายกลาง เป็นการปฏิบัติโดยตรงเลยถ้าใครเข้าถึง ทำให้เกิดความไพเราะ เกิดความไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน แต่ถ้านำไปใช้กับสิ่งยั่วยุ มันก็เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง มันเกิดจากคนไปทำให้เกิดการทะเลาะ ไม่ได้เกิดจากเครื่องดนตรี

เสียงเกิดจากการเปลี่ยนสภาพของพลังงาน (ดีดกีตาร์ให้ฟัง) เสียงลดช่องว่างระหว่างความเป็นตัวตน จากเป็นคนทิฐิแรงกล้าก็ต้องลดตัวเอง ไม่อย่างนั้นเป็นนักธุรกิจไม่ได้ คอร์ดกีตาร์จะบอกเรื่องการงาน การเงิน ความรัก"

ศาสตร์ปิด เจ๋งกว่าโหราศาสตร์?
ศาสตร์การดูดวงด้วยกีตาร์ จัดว่าเป็นศาสตร์การดูดวงที่แปลก แถมยังมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถใช้การดูดวงด้วยวิธีนี้ได้ ซึ่งหลายคนคงสงสัยถึงความน่าเชื่อ และความแม่นยำ ซึ่งเขาอธิบายว่ามันเป็นศาสตร์ปิด ที่ไม่สามารถอธิบายทางวิทยาศาสตร์ แต่เขามีความเชื่อว่า ศาสตร์ที่เขาคิดค้นเองนี้มีความแม่นยำเกิน 100 %

"กีตาร์มันอยู่ในศาสตร์ปิด คือไม่มีศาสตร์ใดเข้าถึง เรียกว่าเกินโหราศาสตร์ทั้งหมด ไม่มีตำราเล่มใดเข้าถึงได้ คนที่จะนำศาสตร์นี้มาใช้ ก็ต้องเป็นคนที่มีศาสตร์ปิดติดตัวมา คือเป็นคนพิเศษที่บังคับให้มาเกิด แตกต่างจากคนทั่วไปตรงที่มีเจโต คือเกิดมาเพื่อทำสิ่งต่างๆ ให้โลก กับปัญญา คือการจำ การสอน การเรียนทั่วไป

ฮีเลียม หรืออวกาศนี่คือศาสตร์ปิด เป็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์ไม่ยอมรับ ฮีเลียม คือคำว่าบริสุทธิ์นั่นเอง คนที่จะรู้ศาสตร์นี้ได้ จะเรียกว่าคือคนที่บรรลุธรรมก็ได้นะ ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่ผมทำได้มันลึกลับซับซ้อน เพราะว่านำพลังเสียงมาอธิบาย ศาสตร์ปิดสามารถอธิบายเรื่องโลกหมุน อธิบายความแม่นยำของอากาศได้ รู้จริง 100 % สามารถช่วยเหลือคนได้เยอะ เปลี่ยนชีวิตคนได้

ศาสตร์ปิดก็คือการเคลื่อนจากปัจจุบันไปยังอนาคต คือความเร็ว อย่างไร้ขีดจำกัด พอไปเห็นมันจะก่อตัวเร็ว เห็นเป็นฉากเหมือนหนัง แต่จะบอกทีละฉาก เรามีปัญญาไปเห็นภาพ เปลี่ยนวิธีคิด ทำสิ่งที่พลิกชีวิต ทำให้เขามีการเงินอย่างต้องการ"

นอกจากจะรับทำนายดวงชะตาแล้ว เขายังมีการสอนศาสตร์การทำนายดวงชะตาทุกรูปแบบให้เก่งภายในเวลาอันสั้นอีกด้วย

ข่าวโดยทีมข่าว M-Lite/ASTV สุดสัปดาห์

ภาพโดย พงศ์ศักดิ์ ขวัญเนตร



กำลังโหลดความคิดเห็น