‘โชว์เซ็กซ์’ ดีลิเวอรี จานด่วนร่วมรัก ส่งตรงถึงบ้านคุณ

เรื่องเซ็กซ์ เป็นเรื่องธรรมชาติ ใครๆ ก็รู้
 
แต่การจะจ้างใครก็ไม่รู้ มาโชว์ร่วมเพศให้ดูอาจจะดูเหลือเชื่อสักหน่อย
 
เพราะถ้าจะว่าไปแล้ว ของแบบนี้สู้ทำเองย่อมดีกว่าเป็นร้อยเท่า จริงไหม?
 
แต่เรื่องแปลกๆ แบบนี้กลับเกิดขึ้นในสังคมไทยมาอย่างหน้าตาเฉย เมื่อจู่ๆ ตำรวจก็รวบตัว 2 หนุ่มสาววัยเพิ่งพ้นเบญจเพสมาไม่ได้กี่ปี กลางห้องพักโรงแรมย่านบึงกุ่ม ในสภาพเนื้อตัวล่อนจ้อน กำลังเริงลีลารักกันแบบสนุกสุดเหวี่ยง สร้างอรรถรสให้แก่ผู้ชมได้อย่างสุดกึ๋น
 
แถมเมื่อไปดูเรื่องราว ก่อนที่ทั้งคู่จะมาโชว์แบบนี้ได้นั้น ก็บอกได้คำเดียวว่า 'ไม่ธรรมดา' เพราะทำกันง่ายๆ เพียงเปิดอินเทอร์เน็ต หาเบอร์ กดโทร. จ่ายตังค์...โชว์ดีๆ ก็มาอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว
 
จนเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกับวงการเซ็กซ์ไทย และอินเทอร์เน็ตเลยก็ว่าได้ หลังจากที่แต่เดิมมักจะจำกัดอยู่เฉพาะแค่การหาเพื่อนคุย ขายตัว โชว์ตัวเว็บแคม และแนะนำการเที่ยวสถานบันเทิงต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นสปา นวดกระปู๋ จนถึงอาบอบนวด
 
เพราะฉะนั้นงานนี้ เพื่อให้เห็นภาพกันชัดจัดแจ้งแดงแจ๋ ก็ขอมาเล่าเรื่องของธุรกิจตัวใหม่นี้สักหน่อยว่า จะพิสดารเหมือนการกระทำของมันหรือเปล่าหนอ
 
เทคนิคการขายโชว์ 'ร่วมเพศ' ฉบับออนไลน์
 
“เคยดูหนังเอ็กซ์แล้วอยากมีส่วนร่วม เราจัดให้ได้ค่ะ”
 
ประโยคเปิดเพียงสั้นๆ แต่มีพลังในการดึงดูดอย่างเหลือร้าย วางเร้นตัวอยู่เว็บไซต์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเว็บฯ หาเพื่อน เว็บฯ ขายของ ฟรีเว็บบอร์ด รวมไปถึงเว็บฯ เกี่ยวกับเซ็กซ์ต่างๆ ทั้งเซ็กซ์ช็อป โชว์ภาพ เล่าเรื่องเซ็กซ์ ตลอดจนการขายบริการทางเพศรูปแบบต่างๆ
 
และนี่ก็จุดเริ่มต้นของกิจการทางเพศเล็กๆ ที่เรียกว่า 'ธุรกิจสั่งโชว์มาให้มีเพศสัมพันธ์ให้ดูกันแบบสดๆ'
 
เพราะเพียงแค่กดเบอร์โทรศัพท์ที่ห้อยท้ายคำเชิญชวน เมื่อมีผู้รับสาย บรรยากาศของการตกลงเรื่องการค้าขายก็เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นราคา สถานที่ (ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้เอง แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นโรงแรมม่านรูด) รวมไปถึงรูปแบบของโชว์
 
โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มสามี-ภรรยาที่หลงใหลและชื่นชอบความตื่นเต้นในการมีเซ็กซ์เป็นหลัก
 
ขณะที่กระบวนการจ่ายเงินก็ทำกันสดๆ คือให้กันตอนไปเจอกันที่โรงแรมแล้ว โดยอัตราราคาก็แบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามแพกเกจที่เลือกเอาไว้
 
3,500 บาท สำหรับโชว์เพียวๆ บวกการใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้
6,500 บาท สำหรับกรณีที่ลูกค้าอยากจะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
 
และเมื่อเริ่มให้เงินกันเสร็จเรียบร้อย หนุ่มสาวที่เป็นผู้ใช้บริการก็ไม่ได้อะไรมาก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการ โดยใช้เวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้นสำหรับการเปลื้องผ้า จากนั้นก็ถึงเวลาของการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งตรงนี้ก็จะเน้นท่วงท่าที่แสดงถึงการเล้าโลม ตลอดจนลีลาต่างๆ เลียนแบบภาพยนตร์โป๊กันเลยทีเดียว โดยระยะเวลาของการโชว์และการเข้าร่วมนั้น ก็ขึ้นอยู่ข้อตกลงที่ทำกันไว้ตั้งแต่แรก
 
แต่ทั้งหมดนี้ก็จะมีข้อแม้อยู่เล็กน้อย ก็คือผู้ชายที่จะเข้ามาใช้บริการนั้น มีสิทธิ์เข้าชมเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนผู้หญิงนั้นจะเข้ามาเท่าไหร่ก็ได้ผู้โชว์ไม่ขัดข้อง
 
อย่างไรก็ตาม หากถามว่าโชว์ดังกล่าว ได้รับความนิยมขนาดไหน ก็คงต้องตอบตามตรงว่า ไม่มากเท่าใดนักเพราะอย่างที่กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มันก็เหมือนกับการดูหนังโป๊ดีๆ สักเรื่องเท่านั้น และถ้าเทียบราคากับการซื้อบริการมาทำเอง (ซึ่งหาได้ในอินเทอร์เน็ต) อย่างหลังอาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำ
 
ดังนั้น คนที่จะเข้ามาใช้บริการจึงมักจะคนที่มีรสนิยมทางเพศตรงกันเท่ากัน ด้วยเหตุนี้ จึงพอสรุปได้ว่า บริการจานเซ็กซ์จานร้อนนี้ ก็คงจะไม่เน้นที่ยอดปริมาณของผู้มาใช้บริการสักเท่าไหร่
 
แต่เน้นการยิงปืนนัดเดียว ได้แบงก์พันมานับเล่นหลายใบมากกว่า จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีการตั้งราคาที่สูงถึง 3,500-6,000 บาท เพราะหากมีผู้สนใจเพียง 2-3 รายก็มีสิทธิ์ทำรายได้สูงถึงเลข 5 หลักแบบง่ายๆ เลยทีเดียว
 
'ฟักกิ้งโชว์' ปรากฏการณ์ก่อนเป็น 'โชว์จานด่วน'
 
อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องนี้จะถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าพูดถึงโลกจริงแล้ว ต้องถือว่า นี่เป็นของโบราณสุดๆ ที่มีมานานกว่า 20-30 ปีแล้ว
 
แน่นอน หลายคนคงต้องเคยได้ยินชื่อของ 'ฟักกิ้งโชว์' กันมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
 
โดยรูปแบบก็คล้ายๆ กันนั่นคือ การโชว์ร่วมรักหรือการมีเพศสัมพันธ์แบบสดๆ ระหว่างคน 2 คนต่อหน้าสายตาผู้คนอีกจำนวนมาก
 
ซึ่งเรื่องนี้ เอก (นามสมมติ) ในฐานะผู้ที่ท่องยุทธจักรยามราตรีมานานแสนนาน อธิบายว่า โชว์สยิวกระตุ้นกำหนัดพวกนี้ มักจะเป็นหนึ่งในโชว์ของบรรดาสถานบันเทิงยามค่ำคืนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในผับ บาร์ หรือบาร์เกย์ ทั้งกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา โดยส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมากกว่าลูกค้าคนไทย เพราะค่าเข้าชมราคาสูงมาก
 
โดยหากคุณตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าไป ภาพที่คุณจะพบแน่นอน ก็คือการแสดงของคน 2 คน ไม่ว่าจะเป็น ชาย-หญิง ชาย-ชาย หรือหญิง-หญิง ในร่างเปลือยเปล่า ราวกับเป็นพระเอก-นางเอกหนังโป๊ ท่ามกลางเวที
 
และเพียงแต่ผู้เข้าชมที่ซื้อตั๋วเข้ามาเท่านั้นที่จะมีโอกาสสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของจริง โดยระหว่างนั้นก็จะมีการบรรเลงเพลงร่วมด้วย เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ให้ขึ้นถึงขีดสุด
 
อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงความแตกต่างกันระหว่าง 2 โชว์ที่เกิดขึ้นนี้ ก็ต้องยอมรับว่ามีความแตกต่างกันสูง โดยเฉพาะเรื่องสภาพแวดล้อม เพราะแบบสั่งผ่านอินเทอร์เน็ตจะอยู่ที่รโหฐาน ขณะที่หากเป็นฟักกิ้งโชว์จะมีความเป็นสาธารณะมากกว่า แต่เรื่องอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกันมากนัก
 
“ผมว่ามันก็เป็นจินตนาการของแต่ละคน ไม่ได้แตกต่างอะไรจากการซื้อขายบริการทางเพศมากนัก เพียงแต่นี่เป็นการโชว์แบบไพรเวต (ส่วนตัว) คือมันก็เหมือนสมัยก่อนที่เขาขายบริการทางเพศธรรมดาก็เท่านั้น แต่อาจจะเป็นความต้องการที่แปลกใหม่ บางคนเขาก็ชอบอะไรแบบนี้ อย่างที่ผมเคยไปคุยกับน้องๆ ที่เขาทำงานอาบอบนวดแบบนี้ ก็มีลูกค้าบางประเภท เหมือนเป็นอวัยวะเทียมน้องเขาก็ทำให้ดูแค่นั้น ลูกค้าก็พอใจแล้ว ลูกค้าประเภทนี้ก็มีอยู่เยอะเหมือนกัน” นักเที่ยวยามราตรีคนเดิมกล่าว
 
แต่หากย้อนกลับไปดูการสื่อสารเรื่องเพศผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวบรวมข้อมูลโดย ศ.ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน มีการระบุว่า เพศทางอินเทอร์เน็ต หรือที่เรียกย่อๆว่า ‘อีเซ็กซ์’ นั้น เป็นการนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในเรื่องเพศ โดยใช้ข้อความ รูปภาพ และเสียง อาจมีชื่อเรียกต่างๆ เช่น ‘อินเทอร์เน็ต เซ็กซ์’, ‘ไซเบอร์ เซ็กซ์’ และ ‘ออนไลน์ เซ็กซ์’
 
โดยรูปแบบของ ‘อีเซ็กซ์’ จะมีทั้ง เว็บฯ แสดงภาพโป๊ เว็บฯ โฆษณาบริการทางเพศ เซ็กซ์ผ่านเว็บแคมหรือกล้องทางอินเทอร์เน็ต หรือเว็บบริการหาคู่
 
ย้อนกลับมาดู 'สังคม'
 
แม้ทางหนึ่งจะมองว่า เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งธรรมดาสามัญเสียเหลือเกินสำหรับสังคมไทยที่กำลังเติบโตอย่างสุดขีด ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจ สังคม
 
แต่แน่นอนว่า พฤติกรรมที่ออกมาก็ต้องยอมรับว่า อาจจะดูแปลกไปบ้าง เพราะแม้จะบอกว่านี่คือรสนิยมทางเพศ เอาเข้าจริงแล้วก็ยังเป็นเรื่องที่คนปกติโดยทั่วไปในสังคมไม่เข้าใจอยู่ดี
 
ซึ่งหากมองในมุมของจิตวิทยาแล้ว ดร.นรินทร์ กรินชัย เลขาธิการและนักจิตวิทยาอาวุโส มูลนิธิศูนย์ฮอตไลน์ ก็กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการสะท้อนถึงแนวโน้มของพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศรูปแบบหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีผลมาจากการเข้าถึงสื่อออนไลน์ในเรื่องพวกนี้มากเกินไป ประกอบกับถ้าพิจารณาในเรื่องชีวิตคู่ กลุ่มที่มีลักษณะเช่นนี้น่าจะเป็นพวกที่ไม่มีความสุขทางเพศระหว่างการสมรส
 
ทางออกที่พอเป็นไปได้ก็คือ การเข้ามาปรึกษาจิตแพทย์เพื่อให้คำแนะนำ แล้วนำไปสู่การรักษาต่อไป
 
แต่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น ก็คือระบบอินเทอร์เน็ตในสังคมไทย ซึ่งกำลังจะกลายเป็นดาบสองคม เพราะต้องยอมรับว่า ภายในนั้นไม่ใช่มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่เกิดขึ้น แต่ยังมีเรื่องอีกมากมายเต็มไปหมด
 
ไม่ว่าจะเป็นการค้ากาม หรือการโพสต์ข้อความที่ล่อแหลม ซึ่งหากพิจารณาไปถึงต้นตอแล้ว ก็ย่อมสะท้อนให้เห็นการบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งแทบจะไม่เคยถูกนำมาบังคับใช้อย่างจริงจังสักเท่าใดนักโดย ปกรณ์ สันติสุนทรกุล เว็บมาสเตอร์ เว็บไซต์เด็กดี ดอทคอม ให้ข้อมูลว่า ปกติแล้วการโพสต์ข้อความต่างๆ นั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าของเว็บไซต์ที่จะต้องดูแล แต่ที่ผ่านมากลับพบว่า มข้อความในลักษณะเชิญชวนให้ซื้อบริการทางเพศเกิดขึ้นอยู่ในหลายๆ แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า มีเจ้าของเว็บฯ จำนวนไม่น้อยที่ปล่อยปละให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
 
แต่อย่างว่า เรื่องนี้จะไปโทษเจ้าของเว็บฯ ทั้งหมดก็คงไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่า บางข้อความก็ตัดสินยาก โดยเฉพาะข้อความแบบสองแง่สองงาม ไม่ได้ลามกอนาจารอย่างสุดโต่ง เช่น การใช้ภาษาในทำนองหาเพื่อนคุย หาเพื่อนเที่ยวมากกว่า ซึ่งถือเป็นกลวิธีของผู้ค้าบริการเอง จึงทำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่สามารถลบข้อความเหล่านี้ได้ เพราะดูเหมือนจะยังไม่มีความผิด และที่สำคัญต้องยอมรับว่า การจะตรวจสอบว่าใครเป็นใคร ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายเลย เพราะแม้สื่อออนไลน์จะเข้าถึงง่าย และรู้ที่ไปที่มาง่าย แต่คนที่เข้ามาตรงนี้ก็คงไม่ยอมให้เข้าถึงตัวได้ง่ายๆ แน่นอน ตัวอย่างเช่นการโพสต์ข้อความก็อาจจะทำตามร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ซึ่งพอข้อความปรากฏก็จับมือใครดมไม่ได้เสียแล้ว
..........
 
หากถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ แท้จริงแล้ว ถูกหรือผิด ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะตอบได้ เพราะถ้าหยิบเอากฎหมายขึ้นมาพูด ก็คงจะผิดแน่ๆ ดังที่ พ.ต.ท.สำเริง ส่งเสียง รองผู้กำกับการกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กล่าวว่าในช่วงที่มีการบุกจับ ว่านี่เป็นการค้าประเวณีรูปแบบหนึ่ง มีโทษจำคุก 6 เดือน - 2 ปี แต่ถ้ามองในเชิงรสนิยมทางเพศ นี่อาจจะไม่แตกต่างกับกิจกรรมทางเพศต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเต็มไปหมด
 
เพราะฉะนั้น การจะตัดสินใจเรื่องนี้ก็คงจะขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณใช้อะไรเป็นบรรทัดฐานกันแน่
>>>>>>>>>>
……….
เรื่อง : ทีมข่าว CLICK
ภาพ : ทีมภาพ CLICK