xs
xsm
sm
md
lg

‘กอล์ฟ’ พิชญะ นิธิไพศาลกุล ในวันที่ต้องบินเดี่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในช่วงก่อนหน้านี้ ชื่อของ กอล์ฟ (พิชญะ นิธิไพศาลกุล) และ ไมค์ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) ดูจะเป็นชื่อของซูเปอร์สตาร์ขวัญใจวัยรุ่นที่เดินอยู่เคียงคู่กันมาตลอดในนามของคู่หูดูโอ กอล์ฟ-ไมค์ แต่เมื่อในปีที่ผ่าน เขาทั้งคู่ ได้ประกาศพักวงและแยกออกมาทำงานเดี่ยวของตนเอง นัยว่าขอเวลามาทำสิ่งที่ตนเองชอบจริงๆ สักพัก

หลังจากนั้น ชื่อของเขาทั้งคู่ก็เงียบไปพักหนึ่ง จนกระทั่งมีข่าวลือที่ไม่สู้ดีนักเกี่ยวกับไมค์และแฟนคลับของเขาออกมาทางหน้าหนังสือพิมพ์

แต่วันนี้ คนที่เราจะจับเข่าสนทนาด้วย กลับไม่ใช่ไมค์ผู้น้อง หากแต่เป็นกอล์ฟซึ่งเป็นพี่ชายของไมค์ ที่กำลังมีผลงานซิงเกิลซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า แตกต่างจากตอนที่ทำงานเพลงในนามกอล์ฟ - ไมค์อย่างมาก

และนอกจากผลงานเดี่ยวที่ออกมาจะต่างกันแล้ว มุมมองและความคิดของกอล์ฟก็มีหลายเรื่องที่ดูแปลกไปจากภาพพจน์ของวงดูโอกอล์ฟ - ไมค์ อยู่ไม่น้อย

แน่ล่ะ ก็เพราะกอล์ฟกับไมค์ไม่ใช่คนคนเดียวกันนี่นา

ก่อนหน้านี้ที่หายไปได้ข่าวว่าไปเรียนเต้นที่แอลเอลมา สนุกไหม
ที่นั่นชิลล์ดีมากครับ เราไปเรียนทุกวันนะ มีโรงเรียนสอนเต้นเยอะมาก ลักษณะการจ่ายเงินก็จะเป็นการซื้อการ์ดมาใบหนึ่งราคา 250 เหรียญ แล้วก็ไปเดินเลือกคลาสเลยว่าจะเรียนคลาสไหนบ้าง ถ้าเลือกได้แล้ว เราก็จะเข้าไปเรียนเลยโดยเสียเงินครั้งละ 15 เหรียญ ความแน่นของคลาสก็ขึ้นอยู่กับว่าครูที่สอนนั้นมีชื่อเสียงแค่ไหน ที่นั่นผมได้มีโอกาสได้เรียนกับคนที่ทำท่าเต้นให้จัสติน ทิมเบอร์เลก

มีสถานะเป็นคนดังมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าชีวิตของตัวเองไม่เป็นส่วนตัวบ้างหรือเปล่า
ตอนนี้น้อยกว่าแต่ก่อนมาก เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนที่จะมาตามรุมดาราเวลาออกไปไหนมากเหมือนเมื่อก่อน ตรงนี้อาจจะเป็นเพราะว่าแฟนเพลงของเราโตตามเรามา เวลาผมออกไปข้างนอก ไปกินข้าวดูหนัง บางทีผมก็ยังใส่กางเกงขาสั้นรองเท้าแตะออกไปเลย ก็ไม่มีใครว่าอะไร คือเราเป็นนักร้องมีชื่อเสียงก็จริง แต่ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งด้วย มันก็ยังมีอยู่บ้างนะ ผมจะเป็นคนที่มีเรดาห์ คือถ้าผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกมองหรือกำลังจะถูกจู่โจม ผมก็จะหันหน้าไปอีกทางหนึ่ง แล้วก็เดินไปอีกทางทันทีนะ (หัวเราะ)

แล้วมีกิจกรรมพิเศษอื่นๆ ทำบ้างหรือเปล่า
เล่นเกมครับ ผมจริงจังเลยนะ แล้วก็อยู่กับพวกเทคโนโลยี พกไอแพดติดตัวตลอด คืออยู่บ้านเราก็จะเล่นเพลย์สเตชั่นไปแต่พอออกมาข้างนอกก็อาศัยไอแพดนี่แหละ แต่ยังไม่ถึงขั้นติดเกมออนไลน์นะ ผมเล่นมาตั้งแต่เด็กแล้ว นอกนั้นก็อ่านการ์ตูน แล้วก็เขียนการ์ตูนตามบ้าง ต่อจากนั้นมันก็พัฒนามาสู่การหัดใช้โฟโตชอป การหัดทำงานกราฟฟิกดีไซน์ ซึ่งทั้งหมดนั้นมันเป็นการสร้างจินตนาการให้เรานะ

ตอนเด็กๆ พี่ชายเป็นนักร้องมาก่อน (แซนด์ - แบงค์) เรามีมุมมองต่อการเป็นนักร้องอย่างไร
ตอนนั้นผมอยากเป็นแบบพี่มากเลย ดูเท่ ดูเจ๋ง ยังเคยขโมยชุดคอนเซปท์ของเขามาใส่เลย ผมถึงขั้นไปหัดร้องเพลงเลยนะ แต่ยังไม่ได้หัดเต้น แต่ไปสักพักความคิดนั้นมันก็หายไปนะ เพราะพี่เขาเลิกร้องเพลง

แต่ทุกวันนี้กอล์ฟก็เต้นได้นี่ ไปหัดเอาตอนไหน
ตอนที่มาเรียนมัธยมฯ เพื่อนๆ เขาหัดเต้นเบรกแดนซ์กัน ผมก็เฮตามเพื่อนไป จนเราก็เริ่มรู้ตัวว่าเราก็ชอบเต้นนะ เราก็เรียนนำเพื่อนไปเยอะ จนเพื่อนเลิกเรียนกันไปแล้ว ผมยังเรียนต่อไปอีก

แต่สุดท้ายทั้งการร้องและการเต้นก็ได้เอามาใช้กับการทำงานจริง
ใช่ครับ เหมือนกับว่าสิ่งที่เราทำไปโดยไม่ตั้งใจเมื่อก่อน มันปูทางมาให้กับปัจจุบันทั้งนั้นเลย
กอล์ฟชอบการเต้น แต่กอล์ฟไม่ได้เต้นเก่งที่สุด ทุกคนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน และแต่ละคนก็เน้นไปที่จุดต่างๆ กัน กอล์ฟเต้นได้ แต่อาจจะไม่เท่าคนอื่น แต่ก็มีเรื่องของการทำเพลงที่เรามีมากกว่า ตรงนี้อาจจะเป็นจุดที่เราได้เปรียบ โชว์ต่อๆ ไป นอกจากร้องกับเต้นแล้ว ผมยังจะเอาพวกอุปกรณ์ทำเพลงที่ผมใช้ไปขึ้นเวทีด้วย
ผมว่าศิลปินจริงๆ ควรจะมีความสามารถรอบด้าน นอกจากจะโชว์ได้แล้ว เรื่องของดนตรีเราก็ควรจะมีความรู้ด้วย

เพลงใหม่ที่ออกมาทำดนตรีเองหมดเลยหรือ
ผมมีส่วนทำดนตรีกับเมโลดี้ครับ ที่เราไปเรียนมาเป็นเรื่องของการทำเพลง มิกซ์เสียงคือออกไปทางซาวด์เอนจิเนียร์ แต่เรื่องของการเรียบเรียงนั้น เราเรียนด้วยตนเองมากกว่า ผมเรียนมาได้ 2 ปีแล้วที่ SAE
ในอัลบั้มชุดนี้ เพลงจะเป็นอาร์แอนด์บีไม่ได้เต้นหนักมากออกจะจะเนี้ยบๆ หน่อย แต่เล่นกับซาวด์มากกว่า เป็นตัวเองมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็ไปเรียนพวกซาวด์มาด้วย

ทำงานเบื้องหลังและเบื้องหน้าไปพร้อมๆ กัน เอาเวลาที่ไหนไปให้คนใกล้ตัว
มันต้องมีการจัดสรรเวลาครับ ถ้างานใดเรารับมาแล้วก็ต้องทำให้เสร็จก่อน คืองานมาอย่างแรกเสมอ ซึ่งตรงนี้คนใกล้ตัวผมก็เข้าใจครับ เพราะเป็นคนในวงการเหมือนกัน ตอนนี้ผมไม่ได้ทำเบื้องหน้าอย่างเดียวแล้ว แต่ผมพยายามจะเข้าไปทำเบื้องหลังด้วยมันเลยใช้เวลามากขึ้นเป็นสองเท่าเลย ตอนนี้เรายังไหวอยู่ก็เลยลุยไปก่อน

หลังจากที่เราลองไปทำเบื้องหลังมาบ้าง คำว่าดนตรีในความหมายของเรามีมุมมองเปลี่ยนไปไหม
สำหรับผมมันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เวลาเราฟังเพลง เวลามีซาวด์แปลกๆ ใหม่ๆ โผล่มา เราจะชอบมากและไปคิดต่อว่ามันทำขึ้นมาอย่างไร เราก็วิเคราะห์และศึกษาตัวเพลงไปด้วย เราอยากทำได้บ้าง บางทีเราก็อยากทำอะไรล้ำๆ บ้างนะ ถึงแม้คนฟังกลุ่มใหญ่อาจจะยังไม่ได้ชอบมันก็ตาม

เราคิดว่าเพลงที่เราอยากจะทำ (เพลงที่มีซาวด์สังเคราะห์) มันจะออกไปสู่ตลาดโลกได้ไหม
เราอยากจะทำเพลงของเราให้มีการพัฒนาไปมากกว่านี้ก่อนครับ แต่ถ้ามันจะไปได้ก็ถือเป็นเรื่องดีนะ มันเป็นเรื่องของโอกาส คิดว่าตอนนี้ทำได้ดีที่สุด เท่าที่มันจะเป็นได้แล้ว แต่ในอนาคตถ้าเราได้เรียนรู้มากขึ้น มันก็มีโอกาสที่จะทำได้ดีไปกว่านี้แน่นอน

ในอนาคตเราอยากจะทำอะไรต่อไป
เราฝันอยากจะมีสตูดิโอเล็กๆ ของตัวเอง เป็นบ้านที่มีสตูดิโอกับสระน้ำ ให้เด็กๆ ซึ่งเป็นศิลปินฝึกหัดมาซ้อมเต้น มาทำเพลงกัน อาจจะทำหนังทำเอ็มวีกันด้วย เพราะผมก็ชอบเรื่องหนังอยู่เหมือนกัน อาจจะเป็นอาณาจักรย่อมๆ ที่ไม่หนีไปจากวงการบันเทิงหรอกครับ แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นไปได้นะ เพราะเรามีทุนอยู่บ้างแล้ว

>>>>>>>>>>

………
เรื่อง : เอกชาติ ใจเพชร
ภาพ : วรวิทย์ พานิชนันท์







กำลังโหลดความคิดเห็น