คนที่เดินผ่านไปมาแถวย่านคลองเตย พระราม 4 คงนึกแปลกใจกับป้ายแผ่นเหล็กสีเหลืองริมถนนที่เขียนว่า “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ” และหลายคนคงอยากรู้ว่ามันคืออะไร? ทำไมถึงเต้นระบำ? เป็ดจะเต้นระบำได้เหรอ? วันนี้ทีมงาน M-cuisine จึงต้องตามไปดูร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้กัน เพื่อให้ทุกคนได้หายข้อข้องใจ
ทีมงาน M-cuisine ได้ไปถึงร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ” ตามเวลานัดพร้อมกับช่างภาพ ได้พบเจ้าของร้านตัวจริงเสียงจริง คุณพิบูล หวังศิริสมบูรณ์ ยืนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวด้วยลีลาเด็ดตามแบบฉบับของตัวเองอยู่หน้าร้าน แม้ว่าจะใกล้เวลาบ่ายแล้วแต่ลูกค้ายังคงแน่นร้านเต็มไปหมด ลูกชายเจ้าของร้านคนเล็กนำอาหารออกมาเสิร์ฟจานต่อจาน แบบว่าไม่ต้องกลัวของหมด และไม่มีการหยุดพัก เห็นคนแน่นร้านขนาดนี้ อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ” เจ้านี้เขามีดีอะไร จึงต้องขอไปพิสูจน์กันหน่อย
ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ เปิดขายมานานกว่า 30 ปีแล้ว แค่เห็นอายุที่ยาวนานก็รู้เลยว่าฝีมือนั้นต้องขั้นเทพแน่ๆ แต่คุณรู้ไหมว่ากว่าจะมาเป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ อย่างที่เราเห็นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเจ้าของร้านได้สั่งสมประสบการณ์ใช้เวลาพัฒนาสูตรและใส่ใจในทุกขั้นตอนการทำ ประกอบกับลีลา ท่าทางในการจัดปรุงเห็นถึงความชำนาญและฝีมือ จนกลายมาเป็นชื่อร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ” จนถึงทุกวันนี้
คุณสิริชัย หวังศิริสมบูรณ์ ลูกชายคนโตผู้สืบทายาทก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ บอกว่าแต่เดิมนั้นอากงของผมซึ่งเป็นพ่อของพ่อได้ทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่สามแยก เยาวราชมาก่อน ส่วนหน้าหนาวจะขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด เนื่องจากหน้าหนาวต้องการความอบอุ่นจึงขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดแทนก๋วยเตี๋ยวเนื้อสลับกัน พอช่วงประมาณ 30กว่าปีที่แล้ว ได้ย้ายร้านมาอยู่ที่คลองเตย พระราม 4 และพ่อได้นำสูตรก๋วยเตี๋ยวเป็ดมาเปิดร้านขายที่นี่ และพัฒนาสูตรก๋วยเตี๋ยวมาเรื่อยๆจนได้สูตรที่ลงตัว
“ตอนแรกใช้ชื่อว่าก๋วยเตี๋ยวเป็ดคลองเตย ต่อมานิตยสารดิฉัน คอลัมน์นิสต์ชื่อยายมาได้เรียกชื่อร้านว่า ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ เนื่องจากคุณพ่อมีลีลาการทำเยอะและทำเร็ว เลยเป็นที่มาของคำว่า “เต้นระบำ” จากนั้นก็มีหลายรายการโทรทัศน์มาถ่ายทำ และเขาได้ใช้ชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ” จากนั้นพ่อจึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อนี้แทน”
เมนูเด็ดของร้านก็คงหนีไม่พ้น “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น” ที่ขอการันตีความอร่อยกับน้ำพะโล้สูตรเด็ด และเป็ดโป๊ยฉ่ายที่ขึ้นชื่อลือชาของร้าน ไหนๆก็มาถึงถิ่นก๋วยเตี๋ยวเป็ดแล้ว จะเห็นว่าไม่มีลูกค้าโต๊ะไหนที่ไม่สั่งเมนูนี้ ความพิเศษของเมนูเด็ดอยู่ที่น้ำพะโล้ที่ใช้ซึ่งเป็นสูตรเด็ดของร้านที่เจ้าของคิดค้นขึ้นมาเองโดยเฉพาะ ส่วนเป็ดที่นำมาทำนั้นเป็นเป็ดโป๊ยฉ่าย ซึ่งเป็นเป็ดพันธุ์หนึ่งของประเทศจีน มีราคาค่อนข้างแพง ฉะนั้นต้นทุนจึงสูงกว่าเป็ดพันธุ์อื่น ความพิเศษของเป็ดโป๊ยฉ่ายคือไม่มัน-ตัวใหญ่-เนื้อเยอะ จึงเหมาะสำหรับทำเป็ดพะโล้
“ในวันหนึ่งจะใช้เป็ดประมาณ 10 กว่าตัวโดยเฉลี่ย วิธีการต้มโดยใช้เครื่องพะโล้และเครื่องยาจีนสูตรเฉพาะของพ่อ ใช้เวลาต้ม 1 ชั่วโมงครึ่งเพื่อให้เนื้อเป็ดสุกได้ที่จากด้านใน ส่วนพวกน่อง ปีก ขา และนำมาตุ๋นอีกรอบหนึ่งเพื่อให้ได้เนื้อที่นิ่มจนเปื่อย ก็จะทานได้อร่อย”
ราคา “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น” (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 45 บาท) มีทั้งเส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ บะหมี่ ซึ่งบะหมี่มี 2 แบบคือ บะหมี่กลมและบะหมี่แบน อาจเสริมด้วยเกาเหลา ข้าวเปล่า ซึ่งเป็นเมนูช่วงแรกของร้าน นอกจากนี้จะมีเมนู “ปีก ขา หม้อดิน” (จานเล็ก 80 จานใหญ่ 120 บาท) ส่วนประกอบมี ปีก ขา ลิ้นเป็ด ไส้ ตับ เครื่องใน คอ บั้นท้าย เสิร์ฟเป็นจานกลาง หรือใส่ก๋วยเตี๋ยวก็ได้ตามลูกค้าสั่ง ส่วนเมนูข้าวเป็น “ข้าวหน้าเป็ดพะโล้” และ “ข้าวคอหมูทอด” (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 45 บาท) ซึ่งเจ้าของร้านได้คิดเมนูนี้ขึ้นมาขายในช่วงที่มีไข้หวัดนกระบาด จึงกลายมาเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ลูกค้าชื่นชอบจนถึงปัจจุบัน
เมนูล่าสุดของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง” (ธรรมดา 30 บาท ใส่ไข่ 40 บาท) เนื่องจากอยากให้มีเมนูที่หลากหลายไว้ให้ลูกค้าเลือกรับประทาน ส่วนประกอบหลักมีเห็ดหอม, เต้าหู้, หมูสามชั้น, กุ้งแห้ง และเครื่องเคียงต่างๆ ใส่ถั่วงอกเยอะเนื่องจากเจ้าของร้านบอกว่า “ก๋วยเตี๋ยวหลอดต้องกินกับถั่วงอกถึงจะอร่อย” ส่วนจะใส่ไข่ต้มหรือไม่ใส่แล้วแต่ลูกค้าสั่งได้
“ลูกค้าที่เข้ามาทานส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อาศัยอยู่แถวนี้ และส่วนหนึ่งเป็นคนทำงานออฟฟิศ ส่วนลูกค้าข้างนอกที่เข้ามา ทางเรามีที่จอดรถให้ประมาณ 10 คัน ตอนนี้จึงมีลูกค้าประจำเยอะ จะขายดีหรือไม่นั้นแล้วแต่บางช่วง อย่างเช่นเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมานี้ ได้ขายเป็ด ไก่ เป็นตัวให้กับลูกค้าที่ต้องการในช่วงเทศกาล ซึ่งร้านเรารับสั่งทำเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ยังรับจัดอาหารนอกสถานที่ด้วย”
ถ้าใครสนใจอยากไปลองชิม “ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเต้นระบำ” เมนูเด็ดของร้านนี้ ขอบอกก่อนเลยว่าต้องรีบไปหน่อยเพราะถ้าช้าอาจหมดได้ และถ้าไปช่วงเที่ยงประมาณ 11 โมงเช้า จนถึงบ่ายโมงเย็น ถ้าเห็นคนเยอะจนแน่นร้าน อย่าเพิ่งตกใจหรือถอดใจไม่ลองชิมเสียก่อน เพราะเจ้าของร้านเขาการันตีมาเลยว่าของสด ใหม่ ปรุงจานต่อจาน มาให้ทดลองพิสูจน์ความอร่อยกันได้แบบไม่อั้นเลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ใกล้การไฟฟ้านครหลวงคลองเตย
เวลาเปิด-ปิด : 7.00-17.00 น.
ราคา : 35 บาท
เบอร์ติดต่อ : คุณสิริชัย086-777 9060, 089-457 9722
ข่าวโดย M-lite / ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย ธนารักษ์ คุณทน