ท้องทะเลกว้างใหญ่สีเข้มราวกับอัญมณี น้ำใสเหมือนกระจกบานใหญ่ มอง เห็นฝูงปลาสวยงามหลากหลายสายพันธุ์แหวกว่ายวนเวียนบริเวณปะการัง บรรยากาศความสวยงามของทะเลอันดามัน เมืองตรังนับเป็นสวรรค์ของคู่รักที่หลงใหลความงามของโลกใต้ ท้องทะเล และพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ การจดทะเบียนสมรสใต้ท้องทะเล "วิวาห์ใต้สมุทร" จึงจัดต่อ เนื่องมายาวนานถึง 15 ปี ติดอันดับเป็นวิวาห์ใต้สมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีคู่สมรสเข้าร่วม สัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตกับบรรยากาศความสวยงามของพิธีวิวาห์อันสุดแสน โรแมนติก และเป็น "ฮันนีมูนทริป" ที่สร้างความทรงจำ และความประทับใจให้แก่คู่บ่าวสาวอย่าง ไม่รู้ลืม
นอกจากนั้นยังได้เรียนรู้ประเพณีการแต่งงานของชาวตรัง ซึ่งเป็น เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่แตกต่างจากจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ งานแต่งงานจะจัด 2 วัน วันแรก เรียกว่า "วันตั้งการ" วันที่สองเรียกว่า "วันแต่งงาน" โดยวันตั้งการนั้น นับเป็นวันที่มี แต่ความสนุกสนานซึ่งจะมีการจัดเลี้ยง หนึ่งในอาหารที่สำคัญที่ใช้จัดเลี้ยงที่กลายมาเป็นชื่อ งานแต่งงานคือ "การกินเหนียว" และมีการเดินแห่ขบวน ได้รับการต้อนรับอย่างดี จากชาวตรังตลอดสองฝั่งทาง
สัมผัสประเพณีกินเหนียว เมืองตรัง
ก้าวแรกที่มาถึง ชาวตรังจำนวนมากแห่ต้อนรับโบกมือทักทาย และ คล้องดอกไม้ให้แก่คู่บ่าวสาวเพื่อเป็นการแสดงความยินดี เริ่มตั้งแต่สนามบินจนถึงที่พัก สร้างความตื่นเต้น และแปลกใจให้แก่คู่บ่าวสาว วันแรกนี้บรรดาคู่รักหวานกว่า 30 คู่ เข้า ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้แห่งความรัก ณ สวนพฤกษศาสตร์ภาคใต้ (ทุ่งค่าย) โดยทุกต้น จะมีชื่อของคู่รักที่ลงมือปลูกเองผูกติดไว้ที่ลำต้น เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์แห่งรักดีๆ ให้แก่คู่ รักได้อย่างประทับใจ จนเป็นความรู้สึกที่พิเศษที่ยากจะลืมเลือน
งานในปีนี้มีคู่รักข้าวใหม่ปลามันสุดหวาน ที่เพิ่งกลับจากฮันนีมูนทริปที่ ประเทศฝรั่งเศส อิตาลี “เอ็ม” อภินันต์ ประเสริฐวัฒนกุล และ “มิลค์” บุสกร ธรรมาวุธ ทายาทคนสวยของปากเมงรีสอร์ท เมืองตรัง ขณะที่ทั้งคู่กำลังปลูกต้นชะม่วงกวาง ซึ่งเป็นตัว แทนแห่งความรักของทั้งสอง สาวมิลค์เล่าถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานเป็นครั้งแรกว่าตื่นเต้น เห็นงานนี้มานานแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้มาร่วมงาน
"รู้สึกว่าเป็นงานแต่งงานที่แปลกดี แล้วที่ตรังก็มีพร้อมทุกอย่าง สามารถ ที่จะดำน้ำได้ ตัวเมืองก็น่ารัก ปีนี้เราแต่งงานก็เลยอยากมาร่วมงานด้วย แต่เสียดายที่ไม่ได้ เข้าร่วมพิธีวิวาห์ใต้สมุทร เพราะดำน้ำไม่เป็น แต่มิลค์เป็นคนชอบบรรยากาศทะเล ชอบดำ สน็อกเกิลลิ่ง ทะเลตรังสวย มีถ้ำมรกต เป็น Unseen In Thailand ด้วย ถ้า มาที่นี่มิลค์ก็จะอยู่ทะเล เวลาเพื่อนมาเที่ยวที่นี่ก็จะพาไปถ้ำเลเขากอบ ดูหินงอกหินย้อย ลอด ท้องมังกร สนุก ตื่นเต้นมาก ลุ้นตลอดเพราะหินมันอยู่ใกล้หน้าเรามาก หินย้อยลงมาจาก ผนังถ้ำ ห่างจากหน้าเราประมาณ 2 ซม. ต้องนอนราบบนท้องเรือ” สาวมิลค์เล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เธอประทับใจในจังหวัดตรังด้วยสีหน้า และแววตาสนุกสนาน พร้อมทั้งเผยเคล็ดลับการสานสัมพันธ์ระหว่างเธอและคนรักว่าอันดับแรกอยู่ที่ความรัก และความเข้าใจกัน ที่สำคัญคู่ของเธอมีอะไรก็ จะคุยกันได้ทุกเรื่อง
หลังจากทำกิจกรรมปลูกต้นไม้ช่วงเช้าแล้ว คู่บ่าวสาวเดินทางกลับมายังที่พัก เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นชุดไทยพร้อมเข้าร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นอย่างสวยงาม อลังการ ชมการ แสดงแสง สี เสียง และบทเพลงอันไพเราะจากนักเรียนของโรงเรียนชื่อดังในจังหวัด อาหาร สำคัญสำหรับจัดงานเลี้ยงคือ "การกินเหนียว" ซึ่งเป็นประเพณีที่จัดขึ้นโดยมีความหมาย แฝงถึงการใช้ชีวิต ได้จัดขึ้นก่อนงานเลี้ยงมงคลสมรสเพื่อบอกกล่าวให้บรรดาญาติสนิทมิตร สหายของคู่บ่าวสาวทราบว่าจะมีงานแต่งงานเกิดขึ้น
ประเพณีนี้จะเกิดขึ้นก่อนงานแต่งงาน 1 วัน ประกอบไปด้วยของหวาน ข้าวเหนียวมูนและ แกงกะทิไก่ โดยข้าวเหนียวนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประเพณีแต่งงานของชาวเมืองตรัง ด้วยความเชื่อที่ว่า ข้าวเหนียว ทำให้คู่บ่าวสาวและครอบครัวทั้งสองฝ่ายรักกันเหนียวแน่น ยิ่ง ถ้าบ้านไหนทำข้าวเหนียวแกงไก่ได้รสชาติดี จะเป็นที่เล่าลือกันว่าในอนาคตครอบครัวนั้นจะ มีความสุข เปรียบเสมือนรสชาติ กลมกล่อมของข้าวเหนียวแกงไก่ ที่มีทั้งหวาน มัน เค็ม เผ็ด เล็กน้อย และมีสีสันสวยงาม
วิวาห์หวานใต้สมุทร
ปีนี้มีคู่รักที่ดำน้ำไปจดทะเบียนสมรสใต้สมุทรจำนวน 5 คู่ หนึ่งในนั้นเป็นคู่ ของหมอหนุ่มจากโรงพยาบาลศิริราช “ต้อม” ถิรพล บุญญาอรุณเนตร จูงมือ แฟนสาว หน้าตาน่ารัก “หยิน” กรรณิการ์ วชิรสุนทร จดทะเบียนใต้น้ำเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่เกาะกระดาน ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กที่มีหาดทรายสวยขึ้นชื่อของทะเลตรัง อยู่ห่างจากท่าเรือ ปากเมงราว 22 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะทำพิธี "จดทะเบียนสมรสใต้ทะเล" คู่รัก จะดำดิ่งลงไปที่ความลึกกว่า 10 เมตร เพื่อบันทึกความรักและความทรงจำกันใต้น้ำ
หลังจากคบหามาได้ 2 ปี และตัดสินใจตกลงที่จะแต่งงานกันใต้ทะเล ด้วย ไลฟ์สไตล์ และความชอบที่คล้ายๆ กัน คือชอบดำน้ำ และชอบถ่ายภาพ ฝ่ายหญิงเล่าถึงความ ตั้งใจตอนแรกว่าจะจัดงานตามธรรมเนียมจีนแบบง่ายๆ ที่บ้าน “ตอนแรกคิดว่าจะแต่งงาน ตามธรรมเนียมจีน ไหว้เจ้าของทั้งสองบ้าน สู่ขอตามธรรมเนียม จัดงานแค่ภายในครอบครัว แต่มาประจวบกับวิวาห์ใต้สมุทรครั้งนี้กำลังจะมีพอดี แล้วการดำน้ำก็เป็นกิจกรรมที่ชอบทั้งคู่ ก็เลยมาสมัคร จริงๆ เป็นคนไม่ชอบจัดงานที่มันเอิกเกริก” ฝ่ายชายแซว “แต่นี่ยิ่งเอิกเกริก เข้าไปใหญ่” (หัวเราะ)
เจ้าสาวคนสวยเล่าถึงบรรยากาศใต้ทะเลสุดแสนจะโรแมนติก "ระหว่างที่ ดำน้ำลงไปรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ วันนี้ฟ้าเปิดมาก ใต้น้ำก็สวย ดำลงไปก็ค่อยๆ เห็น สิ่งที่เห็น ตอนแรกคือเวที โต๊ะขาวๆ มีนายทะเบียนรออยู่ เราก็รู้จุดเราแล้ว เราก็ลงไป เขาก็จะบอกให้ เรานั่ง จดทะเบียนก่อน แล้วก็รดทรายสังข์ ซึ่งชอบมาก ตอนรดทรายสังข์ รู้สึกว่ามีมนต์ขลัง มาก เป็นทรายสีชมพู ตอนที่ทรายรดลงมาถึงมือเรา ความรู้สึกมันไม่เหมือนเมื่อวานที่รดน้ำ สังข์บนบก มันรู้สึกคลาสสิกด้วย ที่ได้เห็น แล้วแสงที่สะท้อนลงมากระทบกับทรายสังข์ มันมี ความแปลก ประทับใจทั้งความแปลกที่ได้แต่งงานแบบนี้ แล้วก็ตื่นเต้นที่ได้แต่งงานด้วย ตื่นเต้นกับทุกอย่างเลย ทุกอย่างมันเป็นพิธีจริงๆ ผู้ใหญ่ที่เชิญมา ถ้าเราจัดเอง คงไม่อาจเชิญ ผู้ใหญ่ขนาดนี้มาได้"
ได้ฟังแล้วหลายคู่ที่ไม่ได้มาดำน้ำคงจะรู้สึกนึกเสียดาย ซึ่งหมอต้อมแนะนำว่า การแต่งงานมันเป็นครั้งเดียวในชีวิต ถ้าอยากแต่งงานที่นี่ให้เรียนดำน้ำ ซึ่งไม่น่ากลัวอย่างที่ หลายคนคิด
“งานนี้มันไม่ได้ทำง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้ยากนะ ใครที่อยากจะแต่งงานแบบนี้ แนะนำว่าควรไปเรียนดำน้ำ เขารีไคว์แค่โอเพน วอเตอร์ ไดเวอร์ ค่าเรียนก็ตามเลเวล อย่าง โอเพน ค่าเรียนก็ 4-5 พัน การดำน้ำ หลายคนรู้สึกว่าอันตราย แต่ที่นี่เขาเซฟนะครับ เขา จะมีคนที่มีประสบการณ์ในการดำน้ำมากๆ 1 คนคอยประกบ1 ต่อ1 เลย ผมมองว่ามัน เป็นเรื่องที่ครั้งเดียวในชีวิต ถ้าคนที่อยากมา แนะนำให้ไปเรียนดำน้ำ”
ส่วนหลายคู่ที่เหลือ 20 กว่าคู่ ที่ไม่ได้ดำน้ำใต้ทะเล ระหว่างนั้นก็ได้เข้าชม สัมผัสความงดงามของ “ถ้ำมรกต” หนึ่งใน Unseen In Thailand ธรรมชาติที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของทะเลอันดามัน ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะมุก น้ำทะเลสีเขียวมรกต สะท้อนต้องแสงอาทิตย์ส่องเป็นประกายระยิบระยับกับผนังถ้ำ น้ำทะเลใสมรกตมองเห็นหมู่ ปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมารอบๆ ตัว มาร่วมเป็นสักขีพยานแห่งรักของบรรดาคู่รักหวาน จากปากถ้ำทอดยาวเข้าไปสู่ชายหาดเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน และมวลหมู่แมกไม้ขึ้น เกาะเลียบตลอดริมผา ซึ่งมีลักษณะคล้ายปล่องเมื่อแหงนมองด้านบนจะเห็นท้องฟ้าสีครามสวย สดใส แสงอาทิตย์ลอดเถาวัลย์เป็นเส้นสีสวยงาม สร้างบรรยากาศโรแมนติกให้กับคู่รักได้ อย่างหวานชื่น
เมื่อออกมาจากถ้ำมรกต เรือใหญ่ได้พามาชมความตระการตาของโลกใต้น้ำ ที่บริเวณ “เกาะกระดาน” ซึ่ง เป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทร ของคู่รักที่อยากดำน้ำลึก ชมธรรมชาติใต้ท้องทะเล หมู่ปลาลายเสือว่ายมาต้อนรับ ชวนสัมผัสบรรยากาศของท้องทะเล ด้วยหมู่ปะการัง ดอกไม้ทะเล และปลาน้อยใหญ่หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาการ์ตูนมงกุฎ ปลาผีเสื้อโนห์รี ปลานกแก้ว และยังมีปลาแปลกๆ อย่างเช่นปลาพยาบาลที่จะคอยติดตามทำ ความสะอาดปลาตัวอื่นอยู่ตลอดเวลา หอยเม่นสีดำทะมึนมีหนามแหลมยาวรอบตัวซุกซ่อนอยู่ ตามแนวปะการังสีขาว ดูโดดเด่นยามแสงอาทิตย์ส่องทะลุลงผิวน้ำ เมื่อดำสน็อกเกิลลิ่งบนผิว น้ำทำให้มองเห็นใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน พร้อมกับหมู่ปลาสวยงามที่แหวกว่ายไปมาอยู่ รอบตัว ที่ความลึกไม่เกิน 20 เมตร ทำให้สัมผัสบรรยากาศของโลกใต้ท้องทะเลได้อย่าง ใกล้ชิด
งานเลี้ยงวิวาห์ริมหาด...สุดโรแมนติก
หาดทราย ในหุบเขา สร้างความสวยงามและน่าตื่นเต้นกับบรรยากาศที่จัด ตกแต่งอย่างสวยงาม “หาดวิวาห์ใต้สมุทร” ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ที่มีบรรยากาศสุด แสนโรแมนติกเหมือนชื่อของหาดที่เรียก มีแนวหน้าผาสูงประกบสองฝั่งของชายหาดที่ทอด ยาวไปสู่ท้องทะเล จึงเป็นลักษณะของชายหาดส่วนตัวที่เงียบสงบ แต่ภายในบรรยากาศของค่ำ คืนนี้ครื้นเครงด้วยเพลงหวานสุดโรแมนติกขับกล่อมโดยนักร้องชื่อดัง “ปั่น” ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว แสงไฟที่ประดับประดาตามต้นไม้พาตื่นตาตื่นใจ สายลมจากท้องทะเลพัดริบบิ้น หลากสีปลิวไสวที่ผูกติดประดับไว้อยู่ทั่วบริเวณงาน แสงเทียนจากโหลแก้วใสที่วางเรียงไว้ริม หาดทรายเริ่มส่องแสงสว่างขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อแสงอาทิตย์ยามเย็นได้ลับท้องทะเลลงไป ความหวานของคู่รักได้ตกผลึก ณ ที่แห่งนี้แล้ว
เด็กผู้หญิงเดินเรียงคู่กันในชุดกระโปรงสีขาว ในมือถือตะเกียงนำหน้าคู่บ่าว สาวเข้าสู่เวทีด้านบน เสียงเพลงแห่งรักเปิดเคล้าคลออยู่ไม่ขาดสาย คู่รักเดินจับมือกันไม่ห่าง กาย ไม่มีอะไรจะหวานไปกว่าบรรยากาศของค่ำคืนนี้ และความหวานได้ตกผลึกขึ้นอีกครั้ง จนทำให้คู่รักบางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อพิธีกรให้คู่รักเปิดอ่านข้อความที่คู่รักแต่ละคู่ เขียนบรรยายความในใจให้แก่กัน ต่อด้วยภาพบรรยากาศกิจกรรมซึ้งๆ ตลอดที่ร่วมทำ กิจกรรมสานรักภายในงานวิวาห์ใต้สมุทรแห่งนี้
ได้คุยกับคู่บ่าวสาววัยรุ่นหน้าตาอินเทรนด์สไตล์เกาหลี “มิ้งค์” ณิชา ตัณฑวณิช และ “ท็อป” รัชต์ แตงสกุล คู่บ่าวสาวเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง ทั้งสองเล่าว่า แต่งงานกันมาได้ปีกว่าๆ แล้ว และอยากทำอะไรเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ และได้ประสบการณ์แปลกใหม่ จึงตัดสินใจเข้าร่วมงานครั้งนี้ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิด ทั้งคู่ได้ใช้ เวลาร่วมกัน ได้กระชับความรักความผูกพันซึ่งกันและกันเพิ่มมากขึ้น
“ความรู้สึกยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่เราผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ ปกติ ตอนอยู่ที่บ้านเราไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ยิ่งมาทำอย่างนี้มันทำให้สนิทกันมากขึ้น ได้รู้จักกันมาก ขึ้น เหมือนเป็นการพักผ่อนที่ได้ใช้เวลาเรียนรู้กันและกัน บางครั้งอยู่ด้วยกันก็เผลอลืม ไม่ ค่อยมีเวลามาคอยเทกแคร์กัน แต่พอได้มาตรงนี้ ได้อยู่ด้วยกัน ได้มีเวลาพักผ่อนด้วย แล้วก็ ได้ท่องเที่ยวมันเหมือนทำให้อะไรๆ ดีขึ้นเยอะ ทำให้รู้สึกว่าเรารักเขามากนะ" ฝ่ายเจ้าสาวคนสวยพูดถึงความรู้สึกดี ๆที่เกิดหลังจากได้เข้าร่วมงานพิธีวิวาห์รอบสอง ส่วนเจ้าบ่าวทิ้งท้ายว่าถ้ามีโอกาสต้องมาอีกครั้งแน่นอน
ปิดงานด้วยฉากที่สวยงามอลังการในบรรยากาศโรแมนติกภายใต้ท้องฟ้า และท้องทะเลเป็นพยานแห่งรัก เมื่อพิธีกรเชิญคู่บ่าวสาว มาร่วมกันจุดโคมลอยเพื่อเป็น สัญลักษณ์ของแสงสว่างที่จะนำพาคู่รักทั้งสองคนให้เจริญรุ่งเรือง สว่างไสวเหมือนดั่งโคมลอยนี้ เมื่อโคมรักคู่แรกถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงปรบมือจากผู้ร่วมงานได้ดังขึ้นไม่ขาดระยะ โคม ลอยได้ถูกปล่อยจากคู่รักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลอยสู่เหนือท้องฟ้า ต่อจากนั้นพลุหลากสีก็ได้ถูกจุดขึ้น ส่งเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งงาน แสงไฟจากโคมลอยและพลุสร้างความสว่างไสวสวยงามให้แก่ ท้องฟ้า คู่รักต่างพากันแหงนมองตามโคมนั้นไปพร้อมกับมือที่จับประกบและประคองกันไม่ ห่างกาย ไม่มีอะไรจะสวยงามไปกว่าบรรยากาศของค่ำคืนนี้ ณ ที่แห่งรัก “หาดวิวาห์ใต้ สมุทร” อีกแล้ว
รายงานข่าวโดยทีมข่าว M-Lite/ASTV สุดสัปดาห์
(ขอบคุณภาพประกอบจาก Trang Underwater Wedding Ceremony)
