‘เต๊กกอ’ กับภรรยาทั้ง 7 รักมากหลายกับหัวใจดวงเดียว ของสุพัฒน์ ธีรภาพสกุลวงศ์

‘ความรัก’ เป็นคำสั้นๆ ที่มีความหมายแสนยิ่งใหญ่ สำหรับบางคน มันคือแรงขับเคลื่อนในการมีชีวิตอยู่ และในทางกลับกัน คำคำเดียวกันนี้มันก็สามารถบันดาลให้ใครหลายคนหมดอาลัยตายอยากจนไม่อยากจะอยู่หายใจต่อบนโลกใบนี้

จริงอยู่ ที่ความรักนั้น ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่หนุ่มสาวมอบให้กันเท่านั้น แต่โดยมากสิ่งแรกที่เรานึกถึงเมื่อได้ยินคำคำนี้ก็หนีไม่พ้นความรักที่จะนำพาไปสู่การครองคู่ ตกล่องปล่องชิ้นเป็นคู่ผัวตัวเมีย และสุดยอดของความรักในอุดมคติที่หลายคนฝันถึงก็คือ การมีความรักแบบรักเดียวใจเดียว รักมั่นคงไปจนชั่วฟ้าดินสลาย

แต่กับ สุพัฒน์ ธีรภาพสกุลวงศ์ หรือที่ใครหลายๆ คนรู้จักเขาในนามของ ‘เต๊กกอ’ ความรักในอุดมคติ คงไม่ได้หมายความถึงการครองคู่ของคนสองคนไปจนวันตายแน่ๆ เพราะในปัจจุบัน ราชาลูกชิ้นหมูชาวนครปฐมคนนี้ มีภรรยาถึง 7 คน และมีลูกๆ ที่เป็นโซ่ทองคล้องใจเขาและภรรยาทั้ง 7 รวมแล้วกว่า 20 คน

ที่สำคัญภรรยาทั้ง 7 ของเขา ก็รักใคร่สนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นอย่างดี เต๊กกอเองก็ยืนยันว่าเขาเป็นคนที่มีใจเดียวแต่ทว่าบังเอิญมีหลายรัก และนั่นก็เป็นสิ่งทำให้มุมมองที่มีต่อความรักของชายคนนี้น่าสนใจ และไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง

เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะทราบว่า แท้แล้วความรักในมุมมองของผู้ชายหลายเมียคนนี้คืออะไร และเขามีวิธีการจัดการกับหัวใจที่มีดวงเดียวแต่ทว่ามีหลายรักของตนแบบใดกันหนอ?

คุณคงโดนถามบ่อยๆ ใช่ไหมว่าทำไมถึงเป็นคนที่มีหลายรัก มีภรรยาเยอะ
ผมไม่ได้ตั้งใจนะ คือเราไม่ได้คิดหรอกว่าจะมีเมียเยอะ แต่มันเป็นไปตามดวง เราเจอเขาก่อนแล้วเราค่อยคิด ไม่ได้มีการวางแผน ตอนมีเมียคนแรกได้นี่เราก็คิดว่าบุญแล้วที่มีเพราะเรายากจน ไม่ได้มีเงินมากมาย แต่ต่อมาเรามาเจอกับคนที่ 2 ซึ่งเป็นรุ่นน้องของเรา เขามาชอบเราไม่เลิกแม้เราจะแต่งงานแล้วก็ตาม หลังจากแต่งคนแรกได้เดือนกว่าผมก็แต่งคนที่ 2 เลย มันมีเหตุมาจากทางบ้านของภรรยาคนที่ 2 นั้นกดดันให้เราแต่ง วันที่แต่งเราก็พาเมียแรกไปร่วมงานด้วยนะ เขาเข้าใจเราดี

แล้วมามีคนต่อมาได้อย่างไร เพราะภรรยา 2 คนก็ถือว่ามีมากกว่าคนอื่นแล้ว
ตอนนั้นผมขายราดหน้าอยู่ นี่มันเกิดขึ้นหลังจากแต่งเมียคนที่ 2 ผ่านมาเจ็ดปีแล้วนะ คือมีสาวโรงงานคนหนึ่งเขามาซื้อราดหน้าที่ร้านประจำเลย แล้วเขาชอบยิ้มให้เรา จากนั้นก็มีเหตุทำให้เราได้รู้จักกันในงานทอดกฐินและก็พัฒนาความสัมพันธ์ไปจนถึงขั้นแต่งงานกัน คือพอดีเตี่ยเราป่วย แล้วเตี่ยเขามียามารักษาเตี่ยเราจนหายก็เลยสนิทกัน แรกๆ ทางบ้านเขาไม่ยอมหรอก เราก็เอาเมียเราทั้งสองไปช่วยคุยจนเขายอม ต่อมาอีกปีกว่าก็มาเจอคนที่ 4 เป็นลูกของลูกน้องเตี่ยเราอีกที ตอนนั้นปี 2519 เราแต่งคนที่ 4 โดยที่เมียสามคนแรกยังท้องอยู่เลยนะ ท้องโย้ไปร่วมงานแต่งพร้อมๆ กันเลย ส่วนคนที่ 5 นั้น เว้นไปอีก 2 ปีก็แต่ง ส่วนคนที่ 6 กับ 7 นั้นเป็นเพื่อนกับคนที่ 5 ตอนนั้นคุยกันว่าจัดงานบ่อยๆ มันเปลืองก็เลยจัดไปพร้อมๆ กันเลย

เอาเข้าจริงๆ มันเป็นดวงมากกว่า ตอนนั้นเราก็จนมาก เสื้อผ้าเราก็ยังต้องไปยืมเขาตลอดเลย คนสุดท้ายที่เราแต่งก็ปี 2524 ตอนนี้ปี 2554 ก็ 30 ปีล่วงมาแล้ว เงินทองของผมตอนนี้จะแต่งอีก 10 คนก็ยังได้ แต่มันก็ไม่มี เรายังไม่เจอคนที่ใช่หรือคนที่เรารักอีกเลย

ก่อนหน้านี้เคยยากจน อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่นี่ค่อนข้างลำบากเลยใช่ไหม แล้วรักกันดีหรือเปล่า
ลำบากแต่สู้ ส่วนเรื่องรักนั้น ถ้าเราไม่รักจะอยู่กันได้ยังไงจนป่านนี้ เราร่วมทุกข์ร่วมสุขเป็นคู่ชีวิตกันมา แล้วใครจะมาบอกว่าคู่ชีวิตมีอยู่คนเดียวนั้น มันไม่จริงนะใครก็ตามที่อยู่กับเราแล้วเข้าใจกัน มันก็เป็นคู่ชีวิตได้ทั้งนั้น

คุณไม่เชื่อเรื่องรักเดียวใจเดียว
โอ๊ย!...พวกคนที่บอกว่ารักเดียวใจเดียวนั้น ผมเห็นเปลี่ยนคู่กันเป็นว่าเล่นเลย อย่างนี้เรียกว่ามีรักเดียวได้อย่างไร ผมยอมรับนะว่าเต๊กกอเนี่ยมีใจเดียว แต่ผมมีหลายรัก จะไปรักใครคนใดคนหนึ่งนั้น มันเป็นการเห็นแก่ตัว คือรักแรกที่เรามีนั้นคือการรักตัวเอง รักพ่อรักแม่ ครูบาอาจารย์ เพื่อนฝูง มีอีกมากมาย

ส่วนคำว่าใจเดียวนั้น มันหมายถึงความเด็ดเดี่ยว ไม่เปลี่ยนใจ รักแล้วรักเลย คนไม่มีเมียมีผัวเนี่ย เรียกว่าใจเดียวไม่ได้นะ ถ้าเขาไปชอบคนนั้นทีคนนี้ทีแล้วเลิกชอบไปอย่างนั้นแหละที่เรียกว่าหลายใจ แต่ผมแต่งกับใครแล้วไม่เคยเลิกรักเขา ผมมีเมีย 7 คนผมก็รักทั้ง 7 คน

แล้วคุณมีวิธีการครองเรือนอย่างไร เพราะภรรยาของคุณมีตั้ง 7 คน
คุณกลับไปถามหัวหน้าคุณสิว่ามีวิธีการบริหารการทำงานอย่างไร มันต้องมีการจัดการ มีการแบ่งหน้าที่ เราต้องดูนิสัยของคนที่อยู่กับเราว่าเป็นอย่างไร ชอบพูดมาก พูดน้อย ใจเย็นใจร้อนแค่ไหน บางคนต้องสั่งงานแบบอธิบายละเอียด บางคนเราไม่ต้องพูดมาก เปรียบเหมือนการทำอาหารให้อร่อย เราต้องรู้นิสัยของเครื่องปรุงแต่ละอย่าง และนำมาประกอบกันอย่างลงตัว

ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบ้านเมืองหรือบริหารครอบครัว ถ้าเรามองขาดเราก็จะทำได้ดี มันเหมือนกันหมด จงเรียนรู้นิสัยของสิ่งที่อยู่กับเรา ตีความให้แตก อาศัยความเป็นจริงเป็นหลัก เราอย่าเข้าข้างแม้แต่กระทั่งตัวเอง ถ้าทำได้เราจะรู้จริง

ว่ากันว่าสิ่งที่เรียนรู้ได้ยากที่สุดคือผู้หญิง นี่คุณว่าจริงไหม
คือถ้าเราตีความให้แตกนี่ก็ไม่ยากหรอกนะ สำหรับผมนี่ ผมว่าผมเข้าใจ ใครมีเมียดุเป็นแม่เสือเนี่ยให้มาหาผม ผมจะสอนวิธีที่จะทำให้เขากลายเป็นลูกแมวไปเลย ผมไม่ได้มียา ไม่มีคาถา แต่ผมมีเหตุผล คือเราไม่ได้ทำให้เขาเป็นลูกแมวได้ทุกเวลานะ (ยิ้ม) เคยมีนายตำรวจใหญ่มาถามผมถึงวิธีการสร้างความปรองดองในครอบครัวว่าผมทำยังไง ผมก็ตอบไปว่าผมก็เรียนรู้จากตำรวจนั่นแหละ บอกเขาไปว่าผมมีการวางแผนเหมือนกับตอนที่ท่านวางแผนจับผู้ร้ายนั่นแหละ ดูจุดอ่อนจุดแข็งของขั้วตรงข้าม แล้วนำมาใช้วางแผน

แล้วกับเรื่องของการให้ความสุขเพศตรงข้ามตามธรรมชาติล่ะ คุณมีเคล็ดลับอะไรบ้าง
ธรรมชาติของคนเราความต้องการต่างกัน บางคนชอบเปรี้ยว บางคนชอบหวาน บางคนกินข้าวครึ่งจานอิ่ม บางคนกินสองจาน บางคนอยากได้มากกว่านั้น เราก็จัดไปตามอัตราที่เขาพอใจ และตอนให้เราควรจะนึกถึงคู่ต่อสู้ อย่าเพิ่งห่วงตัวเอง ถ้าเรามัวแต่ห่วงคนอื่น เราก็จะใจไม่เร็ว ให้ความสุขกับเขาได้เต็มที่

ผู้หญิงหลายคนบอกไม่สนใจเรื่องพรรค์นั้นหรอก ขอแต่มีตังค์ให้ใช้ก็พอ ผมยืนยันเลยว่ามันไม่จริง ของอย่างนี้มันต้องไปด้วยกัน ต้องครบเครื่อง มันเป็นความเป็นจริงของธรรมชาติ

มีเมีย 7 คนนี่...ไหวหรือครับ
ไหวสิคุณ ต้องไปถามเจ้าของฟาร์มหมู เวลาแม่หมูเจ๊าน้อยๆ นี่คุณจะเอาตัวผู้ไปทับไหม ก็ไม่ คุณอย่าเข้าข้างตัวเอง ตัวเองพอใจจะทับก็จะทับอยู่นั่น ไม่ดูว่าอีกฝ่ายเขาอิ่มแล้ว ถ้าเราทำมันก็เปลืองกระสุน ของแบบนี้มันเสียตัวเราเอง ไม่ได้เสียใครหรอก ของแบบนี้ต้องดูจังหวะ ถ้าเว้นได้ก็เว้น ถ้าซ้ำได้ก็ซ้ำ

ต้องดูของก่อนทำ ดูคนก่อนสอน ดูเหตุการณ์ก่อนพูด ถ้าอ่านขาด เราจะเป็นนักปราชญ์

สำหรับเต๊กกอ ความรักคืออะไร
คือความเห็นอกเห็นใจกัน ความช่วยเหลือกัน แต่ไม่ได้หลับหูหลับตาช่วยนะ ส่วนในนิยามความรักของหนุ่มสาวสมัยนี้มันเลยเถิดไปแล้ว คือความรักมันเป็นเรื่องดี แต่คนเอาเรื่องของกามารมณ์มาเป็นเรื่องใหญ่ วาเลนไทน์มันเป็นวันของความรักนะ ไม่ใช่วันเอากัน ซึ่งตอนนี้ถ้าเราไปบอกไปห้ามนี่เขาไม่ฟังหรอก คำพูดที่ผมจะบอกจะเตือนนี่เอาไปใช้กับหนุ่มสาวไม่ได้นะ ต้องเอาไปพูดกับพ่อกับแม่ของเขา ทางแก้นั้น เราต้องอบรมลูกมาตั้งแต่เล็กถ้าเขาเป็นเด็กที่รู้ดีรู้ชั่วมาตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาเขาก็จะมีความคิดที่ถูกต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจเอง

ความรักที่แท้ มันไม่มีหมด ไม่มีลด ไม่มีเพิ่ม เราต้องใช้ความรักมาใช้ให้เป็น หนึ่งใจมีหลายรักได้ แต่ต้องเป็นรักที่แท้นะ ต้องยั่งยืน ความรักนั้นเป็นสิ่งสะอาด แต่คนไปทำให้ความหมายมันขุ่นมัวไปเอง

>>>>>>>>>>

……..

เรื่อง : เอกชาติ ใจเพชร
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ