xs
xsm
sm
md
lg

“นิว ปทิตตา” สาวล้านวิว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หญิงสาวหน้าใส หน้าตายิ้มแย้มร่าเริง เธอกำลังเดินร้องเพลงด้วยอิริยาบถแลดูสดใสริมชายทะเลเล่นกับคลื่นและแสงแดดในยามเช้าด้วยชุดเสื้อผ้าสบายตา” ภาพและเพลงของเธอถูกโพสต์ขึ้นหลายเว็บ เริ่มมีคนเข้ามาดูจากหมื่นเพจวิว เพิ่มขึ้นเป็นหนึ่งล้านเพจวิว และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

สิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่แค่จำนวนคนที่เข้ามาดู หากแต่เป็นคอมเมนต์ที่แสดงความคิดเห็นใต้มิวสิกวิดีโอเพลงเพราะไม่ได้มีเพียงแค่ภาษาไทยเท่านั้นที่มาแสดงความคิดเห็นและชื่นชอบกับเนื้อหาเพลงรวมถึงภาพของมิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าว มีทั้ง ภาษาไทย จีน อังกฤษ จนกลายเป็นปรากฏการณ์ Newwy Fever ขึ้นในเอเชีย

“ปทิตตา อัธยาตมวิทยา” หรือ “นิว” คือสาววัยใสที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ไทยฟีเวอร์ขึ้นในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน แฟนคลับในต่างประเทศกลุ่มเอเชียของเธอบางคนอาจจะฟังภาษาไทยออกบ้าง หรือบางคนฟังเพลงแค่ทำนองเพลงต่างก็รับรู้ถึงห้วงอารมณ์ที่เธอแสดงออกจนใครต่อใครได้ฟังเกิดกำลังใจมากขึ้น

ประสบการณ์ในงานบันเทิง

จากเด็กสาวคนหนึ่งที่ผ่านงานในวงการบันเทิงมาบ้างในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ด้วยการเริ่มต้นทำงานพิธีกรรายการทีวี เล่นมิวสิกวีดิโอ เป็นผู้กำกับและพิธีกรผ่านช่องรายการทีวีทางอินเตอร์เน็ต และด้วยประสบการณ์ทางด้านงานเหล่านี้จึงทำให้เธอมีประสบการณ์ในการขึ้นประกวดบนเวทีดัชชี่ในปี 2008

การประกวดบนเวทีดัชชี่ทำให้เธอได้ประสบการณ์มากมาย และผ่านเข้ามาด้วยการเข้ามาเป็น 4 คนสุดท้ายในส่วนการแสดงฝ่ายหญิง จากนั้นจึงได้ชิมลางงานภาพยนตร์เรื่องแรกด้วย “ปายอินเลิฟ” เล่นคู่กับแบงค์ ปวริศ มงคลพิศิษ

นิวเริ่มต้นเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ที่ดีแม้ว่าตนเองจะไม่ค่อยประกวดเพื่อการแข่งขันมากนัก เธอบอกว่า เพราะรู้ตัวเองดีว่าตนไม่สวยและคงสู้คนอื่นๆ ที่มาประกวดไม่ได้

“นิวเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบอะไรที่จะมาแข่งขันกับคนอื่นนะ เพราะความสวยงาม เรารู้ว่าเราสู้เค้าไม่ได้ แล้วก็คิดว่าสังคมการประกวดก็น่าจะมีการชิงดีชิงเด่นกันเกิดขึ้น แล้วเราก็ไม่ชอบ เข้ามาอยู่ในดัชชี่ก็มีคนอายุไล่ๆ กันเราจะออกแนวตัวแหกกฎ ก็เลยสนุกไม่ได้รู้สึกว่ามาประกวด”

สาวซนประจำบ้าน

บุคลิกเมื่อแรกเห็นเธอรู้สึกได้ถึงว่าเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อัธยาศัยดีมาก คุยเล่น หัวเราะ และเป็นกันเองจนทำให้รู้สึกคล้ายว่าเธอกำลังนั่งคุยกับเพื่อนสนิทที่สามารถเล่าให้ฟังได้ทุกเรื่อง

“นิวเป็นคนพูดมาก ชอบคุยกับคนเยอะ เป็นคนเปิดเผย หัวเราะเสียงดัง” เธอบอกถึงตัวตนของเธอที่ทำให้หลายคนคิดว่าเธอเป็นคนกล้าแสดงออก ไม่ค่อยอายใคร แท้จริงเธอเป็นคนสนุกสนานอยากให้เพื่อนๆ มีเสียงหัวเราะ
นิวเป็นพี่สาวคนโตของบ้าน โดยมีน้องชายสุดที่รักหนึ่งคน แทบจะฆ่ากันตายได้หากพ่อแม่ไม่มาห้ามเอาไว้ก่อน (นิวเล่าอย่างติดตลก)

“เป็นพี่คนโต มีน้องชายชื่อวิมค่ะ ตอนเด็กถ้าพ่อแม่มาไม่ทันก็คงฆ่ากันตายไปแล้วมั้ง ก็เล่นกัน ทะเลาะกันบ่อย สามนาทีดี สี่นาทีร้าย เล่นเราก็เล่นกันแบบผู้ชาย ให้มาเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ บลายธ์ ไม่ได้กินเงินนิวแน่นอน ก็สนุกๆ ช่วงนั้นมีไพ่ยูกิ ก็ทุ่มทุน เก็บตังค์ซื้อ กลับไปคิดว่าซื้อมาทำไมเยอะแยะ ตอนนี้อยากขายมันมาก เล่นรถกับน้องก็ไม่สามารถเล่นแบบออริจินัลได้ ต้องเอารถมาโมใหม่ ทำมอเตอร์ติดเพชร หมดตังค์กับของพวกนี้มากกว่า เล่นปืนอัดลม เอาปืนอัดลมไปโรงเรียน ทำไมก็ไม่รู้ อยากเล่นปืนอัดแก๊สด้วย แต่แม่ไม่ให้เล่น เล่นขายของมีเพื่อนผู้หญิงนะ แต่ก็จะชอบเล่นอะไรที่ต้องใช้แรงเยอะๆ มากๆ บ้าพลังอ่ะ ปีนต้นไม้”

เธอสารภาพกับเราว่ามีเรื่องหนึ่งที่ซนจนไม่กล้าบอกแม่ และเก็บเป็นความลับมาโดยตลอด เมื่อครั้งหนึ่งเธอเคยซนด้วยการนำเอาประทัดไปแอบจุดไว้ใต้รถบรรทุกของเล่นของน้องชายข้างบ้าน จนเกือบจะเอามือออกมาไม่ทัน

“เคยเอาประทัดไปยัดใส่รถของเล่นรถบรรทุกบ้านข้างๆ คุณยาย แล้วนิวเกือบเอานิ้วออกไม่ทัน ไม่งั้นก็คงนิ้วด้วนไปแล้ว ตอนนั้นเล่นไม่คิด สุดท้ายเฮ้ยรถระเบิด ก็สะใจ”

แม้ว่าจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างซน แต่แม่ไม่ค่อยดุด้วยน้ำเสียงที่ทำให้นิวเกรงกลัว โดยแม่จะมีท่าไม้ตายที่ทำให้นิวรู้สึกเกรงไปเองด้วยอารมณ์นิ่งเงียบซึ่งเมื่อนิวรู้ว่าแม่มีอาการนิ่งๆ นั่นคือแม่กำลังโกรธเธออยู่จนต้องเข้าไปง้อ

“พ่อแม่ไม่ค่อยดุ แต่แม่มีท่าไม่ตาย คือจะไม่คุยด้วย พอแม่โกรธแม่จะเงียบ เราก็จะรู้เลยว่า เพราะอะไร ก็ต้องเข้าไปง้อตลอด มีเรื่องที่แม่ต้องง้อนานๆ คือ เคยไปเที่ยวกับเพื่อนแต่โกหกว่าไปเรียนพิเศษ โดดกับเพื่อนที่มีฉายาว่ายุง ตอนนั้นอยู่ ม .ต้น ตอนประถมกลับกับรถโรงเรียนตลอด แต่พอมา ม.ต้นได้กลับเองก็เลยได้แวะไปนั่นนี่ สุดท้ายแม่มารู้ว่าเราไปเที่ยว หนูก็ไม่ได้ตั้งใจโกหกหรอก แค่อยากไปเที่ยวกับเพื่อน”

“ถามสักคำ” เพลงไทย โกอินเตอร์

จากเด็กซน เป็นตัวของตัวเองสูง และมีบุคลิกคาแร็กเตอร์เด่นชัด จนทำให้ต้องตากับโปรดิวเซอร์คนหนึ่งซึ่งกำลังหานักร้องเพื่อไปอยู่ในอัลบั้ม และการได้พบเจอกันโดยบังเอิญหลายครั้งจึงทำให้นิวได้มาร่วมงานและร้องเพลง “ถามสักคำ” อัลบั้ม ความรัก ปากกา กีตาร์โปร่ง ที่รวบรวมเอาศิลปินชื่อดังมาร่วมร้องด้วยในอัลบั้ม และสาวน้อยคนนี้ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมอยู่ในอัลบั้ม

การเปิดตัวเพลง “ถามสักคำ” ด้วยการโพสต์มิวสิกวิดีโอขึ้นบนเว็บไซต์ยูทูบ ทำให้เพลงของเธอมีผู้เข้าไปชมมากขึ้นเรื่อยๆกว่าล้านเพจวิวและกลายเป็นกระแสไทยฟีเวอร์ขึ้นใน ฮ่องกง ไต้หวัน และญี่ปุ่น

“การมาทำงานนี้นิวรู้สึกกดดันตัวเองมาก นิวไม่เคยร้องเพลงมาก่อน พี่เค้าก็ชอบคาแร็กเตอร์ พี่เค้าบอกว่าชอบที่เราเป็นแบบนี้ เห็นแล้วรู้สึกโอเค ทำไรก็ทำ นิว ก็ถามว่าร้องยังไง ร้องไม่เป็น เค้ามาคุยกับหนูแล้วเอาคาแร็กเตอร์เราไปแต่งเป็นเพลง อยากให้เป็นเพลงของนิว เพลงน่ารักนะ เหมือนไม่ใช่นิวเลยอ่ะ เรามีประสบการณ์ด้อยที่สุดกว่าพี่ๆ ทุกคนในอัลบั้ม พี่เขามืออาชีพกันทั้งนั้น เราเป็นตัวเองเลยไม่ต้องเรียนร้องเพลงเลย”

“เพลงดังเราก็รู้สึกดีใจ หายเหนื่อย ตอนแรกรู้สึกงงนะ ทุกวันนี้ก็ยังงงนะ มันไม่ใช่แค่ประเทศไทย แต่มันไปดังที่ต่างประเทศ มันเป็นไปได้ยังไง มีคนบอกว่าเราหน้าเหมือนดาราในบ้านเค้าบ้าง บางคนก็คิดว่าแบบนี้ คิดว่าจะดูถูกกันเองไปถึงไหน โอเค เพลงเราเป็นเพลงไทยแล้วเขายอมรับในความเป็นคนไทย แล้วมันเป็นครั้งแรกรึเปล่าที่ไปดังที่นู่น เพราะเราไม่เคยร้องเป็นภาษาอังกฤษ จีน หรือ ภาษาอื่นเลย เราก็ไม่รู้ว่าภาษาไทยยังไง มีคนบอกว่ามาเม้นต์ในเฟซบุ๊กเราเยอะมาก”

เมื่อเพลงที่เธอถ่ายทอดความรู้สึกออกมาในมิวสิกวิดีโอ ทำให้มีแฟนคลับทั้งชาวไต้หวัน ฮ่องกง เกิดขึ้น และสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกภูมิใจกับการทำงานเพลงครั้งแรกก็คือ การที่เพลงของเธอสามารถเป็นกำลังใจให้แก่ชายหนุ่มชาวฮ่องกงคนหนึ่งที่กำลังสิ้นหวัง ท้อแท้ในชีวิต กลับมาต่อสู้และมีกำลังใจมากขึ้นในการดำเนินชีวิตต่อไป

“มีคนหนึ่งบอกว่า ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา เขารู้สึกท้อแท้มาก จนกระทั่งเขาได้มาได้ยินเพลงเรา เขาเป็นคนฮ่องกง มีปัญหาเรื่องงาน แฟน ต้องเผชิญปัญหาคนเดียว วันหนึ่งเพื่อนเขาส่งอีเมล มาให้ฟังเพลงนี้เขารู้สึกมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป ดูแล้วรู้สึกใสๆ มีอะไร เราอ่านแล้วรู้สึกขนลุกเลย เวลาที่เขารู้สึกท้อเมื่อไหร่เขาก็จะฟังเพลงเราตลอด ดูกี่ครั้งก็ทำให้เขาอยากทำอะไรต่อไป ทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อพ่อแม่ เราเข้าใจว่าเพลงเราให้แค่ความบันเทิง แต่ที่จริงแล้วมันสามารถให้กำลังใจใครได้ด้วย เวลาดูเอ็มวีแล้วอยากทำอะไรอีกเยอะ”

หลังจากกระแสนิววี่ฟีเวอร์เกิดขึ้นในเอเชียทำให้เธอได้พบเจอกับแฟนคลับจำนวนมากทั้งไทยและต่างประเทศ นี่อาจจะเป็นกระแสที่ดีที่ทำให้เพลงไทยได้ก้าวไปเปิดตัวให้แฟนคลับในเอเชียได้คลั่งไคล้ คล้ายกับเมื่อหลายปีที่คนไทยคลั่งกระแสเกาหลีฟีเวอร์ก็ได้

“แฟนคลับบางคนน้อยใจว่าพูดถึงแต่ชาวฮ่องกง ไต้หวัน เขามีข่าวนิวในประเทศนั้น ดีใจมากค่ะ มีคนที่เป็นตัวแทนเป็นจุดเล็กๆ คนหนึ่ง ที่ทำให้เพลงในประเทศไทยได้ให้คนอื่นรู้จัก แต่ถ้าเราได้ทำเป็นจุดเริ่มต้นแบบนี้ก็อยากให้อีกหลายคนที่มีความฝันแบบเดียวกันได้ไปโปรโมตต่างประเทศ คือนิวไม่ได้ต้องการไปดังที่นู่นคนเดียว เราอยากให้มีคนไทย ทุกคนได้ไปได้ พอเราดูแล้วมันดี ให้เพลงไทยไปดังที่นู่นบ้าง จะมาคนไทยเลียนแบบเกาหลีอย่างเดียวได้ยังไง เราโชคดีที่ได้ร่วมงานกับทีมงานที่ดีก็ทำให้งานเราออกมาดี”
 
“ไม่แคร์” เสียงติเพื่อทำลาย

บางคนสันนิษฐานการดังของเธอหลังจากปล่อยมิวสิกวิดีโอลงในยูทูบว่า เป็นเพียงแค่กระแสของหน้าตาเธอที่ดันไปคล้ายกับดาราสาวคนหนึ่งในฮ่องกง หรือหลายเสียงตำหนิออกมาว่าเสียงเธอไม่ดี ไม่สวยบ้าง หน้าตาขี้เหร่ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีส่วนที่จะทำให้เธอพัฒนางานของเธอได้ จึงไม่ได้รู้สึกว่าน้อยใจหรือกดดันตัวเองกับการร้องเพลงครั้งแรก

“บางคนก็สันนิษฐานว่าคงเป็นเด็กเกรียนแถวไต้หวันมั้งที่ชอบ คือทำไมต้องไปดูถูกเขาอย่างนั้นด้วย ถ้าเขารู้ว่า คำว่า เกรียน หมายถึงอะไร เขาจะรู้สึกยังไง คุณรู้มั้ยว่าอัลบั้มนี้มี มือกีตาร์ระดับเทพมาเล่นให้นะ คุณกล้าดูถูกคนไทยด้วยกันอย่างนี้ได้ไง คนทั่วไปมีทั้งบ่น ทั้งว่าเรา ตำหนิ แต่ไม่เคยสน ว่าเสียงเราแย่มาก เพราะไม่สน เพราะนิวก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองเสียงดี แล้วเราก็อยากได้แบบว่าติเพื่อก่อมากกว่า ไม่ใช่ติเพื่อทำลาย เราไม่ได้เข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว ว่าเราหน้าตาไม่ดี ขายหน้าตารึเปล่า ในสังคมก็มีคนแบบนี้เสมอ นิวไม่สนใจพวกที่ติเพื่อทำลาย งานเราจะดร็อปลง มีคนติเพื่อก่อก็รับฟัง มีชมมาเราก็ฟังแต่ไม่ได้เหลิง ทุกคนที่ทำงานชิลด์มาก กับการทำงาน”
ต่อจากนี้เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า นอกจากเพลง “ถามสักคำ” ของเธอจะโกอินเตอร์ และงานที่เธอกำลังก้าวไปสู่ในระดับเอเชียแล้ว อีกไม่นานคงจะได้ฟังเพลงในอัลบั้มเต็มของเธออย่างแน่นอน ช่วยเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่จะทำให้ทีมงานสร้างสรรค์เพลงและเป็นกำลังใจให้เธอได้เป็นก้าวแรกที่ทำให้เกิดกระแสไทยฟีเวอร์ในเอเชียก

 
 ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์

ภาพโดย  ธัชกร  กิจไชยภณ
 










กำลังโหลดความคิดเห็น