xs
xsm
sm
md
lg

กรงหัวจุก...นกไฮโซเงินล้าน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นกศรรามราคา 350,000 บาท
หากจะเอ่ยถึง “นกกรงหัวจุก” ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนเป็นเรื่องเป็นราวว่านกเหล่านี้เป็นสัตว์ป่า ไม่สมควรนำมาเลี้ยง แต่แท้ที่จริงแล้วนกเหล่านี้ถูกเลี้ยงและมีความผูกพันกับคนไทยมายาวนาน จากนกธรรมดาวันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่มีราคาพุ่งสูงจนถึงหลักล้าน!

วันนี้ M-pet จะขอเปิดบ้านเซียนนกตัวจริงอย่าง “ภาคภูมิ ณ สงขลา” หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม “น้าหมู เซียนนก” คนเมืองใต้วัย 52 ปี ผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกไว้ทั้งหมด 18 นก ซึ่งผู้เลี้ยงนกกรงจะไม่เรียกนกเป็นตัว เขามีกิจวัตรยามเช้าคือการนำกรงนกทั้งหมดออกมาล้างน้ำ เพราะต้องรักษาความสะอาดอย่างดี จากนั้นก็แขวนผึ่งลมตากแดดไว้ให้แห้ง พร้อมกับนำกล้วยสุกผ่าครึ่งลูกใส่ไว้ในกรงเป็นอาหารวันใหม่

ตำนานนกกรงหัวจุก

นกกรงหัวจุกมีพื้นเพมาจากทางใต้เมื่อประมาณ 50 กว่าปีที่แล้ว นำเข้ามาโดยคนจีนที่นำนกติดเรือสำเภาเข้ามา เมื่อคนในพื้นที่เห็นว่าเป็นนกเลี้ยงที่เหมือนนกที่มีอยู่ในไทย สามารถร้องเป็นเพลงได้ไพเราะ จึงเริ่มลองเลี้ยงบ้างโดยแรกๆ จะเป็นการจับจากธรรมชาติมาเลี้ยง และถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงต่างๆ มาจากชาวจีน

ปกติแล้วนกกรงหัวจุกเวลาอยู่ใกล้ๆ กันจะต่อสู้กันคือเป็นนิสัยหวงถิ่น เหมือนปลากัด จะให้อยู่ใกล้กันหรือในกรงเดียวกันยิ่งไม่ได้ จะพยายามเข้าสู้กัน เมื่อก่อนก็เคยมีคนอุตริเอานกมาไว้ในกรงเดียวกันให้สู้จิกตีเหมือนไก่ชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดี ทรมานสัตว์ จึงพัฒนาไปสู่การประกวดเสียงร้องของนกครั้งแรกที่ จ.สงขลา จากนั้นก็มีการศึกษาพัฒนาสายพันธุ์จากธรรมชาติให้มีความสามารถและร้องได้เพราะขึ้น มีการตั้งกติกาการแข่งขันให้เป็นสากล

เลี้ยงให้รอด

ปัจจุบัน นกกรงหัวจุกที่เลี้ยงทั้งหมดจะได้มาจากการเพาะพันธุ์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลอย่างดี โดยช่วงอายุที่ดีที่สุดในการให้ผสมพันธุ์คือไม่น้อยกว่า 3 ปี แต่ก็ต้องผ่านระบบการดูตัวด้วยคือการนำกรงมาไว้ใกล้กันว่าเข้ากันได้หรือไม่ เพราะหากไม่ลงรอยกันพอนำเข้าไปไว้ร่วมกรงเพื่อผสมพันธุ์ตัวผู้จะไล่จิกตัวเมียจนอาจตายได้

นอกจากนี้ ยังต้องคัดกรองสายพันธุ์ด้วย หมายถึงต้องคัดเลือกนกที่มีเพลงดีมาผสมกัน เนื่องจากนกกรงหัวจุกเป็นนกชนิดเลียนเสียง หากลูกนกเกิดมาแล้วได้ยินแต่เสียงเพราะๆ ของแม่นกก็จะเลียนเสียงเพราะตามไปด้วย

“สิ่งหนึ่งที่คนมักไม่เข้าใจในการเพาะเลี้ยงนกคือ เขาจะนำลูกนกออกมาป้อนอาหาร ป้อนน้ำเอง ผิดธรรมชาติ จะทำให้นกเชื่องติดคน ควรจะปล่อยให้แม่นกเลี้ยงจนโตเอง จะได้มีสัญชาตญาณป่าอยู่ในตัวด้วย รวมทั้งน้ำลายแม่นกที่ต้องกินอาหารก่อนจะป้อนให้ลูกนั้นมีภูมิคุ้มกันเหมือนกับน้ำนมแม่ของคน นี่คือสาเหตุว่าทำไมนกที่ผ่านการป้อนอาหารโดยคนจึงเลี้ยงไม่รอด และต้องเลี้ยงในกรงใหญ่ให้ลูกนกได้ฝึกบินกับแม่ จะได้แข็งแรง แต่เราก็ไปห้ามใครเขาอุ้มนกตัวเองไม่ได้อีก”

นกกรงหัวจุกกินผลไม้สดอย่างกล้วยสุกหรือแมลงเป็นหลัก ซึ่งสามารถการันตีได้ว่านกเหล่านี้จะไม่มีทางเป็นโรคไข้หวัดนกอย่างแน่นอน เพราะสัตว์ปีกที่จะเป็นไข้หวัดนกได้นั้นคือสัตว์ปีกที่กินอาหารโปรตีนสูงอย่างกินปลาเป็นตัวๆ ส่วนนกที่กินแต่ผลไม้ ธัญพืช หรือเพียงหนอนนกที่มีโปรตีนเพียงส่วนน้อยนิดไม่มีทางรับเชื้อได้อย่างแน่นอน

ปัญหาโลกไม่แตก

การเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดย่อมมีปัญหา ซึ่งเรื่องปวดหัวของคนเลี้ยงนกก็มีหลายอย่าง เช่น ปัญหานกดิ้น หมายถึงอาการตื่นตกใจของนกเวลาคนเข้าใกล้ บางตัวดิ้นจนได้แผลก็มี จึงต้องใช้ผ้าคลุมกรงช่วย หรืออาการนกไม่รักสวยรักงาม บางตัวชอบจิกหางตัวเอง อาจเกิดจากความเครียดของนกเอง หรือบางตัวอาจไม่มีความระมัดระวังหางตัวเองเวลาบินไปเกาะตามจุดต่างๆ ของกรงจนหางบานหักยับเยิน ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ คงต้องปล่อยไว้ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปแทน

รวมไปถึงปัญหานกไม่ทำงานในสนามก็นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว หากพาลงแข่งแล้วกลับไม่ยอมร้องสักแอะ แสดงว่านกตัวนั้นอาจยังไม่คุ้นสนามเท่าที่ควร อีกหนึ่งปัญหาชวนหัวสำหรับคนเลี้ยงนกก็คือเพื่อนบ้านนั่นเอง เนื่องจากคนข้างบ้านไม่ได้มีความรู้ลึกเรื่องเลี้ยงนก

“ตอนที่ไข้หวัดนกระบาดบางทีอยู่ใกล้บ้านคนเลี้ยงนกก็กลัว แต่เขาไม่เข้าใจ ก็เรียกเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบบ้างอะไรบ้าง หรือบางทีทะเลาะกันเรื่องอื่น แล้วมาลงที่นกก็มี แจ้งไปแล้วเจ้าหน้าที่ไม่มาก็ไม่ได้ผิดวินัยเขา”

นกกรงสร้างอาชีพ

“นกชนิดนี้เขาจะควบคุมระบบธรรมชาติ ปริมาณแมลงอยู่ แต่พอพื้นที่อาศัยถูกรุกล้ำกลายเป็นพื้นที่ทำไร่ทำสวน นกจำนวนมากถูกฆ่าตายเพราะเข้าไปในพื้นที่เขา เราก็พยายามจะอนุรักษ์ไว้ แต่ NGO เขากำลังต่อต้านพวกผมอยู่ว่าเอานกมาเลี้ยง แต่เขาไม่มองว่าเรานำมาเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์จึงต่อต้านค้านไปหมด”

สาเหตุหลักที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากกลุ่ม NGO มองว่า นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์ป่า ซึ่งสัตว์ป่าก็ควรจะอยู่ในป่า แต่ในความเป็นจริงนกเหล่านี้อาศัยตามชายทุ่ง อาศัยอาหารในหมู่บ้านหรือผลไม้ที่ชาวบ้านปลูก เซียนนกคนนี้ยังบอกด้วยว่าการอนุรักษ์นอกจากรักษาไว้แล้วต้องต่อยอดไปถึงการเพิ่มจำนวนด้วย แต่กรมป่าไม้กลับระบุว่าเป็นนกป่า อยู่ใน พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครองแต่ห้ามเพาะพันธุ์

กล่าวคือผู้ที่จะเพาะพันธุ์ได้จะต้องได้รับการอนุญาตเสียก่อน ซึ่งน้าหมูบอกว่ามีขั้นตอนและกฎเกณฑ์เยอะเกินความจำเป็น เนื่องจากการเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกนั้น ชาวบ้านธรรมดาๆ ก็ทำได้หากมีความรู้ ศึกษามาอย่างดี มีใจรัก ซึ่งการเลี้ยงนกยังเป็นรายได้เสริมจากงานหลักได้ด้วย

“บางทีคนแก่จะให้แกไปแบกปูนที่ไหน การเลี้ยงนกออกลูกมาก็ขายเป็นรายได้ แต่เหมือนทางการเขาจะไม่สนับสนุน อย่างการทำกรงก็เป็นอาชีพหนึ่งที่แยกย่อยออกไปได้เยอะ บางคนเอาไม้ไปเผาทำถ่านขายได้ไม่เท่าไร นำมาเหลาทำกรได้เงินดีกว่า คือการเลี้ยงนกเนี่ย สร้างรายได้ให้คนหลายกลุ่มได้มีงานทำ”

ประชันขันแข่ง

การแข่งนกมีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ ปากเปียก นับดอก เสียงทอง และสากล แต่ที่นิยมจริงๆ คือประเภทเสียงทองกับสากล โดยในการแข่งขันกรรมการจะฟังเสียงนกร้องโดยใช้การนับดอก ซึ่งจะได้คะแนนก็ต่อเมื่อนกร้องตั้งแต่ 3 พยางค์หรือมากกว่า จึงจะเรียกเป็น 1 คำร้อง

“นกแต่ละตัวมีเพลงต่างกันไปในแต่ละตัว เหมือนกับคนที่มีภาษาถิ่น อยู่เหนือพูดภาษาเหนือ อยู่ใต้พูดภาษาใต้ ขึ้นกัยที่มาของแต่ละตัว มีสำนวนการร้องต่างกัน ที่สำคัญคือน้ำเสียง ให้ร้องเพลงเดียวกันก็จะร้องเพราะต่างกัน บางคนเสียงทุ้มนุ่มนวล บางคนร้องทีเพื่อนบ้านปิดหน้าต่าง”

ส่วนการแข่งขันแบบเสียงทอง เสียงทองคือตัดสินที่เนื้อเสียง ไม่จำเป็นต้องร้องมาก แค่ดอกหรือ 2 ดอก แต่ต้องเป็นน้ำเสียงที่ไพเราะจริงๆ โดยกรรมการจะเปรียบเทียบครั้งละ 2 นก ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับดวงด้วยว่าตอนที่กรรมการเดินผ่านกรงนั้น นกจะร้องหรือไม่ และตัดสินภายในครั้งเดียวจากนกทั้งหมด

การเลี้ยงนกกรงหัวจุกจำเป็นต้องมีผ้าคลุมกรงอยู่เสมอ เนื่องจากนกเป็นสัตว์ตัวเล็กบอบบาง จึงต้องอยู่ในที่ซึ่งรู้สึกว่ามีความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งเรื่องสุขภาพที่ควรกันไว้ดีกว่าแก้ การให้ยาจะต้องให้ผสมกับน้ำในถ้วยซึ่งนกอาจกินไปไม่เพียงพอ

กรงไฮโซ นกไฮคลาส

สำหรับกรงของนกชนิดนี้จำเป็นต้องเป็นทรงสี่เหลี่ยม และต้องมีที่เกาะในมุมต่างๆ ติดไว้ด้วย เพื่อให้นกสามารถบินไปเกาะตามมุมกรงและร้องเพลง ซึ่งตัวกรงเองก็มีการประกวดความสวยความงามไม่แพ้นกในกรงเลย

กรงนกจะมีความสวยงามมากนะ ทั้งการเหลาไม้กว่าจะมาเป็นซี่ๆ เป็นงานฝีมือที่ละเอียด อย่างกรงฝังลายมุกนี้ราคาสูงถึง 80,000 บาท ยังไม่รวมตัวแขวนด้านบนราคา 5,000 บาท เป็นลวดลายสวยมาก ราคาจะแพงมากน้อยขึ้นกับสกุลช่าง มีที่มาที่ไป หรือกรงโหลใบละ 150-250 บาท ที่ขายจตุจักรเดือนหนึ่งขายได้เป็นพันใบ”

ปัจจุบันมีกรงอยู่หลายทรงหลายรูปแบบ โดยแบ่งเป็นทรงหลักๆ ได้ 5 แบบคือกรงทรงตรัง กรงทรงสงขลา(กรงผ่าวาร) กรงทรงปัตตานี กรงทรงยะลา กรงทรงนราธิวาส ซึ่งแบ่งตามแหล่งกำเนิดและมีทรง ลวดลายเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันอย่างชัดเจน

นกน้อยในกรงนั้นก็มีราคาสูงจนน่าตกใจ... ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว ขึ้นกับผลงานว่าเจนสนามอย่างไร โดยดูจากน้ำเสียงเป็นหลัก มีการติดตามสถิติพ่อและแม่พันธุ์ว่าได้แชมป์มากี่สนาม มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ก่อนนำมาผสมพันธุ์กัน

อีกประเภทหนึ่งคือนกแฟนซีที่จะมีสีสันต่างจากสีเดิมที่เป็นสีน้ำตาล เช่น สีโอวัลติน สีขาว สีด่าง สีเผือก ยิ่งมีสีขาวมากยิ่งราคาสูง ปัจจุบันยังคงมีการพัฒนายีนสีซึ่งเป็นยีนด้อยนี้ให้แข็งแรงขึ้นจนกลายเป็นยีนเด่น ไม่ใช่เพียงลูกฟลุก ซึ่งนกกรงหัวจุกจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 25 ปี ส่วนสมาชิกในบ้านเซียนนกผู้นี้ก็มี “นกศรราม” ที่มีราคาสูงถึง 350,000 บาท

ความนิยมของผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกในตลาดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ควรเลี้ยงตามใคร ต้องเลี้ยงด้วยใจรัก ศึกษาเรื่องนกให้มาก จะได้มีความสุขทั้งนกและคนเลี้ยง

รายงานโดย ทีมข่าว M-Lite
ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์


กรงนกลายมุกใบละ 80,000 บาท

กำลังโหลดความคิดเห็น