สาละวินกับโขงเป็นพี่น้องกัน ในวันที่สาละวินยังคงพอต้านทานการรุกรานได้ (แต่ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน) โขงกลับกำลังเผชิญความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงและรวดเร็ว
ข่าวคราวเกี่ยวกับการแห้งขอดของแม่น้ำโขง ที่บางสื่อบอกว่าเป็นการลดระดับที่หนักหนาที่สุดในรอบ 100 ปี บางสื่อก็ว่าในรอบ 50 ปี แต่ไม่ว่าจะในรอบกี่ปี นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำโขง สายน้ำแห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงผู้คนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมานานนับนาน
มีเรื่องราวมากมายที่บอกเล่าผ่านสายน้ำแห่งนี้ และต่อไปนี้คือเรื่องราวจำนวนน้อยหนึ่งที่เล่าผ่านมุมมองในยุคสมัยของเรา เรื่องของแม่น้ำที่ว่ากันว่ามันเป็นยิ่งกว่าแม่น้ำ
………..
1. แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยาวเป็นอันดับ 10 ของโลก มีความยาว 4,909 กิโลเมตร ไหลหล่อเลี้ยงผู้คนกว่า 60 ล้านคน ใน 6 ประเทศ คือ จีน ลาว พม่า ไทย กัมพูชา และเวียดนาม มีจำนวนพันธุ์ปลาที่สำรวจพบ 1,245 ชนิด และมีพื้นที่ชุ่มน้ำ 795,000 ตารางกิโลเมตร
2. แม่น้ำโขงมีชื่อเรียกตามท้องถิ่นที่ไหลผ่านหลายชื่อ ตอนต้นน้ำในประเทศจีนชื่อว่าแม่น้ำโอลิง (O Ling) และแม่น้ำยาลุง (Ya Lung) ช่วงที่ไหลผ่านยูนนาน ชาวไทยลื้อซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเรียก ลานซาง (Lan Tsang) ออกเสียงเป็นลานช้าง เมื่อพ้นประเทศจีนเรียกแม่น้ำโขง แต่คนลาวเรียก แม่น้ำของ เวียดนามเรียก เทียนเกียง (Tien Giang) แปลว่าแม่น้ำจากสรวงสวรรค์ เพราะไหลจากทิวเขาหิมาลัยซึ่งสูงเทียมเมฆเสมอเสมือนสวรรค์ชั้นฟ้า
3. แม่น้ำโขงมีปริมาณน้ำสูงถึง 475,000 ล้านลูกบาศก์เมตร มีต้นกำเนิดจากทิเบต ไหลผ่าน 6 ประเทศ แต่ละประเทศก็จะมีน้ำจากลำน้ำสาขาไหลลงสมทบกับลำน้ำโขง ดังนี้ จีน 76,000 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 16 เปอร์เซ็นต์ พม่า 9,500 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ ไทย 57,000 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ ลาว 194,750 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 41 เปอร์เซ็นต์ กัมพูชา 85,500 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 18 เปอร์เซ็นต์ และเวียดนาม 52,250 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 11 เปอร์เซ็นต์
4. แม่น้ำโขงช่วงที่กว้างที่สุดอยู่ที่บริเวณแขวงสี่พันดอน ในประเทศลาว โดยมีความกว้าง 14 กิโลเมตร
5. เพียงแค่แถบเทือกเขาริมฝั่งแม่น้ำโขงอันห่างไกลในประเทศพม่า พบว่ามีชนพื้นเมืองชาติพันธุ์ต่างๆ มากกว่า 22,000 กลุ่ม
6. ประเทศไทยมีน้ำจืดรวมทั้งสิ้นประมาณ 200,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำจืดที่ได้มาจากฝนทั้งสิ้น ครึ่งหนึ่งของน้ำจืดของประเทศไทยอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 110,000 ล้านลูกบาศก์เมตร และครึ่งหนึ่งของน้ำจำนวนนี้คือ 57,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงไปสู่ประเทศท้ายน้ำ
7. ประเทศจีนมีแผนก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในแม่น้ำโขงถึง 8 แห่ง ซึ่งขณะนี้ก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 3 แห่ง อีก 2 แห่งกำลังก่อสร้าง ส่วนที่เหลือ 3 แห่งอยู่ในขั้นตอนการศึกษา โดยเขื่อนเหล่านี้ นอกจากจะป้อนกระแสไฟฟ้าให้จีนแล้ว ...ยังผลิตขายให้แก่ประเทศไทยด้วย
8. มีแผนการก่อสร้างเขื่อนอีก 11 แห่งในแม่น้ำโขงสายหลัก โดย 7 แห่งอยู่ในประเทศลาว 2 แห่งอยู่บริเวณชายแดนไทย-ลาว และอีก 2 แห่งในประเทศกัมพูชา
9. เกิดความร่วมมือกันระหว่างประเทศต่างๆ ที่ใช้แม่น้ำโขงร่วมกัน ไมว่าจะเป็นไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า จนนำไปสู่ก่อตั้ง 'คณะกรรมกาธิการแม่น้ำโขง' ขึ้นเพื่อศึกษาศักยภาพ ตลอดจนวางนโยบายและแนวทางการพัฒนาพื้นที่แม่น้ำโขงให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้
10. มีการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างขนานใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ ถนนหนทาง รวมไปถึงการตัดแบ่งพื้นที่เพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบเชื่อมโยงข้ามประเทศ เช่น สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทย จีน พม่า และลาว และในอนาคตก็อาจจะขยายไปเป็นหกเหลี่ยมเศรษฐกิจที่นับรวมกัมพูชา และเวียดนามเข้ามาด้วย
11. เกิดการหลั่งไหลอพยพโยกย้ายของผู้คน เพื่อแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจในประเทศลุ่มน้ำโขงเป็นไปอย่างคึกคัก อย่างเช่น ทุกวันนี้มีความพยายามสร้างชุมชนคนจีนหรือไชน่าทาวน์ในกรุงเวียงจันทน์ของลาว รวมไปถึงแรงงานอพยพที่ลักลอบเข้าประเทศต่างๆ ผ่านการข้ามแม่น้ำโขง
12. เกิดความตื่นตัว ในเรื่องการท่องเที่ยวอย่างมาก เฉพาะปี 2550 สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีประมาณ 26.7 ล้านคน และคาดว่าในปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 52 ล้านคน
13. เกิดการลงทุนด้านอุตสาหกรรม และพลังงานจำนวนมาก หรือแม้แต่บ่อนกาสิโน โดยทั้งหมดนี้ต้องใช้ที่ดินเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งนำไปสู่การปรับเปลี่ยนสภาพภูมินิเวศของลุ่มน้ำโขง มีการระเบิดเกาะแก่งเพื่อการเดินเรือจากจีนมาสู่ พม่า ลาว และไทย
14. จากกรณีแม่น้ำโขงแห้ง ส่งผลให้เรือขนสินค้าเกยตื้นถึง 21 ลำ (ข่าวเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2553) ขณะที่บริการเรือโดยสารในประเทศลาว เส้นทางจากบ้านห้วยทราย เมืองบ่อแก้ว ไปยังนครหลวงพระบางต้องหยุดทำการชั่วคราว
15. มีการลงทุนด้านเกษตรแบบพันธสัญญา (Contact Farming) ตามพื้นที่ชายแดนลุ่มน้ำโขง โดยเน้นไปที่พืช 8 ชนิดคือ ถั่วเหลือง ถั่งลิสง ละหุ่ง ข้าวโพดหวาน มันฝรั่ง มะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยูคาลิปตัส โดยรัฐบาลแต่ละประเทศจะยกเว้นภาษีนำเข้าให้แก่พืชเหล่านี้
16. ทุกวันนี้ บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวราวครึ่งหนึ่งของเวียดนาม และเป็นแหล่งผลิตกุ้งประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ประสบปัญหาระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและน้ำเค็มหนุน ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตต่ำลงและอาจทำให้เกษตรกรไร้ที่ทำกิน
17. ผลกระทบต่อการจราจรทางน้ำ ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากเดือดร้อน หลายชุมชนมีเพียงเส้นทางเรือเท่านั้นที่เข้าถึงหมู่บ้าน ขณะนี้เรือโดยสารและเรือขนส่งสินค้าต่างจอดสนิท การขนส่งทางเรือระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ และเมืองปากลาย แขวงไชยบุรี ต้องหยุดลง
18. ผลกระทบต่อการเลี้ยงปลากระชังของเกษตรกรริมแม่น้ำโขง ขณะนี้ ระดับน้ำบริเวณที่มีการเลี้ยงปลากระชังบริเวณแม่น้ำโขง จังหวัดเชียงรายอยู่ที่ 2 เมตร หากน้ำโขงยังลดระดับลงเช่นนี้ คาดว่าช่วงเดือนเมษายน ระดับน้ำโขงจะต่ำกว่าความสูงของกระชังปลา เกษตรกรจะต้องดันกระชังปลาออกห่างจากตลิ่งไปในบริเวณร่องน้ำลึก เพื่อให้ปลาอยู่รอด
19. ผลกระทบจากระดับน้ำที่ลดลงผิดปกติ ปลาที่ขึ้นมาจากทะเลสาบเขมร ผ่านขึ้นมาแม่น้ำโขงและผ่านเข้าไปในแม่น้ำมูน ปลาจะไม่รู้ว่าฤดูไหนน้ำขึ้นหรือน้ำลง ทำให้ปลาเกิดการสับสน เป็นผลให้จำนวนปลาลดลงผิดปกติ
20. นอกจากน้ำจะแล้งแล้ว การสร้างเขื่อนของจีนยังเป็นต้นเหตุปัญหาน้ำท่วม อย่างเหตุการณ์เมื่อเดือนสิงหาคม 2551 ชาวบ้านอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำอิงและแม่น้ำกก ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขา เอ่อสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คืนเดียวสูงกว่า 1 เมตร โดยต้นเหตุนั้นมาจากที่จีนกำลังจะมีพายุเข้า จึงต้องเร่งเปิดเขื่อนเพื่อระบายน้ำ เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลให้อำเภอเชียงของ เชียงแสน และเวียงแก่นประสบอุทกภัย มีผู้ได้รับความเดือดร้อนถึง 540 ครอบครัว มูลค่าความเสียหายกว่า 85 ล้านบาท
21. วิถีชีวิตของคนริมแม่น้ำโขงที่เคยสัญจรข้ามฝั่งไปมาจากใช้เรือเป็นพาหนะก็เปลี่ยนเป็นใช้เท้าในการเดินข้ามฝากไปมาหาสู่กันได้ในบริเวณที่น้ำแห้งมากๆ
22. มีดินตะกอนไหลมาทับถมกันเป็นจำนวนมาก จนส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงขณะนี้เริ่มตื้นเขินและมีเกาะแก่งเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากการแล่นเรือของจีนที่ใบพัดตะกุยเอาดินตะกอนและทรายขึ้นมา และอีกสาเหตุที่สำคัญก็น่าจะมาจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนของจีนที่มีดินตะกอนผสมอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อปล่อยน้ำมาแต่ละครั้งจึงทำให้มีดินตะกอนไหลมารวมกันมากขึ้นเรื่อยๆ
23. ที่จังหวัดเลย สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าแม่น้ำโขงแห้งจนมองเห็นเกาะแก่งได้อย่างชัดเจน ชาวบ้านเก็บหินในแม่น้ำมากองไว้ให้ผู้ที่ผ่านไปมาซื้อหาไปตกแต่งสวนที่บ้าน
24. ที่จังหวัดหนองคาย หาดทรายริมแม่น้ำโขงเริ่มมากขึ้น บางช่วงน้ำจะไหลอยู่ในร่องน้ำ เมื่อเข้าสู่เขตอำเภอเมืองหนองคาย หาดทรายยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ขณะที่มองไปยังฝั่งลาว จะพบว่า ธุรกิจดูดทรายจากแม่น้ำโขงผุดขึ้นเป็นจำนวนมากตลอดแนวแม่น้ำโขง
25. ค้นพบเจดีย์ทรงโบราณฝังอยู่กลางทรายที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาในฝั่งลาว บริเวณเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามกับตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีการใช้รถแบ็กโฮขุดตักทรายนำไปก่อสร้างโครงการของกลุ่มทุนจีน จึงทำให้พบยอดเจดีย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน สูงประมาณ 3-4 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางกว้างสุดประมาณ 2-3 เมตร โดยมีการวางอิฐโบราณก้อนใหญ่เป็นชั้นๆ อย่างเป็นระเบียบและสามารถเห็นได้ชัดเจน รวมทั้งบางส่วนโดยเฉพาะส่วนกลางยังมีปูนให้เห็นอยู่ มีรูปทรงเป็นทรงระฆังคว่ำ ส่วนกลางมาจนถึงเกือบถึงยอด เป็นชั้นสลับด้วยฐานอย่างสวยงาม นอกจากนี้ ยังพบต้นตะเคียน 1 ต้นและพระพุทธรูปขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่ง
26. กองทุนสัตว์ป่าโลกระบุว่า อุทกภัยรุนแรงและภัยแล้ง การกัดเซาะชายฝั่ง ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และคลื่นความร้อน ที่จะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษข้างหน้านี้ จะส่งผลกระทบถึงผลผลิตข้าว ผลไม้และกาแฟ และการทำประมงซึ่งเป็นอาชีพเลี้ยงชีพของผู้คนจำนวนมากในกลุ่มประชากรลุ่มแม่น้ำโขง 65 ล้านคน
27. แม่น้ำโขงถือเป็นแหล่งน้ำจืดที่มีปลาอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก การหาปลาในแต่ละปีมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นแหล่งโปรตีน 4 ใน 5 ส่วนของการบริโภคโปรตีนจากเนื้อสัตว์ในกัมพูชา และคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ยถึง 45 เปอร์เซ็นต์ ของการบริโภคโปรตีนจากเนื้อสัตว์ในลาว
28. ปลาบึกถือเป็นยักษ์แห่งแม่น้ำโขง เป็นปลาน้ำจืดไม่มีเกล็ดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คนสมัยก่อนเชื่อว่าปลาบึกเป็นปลาของเจ้าหรือผีลวงหรือผีโพ้ง ก่อนจะจับปลาบึกจึงต้องมีการประกอบพิธีกรรมก่อน ถึงตอนนี้ ยักษ์แห่งแม่น้ำโขงกำลังอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์
29. เฉพาะรอบๆ บริเวณที่เรียกว่า คอนผีหลง ซึ่งเป็นแม่น้ำโขงบริเวณไทย-ลาวตอนบน พบว่ามีระบบนิเวศย่อยๆ ที่มีลักษณะเด่นถึง 11 ระบบ ได้แก่ ผา, คก, ดอน, หาด, ร้อง, หลง, หนอง, แจ๋ม, น้ำห้วย, ริมฝั่ง และกว๊าน
30. ที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย มีพรานปลาที่สามารถใช้สายตาดูรอยคลื่นของน้ำก็รู้ได้ว่าปลาบึกที่ว่ายมาเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย และคอยส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ในเรือกลางลำน้ำคอยใช้อุปกรณ์จับ พรานปลานี้มีชื่อเรียกว่า ‘เสือตาไฟ’ ซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่น้อยรายเต็มที
31. ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของพันธุ์ปลาในแม่น้ำโขงเป็นพันธุ์ปลาอพยพ หากมีการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงตอนล่าง ย่อมต้องเกิดผลกระทบต่อปริมาณปลาและชนิดพันธุ์ในแม่น้ำโขง
32. มีความเชื่อที่เกี่ยวพันกับวิถีชีวิตของคนหาปลาในแม่น้ำโขงอยู่หลากหลายความเชื่อ เช่น เมื่อไปใส่เบ็ด ขณะที่ปักเบ็ดคันแรกจะต้องกลั้นหายใจและวักน้ำโขงใส่ปาก 3 ครั้ง หรือเวลาลงเบ็ดจะต้องไม่บ้วนหรือถุยน้ำลาย เป็นต้น
33. คนหาปลาบริเวณคอนผีหลงจะรู้ช่วงเวลาที่ปลาบึกจะอพยพมาจากการสังเกตนกนางนวลที่มักจะมาบินนำมาก่อน 1-2 วัน หรือไม่ก็มาพร้อมๆ กัน อีกวิธีคือการสังเกตดอกซอมพอหรือดอกหางนกยูง เมื่อดอกซอมพอบานนั่นหมายถึงฤดูกาลอพยพของปลาบึกมาถึง นอกจากนี้ คนหาปลายังใช้ดอกซอมพอในพิธีกรรมบวงสรวงปลาบึกและแม่ย่านางเรือ โดยเชื่อว่าแม่ย่านางชอบสีแดง
34. ผลจากการรุกของน้ำเค็มที่ขยายตัวเพื่มขึ้น ทำให้ ความหลากหลายทางชีวภาพในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงได้ลดลงไปเรื่อยๆ โดยหนังสือทางวิชาการของเวียดนามฉบับหนึ่งระบุว่า แต่เดิมพบพันธุ์ปลาและสัตว์จำพวกไม่มีกระดูกสันหลังในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมากถึง 150 ชนิด แต่ในตอนนี้กลับมีปลาน้ำจืดและน้ำกร่อยเหลือเพียง 40 ชนิดเท่านั้น
35. บั้งไฟพญานาคถือเป็นปรากฏการณ์เกิดขึ้นในลำน้ำโขงช่วงจังหวัดหนองคายและจังหวัดใกล้เคียง เมื่อน้ำแห้งขอดจึงเกิดความเป็นห่วงว่าบั้งไฟพญานาคจะขึ้นมาให้เห็นอีกหรือไม่ หรือจะขึ้นน้อยลง
ฯลฯ
……….
คือความเป็นมาและเป็นไปของแม่น้ำโขงในยุคศตวรรษที่ 21 ยุคที่ยังค้นไม่เจอความสมดุลระหว่างการพัฒนา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม และตราบใดที่ยังไม่พบคำตอบ ชะตากรรมของมหานทีสี่พันดอนก็จะยังเป็นสิ่งที่เราไม่มีวันรู้คำตอบ
……….
เรื่อง : ทีมข่าว CLICK