xs
xsm
sm
md
lg

ระวังภัยร้าย... “ยาเสียสาว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


'ของขวัญ' เครื่องดื่มจากชายหนุ่ม ...นี่คือ ฟอร์เวิร์ดเมลที่ได้รับจากใครหลายคน เมลนี้เป็นการเตือนคนในอินเทอร์เน็ตถึงเรื่อง ยาคุมกำเนิดชื่อว่า Progesterex เป็นตัวยาฮอร์โมนเพศ ซึ่งในอีเมลกล่าวว่า เป็นยาที่นักข่มขืนทั้งหลายนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการล่า

ยากล่อมประสาทและยานอนหลับ ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างมากในการนำมาเป็นเครื่องมือสำคัญของอาชญากร ทำให้อันตรายในปัจจุบันมีอยู่ทั่วไปจนไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร ที่ไหนและเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม ก็สามารถมีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายต่างๆ ทุกรูปแบบ เช่น อาชญากรรม ฆาตกรรม รวมถึงการมอมเหล้าคนแปลกหน้า เพื่อการสำเร็จความต้องการของตนและให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ

เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ตัวยาเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหาซื้อเองได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่ในปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่ร้านขายยา แต่ถูกลักลอบขายของบนโลกอินเทอร์เน็ตที่เราสามารถหาซื้อกันได้ง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นตัวยาแรงเพียงใดก็ตาม ผู้ซื้อสามารถอ่านสรรพคุณและสั่งซื้อได้เพียงแค่คลิกเลือกสินค้าที่ตนต้องการ แต่ไม่ได้ทำความเข้าใจของสรรพคุณของตัวยาให้ถ่องแท้อย่างแน่นอน

เตือนภัยยาเสียตัว

ท่ามกลางเสียงเพลงยามค่ำคืนที่กำลังปลุกเร้านักท่องราตรีให้กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับจังหวะดนตรีพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจมีใครสักคนจากมุมหนึ่งเดินเข้ามาชนแก้วแล้วพูดคุยด้วยอย่างสนิทสนม เมื่อความคุ้นเคยในสถานที่ยามค่ำคืนไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำความรู้จักกัน อีกฝ่ายอาจชักชวนให้นักท่องราตรีที่ไม่ระวังตัวลองลิ้มชิมรสกับเครื่องดื่มชนิดใหม่ หรือเพียงแค่คุณเผลอตัวไปเขาอาจนำยาเสียสาวใส่ลงไปในเครื่องดื่ม หลังจากนั้น...นักล่าสวาทจะเริ่มปฏิบัติการ

การเตือนภัยเหล่านี้ถูกแพร่กระจายออกไปตามฟอร์เวิร์ดเมลอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการเตือนให้นักท่องราตรีเหล่านั้นระมัดระวังและมีสติมากขึ้นเมื่อมีอาการมึนเมา ฤทธิ์ของยาที่นำมาผสมในเครื่องดื่มสามารถถูกแอลกอฮอลล์กลบเกลื่อนกลิ่นและรสชาติได้อย่างแนบเนียน อีกทั้งยังออกฤทธิ์รุนแรงจนทำให้เหยื่อหมดสติลงได้

เมื่อการลงมือของเหล่านักล่าสวาทไม่ได้ต้องการเพียงแค่พรหมจรรย์ที่จำกัดเพียงแค่นักท่องราตรีสาวเพียงอย่างเดียว อาจรวมไปถึงการรูดทรัพย์ขณะที่ยานั้นกำลังออกฤทธิ์ เป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่พึงระวัง...

คุยผ่านแพทย์

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง สาวิตรี อัษณางค์กรชัย รองประธานคณะกรรมการบริหารเครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องการและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม เล่าให้ฟังถึง ประเภทของยากล่อมประสาทและยานอนหลับว่า กลุ่ม Benzodiazepine (เบนโซไดเซพีน) จะทำให้ง่วงซึมมากและเร็ว เรียกว่า 'ยานอนหลับ' เช่น โรฮิปนอล โดมิคุม อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด อาทิ การนำไปทำเป็นยาเสียสาว ส่วนประเภทที่เรียกว่า Barbiturate (บาร์บิทูเรต) ง่วงน้อยกว่าเป็น 'ยากล่อมประสาท' เช่น เหล้าแห้งในประเทศไทย แต่ในส่วนของกลุ่มเบนโซไดเซพีน ทั้งกลุ่มจะมีฤทธิ์กดประสาท ซึ่งจะทำให้ความตื่นตัวลดลงและยังลดความสามารถในการยับยั้งชั่งใจด้วย ทำให้การตัดสินใจต่อสิ่งต่างๆ ลดลง ไม่ค่อยระมัดระวัง ประกอบกับคนที่ใช้เข้าไปปกติจะรู้สึกเคลิบเคลิ้มอยู่แล้วจะยิ่งทำให้ถูกหลอกไปได้ง่ายยิ่งขึ้น

“ยาเหล่านี้มีชื่อเรียกในท้องตลาดหรือตลาดมืดจะมีความแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น เช่น ยาส่ายหัวหรือยาส่าย ในภาคใต้คือยาอี เป็นกลุ่มยากระตุ้นประสาท เช่น ยาบ้า ยาม้า และจะมีตัวที่พัฒนามาจากยาบ้า เช่น เอ็กซ์เทอซีหรือยาอี หรือ ไอซ์เป็นผลึกของแอมเฟตามีนบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นฤทธิ์ของยาไอซ์ก็จะแรงกว่าแอมเฟตามีน”

“ยาอีได้ถูกนำไปปรับ ให้มีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทและกล่อมประสาทด้วย โดยพื้นฐานยาเหล่านี้คนใช้จะรู้สึกถูกกระตุ้น ให้ต้องขยับเนื้อขยับตัวตลอดเวลา จึงเรียกกันว่า ยาส่ายหัว ยากลุ่มนี้เวลากินฤทธิ์ที่ถูกปรับทำให้รู้สึกรักกันมากขึ้น ทำให้เกิดอาการเบลอ เกิดความรู้สึกใกล้ชิด ชอบพอกัน ยานี้จะมีฤทธิ์นานถึง 12 ชั่วโมงวัยรุ่นชอบใช้ยาเหล่านี้ และทำให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้นเนื่องจากการขาดสติ”

ความตายมาเยือน

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงสาวิตรี ให้ความคิดเห็นต่อการใช้ยาเหล่านี้ว่า เราคงไม่อยากให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ซึ่งคงห้ามกันไม่ไหว ต้องออกมาให้ความรู้กับประชาชน ลูกหลานของเรามากกว่า ว่ามีสติและความรู้ต่อโลกภายนอกเพียงพอหรือมากน้อยแค่ไหน

“ส่วนเรื่องโทษของยา ถ้าเป็นกลุ่มยากล่อมประสาท Benzodiazepine จะเป็นยาที่มีฤทธิ์ในการกดประสาท จะทำให้ลดอาการวิตกกังวล ใช้เพื่อเป็นการดมยาสลบ ยากันชัก ถ้าฉีดเข้าเส้นอาจกดการหายใจ ทำให้หยุดหายใจได้ซึ่งเป็นอันตราย ฤทธิ์ของยามีผลต่อการทรงตัว และถ้าใช้ไปนานๆ จะติดยาและติดได้ง่าย เช่น ตัวยาอัลพาโซแลม เป็นยาที่มีฤทธิ์ดีมาก รับเข้าไปจะทำให้เกิดความรู้สึกสบาย เคลิ้ม เป็นยาที่คนเอาไปใช้ในทางที่ผิดเยอะมาก เช่น บางกรณีคนไข้เพิ่มขนาดของยาเอง จนทำให้ต้องเพิ่มขนาดขึ้นเรื่อยๆ จึงจะได้ฤทธิ์ยาเท่าเดิม”

รองประธานฯ กล่าวต่อถึงเรื่องการติดยาว่า ถ้าถูกมอมหรือใช้ในปริมาณน้อยอาจไม่ติด แต่ถ้ากรณีที่ใช้เองติดต่อกันนานๆ ระยะยาวจะมีผลต่อความจำทำให้เป็นโรคหลงลืมเนื่องจากยา แต่เมื่อหยุดยาสมองก็สามารถกลับมาจำความได้เหมือนเดิม แต่ถ้าหยุดยากะทันหันจะทำให้เกิดอาการ Withdrawal หรือ การขาดยา ทำให้เกิดฤทธิ์ตรงกันข้าม ซึ่งจะมีอาการของระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว มือสั่น นอนไม่หลับ คลื่นไส้อาเจียน

“ยากล่อมประสาทและยานอนหลับในประเทศไทยถูกจัดอยู่ในวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภทที่ 2, 3 และ 4 ตาม พระราชบัญญัติยาและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท พ.ศ. 2518 ประเภทแรกเป็น ยากดประสาท ได้แก่ Benzodiazepine แอลกอฮอล์ ฝิ่น มอร์ฟีน เฮโรอีน จะเป็นประเภทกดประสาทหมด มีฤทธิ์คล้ายกัน แต่ความรุนแรงจะต่างกัน ทำให้ง่วงซึม การตัดสินใจและการทรงตัวเสียไป เมื่อขาดยาจะมีฤทธิ์ตรงกันข้าม คือ มือสั่น ชัก ลงแดง กระสับกระส่าย ปวดท้อง อาเจียน”

“ถัดไปเป็นกลุ่มที่มีฤทธิ์กระตุ้น เช่น ยาบ้า โคเคน ยาอี ไอซ์ จะทำให้คึก ขยัน แต่ก่อนเขาเรียกกันว่า ยาม้า กินเพื่อจะได้ไม่ง่วงนอน ให้ขยันทำงาน เพราะมันเป็นยากระตุ้น สุดท้ายคือ ยาที่มีฤทธิ์หลอนประสาท คือ ไซโคเดลิค ส่งผลให้ประสาทบิดเบี้ยว ไม่ได้กระตุ้นโดยตรงทำให้การรับรู้เปลี่ยนแปลง เช่น เห็ดเมาทำให้มีอาการเห็นภาพหลอน”

ทาง นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาประเภทนี้เป็นยาควบคุมพิเศษต้องจำหน่ายโดยประกอบโรคศิลปะ ไม่มีการจำหน่ายในร้านขายยา ซึ่งมีการควบคุมดูจำนวนการใช้ของแพทย์มีการสมเหตุสมผล มีการจัดทำบัญชี การเบิกจ่าย

"ยาบางตัว อย. เป็นผู้จำหน่ายโดยตรง ยาบางตัวควบคุมผู้ประกอบการ ฉะนั้นโดยภาพรวมจึงไม่ค่อยมีปัญหาในการควบคุมเท่าไรนัก แต่ผู้ประกอบโรคศิลปะบางคนปล่อยปละละเลย ไม่ได้จำหน่ายยาตามการประกอบโรคศิลปะอย่างจริงจัง เช่น ไม่ได้ตรวจผู้ป่วย เพราะฉะนั้นจุดใดที่มีเบาะแสหรือการกระทำที่ไม่สมควรในลักษณะนี้ ถ้าทาง อย. เราได้รับแจ้งจากประชาชน ผู้ปกครอง จะมีสารวัตไปล่อซื้อและจับกุม ที่ผ่านมาจะมีกรณีเหล่านี้ประปราย พื้นที่ใดมีเบาะแส มีการจำหน่ายยา ร้านยาหรือคลินิกให้แจ้งมาที่ สายด่วนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา1556 จะมีเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ"

ข้อคิดและการดูแลจากหน่วยงาน

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง สาวิตรี กล่าวเตือนใจประชาชนทั่วไปว่า ต้องป้องกันตัวเอง เวลาไปเที่ยวกลางคืนหรือที่อื่นก็ควรมีสติ อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเหล่านี้ และพ่อแม่ควรจะให้ความรู้ เวลาเพื่อนชวนก็ต้องคิดให้ดี เพราะยาเหล่านี้ไม่มีอะไรดีเลย ทำให้เราขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่ควรเล่นสนุกกับมัน

“ส่วนการขายยาเนื่องจากยาประเภทนี้เป็นยาที่จำเป็น สามารถรักษาคนที่ป่วยได้จริง และเสริมให้เป็นยานอนหลับ ยาสลบหรือยากันชัก ซึ่งเราพยายามเตือนแพทย์ด้วยกันเองว่า เวลาสั่งยา ต้องระวังให้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ให้ความรู้แก่คนไข้ว่าไม่ควรใช้เกินขนาด และเหล่าเภสัชกรรมก็ควรปฏิบัติตามกฎหมาย”

นพ.พิพัฒน์ ได้บอกกล่าวเรื่องยาเสพติดเหล่านี้ที่เป็นข่าวอยู่เป็นประจำว่า ยังมีการลักลอบจำหน่ายจากประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องการกวดขันควรต้องร่วมมือกัน สถานบริการที่ให้เด็กอายุต่ำกว่า18ปี ปล่อยให้มีการเสพยา ตำรวจต้องสอดส่อง และเอาผิดสถานบริการบันเทิง ย่านที่มีตรวจพบยาเหล่านี้มากที่สุดคือ ย่านดินแดง ส่วนทางด้านการดูแลการขายยาบนอินเทอร์เน็ต ทาง อย. ได้มีการดูแลอยู่และแจ้งไปทางกระทรวงไอซีทีให้ทำการปิดกระทู้เหล่านี้แล้ว

“การซื้อยานอนหลับหรือยากล่อมประสาทเหล่านี้บนอินเทอร์เน็ตอาจได้ยาปลอมหรืออาจไม่ได้ยาในขณะที่จ่ายเงินไปแล้ว ซึ่งผู้ซื้อก็ไม่สามารถแจ้งความเอาผิดกับใครได้ เพราะบางครั้งตัวเองก็กระทำความผิดด้วยเช่นกัน”

ส่วนเรื่องการระวังภัยของผู้หญิง เลขาฯ อย. กล่าวว่า การออกไปข้างนอกในปัจจุบันที่ต้องดูแลตัวเองเพราะภัยของผู้หญิงมีให้เห็นหลายรูปแบบ และเป็นบทเรียนตัวอย่างที่ต้องระวัง แนวทางให้ผู้หญิงระมัดระวังตัว เช่น ควรใช้โทรศัพท์ติดต่อกับทางบ้าน เพื่อนหรือคนรอบข้าง ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน อย่างไร เมื่อเริ่มรู้สึกว่า เรากำลังตกอยู่ในอันตรายหรือไม่ว่าจะเป็นเวลาไปเที่ยวสถานบันเทิงก็ตาม แต่ตรงนี้คงต้องเป็นเรื่องเทคนิคของแต่ละคนในการช่วยเหลือตัวเองด้วย เพราะเราคงจะไปกันผู้ที่ทำผิดคงจะลำบาก

ภาพโดย ทีมภาพ Click
รายงานโดย : ทีมข่าว M-Lite

ยาไอซ์
ยาเสียสาวจากจีน
กลุ่มยาประเภทบาร์บิทูเรต
กลุ่มยาประเภทเบนโซไดเซฟีน
ยาปลุกเซ็กส์จากประเทศเยอรมัน
ยาเสียตัวแมลงวันสเปน ขวดละกว่า 1,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น