ว่าที่ “ดร.นาวิน ต้าร์” นักเรียนทุนอานันทมหิดลที่ฮอตและเป็นเป้าสายตามากที่สุดคนหนึ่ง ณ เวลานี้ ท่ามกลางความกดดันหลายอย่าง ทั้งข่าวการประพฤติตัว ข่าวกับบรรดาสาวๆ จนกระทั่งเขากลับมาพักผ่อนที่เมืองไทย และเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อก้าวเข้าสู่แวดวงบันเทิงในช่วงปีที่ผ่านมา ว่าที่ด็อกเตอร์กับความสัมพันธ์หญิงสาวที่เขาถูกมองว่า “ไม่แมน” ทั้งการตอบคำถามเรื่องได๋ ไดอาน่า-และไฮโซออม กระทั่งรักครั้งใหม่กับ “พลอย เฌอมาลย์” รวมไปถึงเรื่องเรียนที่หลายคนสงสัยเขาเรียนจบจริงหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ....
****
M-Lite มีนัดสัมภาษณ์กับอดีตนักร้องดังยอดนิยมเมื่อสิบกว่าปีก่อนอย่าง “นาวิน ต้าร์” หรือนาวิน เยาวพลกุล หรือที่ใครๆหลายคนอาจคุ้นเคยกับเขาในนาม “ดร. นาวิน ต้าร์” ที่เขากำลังมีผลงานหนังเรื่องล่าสุด “บังเอิญ...รักไม่สิ้นสุด” ประกบคู่ “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” (ว่าที่ด็อกเตอร์สาวอีกคน) และดูท่าว่าที่ด็อกเตอร์คนนี้จะไม่ต้องลีลาใดๆ และเขาพร้อมไขข้อข้องใจ และบอกเล่าความเป็นตัวเองแบบตรงไปตรงมา
ปีหน้าได้เป็นแน่ “ด็อกเตอร์”
"นาวิน ต้าร์" บอกกับ M-Lite ว่าสาเหตุของการกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ คือการกลับมาทำโปรเจกต์ที่ได้ทำส่งไปแล้ว และยังมีงานที่ต้องส่งอีกหลายชิ้นที่รอส่ง และจะเสร็จสิ้นลงราวๆเดือนเมษายนปีหน้านี้แน่นอน และหากเขากลับมาเยือนเมืองไทยอีกครั้งนั่นคือการกลับมาพร้อมปริญญาเอกของเขา
“ต้าร์กลับมาสักพักหนึ่งแล้วตั้งแต่ต้นปี กำลังจะกลับไปใหม่ไปส่งงานให้เรียบร้อย ตอนที่ต้าร์กลับมาส่วนหนึ่งคืออยากจะมาหาข้อมูลที่นี่ด้วย ต้าร์ทำเกี่ยวกับเรื่องดัชนีวัดค่าความสุขที่ไม่เท่าเทียมกัน จริงๆก็คล้ายๆกับที่ภูฏานทำน่ะครับจริงๆทำจบไปแล้วมันมีงานชิ้นอื่นๆที่เราค้างกับเขาไว้ งานมันเยอะ ตอนอยู่เมืองไทยก็เขียนมาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็รู้สึกว่าพร้อมแล้ว ก็นัดกับเขาไว้ว่าจะกลับไป ก็จะได้ปริญญาอย่างเป็นทางการแล้วล่ะ จะได้เอามาโชว์ให้ดูกัน”
“น่าจะใช้เวลาสักสองสามเดือน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าอย่างไร กลับมาคราวหน้าจากอเมริกาก็จะได้ใบปริญญาแน่นอน ก็จะเป็นด็อกเตอร์แล้วอย่างเป็นทางการ”
“ชื่อเสียง” กับ “ทุน” ผมเลือกอย่างหลัง
ในวันที่เขาโด่งดังสุดขีด เส้นทางการเรียนของเขาพุ่งพรวดและได้ทุนอานันทมหิดล จึงทำให้เขาเลือกรับโอกาสที่ไปเรียน และกว่าจะได้ทุนนี้มาเจ้าตัวบอกว่าเกิดจากความพยายามมากทีเดียว
“เด็กๆ ไม่เคยฝันไว้เลยว่าอยากมาเป็นดารา แต่เราชอบศิลปะ ชอบการแสดงออก ชอบในเสียงดนตรี ชอบศาสตร์ของละครบางอย่าง เช่นละครเวทีหรืออะไรพวกนี้ ต้าร์ก็สนใจ ตอนเด็กๆ ก็เคยหลุดไปโลกของศิลปะเหมือนกัน งานบันเทิงมันเข้ามาโดยอัตโนมัติ ต้าร์ก็จับพลัดจับผลูจนมาออกอัลบั้ม แล้วจนสอบได้ทุนไปต่างประเทศ แต่ผลงานการแสดงตอนนั้นยังไม่มี ตอนที่ไปมันคือจุดพีกของเรา กำลังมีชื่อเสียงจับอะไรดีไปหมดเลย มีโอกาสที่งานเข้าเสนอเยอะมาก แล้วในตอนนั้นเราก็รับคัดเลือกทุนเข้ามา แล้วมันได้ ก็ต้องเลือก แล้วสุดท้ายต้าร์เลือกทุนก็เลยไป”
“ซึ่งทุนอานันทมหิดล ทุนนี้เป็นทุนที่ให้โดยสำนึกของผู้รับก็คือให้เพื่อมารับใช้ชาติ จะหน่วยงานไหนก็ได้ขอให้อยู่ในประเทศไทย แล้วทำให้ดีที่สุด ทีนี้ทุนนี้เนี่ย เป็นทุนที่ให้แก่เด็กที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ ไม่ใช่ให้แก่เด็กที่ด้อยโอกาส ไม่ได้ให้แก่คนที่ไม่มีตังค์ อันนี้อธิบายง่ายๆนะครับ เดี๋ยวคนจะงงว่าทำไมต้าร์เป็นดาราแล้วต้าร์ได้ทุน คือทุนอันนี้ใครก็มีสิทธิ์มาครับ ลูกท่านหลานเธอก็มีสิทธิ์ได้ คือเกียรติอย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้มีอะไรที่มากกว่าทุน กพ.นะครับ เหมือนกันเป๊ะ แค่ซัปพอร์ตเรื่องของการเรียน และมีระบบของราชการเข้ามา”
“ที่ต้าร์ได้เพราะว่าตอนต้าร์จบที่ม.เกษตรฯ ต้าร์จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง คือมีคะแนนเป็นอันดับหนึ่งของทั้งคณะ คือจากเป็นพันในมหาวิทยาลัยปีนั้น ต้าร์ได้มากที่สุดในปีนั้นจากคณะเศรษฐศาสตร์ มันก็ไม่ใช่ว่ามีเราคนเดียว มันก็จะมีเด็กจากคณะอื่นๆ เยอะแยะ อีกหลายมหาวิทยาลัย แล้วก็มาแข่งขันกัน เขาก็ใช้วิธีการคัดเลือก โดยคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยบุคคลสำคัญหลายๆท่าน ทั้งองคมนตรี รวมไปถึงสมเด็จพระเทพฯซึ่งท่านเป็นประธานอยู่ ก็มาคัดเลือกแล้วก็มีทั้งการสัมภาษณ์หลายรอบ ตรวจสอบประวัติ แล้วเราก็เขียนบทความไปให้เขาดู แล้วก็เอาเรื่องที่เราสนใจไปพรีเซ็นต์ให้ดู ก็คัดเลือกกันด้วยวิธีนี้ แล้วต้าร์ก็ได้ ซึ่งต้าร์เองก็ไม่เชื่อเลยว่าต้าร์จะได้” เจ้าตัวอธิบายที่มาของทุนที่ได้รับ
ไม่ใช่ “เก่ง” กว่าคนอื่น แค่มี “ความพยายาม” มากกว่า
“ต้าร์ไม่เคยคิดว่าอะไรที่เราทำสำเร็จมาได้มาโดยฟรีๆ ต้าร์พยายามมากๆ ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ไม่เคยมีพรสวรรค์อะไรเลยสักอย่าง แสวงเอาทั้งนั้นเลย กว่าจะได้มายากทั้งนั้นครับ แล้วเราก็พยายามต่อไป คนบอกว่าเก่งจังเลยนะครับ ต้าร์บอกไม่หรอกครับ ต้าร์ไม่เก่งเท่าไหร่หรอกครับ แค่ต้าร์พยายามเท่านั้นเอง ต้าร์จะพูดแบบนี้ตลอด ว่าเราพยายาม”
เด็กทุนกับข่าวฉาว (เมื่อ) มันมาคู่กัน
พอเราถามถึงความกดดันและการตกเป็นเป้าสายตาในฐานะดารา นักเรียนทุน และข่าวค (ร) าว ต่างๆเขาตอบอย่างพรั่งพรูถึงความอึดอัดบางอย่างที่เกิดขึ้น
“ตกอยู่ในเป้าสายตา มีความกดดันมากพอสมควร เรารู้สึกว่าตัวเราถูกจับตามอง ไม่ใช่แค่การเป็นนักเรียนทุนเท่านั้น แต่ดันเป็นนักเรียนทุนที่คนรู้จักอีก เป็นดาราอีก มันขยับอะไรก็ประหลาดไปหมด ทุกอย่างมันสามารถมองไปได้หมด ต้าร์ก็กลุ้มใจนะ ตอนต้าร์ไปโอเรกอน (Oregon University )ใหม่ๆ มันสามารถสบประมาทได้ทุกอย่าง สบประมาทว่ามหาวิทยาลัยไม่ดีพอ สบประมาทว่ามันเก่งจริงเหรือเปล่า เส้นมั้ย ไอ้พวกเกมการเมืองน่ะ พูดง่ายๆ สมมติว่าเราเป็นนักการเมืองหนึ่งคนแล้วมันเอาเกมการเมืองแบบนี้มาเล่นกับเรา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่นักการเมืองเจอ ซึ่งเด็กอย่างต้าร์ไม่น่ามาเจอ (หัวเราะ) เราก็กดดันแล้วเราไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นแบบนี้”
“ไปอยู่โน่น ไปรู้จักคนไทยเยอะ ต้าร์ไปก็ซื้อรถขับ รถซิ่งอะไรแบบนี้นะครับ รถต้าร์ซิ่ง แล้วสวย เราก็ซื้อเงินเราเอง เราก็ขับไม่ได้อะไร เขาก็หาว่าต้าร์ขับรถซิ่ง จีบสาว เอามาพูด พูดปุ๊บก็กระจาย ถึงหูคนที่เราไม่อยากให้รบกวนท่าน ท่านก็เตือนมา แบบนี้ต้าร์กดดัน แต่สุดท้ายแล้วเนี่ย พอเราเป็นนักเรียนทุนมาสักพัก คนที่สนิท คุ้นเคยมากขึ้น เขารู้ว่าเราเป็นอย่างไร เขาก็เริ่มเข้าใจต้าร์มากขึ้น ตอนแรกก็โกรธครับ โมโห สุดท้ายแล้วมันถึงจุดหนึ่งเราต้องคิดให้ได้ เราแคร์เฉพาะคนที่เขารักเรา และเข้าใจเราดีกว่า แล้วก็คุยที่อยู่รอบตัวเรา คนที่เขารู้จักเราจริงๆ ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง เขาเข้าใจเราแค่ไหน เราเป็นคนดีในสายตาเขาหรือยัง แค่นั้นพอ เพราะคนพวกนั้นคือคนที่เราแคร์ ส่วนไอ้คนที่มันไม่ชอบเรา ให้ตายไปอย่างไรมันก็ไม่ชอบเราอยู่แล้ว ก็ดีแล้วที่มันไม่ชอบเรา คือคนประเภทนั้นที่มันมาตัดสินเรา ก่อนที่จะมารู้จักเราก็คัดๆมันออกไปบ้าง”
ผมแมนนะครับ ! แคร์ผู้หญิงจนโดนเอาเปรียบ
"นาวิน ต้าร์" ทำ "ได๋" หน้าแหก ไม่รับเป็นแฟน แถมโอกาสเป็นศูนย์...กอสซิปสตาร์
นาวิน ต้าร์" ตอกกลับ "ไฮโซออม" แค่คนรู้จัก ปัดเป็นแฟนเก่า...สยามดารา
อย่ายุ่งผู้ชายฉัน"พลอย"บีบีท้ากิ๊กเก่า "ต้าร์"...ดาราเดลี่
แม้ว่าเรื่องส่วนตัวของเขาวันนี้กลายเป็นเรื่องส่วนรวมที่หลายคนใคร่รู้ ทั้งความรักกับ “ได๋ ไดอาน่า” ที่ข่าวคราวออกมาว่าคบหาดูใจ แต่วันเผชิญหน้า “ต้าร์” ให้สัมภาษณ์สื่อว่าคือเพื่อนกัน สัมพันธ์กับไฮโซออม ที่ออกมาให้ข่าวพาดพิงถึงต้าร์ และพลอย เฌอมาลย์ ว่ามีคลิปเสียงสวาท แต่ต้าร์ตอกกลับหน้าหงายว่าไม่เคยรู้จัก อีกฝ่ายแค่มาแอบปลื้มเอง ทำให้เขาบอกกับเราสั้นๆถึงเรื่องส่วนตัวกับสาวๆของเขาว่า ทุกคนย่อมมีเรื่องส่วนตัว และเขาให้เกียรติผู้หญิงทุกคน จนบางครั้งเขาโดนเอาเปรียบเสียมากกว่า
“ต้าร์เชื่อว่าทุกๆคนมีชีวิตส่วนตัว ในกรณีของต้าร์เนี่ย เราเป็นคนที่รู้ดีว่าเราเป็นอย่างไร เราก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่เราจะคบกับใคร แต่มันบังเอิญว่าอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องเป็นข่าว ดูเป็นเหมือนข่าวฉาว แต่ทุกคนต้องเข้าใจ แต่ทุกคนต้องมองโลกในมุมของความเป็นจริงนะ ว่าคนมันก็คือคนนะ คนธรรมดาทั่วไปที่เขาก็พลาดได้ เขาไปเจอใครแล้วเขาก็อ่อนแอได้ เขาหลงรักคนนั้นคนนี้ได้ เขาเสียใจได้ มันคือคนธรรมดา แล้วไม่รู้พวกเราชอบจังเลยที่จะอ่านนิทาน แล้วเชื่อว่าไอ้เรื่องพวกนั้นคือเรื่องจริง”
“ต้าร์ไม่คิดว่าต้าร์ต้องออกมาพูดอะไร มันไร้สาระ ข่าวจะออกมาว่าเราเป็นคนแบบนี้ ไม่แคร์ผู้หญิง อะไรพวกนี้เยอะมาก ถ้าคนที่เขารู้จักต้าร์ดีเนี่ย เขาจะรู้ว่าต้าร์แคร์ขนาดไหน ต้าร์แคร์จนทุกคนมาเอาเปรียบเรา แคร์จนเขามาเอาเปรียบเรา ต้าร์รู้สึกแบบนั้น แล้วก็เราต้องเข้าใจนะ ผู้หญิงสมัยนี้ มันไม่เหมือนสมัยก่อน ตัวต้าร์เองก็เจอมาเยอะ ซึ่งเราต้องมองจากความเป็นจริงว่าเดี๋ยวนี้มันเป็นอย่างไร เคยเจอมั้ยคนที่เข้ามาหาผู้ชายก่อน ต้าร์เจอเยอะนะ ลองนึกดีๆ สังคมไทยเนี่ยทำได้แต่พูดไม่ได้หรือไง แปลกดี”
จาก ว่าที่ ดร. ต้าร์ ถึง ผู้จัดการฯ
เมื่อช่วงต้นปี วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ เคยเขียนคำสัมภาษณ์ของนาวิน ต้าร์ ในห้วข้อข่าว “อ.ดร.นาวิน ต้าร์ แห่ง ม.เกษตรศาสตร์” และนั่นคือที่มาของชีวิตที่เขาเองไม่เคยคิดว่าเขาจะเป็นคนในกรอบและคิดว่าคงเป็นพ่อพิมพ์ของชาติที่ดีในทุกๆด้านไม่ได้
“ต้าร์เคยอ่านและให้สัมภาษณ์นสพ.ผู้จัดการฯ แล้วมาลงว่าต้าร์คือพ่อพิมพ์ของชาติ ซึ่งเรารู้สึกดีใจกับคำชมนะ แต่สื่อเนี่ยด่าเละ ชอบกันจังกับการที่เอาคนหนึ่งมาแล้วเขียนตัวหนังสือที่หน้าผากแล้วพากย์ว่ามันเป็นคนอย่างไร อยู่ๆมาให้ต้าร์เป็นพ่อพิมพ์ จะบ้าเหรอ ใครจะไปเป็นได้ บ้าแล้ว เราคือเด็กคนหนึ่งที่จะทำให้ดีที่สุด เพื่อชีวิตของตัวเองนะครับ ไม่ได้มาพิมพ์ชีวิตคนอื่น การที่บอกว่าคนคนนี้ต้องเป็นแบบนี้ ใครจะไปทำได้ครับ ต้าร์ทำไม่ได้ แล้วต้าร์ก็ไม่ใช่ด้วย ต้าร์ปฏิเสธตรงนี้เลยว่าถ้าจะไปเอาพ่อพิมพ์ของชาตินะ ไปเอาคนที่ตายไปแล้วดีกว่า เพราะว่าชีวิตเขาจบไปแล้ว ต้าร์ยังไม่จบ ต้าร์ยังต้องเจออีกเยอะ แล้วต้าร์ก็ยังไม่รู้เลยว่า ต้าร์จะเป็นอย่างไร ต้าร์อาจจะเลวก็ได้ เพราะคนเรามันพลาดกันได้”
ประวัติ
ชื่อ นาวิน เยาวพลกุล หรือ นาวิน ต้าร์ เกิด 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522
การศึกษา – ปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ1เหรียญทอง
-ได้รับทุนอานันทมหิดลไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยปริญญาโทศึกษาที่ Oregon University และขณะนี้กำลังศึกษาระดับปริญญาเอกที่ UC Davis
ผลงานบันเทิง อดีตนักร้องในสังกัดเมกเกอร์เฮดบริษัทแกรมมี่ และกำลังมีภาพยนตร์เรื่อง “บังเอิญ...รักไม่สิ้นสุด”
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี