xs
xsm
sm
md
lg

เปลือยความฝัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


     ว่ากันว่า “โมซาร์ต” คีตกวี เล่าว่า เวลาที่เขาจะประพันธ์เพลงใดขึ้นมา เขาจะได้ยินเพลงนั้นๆ ในความฝันก่อน

     ส่วน “พลาโต” คิดว่าความฝันเป็นผลผลิต โดยจิตใจซ่อนเร้นของคนฝัน

     ไม่ต้องอ้างอิงอื่นไกล… ตัวคุณเองแหละเคยสงสัยหรือไม่กับเรื่องที่ฝันว่ามันมาจากไหน แล้วเคยสืบค้นต่อไปอีกหรือไม่ว่า เรื่องราวในฝันมันหมายถึงอะไร ทันสังเกตหรือไม่ ข้างล่างมีคำตอบ

ความฝันคืออะไร

     จนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ระบุว่า ฝัน หมายถึง น. การเห็นเป็นเรื่องราวเมื่อหลับ, โดยปริยายหมายถึงการนึกเห็นใน, ขณะที่ตื่นอยู่ ซึ่งไม่อาจจะเป็นจริงได้, ก. เห็นเป็นเรื่องราวเมื่อหลับนึกเห็น, นึกเห็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

     เซ็นจูรี่ ดิกชันนารี ของอังกฤษระบุว่า Dream คือความรู้สึกอย่างรางๆ ถึงภาพและความคิดทั้งหลายบางส่วนในเวลานอนหลับ

     ลารูสส์ ดิกชันนารีของฝรั่งเศส บอกว่าฝัน หมวดหมู่ของความคิดและภาพทั้งหลาย ที่ปรากฏแก่วิญญาณในระหว่างนอนหลับ ความฝันมีอยู่เสมอตั้งแต่เราตั้งแต่ต้นหลับจนกระทั่งเราตื่น แต่บางคืนที่เรารู้สึกว่า เราไม่ได้ฝันนั้นแท้จริงแล้ว เราฝันเหมือนกัน แต่เราจำไม่ได้เอง

     หรือ นักปราชญ์ นักจิตวิทยา อย่าง ซิกมันด์ ฟรอยด์ ได้ค้นคว้าและเขียนหนังสือเกี่ยวกับความฝันกว่า 700 เล่ม โดยแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย โดยเขายอมรับว่าความฝันเป็นศาสตร์ลี้ลับอย่างหนึ่งที่มีสัมพันธ์กับมนุษย์เราที่สามารถจะบอกเหตุการณ์ ทั้งอดีตและอนาคตได้ใกล้เคียงที่สุด ซึ่งแม้ว่าจะมีบุคคลอีกหลายๆ คน ยังไม่ยอมรับและเชื่อถือในเรื่องชนิดนี้ก็ตาม แต่บุคคลเหล่านี้ก็ไม่อาจสลัดความรู้สึกนึกถึงในทางผูกพัน กับเรื่องราวต่างๆ ที่ตนได้ฝันขึ้นทั้งดีและร้ายไปเสียทีเดียว

      นอกจากนี้ เมื่อมีใครพูดเรื่องความฝันทีไร ชื่อของคัมภีร์ สารัตถสังคหะ มักจะถูกหยิบเอามาอ้างอิงเสมอๆ โดยเขาได้แบ่งหมวดหมู่ปัจจัยของความฝันเป็น 4 หมวด ดังนั้น

     1. ฝันโดย บุพนิมิต คือบอกให้รู้ล่วงหน้าว่าจะมีเหตุดีหรือร้าย อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น

     2. ความฝันเกิดจาก ดวงจิตที่ฝังพะวง หรือพัวพันอยู่กับสิ่งหนึ่งก่อนหน้าจะหลับ จึงเก็บเอาสิ่งนั้นมาฝัน

     3. เกิดจาก อิทธิฤทธิ์ของเทวดา เพราะเทวดาต้องการให้คุณหรือให้โทษ

     4. ความฝันเกิดจาก ธาตุกำเริบ กล่าวคือร่างกายไม่ปกติครั้นหลับลงจึงฝันไปในรูปต่างๆ

     ย่างไรก็ดี ทั้งหมดก็คือ ความฝันส่วนหนึ่งที่พอจะรวบรวมได้ ไม่ว่าจะเป็นความหมาย ทั้งการแบ่งหมวดหมู่ใกล้เคียง และก็ไม่หนีกันมาก ซึ่งน่าจะพอทำให้เห็นภาพและความหมายไปของความฝันไปในทิศทางเดียวกัน


เรื่องเล่าของคนช่างฝัน


     มื่อเข้าใจภาพรวมๆ และความหมายของความฝันไปในทิศทางเดียวแล้ว

     เราแบกคำถามเรื่องราวทั้งหมดไปถามตัวแทนคน 3 วัย นอกจากเพื่อจะถามไถ่ว่า พวกเขามีประสบการณ์เกี่ยวกับความฝันคาบเกี่ยวกับความหมายข้างต้นบ้างไหม อย่างไร...?
    
    
และหาคำตอบที่หลายคนสงสัยด้วยว่า คนวัยใกล้เคียงกันมีสิทธิ์ฝันถึงเรื่องเหมือนกันหรือไม่…?

     “รวมๆ แล้วเขาก็จะมีหัวเราะเรียกชื่อเพื่อนคนโน้น-นี้บ้าง หรือไม่ก็ร้อง ร้องไห้ และโวยวาย เป็นภาษามนุษย์ต่างดาวค่ะ” หญิง-คุณแม่ของครอบครัวจันทรังสิกุล ปัจจุบันมีลูกสาว 2 คนอายุ 6 และ 7 ขวบ ชื่อจ๊ะจ๋า –จันทร์เจ้า บอก

    “เคยถามเหมือนกันว่าเขาฝันอะไร...ส่วนใหญ่จะฝันว่า "เล่น" "คุย" กับเพื่อน ฝันว่าแม่-พ่อหายไปแล้วก็ร้องไห้ ฝันว่าเข้าห้องน้ำแล้วก็ฉี่แตก รวมๆ แล้วจะเป็นเรื่องแบบนี้ ซึ่งพอเราไปถามเพื่อนที่มีลูกวัยนี้อาการก็จะคล้ายกันบ้างบางคนค่ะ”

    ส่วนใหญ่ดิฉันมักจะฝันว่าเจอคุณสามี (เสียแล้ว) คุณพ่อ-แม่ที่ตายไป หรือไม่ก็ฝันเกี่ยวกับคนในครอบครัว ฝันถึงที่มืดๆ หนาวๆ ฝันถึงความตาย” พึงใจ สุวรรณฤทธิ์ อายุ 64 ปี ตัวแทนคนวัยชรากล่าว 
    
     "แต่ไม่ว่าคนวัยนี้จะหลับฝันถึงอะไร ร้อยละ 99 วัยนี้ ตื่นขึ้นมาเขาก็จะตีเป็นตัวเลขกันทั้งนั้น"

     “ผมเคยฝันต่อเนื่องแบบสะดุ้งตื่น แล้วกลับมาฝันเรื่องเดิมต่อจากเหตุการณ์เดิมในคืนเดียวกัน” พีรสุต สุวรรณกยะวิทย์ หรือ แมนสถาปนิกหนุ่มไฟแรงฝีมือดี วัย 38 ปี ตัวแทนของวัยทำงานบอกนั่นเป็นความฝันที่แปลกที่สุด

   “แต่เรื่องราวที่ผมฝันถึงมากที่สุด เป็นเรื่องงานแต่ Story อาจจะไม่เป๊ะๆ นะ แต่ปลายทางของบทสรุปของมันก็คือ ผมแพ้...เป็นความผิดหวังเจ็บช้ำซ้ำๆ จากบุคคลเหล่านี้” 
     ถามย้ำพวกเขาอีกว่า แล้วคิดว่าคนที่อายุใกล้เคียงจะฝันเรื่องคล้ายๆ กันหรือไม่…?
     พวกเขาบอกว่าเป็นคำถามที่น่าสนใจ แต่ทว่ากลับแบ่งความเชื่อออก
เป็น 2 ซีกใหญ่ๆ คือมีทั้งฝั่งที่ "เชื่อ" และ "ไม่เชื่อ"ก่อนจะปิดท้ายด้วยการประสานเสียงบอกฝากให้เราไปช่วยหาคำตอบให้ที
...!

ประเภทความฝัน

     “รวมๆ แล้วคนในวัยใกล้เคียงกันมีสิทธิ์ฝันเรื่องราวใกล้เคียงกัน แต่ Story อาจจะไม่เหมือนกัน (แล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคน) แต่ใจความ ความฝันจะคล้ายๆ กันครับ” 
ดร.วัลลภ ปิยมโนธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ผู้มาไขข้อสงสัยอธิบาย

     โดยเรื่องที่มนุษย์นิยมฝันมากที่สุด ได้แก่ เรื่องโรงเรียน การวิ่งหนี การตกจากที่สูง การเร่งรีบเดินทางให้ทัน การสอบตก ฝันว่าบินได้ และเรื่อง “เซ็กซ์” (Sex เท่ากับ10% และคนเพียง 12% เท่านั้นที่ระบุความฝันเป็นสีขาวดำ ที่สำคัญอารมณ์ในฝันมักเป็นอารมณ์แง่ลบ เช่นความว้าวุ่น วิตกกังวล และผู้คนแข่งขันกันสูง) กันมากที่สุด

     นอกจากนี้ หากจำแนกแจกแจง “ใจความ” ของความฝันคราวๆ ของแต่ละช่วงวัยได้ดังนี้

     O วัยเด็กๆ ส่วนใหญ่มักจะฝันเรื่องของคนที่ใกล้ชิดและเป็นความจำแรกๆ ของเขา โดยแบ่งได้ 5 อย่าง คือ 1.ฝันถึงความอุ่นหรือว่าความทุกข์ยากจากกัน ฝันถึงการสัมผัส 2.การมีความสุขจากการกินอะไรที่ชอบ การนอน 3.เรื่องของ ที่กลัวถูกตี กลัวถูกตัดขาด 4.ฝันเรื่องถูกดุถูกว่าโดยจะออกมาในรูปแบบหวาดกลัว แต่ดีกรีอาจจะน้อยกว่าข้อ 3 และ 5.ฝันว่าอยากได้โน่นฝันว่าอยากได้นี่ จับโน่น-นี่

     O วัยรุ่น ฝันถึง 4 ขั้นตอน 1.แม่ พ่อ พี่ น้อง 2.ครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่ 3.เพื่อนที่อยู่ในโรงเรียน 4.สังคมที่คุณรู้จัก เช่นไปเที่ยวโน่นไปเที่ยวนี่ หรือได้อ่านหนังสือ ได้ดูหนังแบบโน้นแบบนี้ หรือมีความขัดแย้ง แต่ก็ไม่มากมายเท่ากับความกดดันที่ส่งผลไปยังความฝันของคนวัยทำงาน

     O วัยทำงาน กลุ่มนี้จะฝันออกมาในรูปของจิตใต้สำนึกกึ่งสะสมหรือว่าสิ่งที่คั่งค้างใจ และขัดแย้งมันก็จะออกมา โดยความฝันมันก็จะออกมาในรูปของ 1.การตบตี มันเป็นอาการตกใจ-ดีใจ เสียใจสุดขีดออกมา 2.ฝันถึงสิ่งแปลกที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ เช่นเราไม่เคยไปสวิตเซอร์แลนด์ แต่อยู่ดีๆ ก็ฝันว่าไปที่นั่น หรือฝันถึงมนุษย์ต่างดาว3.เป็นการฝันถึงเรื่องของสัญลักษณ์ เช่น หมู หมี ม้า ซึ่งฝันแบบนี้ก็มีความหมายตามจิตวิเคราะห์เช่นฝันถึงงู แบบที่บอกไปข้างต้น

     O วัยชรา ส่วนใหญ่จะฝันเกี่ยวกับเรื่องกลัวตายจู่ๆ ก็ฝันถึงความมืด ฝันถึงความโดดเดี่ยว ฝันถึงความตาย ฝันว่าไม่มีใครอยู่เลย ซึ่งคนมีอายุมากก็จะจำความฝันไม่ได้ ซึ่งอันตรายแสดงว่าสมองเริ่มเสื่อมแล้ว

ไขรหัสฝัน ด้วยจิตวิเคราะห์

     ที่นี่, เรามาลองตีความหมาย-ความฝันด้วยภาษาจิตวิเคราะห์กันบ้าง...? ดร.วัลลภ ปิยมโนธรรม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจิตวิเคราะห์อธิบายสิ่งที่โผล่ในความฝันว่า
    
      “ถ้าเรา "ขี้กังวล" เรามักจะฝันว่า "ไปสอบไม่ทัน" ทั้งๆ ที่ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว นั่นแสดงว่าเป็น "คนขี้กังวล" หรืออย่าง "คนกลัวผี" หรือ "โดนหลอก" พ่อแม่พี่น้องหลอกผีมาตั้งแต่เด็กๆ...ก็มักจะฝันว่า "บินได้" "เหาะได้" อยู่เรื่อยๆ หรืออย่างผู้หญิงฝันว่า "เห็นงู" (หรืออะไรที่มีลักษณะยาวๆ) ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์อวัยวะเพศ เป็นสัญลักษณ์ของการต้องการมีเพศสัมพันธ์” 
   
     แต่สมมติฝัน "เห็นงู" เลื้อยมาแล้วเราเอาไม้ไปตี... ภาษาจิตวิเคราะห์มันก็แปลได้ว่า "จิต" คุณไม่เป็นธรรมชาติ หรือ "วิ่งหนี"หรือ "ตีงูตาย" นักจิตวิเคราะห์บอกว่า แสดงว่าตัวคุณขัดแย้งกับเพศตัวเองมากเลย...

    
“หรือคนที่ชอบฝันถึง "ถ้ำ" หรือ "รู" มันก็เป็นสัญลักษณ์ของ "อวัยเพศผู้หญิง" หรือฝันถึง "พระเจ้า" "พระราชา" "กษัตริย์" "ช้าง" "ม้า" หรือว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" จะหมายถึง "พ่อ" ฝันเห็น "พยาบาล" ฝันเห็นเห็น "แม่น้ำ" "ทะเล" หรือ "แม่ชี" เป็นสัญลักษณ์ของ "แม่" หรือว่าถ้าในว่าเป็น "ตัวแมลง"ก็หมายถึงพี่-น้อง"

     “สมมติว่าฝันว่ามันมาตอมเรามาก็แสดงว่า เรารำคาญพี่น้องมากๆ "ภาษาจิตวิเคราะห์" ก็ตีความว่าภายในจิตใจมีความขัดแย้งอยู่”

     พราะทุกๆ อย่าง เช่น คน สัตว์ สิ่งของ หรือเรื่องราวความเชื่อ เรื่องฝันใกล้รุ่งจะเป็นความจริง, ฝันว่าฟันหัก ญาติจะเสีย, ฝันว่าคนที่รู้จักตายจะต่อชีวิตให้เขา ฯลฯ ทั้งหมดวิชาจิตวิเคราะห์มันสามารถถอดรหัสฝันได้

ฝันดี... ฝันดี...หรือฝันร้าย

     คำถามสุดท้าย ถามว่ามีสิทธิไหมที่ในหนึ่งชีวิตจะมีคนหลับแล้วไม่ฝันเลย…? อ.วัลลภ บอกว่าไม่น่ามีทาง แต่สิ่งที่เราน่าจะให้ความสำคัญมากกว่าก็คือ ถ้าคุณฝันแล้ว เกิดจำไม่ได้
    

   
"เรื่องนี้สิ…เป็นถือว่าเป็นเรื่องอันตราย 
เพราะมันหมายถึงภาวะของสมองเสื่อม” 
    
     ส่วนสิ่งที่อยากจะแนะนำ สำหรับคนที่ฝันร้ายบ่อยๆ นานๆ ให้ไปปรึกษาจิตแพทย์ด่วน...เพื่อแก้ไขปัญหา เมื่อนั้นคุณจะกลับมาฝันดีเป็นปกติ
 

                            
   -@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@-                     




เราควบคุมฝันได้จริงๆ หรือ…?
 
    
 
     คำตอบคือ ได้, ภาษาอังกฤษเรียกว่า "Lucid Dream" หรือภาวะที่จะกลับไปนอนต่อแล้วกำหนดให้ฝันเรื่องเดิมได้ โดยทำได้ 3 ขั้นตอน 1.ผ่อนคลาย 2.พยายามทำตัวให้มีสติ แล้ว 3.ก็เข้าสู่ความฝัน ยังไงก็ฝึกๆ กันดู #

คนตาบอดฝันได้ไหม...? 
    ได้, แต่ความฝันของคนตาบอดนั้นจะไม่มีภาพ หรืออาจจะมี หากคนนั้นเคยเห็นมาก่อน (หมายถึงไม่ได้ตายบอดตั้งแต่กำเนิด) แต่ก็ยังเป็นภาพจำในอดีตที่จำกัด กล่าวคือ ความฝันของคนตาบอดตั้งแต่กำเนิดส่วนใหญ่จึงเป็น “รูปธรรม” จาก “เสียง” และ “การสัมผัส” ที่เป็นสองประสาทการรับรู้ที่ก่อให้เกิดความฝันเหล่านั้น ต่างจากคนสายตาปกติที่มักจะ “เห็น” และ “รับความรู้สึก” จากภาพเป็นส่วนมาก จนเรียกได้ว่าเป็นเพียง “นามธรรม”
     เช่น บางคืนพวกเขาฝันถึงเพื่อน เพราะรู้ได้จากเสียงพูดคุย ส่วนอยู่ ณ สถานที่ใดนั้นก็สามารถรับรู้ความรู้สึกได้โดยบรรยากาศรอบๆ ตัว เช่นเสียงรถวิ่ง ดังประมาณนี้คืออยู่สถานที่แห่งหนึ่ง เสียงน้อยกว่านั้นก็คงอยู่อีกทีหนึ่ง สัมผัสของผิวเก้าอี้ ที่วางแขน หรือความแข็งก็บ่งบอกได้ว่าอยู่ ณ ที่แห่งใด 
    
อย่างไรก็ดีทั้งหมดที่พบในความฝันล้วนเป็นประสบการณ์ที่พวกเขาเคยรู้หรือจับต้องมาก่อนหน้าแล้ว #



ความฝันแบบ เดจาวู

 
    หมายถึง การหลับฝันถึงเรื่องราวอะไรสัก 1 เรื่อง แล้วบังเอิญวันหนึ่งไปเจอกับเหตุการณ์นั้นๆ แล้วรู้สึกคุ้นๆ ทั้งๆ ที่เพิ่งพบครั้งแรก เป็นต้น
#






กำลังโหลดความคิดเห็น