xs
xsm
sm
md
lg

“สปาสมุนไพร” ความงามรอบตัวคุณ...

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สุนทรียศาสตร์แห่งการผ่อนคลายทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง หรือสัมผัส ได้ถูกนำมารวมไว้อยู่ในสถาปัตยกรรมสไตล์กรีกโรมัน ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าต้นตำรับแห่งการทำสปา ผสมผสานกับการนำสถาปัตยกรรมแบบไทยเข้ามารวมกันไว้ได้อย่างลงตัว การจัดตกแต่งสวนในแบบป่าไม้เขตร้อน จึงทำให้การพักผ่อนที่จะพาไปในวันนี้ได้รับทั้งความอบอุ่น และความผ่อนคลาย

5 ศาสตร์แห่งความสุนทรีย์

“เบญจสปา” สปาที่รวบรวมเอาศาสตร์ทั้ง 5 แห่งความสุนทรีย์เข้ามารวมกันไว้ เพื่อให้ผู้ที่มาใช้บริการได้สัมผัสถึงความสุนทรีย์ในการผ่อนคลาย ได้ทั้งภายนอกและภายในร่างกาย รวมไปถึงจิตใจอีกด้วย

“การมาที่นี่จะได้สัมผัสถึงบรรยากาศของสถาปัตยกรรมกรีกโรมัน ผสมผสานกับแบบไทย และการต้อนรับแบบวัฒนธรรมไทย ท่ามกลางสวนสวย พร้อมเครื่องดื่มที่จะคอยนำมาต้อนรับเพื่อความสดชื่น จากน้ำสมุนไพร ธัญพืช เพื่อสุขภาพ กลิ่นหอมของน้ำมันระเหยที่โชยมาจะช่วยกระตุ้นให้สมองเกิดการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน

บรรเทาอาการเจ็บปวด สารเอนเซปฟาลีนที่ทำให้อารมณ์ดี และสารเซโรโทนิน ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสงบ เยือกเย็น และผ่อนคลายลงได้ ซึ่งรูปแบบการใช้กลิ่นหอมเช่นนี้เองที่คนสมัยนี้ นิยามว่าเป็น อะโรมาเทอราปี(Aromatherapy)

เสียงธรรมชาติจากน้ำและนกในสวน เสียงเพลงบรรเลง ที่ฟังแล้วจิตใจผ่อนคลายและสงบสัมผัส ศาสตร์การนวดด้วยน้ำมันหอม นวดช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง ให้ทำงานปกติให้เลือดหมุนเวียนดี การนวดด้วยมือ นวดด้วยแรงนิ้วแรงดันน้ำ ทำให้ผ่อนคลายได้” คุณรัณทิมา ศรีสูงเนิน เล่าสั้นๆ

สมุนไพรไทย จุดยืนสปาไทย

แม้การตกแต่งจะเป็นในแบบของการผสมผสานระหว่างยุโรปกับแบบไทย การนำมาประยุกต์ให้เป็นแบบไทยๆ จะเป็นจุดเด่นที่จะทำให้ผู้มาใช้บริการได้รับความพึงพอใจ คุณรันทิมา จึงได้คิดค้นทดลองการนำสมุนไพรไทยมาใช้ในการทำสปา

“ถึงเราจะตกแต่งสไตล์กรีกโรมัน แต่เรานำเอาสมุนไพรไทยมาใช้ในการทำ เพราะส่วนใหญ่กลุ่มที่เข้ามาทำมักจะเป็นคนต่างชาติ ซึ่งอยากได้กลิ่นของสมุนไพรไทย มากกว่ากลิ่นของสารสกัดจากน้ำหอม ดอกไม้ ที่นำมาช่วยสร้างความผ่อนคลาย และสมุนไพรไทยของเราจะเป็นที่รู้จักมากในต่างประเทศ”

การนำสมุนไพรไทยมาใช้ในการทำสปานั้น ใช้เวลาในการคิดค้นถึงประโยชน์ และนำมาผสมกันจนได้เป็นจุดเด่นและนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้การทำสปาหาได้ทั่วไป และทำให้เห็นถึงคุณค่าของการนำสมุนไพรมาใช้

ไม่ว่าจะเป็นไพล ขิง ตะไคร้ ข่า การบูร และสมุนไพรไทยอีกมาก ด้วยการนำมาให้ลูกค้าได้ใช้บริการ ทั้งการ นำมาต้ม แช่ตัว อบเซาน่า ด้วยวิธีการแบบไทยๆ การนำมาขัด พอกผิว ด้วยการนำข้อดีของแต่ละตัวมาสกัด

การดูแลผิวพรรณสำหรับสาวๆ ด้วยการเข้ากระโจม เพื่อรักษาผิวพรรณ ขัดผิว พอกผิว เพื่อให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุด ออกด้วยการใช้สมุนไพร จากนั้นจึงใช้ นมแพะเข้าไปช่วยในการบำรุงผิว กระชับผิวด้วยการใช้ดินสอพอง ผลักเข้าไปให้บำรุงผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง

เป็นการใช้สมุนไพรในการทำสปา เอามาประยุกต์ แทนที่เราจะอบไอน้ำที่เป็นน้ำมัน เราก็มาใช้เป็นสมุนไพรไทย อบแห้งมาช่วย อย่าง ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใช้ของสด ก็นำมาทำเป็นการเข้ากระโจม ซึ่งจะได้ซึมเข้าสู่ผิวพรรณมากกว่าการทำอบไอน้ำ ที่เป็นพียงแค่ไอน้ำ ร้อน ซึ่งไม่เหมือนตัวต้ม ให้คนนั่งในกระโจม นำ ให้ไอน้ำเข้าไปในผิว ซึมเข้าไป ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกมาได้ง่ายขึ้น เวลาขัดผิวก็จะหลุดง่ายขึ้น และซึมผ่านเข้าไปได้ง่าย ผ่านกล้ามเน้อเข้าไป ผิวพรรณจะดี ได้ตั้งแต่หัวจดเท้า ผิวเนียน ผมนุ่ม วัยทองที่เลือดลมไม่ปกติก็สามารถช่วยได้ เป็นเหมือนตัวยาโบราณ

สปาง่ายๆ ทำเองที่บ้าน

หลังจากช่วงของสภาวะเศรษฐกิจจึงทำให้สปาหลายแห่งถึงขั้นปิดตัวลงไป แต่ด้วยสมุนไพรไทยที่หาได้ง่าย จึงทำให้สปาต้องพึ่งตัวเอง ด้วยการทำให้ผู้ที่มาใช้บริการสามารถทำได้ง่ายด้วยตัวเองที่บ้าน

“นอกจากการทำสปาที่มาใช้บริการที่ร้านแล้ว ยังมีการให้นำกลับไปทำสปาที่บ้านได้ ซึ่งไม่ต้องเสียเวลาในการทำมาก และค่าใช้จ่ายก็จะลดลง ส่วนผสมในการทำไม่ได้ต่างจากการทำใช้บริการที่ร้าน และได้ผลตอบรับที่ดีในช่วงเศรษฐกิจเช่นนี้”

ด้วยสปาที่จะต้องยืนได้ด้วยตนเอง จึงจำเป็นต้องออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นแบรนด์ของตัวเองขึ้นมานั่นคือ “เสื้อต้มยำ” ที่บรรจุด้วยเครื่องสมุนไพรนานาชนิด ที่สามารถทำให้ผ่อนคลายความเครียด อาการปวดเมื่อยร่างกาย และบรรเทาอาการฟกช้ำที่เกิดจากอุบัติเหตุ

ด้วยการออกแบบของทางร้านการบริการ นวดกดจุดในแบบ Thai Tom-Yum massage เป็นการนำเอาสมุนไพรหลากหลายมารวมกัน ด้วยการผ่านความร้อนจะช่วยให้สมุนไพรเข้าสู่ผิว กล้ามเนื้อ หลอดเลือด เส้นเอ็น ทำให้ผ่อนคลายและการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น และกลิ่นของสมุนไพรยังช่วยปรับสมดุลของร่างกาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยได้อีกด้วย

“การดูแลตัวเองด้วยวิธีทั้งหลายเป็นการบำบัดร่างกาย และดูแลร่างกายเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เกิดอาการหนักไปมากกว่า เพราะคนไทย ถ้าไม่เป็นอะไรมาก มักจะไม่ดูแลร่างกายของตัวเองเท่าไหร่ จะรอให้เป็นหนักจึงจะดูแลตัวเอง ซึ่งในตอนนั้นอาจจะดูแลรักษายากไปเสียแล้ว และการดูแลส่วนใหญ่ก็พึ่งยาจากแพทย์แผนปัจจุบัน มองข้ามสิ่งที่อยู่รอบตัวอย่างสมุนไพรของไทยของเรา ซึ่งมีคุณสมบัติมากมายที่ช่วยในการดูแลร่างกายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปัจจุบันวัยรุ่นไทย หันไปสนใจเรื่องความงามที่มาจากเกาหลีบ้าง ต่างประเทศบ้าง อยากให้รู้ว่าสมุนไพรคือสิ่งมหัศจรรย์ที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายของเราดีทั้งภายในและภายนอก ” คุณรัณทิมากล่าวทิ้งท้าย







กำลังโหลดความคิดเห็น