การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2009 (Miss Universe 2009) ครั้งที่ 58 ที่หมู่เกาะบาฮามาส ก็กลายเป็นประเด็นร้อนๆ ไปทั่วโลก เพราะปีนี้ร้อนแรงมาก ไม่จำเพาะชุดว่ายน้ำที่วาบหวิวยวนเสน่ห์ แต่ชุดประจำชาติที่เหล่านางงามแต่งกายมาประกวดและเดินโชว์ ก็สร้างสีสันได้มากมาย
เมื่อนางงามหรือมิสยูนิเวิร์สตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นโดนวิพากษ์วิจารณ์ชุดประจำชาติอย่างแรงถึงความไม่เหมาะสม กับไอเดียความคิดสร้างสรรค์ที่ฟิวชั่นผสมจนหลุดเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาติจนคนรับไม่ได้ และที่ร้อนไปกว่านั้นเมื่อมิสยูนิเวิร์สนางงามตัวแทนจากรัสเซียใส่ชุดประจำชาติที่ยกอกดันทรวงรัดติ้วจนปทุมถันหรือจุกโผล่หลุดออกมา
ว่าไปแล้ว ภายใต้ชุดสวยของนางงามที่เดินเฉิดฉายโดดเด่นอยู่บนเวทีระดับโลก แต่ละนางเดินอวดโฉมด้วยชุดประจำชาติ ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ เป็นความภูมิใจของประเทศชาติ ที่ต้องการอวดตากับชาวโลก แต่ทว่าถ้าความงามของชุดที่ว่านี้ จะต้องโชว์หวิว ให้ดูเว่อร์ๆ แล้วชุดประจำชาติที่เอามาอวดกันนี้ จะกลายเป็นความภูมิใจหรือความขายหน้าของชาติกันแน่!!
ธัชกร ตั้งธนกรกิจ นักภูมิสถาปนิก ผู้ชนะเลิศจากโครงการออกแบบชุดประจำชาติ เขาออกแบบชุด ‘ญ.งามท้องถิ่นสุวรรณภูมิ’ โดยมี ‘ไข่มุก’ ชุติมา ดุรงค์เดช มิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส (Miss Thailand Universe 2009) เป็นผู้สวมใส่ในการประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2009 ที่ประเทศบาฮามาส
การประกวดเวทีนางงามระดับโลก นอกจากรางวัลชนะเลิศผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกแล้วรางวัลที่ทุกชาติต่างตั้งหน้าตั้งตาลุ้นกันคงหนีไม่พ้นรางวัลชนะเลิศของชุดประจำชาติ และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ทัศนคติการออกแบบชุดประจำชาติก็เปลี่ยนไป นักออกแบบรุ่นใหม่ไฟแรง ต่างหยิบยกความแปลกใหม่ ใส่ความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกับโชว์สัดส่วน โชว์ความหวิวของนางมากขึ้นด้วย
วันนี้นักออกแบบชุดประจำชาติไทย ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบชุดประจำชาติในบางประเทศ โดยหยิบยกมาดังนี้
ชุดประจำชาติ ประเทศออสเตรเลีย
นักออกแบบหนุ่ม แสดงความเห็นว่า เท่าที่หาข้อมูลมาพบว่าชุดนี้ใช้ชื่อว่า ‘Sunset on Opera House’ หรือแปลว่าพระอาทิตย์ตกดินที่บนโอเปร่าเฮาส์ คนทั่วไปต่างรู้กันดีว่า โอเปร่าเฮาส์เป็นสัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย ดังนั้นตัวแพตเทิร์นของชุดจึงได้ประยุกต์มาจากรูปร่างของโอเปร่าเฮาส์ ส่วนสีส้มที่ใช้ตรงศีรษะก็มองดูคล้ายๆ พระอาทิตย์กำลังตกดิน จุดเด่นชุดนี้อยู่ที่ตัวแพตเทิร์นของกระโปร่งที่นำผ้าแต่ละชิ้นมาประกอบกัน มีการปักเลื่อม ใช้ลูกเล่นแวววาว และใช้สีโทนร้อนแรงบริเวณหมวกเพิ่มความโดดเด่นมากขึ้น
ชุดประจำชาติ ประเทศรัสเซีย
นักภูมิสถาปนิก บอกว่าชุดดังกล่าวใช้ชื่อว่า วิกตอรี่ เดิร์ท เหมือนเป็นชุดแห่งชัยชนะ ประยุกต์มาจากชุดทหาร โดยตัดทอนความแข็งแรงของทหารให้ลดลงไป และเพิ่มความอ่อนหวานเพื่อให้เข้ากับนางงาน ชุดนี้มีเอกลักษณ์ที่หมวก คือได้ประยุกต์มาจากหมวกทหาร
ส่วนความวาวหวิวที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นความผิดพลาดของคนที่ตัดชุดรึเปล่า คิดว่าคงไม่ได้ตั้งใจให้นางงามใส่ชุดนี้ หรือไม่ก็คงเพราะเนื้อผ้าไม่ดี ทำให้ชุดหดได้
“ผมว่าชุดนี้น่าจะขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมในแต่ละชาติว่าจะมองอย่างไร อย่างถ้าเป็นคนไทยมอง ก็ถือว่าชุดนี้ไม่เหมาะสม แต่ถ้าเป็นมุมของคนที่ออกแบบ ผมคิดว่าเขาคงคิดสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อตัวแทนประเทศของเขา”
ชุดประจำชาติ ประเทศญี่ปุ่น
สำหรับการดีไซน์ชุดประจำชาติประเทศญี่ปุ่น นักออกแบบหนุ่มคิดว่าคนที่ออกแบบคงเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่คิดรูปแบบออกมาเป็นแนวแฟชั่นฮาราจุกุ ซึ่งผสมผสานระหว่างชุดสมัยใหม่ กับชุดกิโมโนเดิม เพื่อนำสองแบบมาประยุกต์ให้เข้ากัน แต่คงให้น้ำหนักชุดสมัยใหม่ กับชุดกิโมโนไม่เท่ากัน ชุดนี้จึงออกมาค่อนข้างแรง
“ผมมองชุดนี้ได้เป็น 2 มุม คือโป๊หรือไม่โป๊ และเหมาะหรือไม่เหมาะสม ซึ่งผมมองว่าชุดนี้ไม่โป๊นะ หากเทียบกับชุดว่ายน้ำ แต่ก็ถือว่าเป็นชุดที่ไม่เหมาะสม โดยในแต่ละประเทศมีวัฒนธรรมมด้านที่ดีกับด้านที่ไม่ดี คนที่ออกแบบเขาคงคิดว่าชุดนี้ดีที่สุดแล้ว เราเองก็ต้องเคารพในการออกแบบของเขา ซึ่งมันก็ต้องดูที่คนส่วนใหญ่มองว่าดีหรือไม่ดี ตอนนี้ก็เห็นว่าญี่ปุ่นทนต่อแรงวิจารณ์ของสังคมไม่ไหว จึงอาจจะปรับให้ชุดดูวาบหวิวน้อยกว่านี้”
ชุดประจำชาติ ประเทศปานามา
ธัชกร บอกว่า ชุดนี้คงได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทศกาลคาร์นิวัล ซึ่งเป็นเทศกาลประจำชาติของปานามา โดยมีลักษณะกึ่งแฟนซี ให้ความรู้สึกสนุกสนาน ภายในงานจะมีการแต่งชุดแฟนซีสีสันฉูดฉาด เพื่อดึงดูดคนเข้าชม ชุดดังกล่าวจึงได้ประยุกกลิ่นอายเทศกาลคาร์นิวัลมาเป็นชุดประจำชาติ
จุดเด่นของชุด อยู่ที่การดีไซน์ชุดออกมาให้เหมือนสัตว์ประหลาด ด้วยรูปแบบที่แปลกใหม่ สะดุดสายตาใช้โทนสีดำแดง ให้ความรู้สึกร้อนแรง
ชุดประจำชาติ ประเทศปารากวัย
ชุดนี้ ตกแต่งด้วยวัสดุ ที่เป็นขนนก ลูกปัด โดยประเทศทางแถบนี้มีวัฒนธรรมเป็นชนเผ่าอยู่ จึงนำวัสดุที่ใช้ในเครื่องแต่งกายชนเผ่ามาเป็นชุดประจำชาติ จุดเด่นของชุดอยู่ที่ลูกปัดหลากสีและขนนกบนศีรษะ
ชุดประจำชาติ ประเทศสโลวีเนีย
สำหรับชุดนี้มีการดีไซน์ ตรงพู่สีแดง ออกมาให้เหมือนดอกคาร์เนชั่น ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติ จุดเด่นของชุดนี้อยู่ที่การใช้สีเขียวเป็นพื้น แล้วใช้สีแดงของดอกคาร์เนชั่น ตัดกันระหว่างสี เพิ่มความโดดเด่นของชุดขึ้นมา
ชุดประจำชาติ ประเทศไทย
ปิดท้ายด้วยชุด หญิงงามท้องถิ่นสุวรรณภูมิ เป็นชุดประจำประเทศไทย ซึ่งธัชกร เป็นผู้ออกแบบเอง เขาบอกว่า ตอนแรกก็ต้องดูว่า จะออกแบบชุดให้ใครใส่ โดยปีนี้นางงามของเราคือ น้องไข่มุก ซึ่งเป็นคนที่มีรูปร่างดี แขนขายาว จึงดีไซน์เสื้อผ้าที่เสริมตรงท่อนบน และโชว์แขนที่เรียวสวย
ในส่วนของวัสดุที่ใช้นั้น ในประเทศต่างๆ มักจะใช้วัสดุทั่วไปที่เคยใช้มาแล้ว ทั้งลูกปัด ขนนก เขาจึงคิดหาวัสดุที่แตกต่างจากที่คนอื่นใช้กัน เขาจึงเลือกใช้วัสดุที่แวววาว นั่นคือทอง เพื่อเพิ่มความโดดเด่นมากกว่าระเทศอื่น และใช้ผ้าไทยที่มีรูปร่าง สีสัน ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยอยู่แล้ว
ส่วนความหมายของชื่อชุดนั้น นักออกแบบบอกว่า คำว่า "สุวรรณภูมิ" นั้นเป็นอีกชื่อหนึ่งของเมืองไทย อีกอย่างสุวรรณภูมิแปลว่าทอง แต่ถ้าแปลตามความหมายของเขาแล้ว "สุวรรณภูมิ"คือดินแดนที่มีค่าดุจทองคำ และส่งผลถึงชุดของผู้หญิงไทยที่โดดเด่นด้วยเครื่องประดับจากทองคำ
แต่ทว่านักออกแบบผู้นี้ อธิบายว่า ชุดดังกล่าวไม่ได้ประสงค์จะสื่อถึงเครื่องประดับจากทองคำ แต่ต้องการสื่อเรื่องราวของผู้หญิงภายใต้ห่วงทอง
“ผู้หญิงชนเผ่าทางภาคเหนือประเทศเรา ที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากะเหรี่ยงคอยาว พวกเขาต้องใส่ห่วงทอง ตั้งแต่เด็กจนวัยชรา เรียกได้ว่าตลอดช่วงชีวิตเลย ซึ่งกว่าจะใส่ห่วงได้มันยากมาก เพราะมันหนัก บางคนใส่ห่วงหนักถึง 6 กิโลกรัม ผมจึงเห็นว่าผู้หญิงที่สวมห่วงทองนี่ได้ต้องเข้มแข็ง อดทน และเสียสละ ซึ่งมันก็เป็นนิยามของผู้หญิงไทยในดินแดนสุวรรณภูมิ ผมจึงอยากถ่ายทอดความเข้มแข็งของผู้หญิงสื่อออกมาให้เป็นรูปธรรม ผมเห็นว่าภายใต้ห่วงทองนั้น จริงๆ แล้วคือความอดทนของผู้หญิง”
ธัชกร เล่าถึงวันที่ไข่มุกลองใส่ชุดนี่ว่า ชุดหนัก 3 กิโลกรัม คนที่ใส่ก็ต้องมีความอดทนมาก วันนั้นลองชุดอยู่ 3 ชั่วโมง เวลาที่ไข่มุกถอดชุดออก ตรงบ่าจะมีรอยแดง แต่เชื่อไหม่ว่า ทีมงานทุกคนไม่มีใครได้ยินเสียงบ่นของไข่มุกเลย นี่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงไทยทั้ง อดทน เข้มแข็งมาก
ชุดประจำชาติโชว์หวิว เพราะต้องการประชาสัมพันธ์ชาติ
ธัชกร วิเคราะห์ชุดประจำชาติของนางงามในช่วงหลังๆว่า สาเหตุที่ชุดแต่ละชาติอออกมาในโทนที่ทันสมัย วาบหวิวก็เพื่อต้องการประชาสัมพันธ์ประเทศ อาจจะมีกลิ่นอายของชาติอยู่ แต่ก็ต้องออกแบบน่าสนใจ ดึงดูดใจ เพื่อที่นางงามจะได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แต่วัตถุประสงค์หลักของชุดประจำชาติคือการแสดงออกถึงวัฒนธรรมของชาตินั้นๆ ว่ามีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องอะไร
“ต้องเข้าใจว่าช่วงหลังมานี้ เวทีนางงามมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง นอกจากจะแสดงถึงเอกลักษณ์ชาตินั้นแล้ว ยังต้องมีการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ มีความคิดแปลกใหม่ไม่จำเจ เพราะเวทีนี้มีมานาน ซึ่งแต่ละประเทศต้องออกแบบแข่งกันเพื่อให้นางงามน่าสนใจ เป็นที่ติดตาของคณะกรรมการ และผู้ชมงานประกวด แต่ในบางประเทศก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมองชาติไว้อยู่เช่นกัน ”
ส่วนสาเหตุที่ประเทศไทยมักได้รับรางวัลชุดประจำชาติมาหลายปี ธัชกร มองว่าประเทศไทยมีวัฒนธรรม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หลากหลายมาก ทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ประเพณี มีเรื่องราวต่างที่หยิบยกขึ้นมาเสนอได้ อย่างมวยไทยเรามีความแปลกใหม่ เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ผู้หญิงไทยก็สามารถต่อสู้ได้ไม่แพ้เพศชาย
แม้ว่าวันนี้การแข่งขันชุดประจำชาติ ของนางงามจะแข่งขันกันสูงมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ทุกๆ ประเทศไม่ควรละทิ้งก็คือความเป็นเอกลักษณ์ รักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมของประเทศชาติ ประชาชนจะได้เกิดความภาคภูมิใจ ตรงนี้เองน่าจะมีความหมาย มีค่ามากกว่ารางวัล และชนะเลิศที่ได้มา
และ 23 ส.ค. นี้ก็จะรู้ว่าใครสวยที่สุดในจักรวาล
...........
เรื่อง : ออรีสา อนันทะวัน