xs
xsm
sm
md
lg

ความนัยมหาศาล. . .ในช่อดอกไม้ของ “ธาตรี วัฒนยืนยง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ฟลาวเวอร์สไตลิสต์” เมื่อเอ่ยถึงคำนี้ หลายคนให้นิยามว่า พวกเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังความอลังการของมวลหมู่ดอกไม้ที่ชูช่อผ่านงานดีไซน์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในอาชีพที่ไม่น้อยคนใฝ่ฝันและอยากเป็น

ต่างจาก เล็ก-ธาตรี วัฒนยืนยง ที่เดิมทีเขาคนนี้ไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น แต่ด้วยความบังเอิญเล็กๆ อย่างการที่เขามีเพื่อนเป็นคนจัดดอกไม้ ซะมากกว่า...จึงกลายเป็นที่มาของอาชีพที่ทำอยู่ในทุกวันนี้

“เพื่อนเราเป็นคนจัดดอกไม้ก็เลยมาชวน ไม่เคยมีความรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน แต่อาศัยวิชาที่เรียนจบจากคณะศิลปกรรมเอกถ่ายภาพ วิทยาลัยเพาะช่าง เรื่องเชฟ, ฟอร์ม, องค์ประกอบ, ทฤษฎีสี รวมทั้งเรื่องศิลปะอะไรที่เราพอมีบ้าง มันก็เลยง่ายที่จะเริ่มเรียนรู้ในแบบครูพักลักจำประกอบกันไป”

ถึงแรกๆ จะไม่ค่อยชอบมันมากนัก เพราะยังไม่ถนัดในอาชีพ จนหลายครั้งเขาเองก็เกิดอาการท้อใจ แต่พอทำๆ ไป จนเริ่มชำนาญ สักปีกว่าๆ ความคิดของเขาจึงเปลี่ยนและตั้งใจจะยึดอาชีพนี้ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

 
การได้อยู่กับดอกไม้เป็นเรื่องที่มีความสุข กว่า 11 ปีแล้ว ที่เขาหยิบจับดอกนั้นดอกนี้มาแทรกแซมให้เบ่งบานลงบนช่อดอกไม้ขนาดต่างๆ ด้วยคอนเซ็ปต์ “สวย” จัดออกมาให้ถูกใจทั้งคนจัดและคนรับ เพียงเท่านี้ก็เป็นการง่ายแล้วกับความอิ่มใจที่จะเกิดขึ้นตามมา หลังจากรอยยิ้มและวลีที่ดังขึ้นว่า ... สวยจังเลย !


เขาบอก คำว่าสวย ในที่นี้ทุกคนคงไม่อาจชอบตรงกันได้ทั้งหมด แต่คีย์เวิร์ดสำคัญ นั่นคือ จุดร่วมของเรากับเขามากกว่า ศิลปะอย่างหนึ่งที่นอกเหนือความสวยตามธรรมชาติแล้ว นั่นคือแนวไอเดียของของผู้จัดและผู้สั่ง ที่จะต้องแชร์กันก่อนจะถึงมือผู้รับ

“ในฐานะฟลาวเวอร์สไตลิสต์ เรากับเขาต้องแชร์กัน 50 : 50 ลูกค้าพอใจ เราเองก็ว่าสวย ทุกครั้งมันก็จะมีทางออก ซึ่งก็ต้องอาศัยทั้งประสบการณ์และไอเดียควบคู่กันไป”

จัดดอกไม้ก็แทบไม่ต่างอะไรจากการทำงานศิลปะ เขาถ่ายทอดว่า มันเหมือนการทำประติมากรรมขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ถึงจะจัดออกมา 10 แจกัน ใช้ดอกไม้ชนิดเดียวกัน สีเหมือนกัน และพยายามจัดให้เป็นรูปทรงเดียวกัน แต่ว่าความรู้สึกที่ได้นั้นไม่เหมือนกัน ซึ่งตรงจุดนี้เขาย้ำว่า เพียงแค่มองก็รู้สึกถึงความแตกต่างของดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าว่า...มีความอ่อนหวานที่ซ่อนอยู่ต่างกัน และหากจะมองในแง่มิติกาลเวลา ค่าของดอกไม้ก็อยู่เหนือสิ่งเหล่านั้นด้วย

แทบทุกโอกาสของชีวิต ดอกไม้ไม่ว่าจะช่อเล็กหรือช่อใหญ่ ดูจะเข้าไปมีบทบาทกับเราในทุกช่วงเวลา ทั้งงานรื่นเริงยินดี ไปจนถึงงานเศร้าโศก สำหรับเขา ดอกไม้มันประมาณค่าไม่ได้ ขึ้นอยู่ที่ความพึงพอใจของแต่ละคน เห็นแล้วสวย มีความสุข มีอะไรหลายอย่างที่ซ่อนอยู่มากกว่านั้น แม้แต่งานศพ ซึ่งเป็นงานโศกเศร้าแต่ดอกไม้กลับจำเป็น อย่างน้อยก็ช่วยสร้างบรรยากาศ ลดทอนความเศร้าลงไปได้บ้าง ซึ่งการนำธรรมชาติตรงนี้มาใช้มันคงเหมือนอะไรที่น้อยนิด ใส่ไอเดียเข้าไปอีกหน่อย แต่ให้คุณค่ามหาศาล จากรุ่นสู่รุ่น...ดอกไม้ยังยืนยันการทำหน้าที่ และก็คงการันตีได้ถึงความหมายที่มากมายต่อความรู้สึกของคนเรา สำหรับบางคนเพียงแค่ดอกเดียวที่ได้รับก็ปลาบปลื้มใจไปนานแสนนาน




“อาชีพคนจัดดอกไม้ มันก็คือ การขายไอเดีย สร้างผลงานขึ้นมาแลกเงิน แต่ที่มากกว่านั้นคือ ใจ ที่ใส่ลงไปกับผลงานทุกชิ้น ความรู้สึกที่คลาสสิกมาก คือการที่เราได้ร่วมเป็นสื่อ ถ่ายทอดความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดีของใครสักคนไปถึงอีกคนพร้อมดอกไม้ช่อนั้น ส่งความสุขด้วยดอกไม้ซึ่งไม่เพียงแต่ดอกไม้ตรงหน้าจะสื่อความสุขด้วยตัวมันเอง ส่วนเราแม้จะอยู่ในมุมของสไตลิสต์ก็พลอยมีมีส่วนร่วมถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ เหล่านั้นไปด้วย

การได้จับดอกนั้นวางตรงนี้ ดอกนี้วางตรงนั้น วุ่นอยู่กับการเอาดอกไม้มาแต่งตัวใหม่ช่อแล้วช่อเล่า แค่เห็นผลงานออกมาสวยถูกใจ นั่นก็เป็นความสุขที่ซ่อนอยู่แล้วล่ะ ได้รับมันทุกวัน...ไม่เคยขาด เค้าแฮปปี้ เราเองก็แฮปปี้ แม้จะเป็นแค่ดอกไม้ดอกเดียว โดยไม่ต้องตกแต่งอะไร เพียงเท่านี้อะไรมากมายที่ซ่อนอยู่ ก็มากมายจนล้นดอกไม้ไปแล้วในความรู้สึกของเรา”

เรื่องดีๆ เกิดขึ้นเสมอพร้อมช่อดอกไม้ ประสบการณ์อมยิ้มที่เล่าสู่กันฟัง มีเรื่องหนึ่งที่เขาจำได้ไม่เคยลืม... ครั้งนั้นจัดดอกไม้ให้ลูกค้าที่สั่งไว้ตามปกติ เมื่อถึงวันรับของ ลูกค้าคนเดิมเดินมาพร้อมเพื่อนอีกคน ในใจเขาคิดว่าเป็นเพื่อนกัน และดอกไม้ช่อนั้นลูกค้าคงเอาไปให้แฟน

 
ปรากฏว่า... พอรับเสร็จก็ยื่นให้กันตรงนั้นเลย ความรู้สึกเซอร์ไพรซ์ตกเป็นของเขาและทุกคนในร้านแบบไม่ทันตั้งตัว ครั้งนี้เรียกว่าให้บริการกันแบบครบสูตร เป็นเหตุการณ์ซึ่งน้อยครั้งนัก ที่คนจัดดอกไม้จะได้เห็นภาพลูกค้ายื่นช่อดอกไม้ที่ตัวเองจัดให้แก่คนรักต่อหน้าต่อตา ธาตรีบอกเล่าพร้อมเสียงหัวเราะอย่างสุขใจ


อยู่กับดอกไม้มายาวนานเป็น 10 ปี สไตลิสต์คนนี้ยืนยันว่าไม่เคยเบื่อ และภูมิใจที่ได้จัดดอกไม้แต่ละช่อให้ทุกคนที่ต้องการ ซึ่งในหลายๆ ครั้ง การนำเสนอดอกไม้ในรูปแบบศิลปะ ก็ต้องอิงกันไปกับแฟชั่นเสื้อผ้าในช่วงนั้นๆ อยู่เหมือนกัน อย่างช่วงนี้ อะไรที่ “วิ้งๆ” หรือส่องแสงสะดุดตา กำลังอินเทรนด์ การเลือกประดับประดาด้วยวัสดุระยิบระยับให้ดอกไม้ช่อสวย ก็เป็นอีกวิธีสร้างความแปลกใหม่ให้ดอกไม้ที่สวยงามอยู่แล้วดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

“เทรนด์จัดดอกไม้ ที่ใครๆ บอกว่าไร้รูปแบบ มันคงขึ้นกับไอเดียของคนจัดมากกว่า ส่วนตัวมองว่าโครงสร้างเป็นเรื่องสำคัญ ต่อให้จัดมาเยอะขนาดไหนก็ไม่มีทางตัน เรื่องของการจัดดอกไม้ เพียงแค่ไปเห็นโครงสร้างของสิ่งที่อยู่รอบตัว ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดดอกไม้ของเราได้แล้ว”

แต่ถึงจะจัดออกมาอย่างไร คุณค่าทางจิตใจก็ไม่ได้อยู่ที่ไอเดียล้วนๆ หรอก เขาให้ค่ากับความรู้สึกที่มีต่อดอกไม้แต่ละช่อมากกว่าสิ่งอื่น ซึ่งในบางครั้งสำหรับบางคนดอกไม้มันก็แค่เอามาตั้งไว้เฉยๆ แต่ฟลาวเวอร์สไตลิสต์อย่างเขา ผู้มองอย่างลึกซึ้งถึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในดอกไม้ ก็ยังเชื่อมั่นว่า

ถึงอย่างไร... ดอกไม้แค่ดอกเดียวก็ดูดีเสมอ และ ดูถูกไม่ได้ แม้บางคนจะเมินค่าว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็นก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น