“ยรรยง อัครจินดานนท์” ขับเคลื่อนอาร์เอสด้วยคอมมูนิตีออนไลน์

“ผมมองว่าหน้าที่ของการเป็นผู้นำ คือ การบริหารความเปลี่ยนแปลง ถ้าเราสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในองค์กรได้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของผลประกอบการ , สปิริตของทีมงาน , วิธีการทำงาน ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ นั่นหมายถึงว่าเราได้ทำหน้าที่ตรงนั้นได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ที่ผ่านมาผมเห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์กรในทางที่ดีขึ้นมาโดยตลอด” นี่คือคำกล่าวของ ยรรยง อัครจินดานนท์ หรือ เฮียเหลียง รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) ผู้ดูแลสายงานอาร์เอสดิจิตอล และ สายงานธุรกิจออนไลน์บิสสิเนสของอาร์เอส ผู้บริหารทางด้านการตลาดมืออาชีพแถวหน้าของเมืองไทย

ยรรยง เล่าถึงการได้เข้ามาร่วมงานกับอาร์เอสว่า เคยทำงานอยู่ที่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ในตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด จากนั้นได้มาทำงานที่ บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แล้วบังเอิญว่าเฮียฮ้อชวนมาให้ช่วยดูแลในส่วนงานอาร์เอสดิจิตอล ซึ่งการที่ได้มาร่วมงานกับอาร์เอสมันเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับผมมาก เพราะย้อนกลับไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วเทคโนโลยียังไม่พัฒนาขนาดนี้ การที่จะผลักดันธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ของอาร์เอสให้เป็นผู้นำจึงถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายมากเลยทีเดียว จึงได้ตัดสินใจเข้ามาร่วมงานในฐานะผู้บริหารของอาร์เอส เมื่อปี 2547

“ผมมองว่าในงานที่ทำมันต้องขยายฐานในวงกว้าง ผมมองในแง่องค์กรมากกว่าว่าจะต้องทำอย่างไรให้องค์กรเป็นผู้นำในหลายๆมิติ เพราะในแง่ของการทำธุรกิจไม่มีคำว่าเบอร์ 1 หรือ เบอร์ 2 เพราะวันนี้กลุ่มเป้าหมายต่างกัน รวมถึงปัจจัยหลายๆ อย่างที่ประกอบกันพอดีไม่ว่าจะเป็นในแง่ของ เทคโนโลยีมีส่วนในการผลักดันให้โลกเดินมาทางนี้ , ธุรกิจบันเทิงเดินมาทางนี้พอดี และเราก็เป็นผู้นำในการพัฒนาอินโนเวชั่นใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่ตลาดมากกว่า อย่างที่ผ่านมาอาร์เอสได้พัฒนาทั้งฟูลซองดาวน์โหลดและฟูลวิดีโอดาวน์โหลดเป็นรายแรก รวมถึงโมเดลธุรกิจการขายคอนเทนต์ผ่านช่องทางใหม่ๆ เราก็มีแนวความคิดที่ทำก่อน เช่น การร่วมมือกับเอเซอร์ในการขยายช่องทางขายดิจิตอลอัลบั้มศิลปิน Girly Berry หรือ อย่างล่าสุดที่เราร่วมกับเอ็มลิ้งค์ในการทำตลาดผ่านทางโมบาย ดีลเลอร์ ดิสทริบิวชัน ซึ่งผลงานที่ผ่านมาถือว่าการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี”

ยรรยงกล่าวว่า ต้องรับรู้ในภารกิจที่เราต้องเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์อาร์เอส ซึ่งไม่ใช่แค่อาร์เอสดิจิตอลอย่างเดียว ต้องมีปัจจัยอื่นประกอบด้วย เช่น คุณภาพงานศิลปิน , คุณภาพงานอาร์เอส , การบริการลูกค้า , การตอบโจทย์ทางการตลาด , การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สิ่งเหล่านี้สำคัญมาก แต่ถ้าเป็นในมุมการทำงานที่รับผิดชอบโดยตรงเชื่อว่าตนได้เดินมาถูกทางแล้ว

ถ้าพูดถึงความสำเร็จของอาร์เอสดิจิตอลในวันนี้ในมุมมองของผู้บริหารหนุ่มอารมณ์ดีคิดว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเท่านั้น อาร์เอสยังมีภารกิจให้ทำอีกเยอะ โดยจะประเมินจากตัวเองมากกว่า คือ เมื่อก่อนนี้เวลาจะทำอะไรก็ต้องมานั่งดูว่าคู่แข่งเราทำอะไรเราจึงค่อยทำตามหรือต้องทำเพราะคู่แข่งทำ ซึ่งผมมองว่ามันไม่มีความคิดแบบผู้นำ แต่วันนี้มันจะไม่มีคำนั้นอีกต่อไป วันนี้ทีมงานของผมมีความมั่นใจและมีความพร้อมที่เป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆให้ออกสู่ตลาด เป็นผู้นำในธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ ผมมั่นใจในทีมงานของผม คนภายนอกจะมองยังไงผมไม่รู้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทีมงานมีความรู้สึกยังไงกับการทำงานมากกว่า ทำงานแล้วมีความสุขมั้ย ตรงนี้ต่างหากที่สำคัญมากกว่า”

“วัน-ทู-คอล! Zheza Zim”
คอมมูนิตี้ออนไลน์รูปแบบใหม่ที่น่าจับตามอง

ด้วยความที่อาร์เอสมุ่งเน้นการทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยทีนเป็นหลัก และมีจุดแข็งอยู่ที่การเป็นผู้นำธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์ โดยอาร์เอสได้ประกาศรุกธุรกิจออนไลน์บิสสิเนสไปเมื่อปีที่แล้ว และเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ได้แก่ “เว็บไซต์ชีซ่าดอทคอม” (www.zheza.com) ซึ่งเป็นเว็บเซกันด์ไลฟ์คอมมูนิตี้ออนไลน์ ( Second Life Community Online) เว็บแรกของเมืองไทยที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากวัยทีนไทย โดยมีจุดแข็งอยู่ที่การมีสมาชิกกว่า 1 ล้านคนเชื่อมโยงโลกออนไลน์ไปกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเด็กทุกที่ทุกเวลา เช่น อินเทอร์เน็ต , เว็บไซต์ , มือถือ

ล่าสุด อาร์เอส ได้ร่วมกับ เอไอเอสวัน-ทู-คอล! พลิกโฉมคอมมูนิตีออนไลน์รูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของวัยทีนมากขึ้น จนเกิดปรากฏการณ์ความบันเทิงที่เชื่อมโลกออนไลน์และโลกแห่งความเป็นจริงที่รวมไลฟ์สไตล์ของวัยทีนเข้าด้วยกัน โดยการนำกลยุทธ์ Viral Marketing เพื่อใช้ในการทำตลาดทั้งในส่วนของโลกออนไลน์และโลกออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็น “วัน-ทู-คอล! Zheza Zim” ขึ้น

“ผมมองว่าคอมมูนิตีออนไลน์เป็นโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่มากสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์การรับรู้ให้แก่เด็ก โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการเจาะกลุ่มเด็กวัยทีน และต้องการที่จะสร้างแบรนด์ผ่านเว็บไซต์ชีซ่าดอทคอม จึงทำให้เกิดแนวคิดการเชื่อมโยงโลกออนไลน์กับโลกมือถือเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดและขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างให้เห็นกันง่ายๆ เลย อย่างงานแถลงข่าวเปิดตัว “วัน-ทู-คอล! Zheza zim” ก่อนวันงานแถลงข่าวเราไม่ได้มีการทำประชาสัมพันธ์ที่ไหนเลย แค่ขึ้นในเว็บชีซ่าว่าให้ชาวชีซ่ามารวมตัวกันโดยใส่เสื้อสีชมพูมา โดยที่ไม่ได้บอกเลยว่าจะมีงานอะไร พอวันงานมีแต่เด็กใส่เสื้อสีชมพูมากันทั้งนั้นเลย แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของเว็บไซต์ชีซ่าดอทคอมที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง”

อาหารสมองสไตล์ ยรรยง
ด้วยความที่เป็นคนรักการอ่านมาตั้งแต่เด็กและเป็นคนที่หมั่นเติมเต็มความรู้ใส่ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทำให้ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่อยู่กับการอ่านหนังสือ และดูแลตัวเองอยู่ตลอดเวลา พยายามกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ฟังเพลง และเล่นกีฬา จึงไม่แปลกเลยที่ทำให้วันนี้ยรรยงคือผู้บริหารที่อารมณ์ดีและเป็นกันเอง

ยรรยงเล่าให้ฟังว่า “โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก-มากที่สุด ต้องอ่านทุกวันก่อนนอน เป็นคนอยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องอ่านหนังสือตลอด ผมมีรู้สึกว่าหนังสือมันมีความคุ้มค่าและราคาถูกดีเมื่อเทียบกับความบันเทิงอื่นๆ ผมถือคติที่ว่า You are what You Read คุณอ่านหนังสือประเภทไหนคุณก็จะเป็นคนประเภทนั้น เราสนใจเรื่องอะไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น เพราะผมว่าหนังสืออะไรก็มีคุณค่าทั้งนั้น ที่สำคัญ เราต้องรู้ว่าเล่มนี้อ่านแล้วได้อะไร เล่มนี้ควรอ่านเวลาไหน สิ่งที่ผมนำมาใช้ในการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่ได้เรียนมา แต่การอ่านหนังสือเหล่านี้มันใช้ในการพัฒนาสมองและทำให้เราเข้าใจในสังคมที่เราอยู่มากกว่า ผมเชื่อว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นสำคัญ เราต้องทำความเข้าใจอยู่ตลอดเวลา”

ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูงแต่สำหรับเขาคนนี้แล้ว “การเรียนไม่มีคำว่าสาย” จะเห็นได้จากการที่ปัจจุบันยรรยงได้ศึกษาอยู่ที่ สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 12 (ปปร.12) โดยเขาให้เหตุผลว่า “ผมมองว่าการศึกษาไม่ได้จบลงที่การรับปริญญาเท่านั้น แต่เราจะต้องเติมอาหารให้สมองและต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะสังคมเราปัจจุบันนี้มันเปลี่ยนเร็วมาก ยิ่งเราทำธุรกิจตรงนี้ด้วย เราเลยต้องอ่านเยอะๆ แล้ววิเคราะห์ออกมาเอง ส่วนใหญ่ถ้าเรื่องที่เป็นแนวคิดใหม่ๆ จะเป็นสิ่งที่ได้จากอินเตอร์เน็ตมากกว่า ส่วนหนังสือเป็นสิ่งช่วยพัฒนาจิตใจให้เรามองจากวรรณกรรมเป็นตัวผ่านของสังคมว่าเขามองยังไง”

มาถึงตรงนี้..คงไม่มีใครปฏิเสธ หากบอกว่าวันนี้ “ยรรยง อัครจินดานนท์” คือผู้บริหารทางด้านการตลาดมืออาชีพแถวหน้าของเมืองไทยที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งที่มีแนวคิดการบริหารงานแบบผู้นำที่น่าจับตามอง..โดยเฉพาะภารกิจในการบริหารธุรกิจดิจิตอลคอนเทนต์และออนไลน์บิสสิเนสซึ่งเป็นธุรกิจที่เป็นไฮไลต์ของอาร์เอสในปีนี้