ธนานันท์ วิไลลักษณ์ ตัวตนคนปั้นแบรนด์ i-mobile

ธนานันท์ วิไลลักษณ์ ตัวตนคนปั้นแบรนด์ i-mobile

จาก ความชอบ ความมุ่งมั่น บวก ความคิดสร้างสรรค์ สู่ ความสำเร็จ ธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ไม่เพียงปั้นแบรนด์ i-mobile ของกลุ่มสามารถกระหึ่มในประเทศไทย แต่ยังโกอินเตอร์สร้างชื่อกระฉ่อนในภูมิภาคเอเชียและนอกจาก i-mobile แล้ว ธนานันท์ยังมีธุรกิจที่เขามีบทบาทสำคัญในความสำเร็จอีกก็คือ ธุรกิจไวน์และอุปกรณ์กอล์ฟ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากความชอบส่วนตัว ถึงแม้ทั้งสามสิ่งจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่เมื่อเขาสนใจสิ่งใดแล้ว ก็จะค้นคว้าศึกษาอย่างจริงจังและสามารถเปลี่ยนงานอดิเรกสู่ธุรกิจที่เติบโตได้อย่างน่าอัศจรรย์

i-mobile โทรศัพท์มือถือเฮาส์แบรนด์ของไทย สามารถก้าวสู่อันดับสองของตลาดในประเทศไทยได้ภายในสามปี ด้วยการสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน คือเป็นโทรศัพท์มือถือสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีลูกเล่นใหม่ๆ ฟังก์ชั่นหลากหลาย ในราคาที่เหมาะสม จึงเป็นผู้นำในการทำตลาดด้วยฟังก์ชั่นที่แปลกใหม่ อาทิ มิวสิคโฟน มีฟรีคอนเทนต์ MP 3 เป็น 100 เพลง TV Tuner Background Sound และในปัจจุบัน แบรนด์ i-mobile ได้ก้าวสู่ระดับภูมิภาค เอเซียแปซิฟิค ด้วยคีย์เวิร์ด No 1 Asean Mobile Phone

ธนานันท์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรม จาก University of Florida ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเทคนิคและอุปกรณ์ต่างๆด้านการสื่อสารเป็นอย่างดี และมีประสบการณ์ทางด้านธุรกิจโทรศัพท์มือถือมากว่า 10 ปี

เริ่มทำแบรนด์ i-mobile เมื่อปลายปี 2537ด้วยศักภาพของความเป็น Distributor โทรศัพท์มือถือที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัทสามารถ จึงมองเห็นช่องทางและจากการที่สัมผัสนวัตกรรมใหม่ๆจึงได้สร้างสรรค์ i-mobile VDO Phone เครื่องแรกออกสู่ตลาดในประเทศไทย ซึ่งได้สร้างความแปลกใหม่และเป็นที่ยอมรับในตลาดเป็นเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งได้ตามต่อด้วย i-mobile Music Phone Series ซึ่งนับเป็นเจ้าแรกที่บุกตลาดมิวสิคโฟน อย่างจริงจัง มีการสร้างความแตกต่างจากแบรนด์ทั่วไปด้วยการโหลดคอนเทนต์ เพลงภาพต่างๆ ให้เป็นพิเศษ ทำให้ i-mobile ครองใจวัยรุ่นได้ และยังคงพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งด้วย พรีเซ็นเตอร์ ซูเปอร์สตาร์ที่มีความสามารถหลากหลาย
ทั้ง ทาทายัง ไทเทเนียม หมอโอ๊ค บี้ เดอะสตาร์ และล่าสุด กอล์ฟ ไมค์ และยังขยายตลาดสู่ภูมิภาค โดยมี แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ของแต่ละประเทศ อาทิ Indonesian Idol ที่อินโดนีเซีย Toc Tien ซูเปอร์สตาร์สาวสวยที่เวียดนาม

ธนานันท์ได้ตั้งเป้าหมายความสำเร็จของแบรนด์ i-mobile ไว้ว่า “อยากให้ i-mobile เป็นที่ยอมรับ ให้ผู้ใช้มีความรู้สึกภูมิใจในโทรศัพท์มือถือแบรนด์ i-mobile ความสำเร็จของ i-mobile วันนี้มาจากความยอมรับของลูกค้าในตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้กับจุดเด่นของความเป็น มัลติมีเดีย มีฟังก์ชั่นที่ครบครัน และ Value for money

สำหรับในประเทศ ไอ-โมบาย ต้องการรักษาความนิยมในใจผู้บริโภคเอาไว้ maintain ส่วนแบ่งตลาดในไทย และพร้อมที่จะขยายธุรกิจในต่างประเทศ ในอนาคตตลาดต่างประเทศก็จะเป็นเป้าหมายหลักของ i-mobile โดยหาโอกาสทางการตลาดในประเทศใหม่ๆ เช่น ตุรกี กลุ่มประเทศอเมริกาใต้ บราซิล และ อาร์เจนตินา”

ในด้านเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือ i-mobile ธนานันท์ ได้ให้ความสำคัญและพัฒนามาโดยตลอด “เราคำนึงถึงการตัดสินใจซื้อสินค้าของลูกค้า ไอ-โมบาย ซึ่งมาจากความชื่นชอบในฟังก์ชันมัลติมีเดีย และความคุ้มค่าในผลิตภัณฑ์ แนวโน้มของตลาดนั้น สินค้าจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ที่ผ่านมาเราจะเป็นผู้ริเริ่มนำฟังก์ชั่นใหม่มาใส่ เช่น ฟังก์ชั่นวิทยุสื่อสาร ดูทีวี สำหรับปีนี้ ไอ-โมบาย จะโปรโมตโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชั่น TV มากขึ้น จากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Chip TV, แบตเตอรี่ และเสาอากาศรับสัญญาณ เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนที่เป็น TV Tuner แล้วเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นมาก

นอกจาก ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ไอ-โมบาย ก็เพิ่มความคุ้มค่าให้แก่ผู้ใช้ และมีจุดเด่นไม่เหมือนแบรนด์อื่นๆเช่น คอนเทนต์มือถือ จากการพัฒนา i-Link ที่ให้ดาวน์โหลดคอนเทนต์ ข่าวสาร และเกมใหม่ๆ เรามีให้ดาวน์โหลดฟรีด้วย จนปัจจุบันยอดการดาวน์โหลดก็มีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ”

สำหรับธุรกิจไวน์ที่กำลังไปได้ดีเช่นกันนั้น ธนานันท์ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่เริ่มสนใจในธุรกิจ ไวน์ที่ได้ทำมาแล้วกว่า 15 ปี ว่า “จากที่ชอบดื่มไวน์แล้ววันหนึ่งสั่งไวน์มาเปิดแล้วไวน์เสีย เลยคิดว่าทำเองดีกว่า โดยการเปิดธุรกิจ บริษัท เบสท์ เซลล่า จำกัด ปัจจุบัน เบสท์ เซลล่า นับเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายไวน์จากต่างประเทศด้วยวิธีการส่งไวน์โดยใช้ตู้เย็นเพียงรายเดียวในตลาด”

ส่วนในเรื่องธุรกิจอุปกรณ์กอล์ฟ ก็เริ่มจากความชอบในกีฬากอล์ฟเช่นเดียวกัน ธนานันท์ เล่าว่า

“สนใจกีฬากอล์ฟมานาน ตอนนี้มีเวลาตีอาทิตย์ละครั้ง ได้รางวัลมาบ้าง ที่ประทับใจในปี 97 คือการได้รับถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ จนเมื่อ 7 ปีก่อนจึงมีความคิดทำธุรกิจขายอุปกรณ์กีฬากอล์ฟของตัวเอง จึงเปิด บริษัท อีซี่กอล์ฟ จำกัด ขึ้นมา นอกจากจัดจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟแล้ว ก็ยังมีส่วนร่วมสนันสนุนนักกีฬากอล์ฟชาวไทยทั้งรุ่นเด็กเยาวชน และนักกีฬาอาชีพในการลงแข่งขันรายการสำคัญๆ อีกด้วย”

ส่วนกิจกรรมอื่นๆนอกจากเวลาว่างของตัวเองกับกีฬากอล์ฟแล้วก็จะใช้เวลากับครอบครัว พาลูกๆ ไปออกกำลังว่ายน้ำ และไปเที่ยวพักผ่อนกันทั้งครอบครัว

การที่สามารถนำสิ่งที่ชอบหรืองานอดิเรกมาเป็นธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ธนานันท์มีข้อคิดหรือแนวทางในการดำเนินชีวิตคือ

“การทำ และการให้สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับการทำงานคิดเสมอว่า ต้องให้คนที่เราทำงานด้วยทุกคน ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และต้องสู้เพื่อความถูกต้อง ทุกคนเป็นคนที่ฉลาด เราต้องไม่มองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับลูกค้าของเรา ต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด”

จะเห็นได้ว่าบริษัททุกบริษัทที่ทำอยู่ก็จะเป็นการค้าขายสินค้าหมดทำอย่างไรจะให้ลูกค้ารู้สึกว่า ซื้อของจากเราแล้วได้มากกว่าปกติ จากแนวคิดนี้ก็นำไปใช้กับการทำงานทุกๆ อย่าง เป็นที่มาของการนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใหม่ของตัวเอง หรือคิดหาฟังก์ชั่นใหม่ๆ สำหรับโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุด

ความสำเร็จของแบรนด์ ไอ-โมบาย วันนี้ก็มาจากที่ลูกค้ามองว่าสินค้าของเราตรงกับความต้องการ ทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน มีความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น การบริการหลังการขาย และการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจมากที่สุด”