xs
xsm
sm
md
lg

มุมมองของ ผู้ชายขายถุงน่อง “พิภพ โชควัฒนา” สร้างเสน่ห์บนเรือนร่างผู้หญิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มีผู้ชายเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่มีโอกาสได้ทำสินค้าที่เกี่ยวกับเรียวขาหรือว่าเรือนร่างของผู้หญิง สำหรับผมถือว่าเป็นความโชคดี ที่มีโอกาสได้ทำงานตรงนี้และได้นำมุมมองของผู้ชาย ที่รู้ว่าเชอรีล่อนจะสร้างความความเซ็กซี่ในเรือนร่างผู้หญิง ตั้งแต่เรียวขาไปจนถึงส่วนอื่นๆได้อย่างไร ผมเชื่อว่ามุมมองความเซ็กซี่ระหว่างผู้หญิงมองกับผู้ชายมองแตกต่างกัน”

นี่คือคำพูดของ “พิภพ โชควัฒนา” หนึ่งในเจเนอเรชั่นที่ 3 ของทายาทตระกูล “โชควัฒนา” ที่เข้ามาบริหารงานผลิตภัณฑ์ ถุงน่อง เชอรีล่อน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) โดยดูแลทั้งด้านการตลาด การขาย และการผลิต ทั้งนี้เพื่อพัฒนาให้แบรนด์“เชอรีล่อน” ซึ่งเป็นแบรนด์เก่าแก่ของเมืองไทยได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

พิภพ เล่าถึงที่มาและที่ไปของถุงน่องเชอรีล่อนโดยย้อนปูมหลังไปเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมาว่า

“การใส่ถุงน่องในสมัยนั้น ถือว่าเป็นแฟชั่นใหม่มาก หลายคนมองว่าไม่ใช่แฟชั่นเมืองสยามอย่างแน่นอน จึงคิดว่าตลาดไม่น่าจะเกิดได้ ทว่าแฟชั่นถุงน่องกลับแจ้งเกิด และกลายเป็นสินค้านิยมสำหรับกลุ่มผู้ดี โดยมีผู้เปรียบเสมือนเป็นไอดอลในยุคนั้น ก็คือ เจ้ากอแก้ว ประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หรือว่า “เจ้าป้า” ผู้ที่พกพาความมั่นใจและนำแฟชันจากยุโรปมาแพร่หลายที่ประเทศไทย กระทั่งเชอรีล่อนกลายเป็นเจเนอริกเนม หรือเป็นชื่อเรียกแทนถุงน่องไปแล้ว และกลายเป็นสินค้าที่สาวไทยนิยมใส่บนเรียวขากันมาอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบันนี้”

ทว่าในช่วงที่ผ่านมา “ถุงน่อง” ยังไม่ได้มีรูปแบบการดีไซน์อะไรมากนัก ยังคงเป็นแบบเบสิกหรือพื้นฐาน ไม่ได้มีลวดลาย เก๋ไก๋มากนัก หรือลูกเล่นอะไรที่แพรวพราว แต่เมื่อปี 2550 เริ่มเห็นว่าแฟชั่นถุงน่องเริ่มแจ้งเกิด มีรูปแบบต่างๆออกมารวมไปถึงเป็นรูปแบบแฟนตาซี มีสีสันและลวดลายที่เข้ามาเป็นลูกเล่นให้เรียวขาผู้หญิงไทยดูมีเสน่ห์มากขึ้น และไม่ได้มีเฉพาะผู้ใหญ่อายุระหว่าง 24-30 ปี เท่านั้นที่เป็นลูกค้าของเรา ตอนนี้เองเด็กวัยรุ่นอายุระหว่าง 17-20 ปี ก็กลายเป็นลูกค้าของเราแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอิทธิพลจากกระแสแฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่น ทำให้ความนิยมใส่ถุงน่องเฉพาะสาวทำงานขยายวงกว้างมาสู่เด็กสยามใส่เป็นแฟชั่นกันมากขึ้น

ในช่วงปลายปี 2550 เชอรีล่อนเริ่มเห็นกระแสแฟชั่นมาแรงมากขึ้น สาวไทยเริ่มใส่ “เรกกิ้ง” หรือเป็นกางเกงยืดแนบตัว เชอรีล่อนจึงดีไซน์เรกกิ้งในรูปแบบใหม่ ติดกระดุมปลายขา ติดริบบิ้น นอกจากนี้ยังมีสีสันให้เลือกมากมาย ซึ่งราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 300 บาท ส่วนหากเป็นกลุ่มเบสิก ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 195 บาท เมื่อเทียบกับสินค้าของต่างประเทศถือว่าถูกมาก ส่วนในแง่ของการทำตลาดปีนี้เราบูมกระแสเรกกิ้งอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าแฟชันเรกกิ้งแบบสีสันจะมาแรง โดยเราได้มีการออกแคตาล็อก การลงโฆษณาตามนิตยสารชั้นนำ ตลอดจนคอลเลกชันใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“ผมว่า เวลานี้ สาวไทยเปลี่ยนทัศนคติไปมาก มองว่าถุงน่องเป็นเสมือนเครื่องประดับชิ้นหนึ่งไปแล้ว และความแพร่หลายถุงน่องและเรกกิ้งลามจากสาวเมืองกรุงสู่สาวภูธรเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยพบว่าเชอรีล่อนมียอดขายเพิ่มขึ้น”

พิภพ เล่าว่า ในอดีตเมื่อพูดถึงเชอรีล่อน หลายคนนึกถึงถุงน่อง บางก็อาจจะนึกถึงตุ๊กตางานประดิษฐ์จากถุงน่อง หรือเรียกว่า “เชอรีล่อน กิ๊ฟ” ซึ่งเป็นการตลาดในยุคก่อน คือ นำถุงน่องมาสร้างสรรค์เป็นตุ๊กตาแบบต่างๆ หรือกระทั่งดอกไม้ เรียกว่าเป็นการสร้างรายได้เสริมให้สาวไทยได้ยุคนั้นเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว แต่เมื่อปลายปี 2547 เชอรีล่อนได้ขยายไลน์สินค้าค้ากลุ่มบอดี้แวร์ภายใต้ชื่อ “เชอรีล่อน อินทิเมท” ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ในตลาดชุดชั้นในเมืองไทย ด้วยดีไซน์ที่เน้นความเซ็กซี่ของผู้หญิง ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะเราต้องการทำให้เชอรีล่อนเป็นมากกว่าแค่ถุงน่อง

จากนั้นมาเราเริ่มพัฒนาสินค้าในกลุ่ม Innerwear อีกหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มชุดชั้นในกระชับทรง Body Shape Up และกลุ่ม Cherilon Basic ประกอบด้วยเสื้อสายเดี่ยว เสื้อกล้าม แบบเรียบง่าย ผลิตจากผ้า Cotton 100% โดยเปิดตัวออกมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเด็กนักเรียนเป็นหลัก ซึ่งปีนี้บริษัทจะดำเนินการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น เพราะถือว่าเป็นสินค้ากลุ่มใหม่ของเชอรีล่อน

หากมองไปในเชิงของโครงสร้างธุรกิจของเชอรีล่อน แบ่งออกเป็น เชอรีล่อน อินทิเมท เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ ส่วนอินเนอร์แวร์ เจาะกลุ่มผู้หญิงเซ็กซี่ ขณะที่เชอรีล่อน เบสิก หรือเสื้อกล้ามวางโพซิชั่นนิ่งเป็นแมส จำหน่ายราคา 195 บาท ใกล้เคียงท้องตลาดทั่วไป ซึ่งในปีที่ผ่านมากลุ่มเบสิกมีอัตราการเติบโต เป็นตัวเลขสองหลัก ส่วนเชอรีล่อน อินทิเมท มีอัตราการเติบโต 20-30%

ทว่าถุงน่องยังเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทเป็นหลัก โดยเชอรีล่อนเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 80% จากมูลค่า 500-600 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้นเชอรีล่อนยังเป็นที่รู้จักในประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ โดยได้ส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย เป็นต้น

“ผมทำงานเกี่ยวกับเชอรีล่อนมา 6 ปี รู้สึกสนุกดีกับงานที่เกี่ยวกับเรียวขาและเรือนร่างของผู้หญิง บางครั้งก็มีส่วนร่วมในการออกแบบ ว่า สินค้าควรเป็นอย่างไร ควรจะมีความความลึกมากน้อยแค่ไหน ผ่าหน้าหรือผ่าหลัง รูปแบบไหนถึงจะมีความเซ็กซี่ ผมว่าผู้หญิงบางคนชอบให้ลึกมากๆ ถึงจะดูเซ็กซี่ แต่การเน้นลึกมากก็ไม่ได้หมายความว่าในสายตาของผู้ชายจะมองว่าเซ็กซี่เสมอไป” พิภพกล่าว

เรื่องของเรียวขาและเรือนร่างของผู้หญิงไม่ลองก็ไม่รู้

พร้อมทั้งเอ่ยถึงมุมมองในการบริหารงานว่า “สำหรับในแง่การทำงานของผมแล้ว ต้องขจัดความกลัวออกไป แม้ว่าขณะนี้ผมเองนอกจากต้องเผชิญกับคู่แข่งในตลาดเดียวกันแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนการผลิตสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เท่าตัว แต่เรายังไม่มีแผนปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง”

ส่วนความท้าทายที่ยากยิ่งอีกอย่างหนึ่งในปีนี้ คือ กระแสแฟชั่นที่มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากผลพวงจากราคาน้ำมัน ภาวะเศรษฐกิจ ราคาสินค้าที่แพงเพิ่มขึ้น สาวไทยจึงมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย

ทุกวันนี้ หากเอ่ยชื่อ “เชอรีล่อน” เชื่อว่าผู้หญิงในยุคนี้คงไม่ได้แค่รู้จักแต่เฉพาะถุงน่องเท่านั้น แต่มั่นใจว่ามีผู้หญิงไทยอีกหลายคน ที่รู้จักว่าภายใต้เชอรีล่อนยังมีสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อินเนอร์แวร์ ชุดชั้นในกระชับทรงอก หรือกระทั่งกลุ่มเชอรีล่อน เบสิก เสื้อผ้าสายเดี่ยว เสื้อกล้าม แบบเรียบง่าย ผลิตจากผ้า Cotton 100%

อาณาจักรเชอรีล่อนกำลังจะขยับอย่างเต็มรูปแบบจากเรียวขาสู่เรือนร่างหญิงไทย ผลิตภัณฑ์ของผู้หญิงที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของผู้ชายที่ชื่อว่า “พิภพ โชควัฒนา” คนนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น