xs
xsm
sm
md
lg

บางพัฒน์โฮมสเตย์ ผลงานดีๆ ของเด็กเทคนิคพังงา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"บางพัฒน์โฮมสเตย์" จังหวัดพังงา กำลังได้รับการกล่าวขานจากนักท่องเที่ยวว่า บริการเยี่ยม อาหารอร่อย จัดทริปสัมผัสธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตชาวประมง

และที่น่าทึ่งสุดๆ โฮมสเตย์แห่งนี้บริหารโดยนักศึกษาวิทยาเทคนิคพังงา 5 คน ได้แก่ น.ส.สายสุนีย์ ขวัญเมือง น.ส.อารีย์ หัสนีย์ น.ส.ปาฎลี สุวรรณกิจ น.ส.มลฤดี นิเกตุ และนายกนกกิจ ทินโน โดยมีอาจารย์ประทิน เลี่ยนจำรูญ และว่าที่ร้อยโทพงศักดิ์ สนั่นพัฒนพงศ์ เป็นที่ปรึกษา

สายสุนีย์เล่าจุดกำเนิดบางพัฒน์โฮมสเตย์ว่า ต้นปี 2550 วิทยาลัยเทคนิคพังงา ส่งโครงการ "บางพัฒน์โฮมสเตย์" เข้าร่วมประกวดกับโครงการ "อาชีวะสร้างสรรค์ แปรฝันสู่ธุรกิจ ปี 2 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งได้ดำเนินร่วมกับสำนักงาน ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และม.ธรรมศาสตร์ จนกระทั่ง 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา "บางพัฒน์โฮมสเตย์" ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทผลการดำเนินงานดีเด่น ซึ่งนักศึกษาและอาจารย์ที่ปรึกษา จะได้ไปทัศนศึกษาดูงาน ณ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 23-25 ม.ค.นี้ พร้อมรับเงินรางวัล 30,000 บาท

"ในช่วง 1 ปีที่ดำเนินธุรกิจโฮมสเตย์ ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับรางวัลชนะเลิศ พวกเราคิดแค่ว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมความสวยงามทางธรรมชาติของป่าชายเลนบริเวณบ้านบางพัฒน์ เที่ยวชมอ่าวพังงา รับประทานอาหารทะเลเท่านั้น" สายสุนีย์เล่า

บ้านบางพัฒน์ เป็นชุมชนเล็กๆ อยู่บนเกาะในอ่าวพังงา มีลักษณะเป็นบ้านกลาง น้ำยกเสาสูง ปลูกบ้านเรียงติดกันประมาณ 47 หลังคาเรือน มีประชากรประมาณ 204 คน สภาพพื้นที่เป็นเกาะ มีป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ ไม่มีพื้นดินในการทำอาชีพเพาะปลูก ทุกครัวเรือนจึงประกอบอาชีพประมงชายฝั่ง

ผลพวงจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิปลายปี 2547 ชุมชนบ้านบางพัฒน์ได้รับผลกระทบ อุปกรณ์ เครื่องมือทำมาหากิน เรือประมง และกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ชนิดที่ว่าชาวบ้านไม่สามารถประกอบอาชีพทางการประมงได้ และเหตุการณ์นั้นยังทำให้สัตว์ทะเลในแถบนั้นลดลงเป็นอย่างมาก เป็นปรากฏการณ์ที่ชาวบ้านไม่เคยประสบมาก่อน ทางราชการตระหนักถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน เล็งเห็นว่าหมู่บ้านบางพัฒน์ เป็นสถานที่ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งในอ่าวพังงา จึงส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

จากการส่งเสริมของราชการ ชุมชนแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว และจุดประกายให้เกิดแนวความคิดที่ทำเป็นธุรกิจโฮมสเตย์แบบครบวงจร เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวได้ศึกษาวิถีชีวิตของชุมชน การทำประมงพื้นบ้าน โดยจัดเป็นที่พักและอาหารให้แก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนนั่งเรือเที่ยวชมรอบบริเวณใกล้เคียง และบริการนำเที่ยวอ่าวพังงาเพื่อชมธรรมชาติอันสวยงามของเขาตะปู เขาพิงกัน ถ้ำลอด เกาะปันหยีที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก

สายสุนีย์บอกว่า โชคดีที่ชาวบ้านหลายคนมีอาชีพไกด์ จึงได้แนะนำโฮมสเตย์ของพวกเราให้แก่นักท่องเที่ยวเข้ามา พัก พร้อมเสนอจุดขายแก่นักท่องเที่ยวว่า เขาจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติทางทะเล ด้วยการปล่อยปูไข่ลงในธนาคารปู ตามโครงการคืนปูไข่สู่ธรรมชาติ และปลูกป่าชายเลนเพื่อให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำกลับคืนสู่ท้องทะเลต่อไป

"นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการของเราส่วนมากชื่นชอบอย่างมาก เนื่องจากพวกเขามีโอกาสสัมผัสธรรมชาติจริงๆ ปล่อยปูไข่ลงในธนาคารปูที่เราเตรียมไว้ และให้ช่วยปลูกป่าคนละต้น เพราะที่อื่นจะไม่มีกิจกรรมเช่นนี้ แต่ไกด์จะอธิบายเหตุผลในการปล่อยสัตว์น้ำคืนสู่ธรรมชาติว่า ถ้าเราจับสัตว์น้ำมารับประทานทุกวัน สัตว์น้ำเหล่านี้จะลดลงอย่างรวดเร็วและเติบโตไม่ทัน เพราะมีแต่คนจับมากินไม่มีคนเพาะพันธุ์ ส่วนต้นไม้ ถ้าหากเราไม่มีป่าชายเลนกันคลื่นสึนามิ ชุมชนบ้านบางพัฒน์อาจเหลือเพียงชื่อ"

นอกจากให้นักท่องเที่ยวปล่อยปูไข่แล้ว ชุมชนแห่งนี้ยังมีกติกาว่า ชาวบ้านทุกคนจะต้องนำปูไข่มาปล่อยที่ธนาคารปูวันละ 1 ตัว เพราะปูไข่ 1 ตัวออกลูกนับแสนตัว แต่เราไม่หวังว่าจะรอดทั้งหมด ขอเพียง 3% ที่รอด เมื่อลูกปูโตและแข็งแรงพอ เราถึงจะปล่อยคืนธรรมชาติ รวมทั้งห้ามจับสัตว์น้ำบริเวณ 15 ไร่

อารีย์เล่าว่า มีนักท่องเที่ยวหลายคนติดอกติดใจกับสไตล์ในการบริการของเรา บางรายหรือบางกรุ๊ปอยู่นาน 7 วัน 10 วัน บางรายเป็นเดือนยังมี ครั้งแรกที่นักท่องเที่ยวขอ อยู่ต่อ วิตกกังวลเหมือนกันว่าจะจัดโปรแกรมเที่ยวอย่างไร ทว่าเขาจะขออาศัยชาวบ้านไปจับปลา จับปู คือเขาอยากเห็นวิธีการจับสัตว์น้ำของบ้านเรา ยิ่งชาวบ้านให้ลงมือทำเองโดยสอนขั้นตอนการจับให้ เขามักแสดงกิริยาพอใจ ด้วยการยิ้มแย้ม หัวเราะตลอดเวลา บางทีจับปู ปลาได้ตัวเล็ก เขาจะปล่อยลงทะเลเอง

"กว่า 1 ปีธุรกิจบางพัฒน์โฮมสเตย์ เติบโต จนต้องขยายที่พักจากเริ่มแรกมีเพียง 1 หลัง ขณะนี้มี 5 หลัง และอีก 2-3 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 12 หลัง รองรับนักท่องเที่ยวครั้งหนึ่งไม่น้อยกว่า 50 คน" อารีย์ให้ข้อมูล

ที่สำคัญคือ ที่บางพัฒน์โฮมสเตย์นั้นได้ดึงชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยการให้ชาวบ้านนำเรือหัวโทงใช้เป็นพาหนะพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ซึ่งเรือที่พานักท่องเที่ยวต้องมีชุดเซฟตี้ เช่น เสื้อชูชีพ เป็นต้น ส่วนแม่บ้านจะหมุนเวียนกันมาทำอาหารท้องถิ่นให้แก่นักท่องเที่ยว และซื้ออาหารสดจากคนในชุมชน

"เราพยายามกระจายรายได้ไปสู่ทุกครัวเรือน และตลอด 1 ปีเศษที่ดำเนินกิจการชาวบ้านทุกหลังคาเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้น และส่งเสริมธุรกิจของเราเป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังช่วยดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวทุกย่างก้าว"

อารีย์เล่าต่อว่า นับแต่ธุรกิจโฮมสเตย์ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ชาว บ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนวิทยาลัยมีรายได้ภายหลังหักค่าใช้จ่ายเฉลี่ยไม่น้อยกว่า เดือนละหมื่นบาท ซึ่งรายได้จริงมากกว่านี้ เงินทิปที่นักท่องเที่ยวให้รวมกันแล้วมากกว่าเท่าตัว

อย่างไรก็ดี การมาพักบางพัฒน์โฮมสเตย์มีเงื่อนไข 3 ข้อคือ ต้องแต่งกายให้สุภาพ ห้ามนำ-ดื่มสุรา ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในชุมชน เนื่องจากบางพัฒน์เป็นชุมชนอิสลาม

...สำหรับนักท่องเที่ยวรายใดที่สนใจไปเที่ยวบางพัฒน์โฮมสเตย์ สามารถโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลได้ที่ 08-6274-4557, 08-4838-2993, 0-7641-2077

กำลังโหลดความคิดเห็น