ทุกๆ ปี งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ความภาคภูมิใจเหนือสิ่งอื่นใดของนิสิตจุฬาฯ คือ การได้เห็นขบวนพระเกี้ยวเคลื่อนตัวอยู่ในสนามฟุตบอลโดยมี 'ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว' ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของเหล่าลูกพระเกี้ยวเป็นผู้อารักขาสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์นี้เข้าสู่สนาม
ล่าสุด รั้วจามจุรีได้คัดเลือกตำแหน่งตัวแทนนิสิตจุฬาฯ 2 ใน 10 คน เข้ารับหน้าที่เป็น 'ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว' เสร็จสิ้นแล้วเป็นที่เรียบร้อย ตัวแทนนิสิตที่ผ่านการคัดเลือกและเข้ามารับหน้าที่ดังกล่าวได้แก่ 'หนุ่ย-นิสิต รุ่งรุจิรัตน์' นิสิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ชั้นปีที่ 4 และ 'เจ พัทธจิต ตั้งสินมั่นคง' สาวสวยจากคณะอักษรศาสตร์ชั้นปีที่ 3
'หนุ่ย-นิสิต รุ่งรุจิรัตน์' เผยสาเหตุที่มาสมัครเป็นตัวแทนนิสิตเพราะอยากที่จะลองกิจกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำ
'ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย เราก็ทำกิจกรรมมาตลอด แต่สำหรับงานฟุตบอลประเพณีรู้สึกว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ มีความแปลกใหม่ ยังไม่เคยมีโอกาสที่จะทำ จึงลองสมัครเข้ามา ซึ่งก็ได้รับประสบการณ์ดีๆ หลายอย่าง เช่น ได้รู้จักกับเพื่อนต่างคณะ ตลอดจนได้มีส่วนร่วมกับงานฟุตบอลประเพณีมากขึ้นด้วย'
ส่วน 'เจ พัทธจิต ตั้งสินมั่นคง' จากคณะอักษรศาสตร์ชั้นปีที่ 3 บอกเล่าถึงตัวเองว่า เธอก็เป็นเด็กกิจกรรมเช่นกัน มีโอกาสได้ช่วยงานของ มหาวิทยาลัยมาตลอด การมาสมัครเป็นตัวแทนนิสิตเหมือนกับการนำศักยภาพของตัวเองมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
'ที่ผ่านมาก็มีโอกาสทำกิจกรรมตลอดอยู่แล้ว ทำให้ได้ฝึกทักษะการทำงานรอบด้านและได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มามากมาย การสมัคร เป็นกลุ่มตัวแทนนิสิตก็เหมือนกับเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้แสดงศักยภาพและสิ่งที่เราได้เรียนรู้ แม้ตอนคัดเลือกจะกดดันแต่นั่นก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งค่ะ'
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับการคัดเลือกนิสิตมารับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ แน่นอนว่าจะต้องผ่านด่านการพิจารณาจากคณะกรรมการอย่างเข้มงวด อันประกอบด้วย คณาจารย์จากสำนักงานนิสิตสัมพันธ์และรองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิตทุกคณะ องค์การบริหารนิสิตจุฬาฯ และอดีตตัวแทน นิสิตจุฬาฯ แล้วตัดสินจากบุคลิกภาพ รูปลักษณ์ การวางตัว กิริยามารยาท ผลการเรียน ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งความรู้รอบตัวอันควรจะมี
'จริงๆ แล้วตัวแทนนิสิตไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติใดที่ต้องเด่นเป็นพิเศษ ขอเพียงยังมีสถานภาพเป็นนิสิตจุฬาฯ และสามารถสะท้อนให้คนอื่นภายนอกได้เห็นตัวตนที่แท้จริงในมุมมองต่างๆ ได้ก็พอ ถ้าให้เดาว่าทำไมผมถึงได้รับเลือก ผมเองว่าเราก็มีคุณสมบัตินั้น คล้ายๆ กับทุกคน แต่คงแสดงออกเยอะจนได้เป็นตัวแทน' หนุ่ยกล่าว
ขณะที่เจให้ความเห็นว่า 'คงเป็นเพราะว่าเรารักษาความเป็นตัวของ ตัวเองไว้ได้ ในขณะเดียวกันเราก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดได้เหมือนกันจึงทำให้ได้รับคัดเลือกค่ะ ซึ่งความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากกลุ่มตัวแทนนิสิตอย่างพวกเราต้องทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์งาน บอลฯ และต้องทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับชุมชนภายนอกด้วยค่ะ'
นอกเหนือจากตัวแทนที่มีบทบาทสำคัญของทั้งสองสถาบัน สิ่งที่สร้างแรงดึงดูดให้แก่งานฟุตบอลประเพณีอีกประการหนึ่ง ได้แก่ ขบวนล้อการเมืองฝีมือนิสิตนักศึกษา ซึ่งในปัจจุบัน นับเป็นไฮไลต์ที่สื่อมวลชน และประชาชนให้ความสนใจมากเลยทีเดียว โดยเรื่องราวที่ถ่ายทอดในแต่ละปีล้วนเกี่ยวข้องกับธีม (Theme) หลักของงานบอลในปีนั้นๆ และสำหรับปีนี้ ธีมของงานคือการ 'ย้อนมอง' อันหมายถึงการย้อนกลับไปถึงวันวานเก่า ๆ และหันมาทบทวนถึงสิ่งที่จะทำให้สังคมไทยน่าอยู่มากขึ้น
สำหรับธีมเรื่องการ 'ย้อนมอง' หนุ่ยมีความเห็นว่า 'เราควรย้อนมองตนเองว่าเราทำอะไรดีที่สุดหรือยัง ยังมีข้อบกพร่องอะไรบ้างที่ควรรีบแก้ไข เพราะสังคมคือการรวมตัวของกลุ่มคน เมื่อคนซึ่งเป็นหน่วยย่อยมีประสิทธิภาพ สังคมซึ่งเป็นองค์รวมถึงจะมีประสิทธิภาพได้ หากทุกคนนำข้อผิดพลาดกลับมาแก้ไขปรับปรุง สังคมต้องน่าอยู่ขึ้นแน่นอนครับ'
การช่วยกันพัฒนาสังคมไม่ว่าเป็นไปในแนวทางไหนนั้นก็นับเป็นหน้าที่ที่ทุกๆ คนสามารถจะพึงกระทำได้ แต่กระนั้นเองทั้งสองบอกหากเขาทั้งคู่ไม่ได้รับเลือกเป็นผู้อัญเชิญพระเกี้ยว ก็อยากขอมีส่วนร่วมกับกิจกรรมงานบอลและการชักชวนเพื่อนให้เข้ามาทำกิจกรรมเพื่อสังคมอยู่ดี
'ถ้าไม่ได้เป็นตัวแทนนิสิต เป็น Staff ก็ยังดี เพราะได้มีส่วนร่วมกับกิจกรรมช่วยงานเพื่อนๆ กันอยู่ รวมถึงหนุ่ยเองก็จะมีหน้าที่ในการดูแลน้องๆ ที่คณะในงานฟุตบอลประเพณี เช่น การสร้างเสลี่ยง อัญเชิญพระเกี้ยว การซ่อมแซมแผ่นโค้ด ยังไงก็มีหน้าที่รองรับกันอยู่แล้ว' ทั้งสองกล่าว
สำหรับการได้รับตำแหน่งผู้แทนนิสิต พวกเขาจะต้องรับหน้าที่เป็นตัวแทนในการทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ เช่น โครงการเลือดไม่แบ่งสี และโครงการทำสมุดจากกระดาษเหลือใช้เพื่อน้อง ส่วนเรื่องเรียนทั้งสองบอกไม่ต้องเป็นห่วง เพราะยังไงก็ยึดการเรียนเป็นหลักอยู่แล้ว
'แม้ตอนนี้เราจะต้องช่วยงานกิจกรรม และการบำเพ็ญประโยชน์ ตลอดจนหน้าที่ประชาสัมพันธ์งานบอลก็จริง แต่เราก็ให้ความสำคัญกับการเรียนมาเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน' เจยืนยันหนักแน่น
ท้ายสุด สองผู้อัญเชิญพระเกี้ยวฝากทิ้งท้ายถึงคนที่จะมาร่วมในงานฟุตบอลประเพณีว่า 'งานครั้งนี้เป็นการแสดงพลังของนิสิตนักศึกษา จุฬาฯ และธรรมศาสตร์ ก็อยากให้ทุกคนเฝ้าติดตามงานฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 64 ณ สนามศุภชลาสัย ในวันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2551 นี้ค่ะ'
***********************
หนุ่ย นิสิต รุ่งรุจิรัตน์
เกิด : 25 กันยายน 2529
คณะ : วิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ชั้นปีที่ 4
เกียรติประวัติ : รางวัลนักเรียนดีเด่น เคยได้รับทุน ฯลฯ
ผลงาน : เล่นละคร ถ่ายโฆษณา เป็นสภาเยาวชนแห่งชาติ ฯลฯ
งานอดิเรก : อ่านการ์ตูน นิยาย และนิตยสารต่าง ๆ เล่นเกม
ความสามารถพิเศษ : เล่นกีฬา
*************************
ชื่อ : เจ พัทธจิต ตั้งสินมั่นคง
เกิด : 8 กรกฎาคม 2531
คณะ : อักษรศาสตร์ สาขาวิชาภาษาจีน ชั้นปีที่ 3 เกรดเฉลี่ย 3.92
เกียรติประวัติ : รางวัลนักเรียนดีเด่นในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6, รางวัล
ผลการเรียนดีในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6, เคยรับทุนศาสตราจารย์รอง
ศยามานนท์ จากคณะอักษรศาสตร์ ในระดับชั้นปีที่ 1
ผลงาน : ละคร ถ่ายโฆษณา เป็นสภาเยาวชนแห่งชาติ ฯลฯ
งานอดิเรก : อ่านหนังสือ, ชมภาพยนตร์
ความสามารถพิเศษ : เปียโน , ขิม , ภาษาจีน
*************************