xs
xsm
sm
md
lg

วรนล สามโกเศศ กับชีวิตมุมเล็กๆ ทายาทสนามกอล์ฟหมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากเอ่ยถึงโครงการสนามกอล์ฟเมืองแก้วแล้ว น้อยคนนักจะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของความยิ่งใหญ่ของโครงการสนามกอล์ฟแห่งนี้ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของตระกูลสามโกเศศ ภายใต้ร่มเงาของหัวเรือใหญ่ "วิชัย สามโกเศศ" ที่สามารถบริหารจัดการโครงการสนามกอล์ฟเมืองแก้วจนมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!! แต่การขับเคลื่อนธุรกิจของตระกูลสามโกเศศ กำลังผลัดใบไปสู่ทายาทรุ่นใหม่ "วรนล สามโกเศศ" หรือคุณอุ้ม นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่บทบาทหนึ่งกับการดูแล ธุรกิจของตระกูล ทั้งโครงการสนามกอล์ฟเมืองแก้ว และล่าสุดกับการปัดฝุ่นโครงการขนาดใหญ่ภายใต้ชื่อ "เชียงใหม่ ไฮแลนด์ กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท" ที่มีดีกรีสนามกอล์ฟน้องใหม่สวยงามที่สุดอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชีย บนเนื้อที่ 700 ไร่ ตำบลออนเหนือ กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่

โดยเฉพาะโครงการยักษ์ที่เชียงใหม่ ใช่จะมีเพียงสนามกอล์ฟอย่างเดียว แต่การพลิกฟื้นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งบ้านเดี่ยวระดับหรูรอบสนามกอล์ฟ คอนโดมิเนียม รวมเบ็ดเสร็จมูลค่าโครงการในตอนนี้ 4,000 ล้านบาท กำลังเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของทายาทตระกูลสามโกเศศ

"การเข้ามาสู่ธุรกิจของครอบครัว จะเรียกว่าจงใจก็คงไม่ เพราะบังเอิญช่วงที่ใกล้จะจบการศึกษาที่ประเทศแคนาดา ทางบ้านได้เรียกกลับมาช่วยงาน สนามกอล์ฟ จำได้แม่นเลย วันที่ 30 เมษายน 2547 และเข้ามาเริ่มงานเลยในวันที่ 1 พ.ค.ปีเดียวกัน ซึ่งการเข้ามาทำงานก็ได้รับตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการสนามกอล์ฟเมืองแก้ว "วรนล สามโกเศศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ม่อนพญาพรม จำกัด และสนามกอล์ฟเมืองแก้ว กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่แวดวงธุรกิจอย่างเต็มตัว ซึ่งถือเป็นมรดกของตระกูล ที่หากจะประเมินมูลค่าตลาดปัจจุบันแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 5,000-6,000 ล้านบาท

โจทย์ใหญ่ที่ทายาทหนุ่มธุรกิจหมื่นล้านบาท ต้อง "ปลดล็อก" สนามกอล์ฟเมืองแก้วนี้ นายวรนลได้สะท้อนถึงมุมมองของการจัดการกับสิ่งที่ได้ร่ำเรียนมาว่า "ตลอด 1 ปีที่เข้ามาคลุกคลีโครงการนี้ ก็เหนื่อยเหมือนกัน กว่าทุกอย่างจะลงตัว ทั้งการวางระบบบริหารสนามกอล์ฟ การปรับคนให้เหมาะสมกับงาน จัดระบบอื่นๆ ให้ลงตัว กว่าทุกอย่างจะนิ่งก็สิ้นปี 2548 แต่สิ่งที่ได้คือ สามารถนำความรู้ที่ได้เรียนมาจากต่างประเทศ ในบริหารธุรกิจ BBA เศรษฐศาสตร์มาประยุกต์ให้เข้ากับสนามกอล์ฟ ซึ่งก็ได้ผล ทั้งเรื่องการตลาด การเงิน ใช่ว่าจะใช้ไม่ได้เลย เพียงแต่ต้องรู้จักดึงความรู้มาใช้กับเหตุการณ์จริงได้ จนขณะนี้มีลูกค้ามาใช้บริการ 6,500 คนต่อเดือน รวมแล้วทั้งปี 80,000 คนต่อปี ตอนนี้สนามกอล์ฟสามารถอยู่ได้ สนามดีขึ้นไม่แย่ลง"

คุณอุ้มเล่าว่า การเข้ามาเรียนรู้งานครั้งนี้ มีค่ามากมาย เรื่องของความสำเร็จก็เป็นส่วนหนึ่งที่ภูมิใจในการดูแลมรดกของตระกูล แต่การทำงานทำให้เราโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ในชีวิตจริงของการทำงานแล้ว มีอะไรที่มากกว่า ในตำราเรียน ได้เรียนรู้การบริหารอารมณ์เพราะงานนี้เครียดมากๆ การได้เรียนรู้ในเรื่องเข้าหาคน การเจรจาผู้คนที่ไม่เคยมีอยู่ในตำราเรียน ตรงนี้เป็นเรื่องที่ยาก ไม่มีใครมาสอนเราเต็มที่ ต้องรู้จักดูนิสัยคน ตรงนี้เป็นศาสตร์ ที่หาตามตำราไม่มี และสุดท้ายได้รู้เรื่องสนามกอล์ฟ แต่ในใจผมแล้ว ที่สำคัญที่สุด "พิสูจน์ให้คุณพ่อเห็นว่า เราทำได้จริงๆ และต่อไปหากต้องทำอะไรอีก เราก็รู้จักการวางแผนการทำงานได้เป็นอย่างระบบ"

ในส่วนของโครงการที่เชียงใหม่ แม้จะเข้ามารับผิดชอบ แต่หากจะให้มอง ถือว่าโครงการนี้ ผมเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ที่เข้ามาดู ต่างกับสนามกอล์ฟเมืองแก้ว ที่จะเปรียบไปแล้วก็เป็นทายาทรุ่นที่ 3 เพราะคุณตาบุกเบิกก่อนจะมาเป็นคุณพ่อและตน

ซึ่งโครงการที่เชียงใหม่ ตนไม่ได้เข้าไปดูเต็มตัว งานหนักจะเป็นคุณพ่อ (วิชัย สามโกเศศ) มากกว่า โดยเหตุผลแล้ว ก็เพราะหลังจากโครงการ ที่กรุงเทพฯเรียบร้อย ก็เริ่มมาจัดการโครงการที่เชียงใหม่ ตรงนี้เข้ามาปรับปรุงและวางแผนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีทั้งที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม

"งานที่เชียงใหม่ไม่มาก หลักๆ แล้วจะเป็นคุณพ่อ คราวนี้ ผมเลยสามารถแบ่งเวลาให้แก่ชีวิตของตนเองได้ เลยสบโอกาสไปเรียนต่อ MBA ที่สังค์ศิลป์จุฬาลงกรณ์ฯ ที่เรียนต่อก็เพราะผมอยากมีเพื่อนเป็นคนไทยบ้าง อยู่เมืองไทยไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่ประเทศอังกฤษ ทุกวันนี้ก็ยังแวะเวียนมาหากันอยู่"

...นี้เป็นเพียงบทบาททางด้านธุรกิจ ที่ถือเป็นหน้าที่ของผู้สืบทอดมรดก "ตระหนัก" ถึงธุรกิจกงสีของตระกูล แต่เรื่องบทบาทในการใช้ชีวิตแล้ว ความชอบ ความถนัด เป็นมรดกส่วนตัวที่ใครต่อใครฝันและปราถนา "ปั้น" ภาพที่คิดไว้ให้เกิดขึ้น

คุณอุ้มถ่ายทอดเบื้องลึกของฝันว่า มีหลายอย่างที่คิดและอยากจะทำ แต่ที่ชื่นชอบมากๆ คือ เรื่อง ประดิษฐ์ หรือจำพวกชิ้นส่วนต่างๆ นั้น จึงเป็นเหตุผลตอนที่อยู่อังกฤษเลือกเรียนวิศวะ เรื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่เด็กๆ ผมชอบฟิสิกส์ ชอบฮาร์ดแวร์

"บังเอิญ สาขานี้ในต่างประเทศแข่งขันกันสูงมากๆ มีนักเรียนระดับโลก ที่เก่งมาเรียนจำนวนมาก เลยทำให้ผมต้องเรียนมากกว่าคนอื่นถึง 4 ปี คุณอุ้มเล่าด้วยอารมณ์ขำกับประสบการณ์ในวัยเรียน

และเมื่อชอบอะไรที่ประดิษฐ์แล้ว ของจำพวกหุ่นยนต์ประกอบ เป็นอะไรที่วัยเด็กอยากจะได้และอยากจะมี ตอนนี้เลยมีโอกาส มีเงินจากการทำงานเอง ต่างกับช่วงวัยเด็ก ที่ไม่มีเงินจะซื้อแพงมาก ชุดหนึ่งประมาณ 3,000-4,000 บาท และที่สำคัญแล้ว "คุณพ่อและ คุณแม่ไม่ตามใจให้ซื้อของเล่น เพียงแต่ท่านจะสอนว่า อยากได้อะไรต้องหามาด้วยตัวเอง" ตอนนี้ก็ค่อยๆประกอบไปเลย ว่างเมื่อไหร่ ก็มาทำ สนุกดี งานอดิเรกตรงนี้ ก็เหมือนกับการสนองความอยากในวัยเด็กของเรา ต้องแยกให้ออกระหว่างงานกับเรื่องของความชอบ

ความชอบอีกอย่าง แต่เพื่อนฝูงอิ่มท้อง เรื่องทำอาหารเป็นความหลงใหลที่ว่างเมื่อไหร่แล้ว ต้องทำ ตอนอยู่ที่ต่างประเทศก็ต้องทำเอง คงยังไม่ถึงขั้นเป็นมืออาชีพในการทำอาหาร แต่ก็พอไหว และที่วาดฝันไว้ อยากมี ร้านอาหารเป็นของตนเอง กะว่าจะมีในกรุงเทพฯสักร้าน ไม่ต้องใหญ่โตมโหฬาร เล็กๆ รูปแบบสบายๆ นั่งแล้วไม่รู้สึกแออัด ยิ่งในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯแล้ว ความเครียดเยอะมาก ร้านอาหารที่คิดไว้ ควรทำให้ลูกค้าสบายใจ ผ่อนคลายได้

"แม้จะตั้งเป้า 5 ปีจะมีร้านอาหารของตนเอง แต่รู้สึกว่า ความฝันนี้คงย่นระยะเวลาลงมาอีก อย่างน้อย 2-3 ปีข้างหน้า น่าจะมีร้านอาหารเล็กๆเกิดขึ้น กะไว้ 1 ปีที่สนามกอล์ฟเมืองแก้ว และ 2-3 ปีที่เชียงใหม่ ส่วนเรื่องแบรนด์นั้น ตอนนี้ยังไม่คิด" วรนล สามโกเศศ กล่าวทิ้งท้ายถึง "ฝันเล็กๆ" ที่รอสร้างฝันให้เป็นจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น