ศึกวันทรงชัย ในมือโปรโมเตอร์สาว

เมื่อสาวสวยร่างบาง ดีกรีปริญญาโท ผันตัวมาเป็นโปรโมเตอร์มวย ต้องปะทะกับบรรดาชายฉกรรจ์ทั้ง รุ่นเล็กรุ่นใหญ่ในวงการค้ากำปั้น แต่ด้วยหัวใจอันแข็งแกร่งและความรักที่มีต่อศิลปะมวยไทยไม่ต่างไปจาก บิดา ณ วันนี้ 'ปริยากร รัตนสุบรรณ' ได้พิสูจน์ให้เห็น แล้วว่าความบอบบางของอิสตรีมิได้เป็นอุปสรรค ต่อการทำงานในแวดวงหมัดมวยแต่อย่างใด แม้ในช่วงที่มวยไทยกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตเธอก็สามารถนำพา ธุรกิจของครอบครัวให้ยืนหยัดอยู่ได้ ชื่อของ 'ศึกวันทรงชัย' ยังคงผงาดเป็นเบอร์หนึ่งบนผืนผ้าใบ และไม่เพียงแต่มวยชายเท่านั้น เธอยังปลุกปั้น 'มวย แม่เนื้ออ่อน' ให้ชื่อของสาวไทยกระฉ่อนไปทั่วโลกว่าลีลาการชกและเตะฟาดแข้งนั้นรุนแรง ดุเด็ดเผ็ดมันไม่แพ้ชายฉกรรจ์ทีเดียว

แวดวงหมัดมวยดูจะเป็นเรื่องของการต่อสู้ที่ดุเดือด ต้องคลุกคลีกับบรรดาเซียนมวย นักเลง นักพนัน ไปจนถึงเจ้าพ่อมาเฟีย ดังนั้นเมื่อสาวหน้าใส รูปร่างบอบบางอย่าง 'โอ๋' ปริยากร รัตนสุบรรณ บุตรสาวคนสุดท้องของโปรโมเตอร์มือทอง 'ทรงชัย รัตนสุบรรณ' เข้ามารับตำแหน่งรองประธานกรรมการ บริษัท วันทรงชัย จำกัด ทำหน้าที่โปรโมเตอร์จัดการแข่งขันชกมวยด้วยวัยเพียง 24 ปี จึงสร้างความฮือฮาให้แก่วงการเป็นอย่างมาก

ถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วที่เธอฟันฝ่านำพาธุรกิจ มวยของตระกูลให้ข้ามผ่านอุปสรรคไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

บ่มเพาะประสบการณ์

หลายคนสบประมาทว่าสาวนักบริหารดีกรีปริญญาโท จากรั้วมหิดลอย่างเธอจะเดินไปในเส้นทางค้ากำปั้นได้สักกี่น้ำ แต่นับจากวันนั้นถึงวันนี้กว่า 3 ปีแล้วที่ปริยากรพิสูจน์ให้เห็นว่าแม้ในภาวะที่กระแสนิยมของมวยไทยตกต่ำเธอก็ยังสามารถรักษาชื่อของ 'ศึกวันทรงชัย' ให้คงความขลังอยู่ได้ อีกทั้งยังสร้างความแปลกใหม่ให้แก่วงการด้วยการจัดแข่งขันชก 'มวยหญิง' ระดับประเทศขึ้นเป็นครั้งแรกของเมืองไทย จนได้รับความนิยม อย่างกว้างขวางถึงขั้นมีสาวญี่ปุ่นและแหม่มตาน้ำข้าว แห่มาเรียนมวยไทยจนกลายเป็นแฟชั่น

'บางคนเป็นห่วงว่าโอ๋เป็นผู้หญิง อายุยังน้อย มาเป็นโปรโมเตอร์มวยจะไหวเหรอ คือโอ๋มาเป็นโปรโมเตอร์ ตอนอายุ 24 แต่ตอนที่ป๊า (ทรงชัย รัตนสุบรรณ) เริ่มเป็น โปรโมเตอร์เขาอายุน้อยกว่าโอ๋อีกนะ แค่ 19 เอง ซึ่งในวงการมวยถือว่ายังเด็กมาก ที่โอ๋มั่นใจว่าตัวเองทำได้ เพราะ เราคลุกคลีอยู่กับวงการนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ค่ายมวยนี่อยู่ในบ้านเลย มีมาก่อนโอ๋เกิดอีก สำนักงานวันทรงชัยก็อยู่ใกล้บ้าน ได้เห็นการทำงานของป๊าและทีมงานมาตลอด

เส้นทางการเป็นโปรโมเตอร์ของโอ๋กับป๊าอาจจะต่างกัน คือป๊าเขาเคยเป็นนักมวยมาก่อน ฉายา 'ทรงชัย ลูกงามศิริ' สมัยหนุ่มๆ ป๊าเขารูปหล่อ ผิวขาว แต่แพ้ น็อกตลอด (หัวเราะขำ) รู้สึกว่าไม่รุ่งเลยเลิกไป ด้วยความ ที่เขาชอบตระเวนดูมวยตามต่างจังหวัด รู้ว่าฝีมือนักมวยแต่ละคนเป็นยังไง ใครมีจุดแข็งจุดอ่อนตรงไหน แล้วก็ความจำแม่น สามารถประกบคู่มวยได้เลยมาเป็นโปรโมเตอร์ ส่วนโอ๋เข้ามาสานต่องานที่ป๊าทำไว้แล้ว ก็สั่งสมประสบการณ์จากการที่ตามป๊าไปดูมวยตาม ต่างจังหวัดบ่อยๆ ทำให้รู้เทคนิคการประกบคู่มวย รู้ว่าจะจัดแข่งขันชกมวยต้องติดต่อใคร หาสปอนเซอร์ยังไง' ปริยากร พูดถึงแนวทางในการทำงานที่เธอซึมซับมาจาก บิดาโดยไม่รู้ตัว

'โปรโมเตอร์' งานหนัก แต่ใจสู้

ในยุคของทรงชัยนั้น จากความสามารถในการประกบคู่มวยทำให้เขากลายเป็นโปรโมเตอร์ภูธรที่ชื่อเสียง กระฉ่อนไปทั่ววงการมวย ทรงชัยสามารถผันตัวจากโปรโมเตอร์เล็กๆ ของเวทีศรีโสธร ที่แปดริ้ว เข้ามาเป็นโปรโมเตอร์ที่เวทีลุมพินีได้อย่างไม่ยากนัก จาก 'ศึกเสาร์ทรงชัย' ที่มีกำไรจากการจัดมวย 1,000 กว่าบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างมากในยุค 2509 มาถึง 'ศึกวันทรงชัย' ที่ต้องอาศัยเงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 8 มาจัดการแข่งขัน ด้วยการทำงานอย่างเป็นระบบ ภายใต้บริษัทซึ่งมีทีมงานจัดมวยที่แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน การจัดคู่มวยฝีมือดี ชกกันสูสีเมามันสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้ชม ประกอบกับการทำประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง โดยทรงชัย ลงมาเขียนข่าวและแจกข่าวด้วยตัวเอง ทำให้ชื่อเสียงของ โปรโมเตอร์คนนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ขณะเดียวกันทรงชัยก็เริ่มบุกตลาดต่างประเทศด้วยการจัดการแข่งขันชกมวยไทยในประเทศต่างๆ ส่งผลให้ชาวต่างชาติพากัน ชื่นชมมวยไทยจนกลายเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ฝรั่งคลั่งไคล้

มาถึงยุคเปลี่ยนผ่านซึ่งจำเป็นต้องส่งต่องานให้แก่ทายาท 'ศิรภพ' บุตรชายคนกลาง 'ปริยากร' ลูกสาว คนเล็กก็ไม่ได้สร้างความผิดหวังให้แต่อย่างใด ทรงชัยมอบหมายให้บุตรชายดูแลการจัดการแข่งขันชกมวยไทยในต่างประเทศ และบริหารโรงเรียนมวยไทยวันทรงชัย ขณะที่ไว้วางใจให้ลูกสาวคนสุดท้องเข้ามาช่วยบริหารธุรกิจและรับหน้าที่โปรโมเตอร์ จัดการแข่งขันชกมวยในประเทศไทย เพราะเชื่อมั่นว่าความคล่องแคล่ว และมีน้ำอดน้ำทนของสาวน้อยคนนี้จะสามารถนำพาธุรกิจของตระกูลให้ข้ามผ่านยุควิกฤตของมวยไทยไปได้

ภาระหน้าที่ของปริยากรนั้นมีมากมายจนแทบไม่น่าเชื่อว่าโปรโมเตอร์คนนี้จะเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เริ่มตั้งแต่การจัดโปรแกรมการชก โดยดูว่านักมวยจากค่ายไหนควรเจอกันเมื่อไร เนื่องจากบริษัทวันทรงชัยนั้นมีนักมวยไทยในสังกัดร่วมหมื่นคนจากทั่วประเทศ, จัดคู่ประกบมวย ด้วยการเสาะหานักมวยที่ฝีมือดีและสูสีกันมาขึ้นสังเวียน, ประสานงานต่างๆ เช่น เช่าสถานที่จัดการแข่งขัน เชิญผู้ใหญ่มาเป็นประธานจัดการแข่งขัน ประสานเรื่องการถ่ายทอดสด, หาสปอนเซอร์, ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ จนกระทั่งทำบัญชี

ปริยากรบอกเล่าถึงภาระที่เธอต้องรับผิดชอบว่า 'ยอมรับว่าหน้าที่โปรโมเตอร์เป็นงานหนัก เพราะปัญหา จุกจิกเยอะ โดยธุรกิจหลักของเราคือ การจัดแข่งขันชกมวย ทั้งในและต่างประเทศ การชกในประเทศซึ่งโอ๋ดูแลอยู่จะ มี 2 ส่วน คือ เวทีที่ชกประจำ จัดชกทุกวันเสาร์ โดยเราจัดที่เวทีมวยกรุงเทพซึ่งเป็นของเราเอง และออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 อีกส่วนคือเวทีที่จัดในวาระพิเศษ ต่างๆ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษา งานประจำจังหวัด มีทั้งชกที่เวทีกรุงเทพฯ และเวทีชั่วคราวตามต่างจังหวัด นอกจากนั้นเรายังมีโรงเรียนมวยไทย ซึ่งตอนนี้นักเรียนส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ และมีการผลิต วีซีดีการแข่งขันชกมวยออกจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง ส่วนสินค้าเกี่ยวกับมวยไทย เช่น นวม กางเกงมวย มงคล ซึ่งเราทำออกมาขายนั้นถือว่ายังเป็นธุรกิจ ที่เล็กมากเพราะเราไม่มีเวลามาดูแลตรงนี้อย่างจริงจัง'

สร้างปรากฏการณ์ 'มวยหญิง'

โปรโมเตอร์หญิงเหล็กได้สร้างความฮือฮาให้แก่วงการมวยด้วยการจัดการแข่งขันชกมวยหญิงเป็นครั้งแรกของเมืองไทย ในงานเทิดพระเกียรติ 12 สิงหา มหาราชินี เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2547 และมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ จากมวยแม่เนื้ออ่อนที่ใครๆก็สบประมาทว่าลีลาการชกคงหน่อมแน้ม แบบชกลมเตะอากาศ กลับฟาดกันไม่ยั้งดุเดือดเผ็ดมันจนแฟนมวย ซี้ดปาก หลังจากนั้น ปริยากรก็จัดศึกดวลกำปั้นของ มวยหญิงในวาระพิเศษต่างๆ อีกหลายครั้ง นอกจากนั้น ยังสนับสนุนให้มีการจัดมวยไทยหญิงอย่างต่อเนื่อง ในทุกๆ วันเสาร์ ณ เวทีมวยกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2549 ซึ่งเป็นวันเปิดสนาม เรื่อยมา พร้อมกับบรรจุร่วมรายการมวยโลกที่จัดเดือนละหนึ่งครั้งด้วย

ส่งผลให้มีซูเปอร์สตาร์มวยหญิงวันทรงชัยเกิดขึ้นมากมาย เช่น เพชรยู ศิษย์ครูดุลย์ ฯลฯ จากเดิมเป็นแค่ มวยหญิงที่ชกเป็นสีสันช่วงคั่นรายการ โปรโมเตอร์สาวปลุกปั้นผลักดันจนเกิดเป็นกระแสนิยมในวงการมวยที่ต้องมีนักชกสาวสวยขึ้นแลกหมัดในการจัดชกมวยแต่ละครั้ง ขณะที่บรรดาค่ายมวยภูธรต่างพากันปลุกปั้น นักมวยหญิงอย่างจริงจัง ทำให้ปัจจุบันมวยหญิง กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในวงการมวยไทย

'จากการที่เราจัดชกมวยหญิงในหลายๆ ไฟต์ แล้วก็เชิญนักมวยต่างชาติมาขึ้นชกด้วย ทำให้ตอนนี้สาวๆต่างชาติ ทั้งญี่ปุ่น ฝรั่ง หันมาสนใจมวยไทยกันเยอะมาก เดินทางมาเรียนถึงเมืองไทยเลย เด็กไทยเองเขาเห็นเพื่อนๆ ชกมวยออกทีวีเขาก็อยากเรียนบ้าง ตอนนี้หลายโรงเรียนก็หันมาสอนมวยไทยกันมากขึ้น โอ๋ว่าเดี๋ยวนี้มวยหญิงนอกจากจะมีลีลาความดุเดือดพอๆ กับผู้ชายแล้วเขาจะมีเสน่ห์ตรงที่ความสวยงาม คือ ถึงจะแข้งหนักแค่ไหนเวลาขึ้นชกก็ต้องขอสวยไว้ก่อน (หัวเราะ) ตอนนี้กลุ่มแฟนมวยก็ขยายวงเพิ่มขึ้น จากที่เดิมมีแต่ผู้ชาย และคนแก่ ปัจจุบันผู้หญิงและวัยรุ่นก็เริ่มมาดูมวยเยอะขึ้น' ปริยากรกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

วงการมวยสู่ยุควิกฤต

อย่างไรก็ดี สิ่งที่โปรโมเตอร์คนนี้เป็นห่วงก็คือภาวะซบเซาของวงการมวยไทยที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการแข่งขันทางธุรกิจที่บรรดาโปรโมเตอร์ต่างพากันตัดราคาค่าโฆษณาเพื่อช่วงชิง สปอนเซอร์ ทำให้จำเป็นต้องลดค่าตอบแทนที่จะจ่ายให้แก่นักมวยลง และบ่อยครั้งมีการนำนักมวยค่าตัวถูก ฝีมือไม่ถึงมาขึ้นชก ทำให้มวยไม่สนุก ความนิยมในการ ดูมวยไทยจึงลดลงตามไปด้วย

'ตอนนี้ต้องบอกว่าเป็นช่วงวิกฤตของมวยไทย ผู้จัด ตัดราคากันจนต่างคนต่างเจ๊ง บางคนเป็นเซลส์ขายโฆษณา มีลูกค้าอยู่ในมือก็ผันตัวเองมาเป็นโปรโมเตอร์ทั้งที่ไม่มีความรู้เรื่องมวย จับมวยที่ฝีมือไม่ถึงมาประกบคู่กัน ทำให้คุณภาพลดลง ภาพลักษณ์มวยไทยก็แย่ลงไปด้วย ส่วนบรรดาสปอนเซอร์ส่วนใหญ่ก็ยังมองว่ามวยไทยเป็นตลาด ล่าง ไม่ค่อยอยากเอาโฆษณามาลงเพราะกลัวจะกระทบกับภาพลัฏษณ์ของสินค้า ทั้งที่ความจริงสินค้าหลายๆ ตัวนั้นผู้บริโภคเป้าหมายของเขาก็คือบรรดาคอมวยนี่แหละ ซึ่งเราก็คงต้องพยายามสร้างความเข้าใจตรงนี้

แต่ถึงยังไงทางวันทรงชัยก็ยังสู้เต็มที่ อาจจะมีขาดทุน บ้างก็ถัวๆ กันไป เพราะรายได้ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ป๊า เขาปลูกฝังมาว่ามวยไทยคือมรดกของคนไทย มวยไทยคือ ชีวิตของเรา' ปริยากรกล่าวตบท้ายไว้อย่างน่าสนใจ