xs
xsm
sm
md
lg

Women in the Moon สุขนาฎกรรมของสตรีนักการละคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คราบน้ำตา และสีหน้าเย้ยหยันถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครตัวแล้วตัวเล่า แสงไฟที่สาดส่องลงบนใบหน้าของพวกเธอและเขาเหล่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงภาพความเป็นไปของสังคมแต่ละยุคแต่ละสมัย จนทำให้พื้นที่แคบๆ บนเวทีกลับกลายเป็นพื้นที่ของความคิดและความฝันของคนกลุ่มหนึ่ง ที่หลงใหลในศาสตร์ และศิลป์ของละครเวที

ณ โรงละครเล็กๆ Crescent Moon Space สถาบันปรีดี พนมยงค์ ในซอยทองหล่อวันนี้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นพื้นที่อันอุดมด้วยแรงบันดาลใจ อัดแน่นด้วยจินตนาการ พร้อมทั้งบ่มเพาะความรู้ ต่อยอดความคิด และสั่งสมประสบการณ์เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการสร้างสรรค์ผลงานละครของกลุ่มละครเวทีทางเลือก

เคยมั้ยเวลาที่ฟังเสียงของคนอื่น แล้วกลับได้ยินเสียงของหัวใจตัวเอง แล้วยังเวลาที่มองดูคนรอบข้างทั้งหลาย ดันกลับเห็นภาพของตัวเองชัดเจน จากนี้กลุ่มสตรีนักการละครที่พร้อมจะเติบโต และตายในแวดวงละครเวที คัดสรรเวลาดีๆ เพื่อจะแบ่งปันเรื่องเล่า จังหวะชีวิต และท่วงทำนอง ให้กันและกัน...

*ครั้งแรกของผู้หญิงในดวงจันทร์

ถือเป็นครั้งแรกของเทศกาลละครเวทีขนาดเล็ก Women in the Moon "ผู้หญิงในดวงจันทร์" เทศกาลนักเขียนบทและผู้กำกับละครเวทีหญิง ที่เปิดพื้นที่ให้นักเขียนบทละครเวทีและผู้กำกับหญิงได้พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน รวมทั้งนำเสนอผลงานต่อนักทำละครและผู้ชมทั้งชาย-หญิง นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานละครเวทีของนักการละครหญิงให้มีผลงานต่อเนื่อง และเสริมสร้างทักษะการละครให้แก่นักการละครรุ่นใหม่

จารุนันท์ พันธชาติ จาก กลุ่มละครบีฟลอร์ รับหน้าที่ Festival Director และ สินีนาฏ เกษประไฟ จาก พระจันทร์เสี้ยวการละคร รับบทบาท Artistic Director ในการจัดเทศกาลนี้ โดยเธอทั้งสองเริ่มต้นจากความสนใจบทบาทของผู้หญิงในละคร จากประสบการณ์ที่พวกเธอต่างเคยได้ร่วมในเทศกาลละครเวทีมามากมาย ทำให้คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสดีที่จะได้นำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ผ่านมุมมองของผู้หญิงในฐานะคนเบื้องหลัง

"คนทำละครเวทีบ้านเรานับหัวแล้วมีผู้หญิงเยอะมาก นักแสดงหญิงตบกันแทบตาย เมื่อเทียบกับปริมาณนักแสดงหญิงที่เยอะ ในแง่ของผู้กำกับ คนเขียนบท เราคลำหาคนผลิตงานอย่างต่อเนื่องไม่เจอ เลยคิดว่าน่าจะมีละครที่ผู้หญิงเขียนบท สร้างสรรค์ ถ่ายทอดมุมมองของผู้หญิงขึ้นอีก

"เราเป็นนักแสดงมาก่อน เราสนใจเรื่องตัวละครผู้หญิง เรื่องราวที่นำเสนอเราจะพูดจากด้านผู้หญิง

"เมื่อเราเป็นผู้ชมละครเวที เราจะรู้สึกได้ถึงพลังของนักแสดงที่ส่งมากระทบเรา ความต้องการ ความทุกข์ทรมาน หรือความสุขของตัวละครที่แสดงออกมาบนเวที สามารถส่งผ่านมาถึงเราได้โดยตรง สิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีจึงเป็นเสมือนประสบการณ์ของอารมณ์ที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนั้น และกระทบใจของเราได้โดยไม่ผ่านกระบวนการตัดต่ออย่างศิลปะบันเทิงอื่นๆ" หัวเรือใหญ่ของงานเล่าให้ฟัง

*มีอะไรในบทละครของนักเขียนหญิง

ว่ากันว่า "ละคร คือ เรื่องราวของมนุษย์"

เพราะละครสะท้อนให้เห็นภาพการกระทำของมนุษย์ ตลอดจนชีวิตมนุษย์ในแง่มุมต่างๆ ตามมุมมองของนักเขียนบทละคร ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้ง ขมขื่น เจ็บปวด กล้าหาญ หรือน่าขบขัน ในชีวิตของมนุษย์แต่ละคน

กุลธิดา มณีรัตน์ หรือ อาจารย์เอ๋ จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เล่าให้ฟังว่า ถ้าถามผู้ที่ทำงานละครเวทีจริงๆ ว่า หากจะพูดถึงการทำละครเวที จะนึกถึงอะไรเป็นสิ่งแรก ทุกคนจะให้คำตอบเป็นเสียเดียวกันว่า "เรื่อง" หรือ ถ้าจะใช้ภาษาให้เฉพาะเจาะจงลงไปนั้นก็คือ "บทละคร" เพราะบทละครคือส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำละครทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งละครเวที เพราะมันคือ ตัวกำหนดองค์ประกอบอื่นๆ ทุกอย่างในละคร ไม่ว่าจะเป็น โครงของเรื่อง สีสันของแสง ฉาก เสื้อผ้า และรวมไปถึงการแสดง (acting) ของนักแสดงด้วย เพราะแน่นอนว่าการแสดงในละครตลก ย่อมต้องมีลีลาการแสดงที่ต่างไปจากการแสดงละครชีวิต

"หากเราจะมามองว่าศิลปินต้องการสื่อสารอะไรในละครเรื่องนั้นๆ ถือว่าพูดยาก เพราะว่างานมันก็เป็นอย่างหนึ่ง ความตั้งใจอีกอย่างหนึ่ง หรือบางทีเขาอาจจะไม่ต้องการบอกเราก็ได้ การเขียนบทบางครั้งนักเขียนอาจไม่ได้คิดว่าจะต้องสื่ออะไร แต่จะคิดว่าตนเองกำลังสนใจเรื่องอะไร ของใคร บางคนอาจจะเริ่มต้นและจบที่ตัวละคร ในขณะที่บางคนต้องเริ่มจากประเด็นก่อนก็มีต่างๆ กันออกไป หลายวิธี" อาจารย์เอ๋กล่าว

มุมมองของนักเขียนบทละครต่อโลกก็เช่นกัน จะขบขัน หรือเศร้าสลด ก็แล้วแต่การมองของแต่ละคน ในโลกใบเดียวกันนี้ คนทุกคนมองเห็นของสิ่งเดียวกันก็อาจจะให้ความหมายต่างกันไปโดยสิ้นเชิง ดอกกุหลาบสีแดง อาจทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกเศร้าสร้อยน้ำตาซึม แต่ดอกกุหลาบดอกเดียวกันนี้ อาจทำให้อีกคนหนึ่งหัวเราะด้วยความตลกขบขันก็ได้ ซึ่งแน่นอนความรู้สึกของผู้เขียนบทหญิงและชายก็แตกต่างกันออกไปตามท่าที สุ้มเสียง และรสนิยม

ทางด้านสินีนาฏเสริมขึ้นด้วยว่า นักเขียนหญิงส่วนมากที่สร้างตัวละครออกมาอาจแบ่งได้ประมาณ 3 กลุ่มที่ชัดเจนคือ กลุ่มที่พาผู้ชมไปสำรวจอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง กับอีกกลุ่มหนึ่งที่ตังคำถามต่อโครงสร้างทางสังคม และพวกที่เป็นนามธรรม

"ส่วนตัวอยากพูดถึงเรื่อง 'กุหลาบสีเลือด' ที่สามารถแสดงให้เห็นความลึกและความต่างของตัวละครผู้หญิง เพราะว่าทั้งเรื่องเป็นตัวละครผู้หญิงหมด แต่มีตัวละครผู้ชายโดยที่มองไม่เห็นซึ่งเป็นแกนหลักของเรื่อง เห็นความสัมพันธ์ของทั้งผู้หญิงกับผู้ชาย และผู้หญิงกับผู้หญิงด้วยกันเอง แล้วก็ยังมีประเด็นของความรุนแรงในบ้านที่หนักมากจนทำให้รู้สึกว่าดูแล้วกระทบใจมากๆ" สินีนาฏเล่าถึงละครที่เธอชอบ

พรรัตน์ ดำรุง หรือ ครูอุ๋ย ที่ปรึกษาโครงการผู้หญิงในดวงจันทร์ แสดงทัศนะว่า การที่เราตั้งคำถามว่ามีอะไรในบทละครของนักเขียนหญิง แสดงว่านักเขียนหญิงไม่ได้เขียนบทละครที่มันควรจะเป็นอย่างนั้นหรือ? ซึ่งอันนี้ก็ยังต้องหาคำตอบกันอีกต่อไป เพราะส่วนตัวครูไม่เคยคิดว่าตนเองจะแตกต่างอะไรจากผู้ชาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจจะต่าง เพราะว่าเวลาเราทำงานเราทำให้ทั้งหญิงและชายดู

"วัฒนธรรมการแสดงละครเวทีของบ้านเรามักไม่มีบท ยกเว้นแต่ว่าเป็นละครสมัยใหม่ที่ทำตามตะวันตก ละครรำ ละครร้อง แต่อย่าลืมว่าเรามาจากการเล่าเรื่องก่อน มาจากการจำเพื่อร้องเพลง และคอรัสก็เป็นผู้หญิง ยกเว้นอย่างเดียวคือการภาคโขน เพราะฉะนั้นที่จริงแล้วในบ้านเราเวลาพูดถึงผู้หญิงกับละคร หรือละครที่ผู้หญิงเขียนจะพบว่า จริงๆ แล้วผู้หญิงอยู่ในวงการละครมานานมากแล้ว เราต้องยอมรับก่อนว่าละครเวทีส่วนมากในบ้านเราผลิตโดยผู้หญิง ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นการแปลมาจากบทละครที่ผู้ชายเป็นคนเขียน แต่ว่าในเมืองไทยวงการนี้ผู้หญิงเป็นใหญ่" ครูอุ๋ยกล่าว

*ผู้กำกับหญิง มุมมองที่แตกต่าง?

ละครเวทีล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่ละครเวทีจะตายจากไป ก็จะมีกระแสใหม่ๆ เข้ามาเสมอจนผู้ที่ทำละครเวทีมักจะพูดเสมอว่าละครเวทีมีมนต์เสน่ห์ในตัวของมันเองอย่างไม่มีศิลปะแขนงใดจะเปรียบเทียบได้

ในส่วนของ รสิกา สวนสม ผู้ที่ทำงานด้านการผลิตและกำกับละครเวทีมากกว่า 15 เรื่อง โดยทั่วไปแล้วเธอเชื่อว่าคนที่จะมาเป็นผู้กำกับละครเวทีต้องเริ่มต้นมาจากการเป็นนักแสดงก่อน คงไม่มีใครที่เดินหน้ามาเป็นผู้กำกับเลย...

"การทำงานตรงนี้ทำให้รู้ว่าการเป็นผู้กำกับต้องเป็นคนที่ใจกว้างมาก ใจเย็นมาก อดทน และใช้จิตวิทยาสูงมากในการทำงาน คือต้องพยายามทำอย่างไรให้ผู้แสดงรู้สึกว่ามันเป็นไอเดียที่เกิดขึ้นมาเขา ให้เขารู้สึกว่าเขาทำขึ้นมาด้วยตัวของตัวเอง

"บางทีดูละครที่มีฉากผู้หญิงถูกทารุณ ข่มขืน มากๆ ก็อยากจะเลิกเหมือนกันดู ทั้งๆ ที่รู้นะว่าสารพยายามจะบอกถึงความยากลำบากของผู้หญิงที่โดนทำร้าย เรารู้ว่าจะพูดประเด็นนี้แต่ในความเป็นจริงมันไม่ต้องแสดงให้เห็นหมดก็ได้ มันมีวิธีการหลบเลี่ยงการเกิดภาพจำให้แก่ผู้ชม

"การกำกับละครผู้หญิงต้องมองว่า เรื่องของตัวเองเป็นเรื่องเล็กๆ ที่สำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องระดับชาติ ระดับโลกเท่านั้นที่สำคัญ แต่เรื่องของตัวคุณเองมันจะสามารถสะท้อนให้เห็นถึงสังคม ภูมิหลัง และอื่นๆ ในโลกได้อีกเยอะแยะ เพราะฉะนั้นลองเริ่มต้นจากตัวเราลองดูสิว่าตัวเรามีอะไรแล้วลองถ่ายทอดออกมา บางครั้งอาจจะมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่รู้จักตัวเราเอง

"บางเรื่องมีตัวละครผู้หญิงเต็มไปหมดเลย แต่กลับไม่มีเรื่องที่พูดถึงผู้หญิงเลย ในขณะที่นักการละครผู้ชายไม่ได้ตั้งใจพูดถึงผู้หญิงเลย แต่กลับแสดงออกมาเป็นผู้หญิงไปเสียหมด บางทีอาจจะต้องมองว่าปัจจุบันนี้สังคมมันเปลี่ยนทำให้สถานภาพของผู้ชายที่อยากทำงานละครน้อยลง"

ถ้าจะต้องเปรียบเทียบให้เห็นภาพ นักแสดงก็คงเหมือนกับลูกเรือที่ต้องช่วยกันจ้ำช่วยกันพาย ส่วนผู้กำกับก็เป็นเหมือนกัปตันที่ต้องยืนอยู่บนเสากระโดงเรือเพื่อมองว่าเรื่องล่องลอยไปผิดทิศ ผิดทางหรือไม่ และผู้เขียนบทก็ไม่ต่างอะไรไปกับผู้ประดิษฐ์หรือสร้างเรือขึ้นมา

ประดิษฐ์ ประสาททอง หรือ ตั๊ว จากกลุ่มละครและสื่อชาวบ้านมะขามป้อมมองว่า การแสดงสดบนเวทีที่มีฉาก แสง เสียง ประกอบ แน่นอนนี่คือองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้ละครเวทีต่างจากละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์

"อยากให้แยกสื่อละครเวทีออกจากสื่อชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ เพราะละครเวทีนั้นมีอิสระในตัวเอง มีอิสระทางความคิด และให้อะไรที่มากกว่าความบันเทิง จึงต้องการเพียงผู้ชมที่ชื่นชอบ คลั่งไคล้ และตั้งใจมาดู ส่วนละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ต้องพึ่งพิงนายทุนสูง แล้วก็ใช้เรตติ้งในการวัดความสำเร็จ แล้วยังคิดกันไปเองว่าละครที่ดีนั้นเรตติ้งคือ ผู้หญิงดู ผู้หญิงชอบ ละครโทรทัศน์จึงน่าสงสารผมจึงถอนตัวออกมา เพราะว่าเราหวังอะไรไม่ได้ เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

"งานเทศกาลครั้งนี้ไม่อยากให้มองว่าผู้หญิงจะมาสร้างสังคมสตรีให้แข็งแกร่งหรือว่าอะไร แต่อยากให้มองว่าเหมือนป็นการเฉลิมฉลองให้แก่ผู้หญิงนักการละครที่มุ่งมั่นและจริงจังในสื่อที่น่าหลงใหลนี้"ตั๊วกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง

เบิร์ด นักแสดงละครเวทีที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้แสดงความคิดเห็นว่า ตนชอบละครเวทีเรื่องสีดาสีราม หากเป็นในมุมมองนักเขียนชายอาจจะมองว่าเป็นผู้หญิงเอามากๆ ซึ่งถือว่าถูกเพราะผู้หญิงเขียน ยังไงก็หลีกเลี่ยงความเป็นตัวของตัวเองไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เราควรจะดูอย่างลึกซึ้งนั่นก็คือ เรื่องที่แสดงออกถึงอะไร เรื่องของความเป็นกลาง ความเป็นจริง ซึ่งนั่นสำคัญมากกว่าการเรียกร้องสิทธิให้แก่ผู้ชาย หรือให้แก่ผู้หญิง เพราะเรื่องตรงกลางเป็นเรื่องถึงความเป็นอยู่ต่อไปในอนาคต

*ละครเวที 4 เรื่องจากด้านของผู้กำกับหญิง 5 คน

ท่ามกลางกระแสภาพยนตร์และหนังสั้นที่มาแรงยิ่งนักในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ยังคงมีกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่พอใจอยู่กับการได้เหยียบยืนบนพื้นเวทีและมีความสุขกับเสียงปรบมือของผู้ชม มากเกินกว่าที่จะเดินตามคนส่วนใหญ่ไปบนเส้นทางของกระแสนิยมภาพยนตร์

ละครเวทีทุกเรื่องในเทศกาล Women in the Moon ต่างพูดถึงเรื่องของผู้หญิง ซึ่งอาจจะทำให้คนดูที่เป็นผู้หญิงได้หันกลับมามองตัวเอง หรือหากผู้ชายเองก็จะได้หันไปมองคนข้างๆ...เพื่อที่ต่างคนก็ต่างจะได้เข้าใจกันและกันมากขึ้น

ยามพลบ 2 กำกับโดย จารุนันท์ พันธชาติ
เรื่องดีๆ ในเวลาดีๆ ที่มีแค่คุณกับเพื่อนที่ดี ในช่วงเวลายามเย็นอันเรียบเรื่อยที่สุดแสนจะธรรมดา การพบปะและบทสนทนาอันสุดแสนธรรมดาของสามสาวเพื่อนสนิท กลับเปิดเผยความไม่ธรรมดาของชีวิต

"ขอบคุณศิลปินหญิงทุกท่านที่ได้ร่วมให้เกียรติเขียนประวัติศาสตร์ทางศิลปะอีกหน้าหนึ่งให้แก่ประเทศนี้ขอบคุณศิลปินละครเวทีอาวุโส ทั้งชายหญิง ที่ได้บุกเบิก ถากถางเส้นทางให้ศิลปินหญิงรุ่นใหม่ได้เดินตาม" จารุนันท์ กล่าว

Vagina Monologue กำกับโดย พันพัสสา ธูปเทียน
คุณเคยสงสัยไหมว่า ถ้า Vagina พูดได้เธอจะพูด/อ้อน/บ่น/ด่า/ปรับทุกข์หรือมีอารมณ์ขันอย่างไรบ้างเชิญมารับชมรับฟัง The Vagina Monologue ตัวจริงเสียงจริงภาคภาษาไทยเพื่อคนไทยแล้วคุณจะรักและเข้าใจใน Vagina ของคุณหรือของคนข้างเคียงมากยิ่งขึ้น"

"เรื่อง Vagina Monologue เป็นการถ่ายทอดเรื่องของผู้หญิงได้ดีและตรงไปตรงมาที่สุดเรื่องหนึ่ง โดยได้มีการดัดแปลงบทให้มีความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น แต่ก็พยายามคงเนื้อความเดิมไว้ให้มากที่สุด ในละครเรื่องนี้เราพยายามจะใช้องค์ประกอบด้านเทคนิคให้น้อยที่สุด ขอยกความดีทั้งหมดให้แก่ผู้เขียนบทเรื่องนี้คือ Eve Ensler ที่อุตส่าห์เดินทางไปรอบโลกเพื่อสัมภาษณ์ผู้หญิงเกี่ยวกับอวัยวะเพศของพวกเธอ สุดท้ายนี้ต้องขอให้ Vagina จงเจริญ" พันพัสสา กล่าว

โสมเกาหลี กำกับโดย อุษาวดี สุนทรเกตุ และ ฟารีดา จิราพันธุ์
แขกเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวคนหนึ่งตัดสินใจทิ้งปัญหาชีวิต มาตั้งหลักที่อพาร์ตเมนต์ ห้อง 911 แต่เพราะความเหงาเธอจึงโพสต์หาเพื่อนร่วมห้องทางอินเทอร์เน็ต เมื่อเธอคนนั้นมาถึง เรื่องราวความแตกต่างระหว่างกันจึงเริ่มต้น ทั้งคู่จะเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันหรือมีทางเลือกอื่นสำหรับเธอทั้งสอง ณ ห้อง 911

"ทุกที่เต็มไปด้วยความแตกต่างและความขัดแย้ง จำเป็นแค่ไหนที่เราต้องเรียนรู้กันและกัน และถ้าสุดท้ายเราไม่เข้าใจกัน ยอมรับกันไม่ได้ แล้วเราจะอยู่ด้วยกันมั้ย"สองสาวผู้กำกับกล่าว

แสลง กำกับโดย สินีนาฏ เกษประไฟ
เรื่องอกหัก รักขม ระทมทุกข์ ของคนแปลกหน้าสองคนที่กำลังเสียความรู้สึก เมื่อประสบเหตุ "เขาไม่รักเรา" ความผิดหวัง โศกเศร้า และเสียself กับห้วงเวลาที่จะต้องเยียวยารักษาหัวใจให้ผ่านคืนวันนี้ไปโดยไม่ทำร้ายตัวเอง"
ความรู้สึกพิเศษบางอย่างจะเกิดขึ้น

"แสลง เป็นบทละครที่เขียนขึ้นเองเป็นครั้งแรก ต้องขอบคุณนักแสดงที่ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจร่วมค้นหาและร่วมเปิดประสบการณ์ละครเวทีครั้งแรกด้วยกันจากการฝึกซ้อม"สินีนาฏกล่าว

ละครเวทีถือเป็นผลผลิตทางศิลปะอีกชนิดหนึ่ง ที่ยังคงทำหน้าที่ในการสื่อสารระหว่างกันของมนุษย์อย่างใกล้ชิด ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์อันประกอบด้วยขั้นตอนของการสร้าง ขั้นตอนของการแสดง และขั้นตอนของการเสพ ซึ่งอย่างน้อยในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง จึงอาจกล่าวได้ว่าละครเวทีได้ช่วยกล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ให้อ่อนโยนและลดความแข็งกร้าว นำมาซึ่งภาวะอันเป็นสุขทั้งทางด้านอารมณ์และทางด้านจิตวิญญาณ ที่สุดก็ได้ทำให้ทั้งผู้สร้างและผู้เสพ ได้เรียนรู้โลกและชีวิต

*********************

เรื่อง : นาตยา บุบผามาศ


บางส่วนจากละครเวทีฝีมือผู้กำกับหญิงที่ได้โอกาสแสดงในงานWomen in the Moon
บรรยากาศเป็นกันเองระหว่างการเสวนาละคร และพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
จารุนันท์ พันธชาติ จากกลุ่มละครบีฟลอร์ ผู้กำกับละครเรื่อง ยามพลบ 2
 สินีนาฏ เกษประไฟ จากพระจันทร์เสี้ยวการละคร  ผู้กำกับละครเรื่อง แสลง
พรรัตน์ ดำรุง หรือ ครูอุ๋ย ที่ปรึกษาโครงการผู้หญิงในดวงจันทร์
กุลธิดา มณีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ
ฟารีดา จิราพันธุ์ (คนขวา) และ อุษาวดี สุนทรเกตุ สองผู้กำกับละครเรื่อง โสมเกาหลี
กำลังโหลดความคิดเห็น