ฝึกความจำไขว้คำศัพท์ลับสมอง
รู้จักท่องรู้ระลึกหมั่นฝึกฝน
เก่งเขียนอ่านการสะกดด้วยอดทน
เพราะทุกคนเห็นคุณค่าภาษาไทย...
...หัดบวกลบได้ครบถ้วนกระบวนคิด
เตรียมแข่งขันอย่างฉันมิตรร่วมสมัย
พร้อมรู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย
เล่นเกมไขว้ช่วยพริบไหวพัฒนา
ย้อนหลังกลับไปสู่รัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง ทรงริเริ่มประดิษฐ์คิดค้นตัวอักษรไทยขึ้นเมื่อ พ.ศ.1826 โดยดัดแปลงมาจากตัวอักษรขอม อักษรไทยที่พระองค์ประดิษฐ์ขึ้นมีทั้งสิ้น 32 ตัว เวลาเขียนจะเขียนในบรรทัดเดียวกันทั้งพยัญชนะและสระ โดยพระองค์ทรงโปรดให้จารึกตัวอักษรทั้งหลายเหล่านั้นลงในแผ่นศิลา เรียกว่า ศิลาจารึกหลักที่ 1 นั่นถือว่าเป็นวรรณคดีชิ้นแรกที่มีการบรรยายเรื่องราวต่างๆ ในรัชสมัยพระองค์และเมืองสุโขทัย ซึ่งนับเป็นมรดกทางด้านภาษาชิ้นสำคัญที่ได้มีการรักษาสืบต่อกันมา
แต่ทุกวันนี้มรดกทางภาษาที่ถูกถ่ายทอดกันมาในแต่ละยุค แต่ละสมัยนั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์บ้านเมือง ทำให้มีการบัญญัติคำใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย รวมถึงคำศัพท์ต่างๆ ที่อิมพอร์ตจากต่างประเทศแล้วนำมาใช้กันอย่างผิดๆ เหตุเหล่านี้ทำให้เกิดการคิดค้นประดิษฐ์เครื่องมือที่จะสามารถช่วยส่งเสริมและพัฒนาภาษาอย่างไม่น่าเบื่อ จนกลายเป็นผลผลิตด้านวัฒนธรรมทางภาษาของภูมิปัญญาไทยที่เรียกกันว่า ‘เกมไขว้อักษรไทย’ หรือ ‘สแคร็บเบิลภาษาไทย’ ( Thai Scrabble)
ผู้จรรโลงค่าภาษาไทย
ในประเทศไทยเราได้เริ่มทำความรู้จักกับปริศนาอักษรไขว้มานานแล้ว เช่นเดียวกับที่ชาวต่างชาติเขามี Crossword Puzzle เพียงแต่บ้านเราไม่มีสแคร็บเบิล (Scrabble) เหมือนอย่างฝรั่ง แต่ภายหลังจากที่ บุญเกิด ธรรมวาสี วิศวกรไฟฟ้าสื่อสาร ผู้พิสมัยการเล่นเกมอักษรไขว้ทุกชนิด ได้เข้าแข่งขันชิงแชมป์ครอสเวิร์ดเกมที่ชมรมโลจิกเป็นผู้จัด และได้ตำแหน่งผู้ชนะเลิศของประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2531 ซึ่งถือเป็นปีแรกที่มีการสรรหาตัวแทนไปชิงแชมป์ระดับโลก ที่สหรัฐอเมริกา
“แม้ว่าครอบครัวจะยากจน แต่ผมก็ยังได้รับการส่งเสียให้เรียนได้สูง แต่ก็ไม่เท่ากับพี่ชายของผมที่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนฝรั่งสมัยนั้น ในชีวิตวัยเด็กผมจึงกลายเป็นคนที่ช่างคิด ช่างฝันมาก และคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตผมมากที่สุดก็คือ พี่ชายที่อายุแก่กว่าประมาณ 3 ปีนั่นแหละ เพราะพี่ผมเขามักนำเรื่องราวต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องชีวิตของคนที่เก่งๆ และประสบความสำเร็จมาเล่าให้ฟัง สมัยชั้นมัธยมถึงเตรียมอุดมศึกษาผมจึงเริ่มรู้สึกตัวว่า ชอบเล่นปริศนาอักษรไขว้เป็นพิเศษ เพราะพี่ชอบชวนไปเล่นอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะ Crossword Puzzle ส่วนของไทยก็มีโอกาสได้เล่นบ้างแต่ก็รู้สึกว่าเล่นไม่ค่อยได้ ไม่เหมือนของฝรั่งที่เขามีหลายระดับที่ล่อให้เราเล่น จำได้ว่าเล่นจนได้รางวัลเป็นหนังสือนิยายฝรั่งชื่อว่า Oliver Twist แต่ยากมากอ่านไม่รู้เรื่องเลย”
“ในวัยเรียนวิชาที่ผมชอบมากคือคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ แต่ตอนวัยรุ่นผมรู้สึกตัวว่าตนเองเป็นคนที่มีเพลงอยู่ในสมอง กลอนอยู่ในหัวใจ เสมอ ผมประทับใจและชอบพวกโครงกลอน กาพย์ ฉันท์ต่างๆ แต่ก็ต้องห่างๆ ออกไป ตั้งแต่ก้าวเข้ามาเรียนทางสายวิศวะ ทำให้สมองซีกขวาไม่ค่อยได้ใช้งาน กลายเป็นว่าต้องใช้เพียงซีกซ้ายไปในทางคิดคำนวณเสียมากกว่า แต่ความชื่นชอบและความรักที่มีต่อความสวยงามของภาษาไทยก็ยังไม่ได้จากหายไปจากใจ ในช่วงที่ทำงานกับบริษัทข้ามชาติ มีโอกาสได้เข้าแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยที่ชมรมโลจิกจัด จัดหาผู้ชนะเลิศไปแข่งขันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีนั้นก็ได้แชมป์สมใจ ” บุญเกิดเล่าให้ฟังถึงที่มาของความประทับจับในตัวอักษร
นับแต่นั้นมาหลังจากประสบความสำเร็จจากเวทีโลกทำให้บุญเกิดมีแรงบันดาลใจในการริเริ่มคิดประดิษฐ์เกมไขว้อักษรไทย (Thai scrabble) โดยได้ทำการศึกษาคิดค้นและพัฒนาการประดิษฐ์เกมที่จะเล่นมาโดยตลอดเป็นลำดับ จนทำได้สำเร็จในปลายปี 2533 และได้เข้าขอจดสิทธิบัตรเมื่อเดือนมกราคม 2534 ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ได้ออกสิทธิบัตรหมายเลข 9843 ภายใต้ชื่อ ‘เกมไขว้อักษรไทย’
“ช่วงแรกที่คิด ค้นคว้า ทดลองหลักการทำอยู่นั้น ได้ประดิษฐ์ออกมาเป็นกระดานไม้ ซึ่งไม่ค่อยได้คุณภาพเท่าไหร่นัก และตัวอักษรตอนนั้นก็มีจำนวนที่เยอะมาก ทำให้ไม่สามารถเล่นได้ดีเท่าที่ควร เพราะยากลำบากเกินไปจึงต้องมีการแก้ไขใหม่ในภายหลัง“ บุญเกิดเล่าให้ฟัง
ต่อมาบุญเกิดจึงได้รับคำแนะนำจาก ศาสตราจารย์ ดร. กาญจนา นาคสกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและเป็นเจ้าของรายการ ‘ภาษาไทยวันละคำ’ ที่โด่งดังในอดีต ให้ลดจำนวนตัวเล่นลงให้มากที่สุด เพื่อให้เยาวชนไทยสามารถเล่นเกมนี้ได้ เวลาผ่านไปไม่นานบุญเกิด จึงได้ทำการพัฒนารายละเอียดเพิ่มเติมจากต้นแบบที่ประดิษฐ์ไว้แล้ว จนในที่สุดก็สามารถลดจำนวนตัวเล่นได้สำเร็จเป็นชุด ‘เกมไขว้อักษรไทย’ ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งสามารถลดจำนวนตัวเล่นจากประมาณ 100 ตัวเหลือเพียง 70 ตัว ดังที่สามารถเห็นได้อยู่ในปัจจุบันนี้
ศิลปะการใช้ภาษาในเกม
เกมไขว้อักษรไทย ผลิตผลจากการประดิษฐ์คิดค้นด้านวัฒนธรรมทางภาษาของภูมิปัญญาไทย ที่นอกเหนือจากการที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของเหล่าเยาวชนแล้ว ยังเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยสร้างสรรค์จรรโลงค่าภาษาไทยในใจเยาวชนได้เป็นอย่างดี เพราะเสน่ห์ของเกมไขว้อักษรไทย คือ ความสนุกสนานในการเลือกใช้คำและตัวอักษรไทยจากเกมการเล่นที่ใช้ในการ แข่งขันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้เวลาภายใน 45 นาที ซึ่งยังสนุกทั้งเล่นเป็นกลุ่ม และเล่นกันสองคน
“การเล่นเกมไขว้อักษรไทยผู้เล่นต้องรู้จักการวางแผนและการคิดกลยุทธ์เพื่อป้องกันมิให้คู่แข่งหาโอกาสทำคะแนนจากตัวเล่นของเราที่วางลงไป นอกจากนี้การทำคะแนนจากตัวเล่นที่เสี่ยงทายจับขึ้นมาได้จะต้องเน้นการวางแผนให้ดีเพื่อลงให้ตรงช่องสีที่ให้คะแนนมากเป็นพิเศษ เช่นช่องที่มีคะแนนเป็นสองเท่าสามเท่าของเฉพาะตัวอักษรหรือของคำซึ่งจะทำให้ได้คะแนนมากในระดับที่จะเฉือนหรือชนะคู่แข่งได้ ผู้เล่นจึงจำเป็นที่จะต้องพัฒนาฝึกฝนความรอบรู้ในเรื่องคำต่างๆ และจะต้องฝึกทักษะเกี่ยวกับการใช้คำไทยและอักษรไทย ทำให้ได้ทราบความหมายของคำเหล่านั้นในที่สุด
“การเล่นเกมนี้นอกจากจะช่วยสร้างความแม่นยำในการสะกดคำไทยแล้วยังช่วยฝึกสมองให้คิดคำนวณบวกลบคะแนนตลอดเวลาการแข่งขันด้วย นอกจากนี้ ผู้แพ้ผู้ชนะเรียนรู้จากกันและกัน มีน้ำใจรู้แพ้รู้ชนะกัน เกมนี้ยังให้ความตื่นเต้นสุดขีดจากการใช้ตัวเล่นทั้งเจ็ดตัวได้หมดในครั้งเดียวที่เรียกว่าการ ทำ "ชโย " ซึ่งมีคะแนนเพิ่มเป็นพิเศษอีก 50 คะแนนทำให้มีโอกาสชนะคู่แข่งที่มีความรู้มากกว่า“ บุญเกิดเล่าให้ฟัง
เกมไขว้อักษรไทย หรือสแคร็บเบิลไทย นอกจากจะทำให้ผู้เล่นได้เรียนรู้คำศัพท์ผ่านการเล่นเกมแล้วบุญเกิดยังบอกให้ฟังอีกว่า ความหมายโดยย่อของการประดิษฐ์คิดค้นเกมไขว้อักษรไทยชิ้นนี้ยังหมายถึง การฝึกการคิด พัฒนาความจำอีกด้วย
“มันถือเป็นเกมยุทธศาสตร์จริงๆ ผมเล่นเกมมาสารพัดชนิดแล้วตั้งแต่เด็กๆ แต่ชื่อชอบที่สุดคือ สแคร็บเบิล เพราะได้ประโยชน์ ได้วางแผน และเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้สมองไม่ฝ่อ อีกทั้งสิ่งหนึ่งที่เป็นผลพลอยได้จากการเล่นเกมคือ การได้ศึกษาค้นคว้า หาข้อมูลเรื่องคำในภาษาไทยที่มีอยู่เยอะมาก ทำให้สามารถแต่บทกลอน และกวีในแบบต่างๆ ได้” บุญเกิดพูดถึงข้อดีจากการเล่นสแคร็บเบิลที่เขาได้รับ
เปิดประสบการณ์การเรียนรู้
ผู้เชี่ยวชาญการจำระดับโลกกล่าวไว้ว่าความจำมีเพียงสองชนิดคือความจำที่ยังไม่ได้ฝึกฝน กับความจำที่ได้ฝึกฝนแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะนึกว่าความจำของตนเองไม่ดี ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด แต่เป็นเพราะยังไม่ได้ฝึกฝนให้ใช้ความจำให้ถูกทางเท่านั้น บุคคลในวัยเรียน วัยทำงานหรือวัยพักผ่อนแล้วก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นที่จะต้องฝึกความจำเสมอ มิใช่การหลับหูหลับตาท่องจำอย่างเดียว ซึ่งหาความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้ยาก
“เนื่องจากเกมนี้เป็นเกมฝึกเชาวน์ปัญญา จึงมีคนสนใจมากขึ้น ทั้งนี้ผมได้เข้าร่วมจัดการแข่งขันสำหรับนักเรียนเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนสมุทรปราการ เขต 1 ด้วยการส่งเทียบเชิญไปยัง 15 โรงเรียนให้มาเข้าร่วมการแข่งขัน จากตรงนี้ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กนักเรียนที่อยู่ในละแวกนั้นได้ทำความรู้จักกับสแคร็บเบิลไทย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เดินทางไปเผยแพร่ต่างโรงเรียนต่างๆ ทุกครั้งที่ไปก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากครูและนักเรียน แต่ก็ยังไม่มีการเล่นกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านเวลา และงบประมาณที่โรงเรียนจะสามารถจัดซื้อได้
“แต่ก็มีบ้างโรงเรียนที่คุณครูเปิดรับน้อยมาก เพราะตัวคุณครูมักคิดว่าเกมนี้เป็นเกมที่เล่นยากจนเขาไม่สามารถเล่นได้ แล้วคิดว่าเด็กก็ต้องเล่นไม่ได้ด้วยเช่นกัน แต่เด็กๆ ยังต้องการพื้นฐานที่ดีและเข้าใจง่าย จนบางครั้งก็กลายเป็นการปิดกั้นโอกาสทางการศึกษาของเด็กๆ เด็กนักเรียนบางคนเล่นเก่งกว่าคุณครูก็ยังมี ซึ่งนั่นถือเป็นนิมิตหมายที่ดีมากๆ ” บุญเกิดเล่าให้ฟังถึงอุปสรรคในการนำสิ่งประดิษฐ์นี้เข้าถึงมือเยาวชน
ในจำนวนคนที่เคยผ่านการเล่นสแคร็บเบิล และเกมไขว้อักษรไทยมา อรพรรณ ตุ่นหนิ้ว และ พงศ์สุภา ปิ่นแก้ว เธอทั้งสองยังยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า สแคร็บเบิลสัญชาติไทยนี้มีความสามารถในการพัฒนารากเหง้าทางด้านภาษาให้แก่เธอทั้งสองได้เป็นอย่างดี
“โดยปกติจะเล่นสแคร็บเบิลภาษาอังกฤษและฝรั่งเศษมากกว่าเพราะช่วยในเรื่องการจำคำศัพท์ ส่วนสแคร็บเบิลภาษาไทยนั้นเมื่อก่อนไม่เคยเล่นเลย เพราะไม่ทราบมาก่อนว่าบ้านเราจะมีสแคร็บเบิลด้วย ไม่คิดว่าจะมีใครคิดประดิษฐ์เนื่องจากภาษาไทยเรามีทั้งพยัญชนะที่เยอะ สระ วรรณยุต์อีกด้วย คงซับซ้อนน่าดู ตอนแรกที่เห็นสแคร็บเบิลไทยกล่องนี้ยอมรับก็อึ้งเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะเล่นได้จริงๆ ต้องบอกว่าเกมนี้ฝึกสมอง ความจำ ความคิด พร้อมทั้งปลูกฝังให้เด็กรักภาษาไทยด้วย” อรพรรณพูดถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อสแคร็บเบิลสัญชาติไทยที่เธอถืออยู่ในมือ
“ตอนแรกยอมรับว่าเล่นยากเหมือนกัน ต้องหัดทำความเข้าใจตั้งแต่เริ่มต้น เพราะเป็นคนที่รู้จักคนในภาษาไทยน้อยมากๆ แต่หลังจากทดลองเล่นกับเพื่อนๆ ไปได้สัก 3-4 ครั้ง ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็กลับกลายเป็นว่าสนุกกับการเล่น ได้ใช้เวลาว่างเรียนรู้คำศัพท์ภาษาไทยใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้รู้จัก และไม่เคยได้ยินมาก่อน” พงศ์สุภาเล่าให้ฟัง
สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นการพัฒนาภาษารากเหง้าสำคัญของคนไทยชิ้นนี้ ผลิตจากสองมือของคนไทยที่มีใจรักษ์และมองเห็นคุณค่าของภาษาไทย ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งเกมการศึกษา และสื่อการสอนภาษาไทยในคราวเดียวกัน เพราะนอกจากจะเป็นตัวกระตุ้นต่อมความคิดให้เด็กเกิดการใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และแสวงหาความรู้ด้านภาษาไทยมากขึ้นแล้ว ยังเป็นเกมที่คงไว้ซึ่งคุณค่าแห่งภาษาไทยอีกด้วย แต่เป็นที่น่าเสียดายที่โรงเรียนยังไม่ได้นำประโยชน์ของเกมอักษรไขว้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร
************
เรื่อง : นาตยา บุบผามาศ
เกมไขว้อักษรไทย-เกมสังสรรค์สำหรับครอบครัว
เกมไขว้อักษรไทย หรือสแคร็บเบิลไทย เป็นเกมต่ออักษรที่ใช้เล่นได้ตั้งแต่ 2-4 คน เหมาะสำหรับนักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ขึ้นไป รวมทั้งนิสิต นักศึกษา ประชาชนและชาวต่างประเทศที่ศึกษาภาษาไทย โดยจะเล่นเพื่อความสนุกสนาน หรือจัดเล่นแบบแข่งขันกันก็ได้
ตัวเล่นทั้งหมดมี 70 ตัว มีอักษรทั้งสองด้านให้เลือกใช้ โดยวางบนกระดานเล่นที่แบ่งเป็นตารางหรือช่อง 17x15 ช่อง แต่ละช่องแบ่งเป็นสามชั้น ชั้นกลางวางพยัญชนะและสระหน้า สระหลัง ชั้นล่างวางสระล่าง ชั้นบนใช้วางวรรณยุกต์ (มีชุดวรรณยุกต์ให้เลือก),ไม้ไต่คู้,ไม้ทัณฑฆาต สระบนพร้อมวรรณยุกต์ให้เลือก (จะไม่เลือกวรรณยุกต์ก็ได้) บนตัวเล่นมีอักษรไทยและตัวเลขไทยที่แสดงคะแนนประจำตัว
การเล่นใช้วิธีจับตัวแบบเสี่ยงทายจากถุงโดยให้แต่ละข้างมีตัวเล่นบนรางไม่เกิน 7 ตัว เมื่อผู้เล่นผสมคำที่มีความหมายก็วางลงในกระดานเล่นโดยเริ่มต้นให้ผ่านลายดาวกระจายได้ทั้งตามแนวตั้ง(อ่านลง) หรือแนวนอนโดยใช้จำนวนตัวเล่นไปเท่าใดก็จับตัวเล่นจากถุงมาให้เท่ากับจำนวนที่วางไปแล้วนับคะแนนจากคำที่ลง คู่แข่งขันก็จะเป็นผู้เล่นคนต่อไปโดยลงคำที่สัมผัสกับคำที่มีอยู่แล้ว และนับคะแนนคำที่เกิดขึ้นใหม่ทุกคำ การเล่นดำเนินต่อไปจนตัวเล่นหมดถุงหรือเล่นต่อไปไม่ได้จึงถือว่าการเล่นสิ้นสุดและนับคะแนน ผู้ที่ได้คะแนนรวมมากกว่าคือผู้ชนะ
************