xs
xsm
sm
md
lg

ปรากฏการณ์ ‘สูทด่วน 24 ชม.’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แค่นั่งรถเมล์ผ่านถนนสุขุมวิท นั่งแท็กซี่เข้าซอยนานา หรือชิดใกล้มากหน่อยด้วยการเดินชมถนนข้าวสาร สองข้างทางไม่ต้องใช้ทักษะการสังเกตก็จะพบร้านค้าสลับร้านอาหาร บาร์ เกสต์เฮาส์ และโรงแรม ที่สอดแทรกด้วย ‘ร้านตัดสูท’ ที่ดำเนินกิจการโดยคนไทยเชื้อสายแขกหรือแขกแท้ๆ ที่แรมรอนไกลมาจากฝั่งฟากหนึ่งของเอเชียอยู่เป็นระยะๆ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าแรงจูงใจอันใดที่นำพวกเขามาเปิดร้านตัดสูทมากมายราวกับดอกเห็ดหน้าฝนในย่านนั้น

นอกจากนั้น หากให้เวลาสักนิดกับความเคลื่อนไหวภายในและนอกร้านที่ห่างกันเพียงกระจกใสกั้น คำถามหนึ่งจะชัดเจนในมโนภาพ ว่าเหตุใดนายห้างและลูกจ้างในเสื้อผ้าเรียบกริบถึงคอยต้อนรับและเชิญชวนลูกค้าเฉพาะชาวต่างชาติให้เข้าไปใช้บริการตัดสูทอย่างคึกคัก แม้ลูกค้าที่พวกเขาหว่านล้อมด้วยการถามไถ่พร้อมมอบนามบัตรหรือโบรชัวร์ให้นั้นจะมีลักษณะ 100 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวแบบ Backpacker ที่ไม่น่าจะมีอะไรข้องเกี่ยวกับชุดสูทภูมิฐานเลยก็ตามที ขณะที่คนไทยแม้จะเดินเฉียดใกล้ประตูร้าน แต่กลับไม่ได้รับความสนใจมากนัก ต่อให้แต่งตัวดูดีมีรสนิยมแค่ไหน

ยิ่งผนวกรวมคำถามค้างคาใจมานานอย่างทำไมร้านตัดสูทเหล่านั้นต้องเปิดบริการรับตัดสูทภายใน 24 ชั่วโมงด้วยแล้ว ปรากฏการณ์สูทด่วนทันใจนี้จึงน่าดิ่งลึกในนัยความหมายยิ่งนัก ด้วยการันตีได้เลยว่าจะเก็บเกี่ยวได้ไกลกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ‘แขกกับผ้า’ อย่างแน่นอน

* ทันใจ 24 ชั่วโมงได้

‘Your Order Can Be Ready In 24 Hrs’

สติกเกอร์หน้าร้านที่บ่งบอกทักษะความสามารถในการรับออเดอร์ วัดตัว ลองตัว และตัดเย็บจนสำเร็จออกมาเป็นชุดสูทภายในเวลาเพียงวันเดียวของร้านตัดสูทจำนวนมากที่มี ‘นายห้าง’ หรือเจ้าของร้านที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายแขกหรือไม่ก็เป็นชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศอินเดีย เนปาล กระทั่งบังกลาเทศนั้น นอกจากฉายชัดความชำนาญในการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับผ้าของพวกเขาแล้ว ยังแสดงความมีกึ๋นทางการตลาดควบคู่กันด้วย เพราะสามารถใช้ข้อจำกัดด้านเวลามาสร้างสรรค์กลยุทธ์ทางการตลาดได้จนประสบความสำเร็จ

ความรวดเร็วจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญยิ่งในการดึงดูดลูกค้าชาวต่างชาติให้ใช้บริการร้านตัดสูททันใจเหล่านี้ เนื่องด้วยลูกค้าส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอินโดจีน ทั้งไทย ลาว พม่า เขมร เรื่อยเลยถึงเวียดนาม พวกเขาจึงมีเวลาไม่มากนักในเมืองไทย ฉะนั้นการตัดสูทจึงเป็นไปไม่ได้เลยหากยังยึดติดขนบการตัดสูทเดิมๆ ที่จำต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์นับแต่ขั้นตอนการวัดตัวยันส่งมอบ

“ลูกค้าส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่เดินทางมาช่วงฮอลิเดย์ ญี่ปุ่นก็มีบ้างแต่ไม่มากนัก ส่วนคนไทยจะน้อยมาก ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ลูกค้าฝรั่งส่วนใหญ่ที่มาตัดชุดสูทจะเป็นกลุ่ม Backpacker ที่ต้องการชุดสูทที่มีมาตรฐานในเวลาสั้นที่สุด เพราะพวกเขาต้องเดินทางต่อไปประเทศข้างเคียง หรือไม่ก็กลับประเทศตัวเอง”

ราชูล เลล นายห้างชาวอินเดียเจ้าของร้านตัดสูท Beyond Fashion Co., Ltd. เผย พลางขยายความด้วยภาษาไทยชัดเจนว่า แม้การแต่งตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยากจะเชื่อว่าเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของทางร้าน แต่หากพิจารณาจากช่วงอายุของนักท่องเที่ยว Backpacker ส่วนใหญ่ที่อยู่ประมาณ 26-40 ปี ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่เวลาพวกเขากลับไปประเทศตัวเองแล้ว จำเป็นที่จะต้องสวมใส่สูทไปทำงาน

นายห้างที่เคยเปิดร้านตัดสูทอยู่ที่ภูเก็ต ก่อนจะย้ายมายังถนนพระอาทิตย์นานกว่า 6 ปีมาแล้วเล่าต่อว่า กระบวนการตัดเย็บสูทที่รวดเร็วราวสายฟ้านั้น เริ่มต้นจากกระบวนการวัดตัวที่จะทำโดยนางห้างหรือลูกจ้างที่ชำนาญ ก่อนจะส่งข้อมูลสัดส่วนลูกค้าแก่ช่างตัดสูทคนไทยผู้จะทำการตัดเย็บจนสำเร็จออกมาเป็นชุดสูท โดยระหว่างนั้นจะมีการลองตัวเพื่อให้สัดส่วนและรูปทรงออกมาตรงตามความต้องการของลูกค้ามากสุด

“วัดตัวเรียบร้อยแล้ว ทางร้านก็จะโทร.บอกข้อมูลลูกค้าแก่ช่างตัดสูทที่เป็นคนไทยเพื่อวางแพตเทิร์น จากนั้นค่อยนำผ้าที่ลูกค้าเลือกไปให้ช่างเพื่อทำการตัดเย็บ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็พร้อมที่จะให้ลูกค้าลองตัว แล้วทำการปรับแก้อีกครั้งถ้ามีข้อผิดพลาด ก่อนจะเสร็จสมบูรณ์ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง”

ส่วนเหตุผลที่ทำให้ช่างคนไทยเป็นตัวเชื่อมร้อยสำคัญของความฉับไวครั้งนี้ ราชูล เฉลยว่าเพราะคนไทยเชี่ยวชาญการตัดเย็บสูท อีกทั้งยังมีโรงงานของคนไทยรองรับการตัดสูทด่วน 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะส่งไปตัดชุดเดียวหรือหลายชุด ทางโรงงานและช่างก็ยินดีรับตัดให้

“การที่ร้านตัดสูทลักษณะนี้ไม่มีช่างตัดสูทประจำ เนื่องจากหากเดือนไหนลูกค้าเข้ามาน้อย ทางร้านก็จะต้องแบกรับค่าจ้าง ซึ่งไม่ไหว การส่งต่อให้ช่างตัดสูทคนไทยจึงประหยัดกว่ามาก”

การเคี่ยวกรำประสบการณ์ในร้านตัดสูทมากถึง 16 ปีของราชูลคล้ายคลึงกับมุมมองของนายห้างคนไทยเชื้อสายอินเดียที่สืบสานอาชีพร้านตัดสูทมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ นับแต่รุ่นปู่ที่รอนแรมจากอินเดียมาพึ่งพิงพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะนอกจากเขาจะชื่นชมฝีมือช่างตัดสูทคนไทยด้วยคุ้นเคยทักษะความสามารถมาตั้งแต่เด็กๆ จากกิจการภายในครอบครัวแล้ว นายห้างผู้มาเปิดร้านใหม่ในซอยรามบุตรีผู้นี้ยังใช้บริการช่างตัดสูทคนไทยต่อเนื่องมายังปัจจุบัน ด้วยค่าจ้างไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพเนื้องานและความรวดเร็วที่ได้รับ

“ถ้าเป็นกางเกงอย่างเดียว ทางช่างจะตัดให้ลูกค้าลองได้หลังจากเสร็จขั้นตอนวัดตัวแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนชุดสูทอาจจะนานขึ้นอีกหน่อย แต่ได้ภายใน 24 ชั่วโมงแน่นอน อย่างไรก็ตามถ้าลูกค้ามีเวลามากพอ ควรเลี่ยงตัดสูทแบบ 24 ชั่วโมง เพราะงานที่ออกมาจะได้ไม่มีข้อผิดพลาดจากความรีบเร่ง” นายห้างเจ้าของร้านตัดสูทในซอยรามบุตรีแนะนำ

วันนี้ความรวดเร็วในการตัดสูทไม่ใช่แค่ 24 ชั่วโมงได้ แต่ก้าวไกลถึงขั้น 12 ชั่วโมงก็ได้สวมใส่สูทเพิ่มความสง่างามภาคภูมิใจในราคาเท่ากันกับสูทที่ใช้เวลาตัดมากกว่าหนึ่งวันแล้ว ดังสติกเกอร์ ‘Suit Ready in 12 Hours’ หน้าร้านตัดสูทของราชูล ที่นอกจากจะบริการรวดเร็วราวกามนิตหนุ่มแล้ว สนนราคาค่าสูทยังถูกมากเมื่อเทียบกับประเทศแถบยุโรป

* จ่ายสบาย สไตล์เดิร์น

ไม่เพียงความด่วนทันใจจะเป็นเสน่ห์ประทับใจลูกค้าชาวต่างชาติให้หันมาใช้บริการร้านตัดสูทเหล่านี้เท่านั้น หากราคามิตรภาพยังเป็นเงื่อนไขสำคัญในการสานลมหายใจของร้านรวงเหล่านี้ให้อยู่รอดต่อไปได้ แม้ในขณะที่จีนและเวียดนามแรงขึ้นมาจากราคาค่าตัดสูทที่ถูกกว่าไทย อันเนื่องมาจากวัตถุดิบและค่าแรงถูกกว่ามาก

ทว่าครั้นเทียบคุณภาพแล้วกลับพบว่าคุณภาพชุดสูทเมืองไทยเหมาะสมกับเงินที่ควักจ่ายออกไปมากกว่า เพราะราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 40 เหรียญสหรัฐขึ้นไปในการตัดสูทของเมืองไทยนั้น คุ้มค่ากว่ามากเมื่อเทียบกับชุดสูทราคาแค่ 20 เหรียญสหรัฐของประเทศเวียดนามหรือจีน ดังที่ราชูลเล่าว่า เคยมีลูกค้าของเขาเดินทางไปเวียดนามแล้วตัดสูทกลับมา แม้ราคาจะถูกกว่ากันมาก แต่เมื่อเทียบคุณภาพผ้าและเนื้องานที่ได้ยังห่างไกลจากประเทศไทยมาก

“สูทมาตรฐานของทางร้านราคาจะเริ่มตั้งแต่ 2,500 บาทขึ้นไป โดยจะขึ้นอยู่กับคุณภาพผ้าที่ลูกค้าเลือก ถ้าเป็นผ้าต่างประเทศราคาจะแพงหน่อยเพราะต้องเสียภาษีนำเข้า แต่หากเป็นผ้าไทยราคาก็จะถูกลงมา” นายห้างชาวอินเดียเผย พลางสำทับว่าทางร้านจะสต๊อกผ้าที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าไว้ในร้านโดยจัดวางอย่างสวยงามหลากสีสัน และสะดวกในการเลือกสรรตามความพอใจ ไม่ว่าจะเป็นผ้าไทยหรือเทศ เช่น ไหม คอตตอน ลินิน ทวีด อิตาเลียน วูล และแคชเมียร์ วูล

ส่วนมาตรฐานการตัดเย็บจะไม่ค่อยพบข้อผิดพลาดมากนักถึงแม้จะต้องเร่งให้ทันความต้องการของลูกค้าภายใน 24 ชั่วโมงก็ตาม เนื่องด้วยมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างนายห้างกับช่างตัดสูทคนไทยในขั้นตอนการวัดตัวกับการตัดเย็บจนสำเร็จเป็นชุดสูทออกมา แม้กรณีที่ลูกค้าจะกางแมกกาซีนแฟชั่นล่าสุดจากซีกโลกตะวันตกมาเป็นแบบอย่างให้ตัดก็ตามที

Hugo Boss, Giorgio Armani, Gucci, Versace กระทั่ง Valentino แบรนด์เนมหรูเลิศจากฝั่งยุโรปเหล่านี้หากฝันจะเป็นเจ้าของ อย่างน้อยต้องจ่ายหลายหมื่นบาทแม้ตอนลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ครึ่งราคา หากทว่าไม่คลั่งไคล้แบรนด์เนมมากเท่าสไตล์เฉี่ยวเนี้ยบของชุดสูทเหล่านี้แล้ว เพียงกำเงินไม่ถึงครึ่งหมื่นก็อาจจะครอบครองชุดสูทสุดเดิร์นเหล่านี้ได้ไม่ยาก

ด้วยร้านตัดสูทเหล่านี้นอกจากติดสติกเกอร์ระบุเวลาตัดสูทได้ด่วนทันใจ 24 ชั่วโมงแล้ว ยังติดสติกเกอร์หรือป้ายขนาดใหญ่หน้าร้านประกาศชัดเจนว่าสามารถตัดชุดสูทสไตล์ Boss, Armani และ Versace ได้ด้วย ดังร้านของนายห้างชาวอินเดียที่รับตัดเสื้อผ้าในสไตล์หรูเลิศเหล่านี้มานานแล้ว

“บางครั้งลูกค้าก็เอาหนังสือแฟชั่นมาให้ดู แล้วบอกให้ทางร้านตัดชุดสูทตามนั้น หรือไม่ก็มาที่ร้านแล้วเลือกชุดสูทจากแค็ตตาล็อกของแบรนด์เนมต่างๆ ซึ่งทางร้านก็จะตัดให้ได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมงเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้ดีควรมีเวลามากกว่านั้น เพราะจะเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น” ราชูลเผยถึงรสนิยมของลูกค้า พลางเน้นว่าแม้ทางร้านจะตัดชุดสูทสไตล์เดียวกับแบรนด์เนมหรูล้ำได้เหมือนมากเพียงใด แต่ทุกชุดจะไม่มีการก๊อปปียี่ห้อสินค้าลงไปเด็ดขาด เนื่องจากผิดกฎหมาย

ขณะที่ฝั่งนายห้างคนไทยเชื้อสายอินเดียกลับมองว่า การตัดชุดสูทตามสไตล์หรูเลิศของแบรนด์เนมอิตาลีเหล่านี้ อาจได้เพียงความใกล้เคียงของรูปทรง หากศิลปะการตัดเย็บ ความสลับซับซ้อนของการดีไซน์และคุณภาพของเนื้อผ้าคงยากจะเหมือนต้นฉบับ 100 เปอร์เซ็นต์

“แต่ละยี่ห้อก็มีสไตล์การตัดเย็บเฉพาะตัว จำเป็นต้องใช้ฝีมือและเครื่องมือเฉพาะในการทำ อีกทั้งคุณภาพของผ้าที่เลือกใช้ก็ต่างกัน และยังไม่มีวางขายในท้องตลาดให้นำมาตัดเป็นสูทด้วย การจะได้ชุดสูทที่เหมือนยี่ห้อแพงๆ จึงยากมาก”

ถึงกระนั้น ใช่ว่าความนิยมของลูกค้าต่างชาติในการตัดสูทที่ทั้งด่วน ถูก และดูดีมีสไตล์จะลดน้อยถอยลงไปจากข้อจำกัดด้านคุณภาพผ้าและรูปทรงที่อาจไม่เหมือนแบรนด์เนมหรูเต็มร้อยซะทีเดียว ทว่าความกระชับรับสัดส่วนของผู้สวมใส่ที่สูทเหล่านี้มอบให้ได้มากกว่าสูทแบรนด์เนมก็ลบข้อด้อยนั้นได้ชะงัด ยิ่งปัจจุบันร้านตัดสูทเหล่านี้เปิดบริการรับออเดอร์สั่งตัดชุดสูทจากทั่วทุกมุมโลกผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยแล้ว การครอบครองสูทที่มีคุณภาพสักชุดแม้อยู่อีกซีกโลกหนึ่งก็ไม่ไกลเกินเอื้อม เพียงแค่ขยับนิ้ว ‘คลิก’

* เพียงคลิกก็ออเดอร์ได้ทั่วโลก

นอกจากใจกลางวัฒนธรรมที่เลื่อนไหลอย่างถนนข้าวสารจะเป็นแหล่งรวมชาวต่างชาติ Backpacker ที่เป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของร้านตัดสูทอย่าง Beyond Fashion Co., Ltd., Tailor Express, The Boss Tailor, Fashion World ที่มีลูกจ้างเป็นชาวเนปาล หรือ Amit Fashion Co.,Ltd ที่มีนายห้างเป็นคนไทยเชื้อสายบังกลาเทศแล้ว ซอยนานาและถนนสุขุมวิทยังเป็นทำเลทองของร้านตัดสูทลักษณะนี้จำนวนมากด้วย เนื่องจากชาวต่างชาติที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจจะทำงาน เจรจาต่อรอง เที่ยว และพักอาศัยย่านนั้น

กอปรกับการเดินเข้ามายังร้านเพื่อสั่งตัดชุดสูทอย่างเดิมของลูกค้าที่ลดน้อยลงมากจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองไทยผันผวน ลำพังการชักชวนลูกค้าที่เดินผ่านไปมา ประชาสัมพันธ์ผ่านโบรชัวร์ โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ไม่อาจเติมเชื้อไฟให้ร้านเหล่านี้อยู่รอดต่อไปได้ การขยายช่องทางทางการตลาดที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้พิสมัยรสนิยมเลิศหรูได้อย่างรวดเร็วและมีพลังผ่านอินเทอร์เน็ตจึงถือกำเนิดขึ้น

“การเปิดเว็บไซต์และใช้อีเมลออเดอร์สินค้าของร้านตัดสูทเหล่านี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดในไม่กี่ปีมานี้ เพราะร้านอื่นๆ รวมถึงที่ร้านก็เปิดมานานแล้ว เนื่องจากลูกค้าของเรามีทั้งชาวยุโรป อเมริกา และเอเชีย จึงใช้อินเทอร์เน็ตในการทำธุรกิจตั้งแต่มี เพราะสะดวกมากกว่าติดต่อทางอื่นๆ”

นายห้างคนไทยเชื้อสายเนปาลเจ้าของร้านสูทใหญ่โตบนถนนสุขุมวิทเล่า พลางย้อนรอยให้ฟังว่าแต่เดิมการรับออเดอร์ตัดสูทจากลูกค้าอีกซีกโลกหนึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากไม่มีระบบอินเทอร์เน็ตในการบรรจบความต้องการของลูกค้าเข้ากับผลิตภัณฑ์หรือการบริการของทางร้าน ลูกค้าเกือบทั้งหมดจึงเป็นชาวต่างชาติที่เดินเข้ามาใช้บริการที่ร้านโดยตรง หลังจากประทับใจในคุณภาพของชุดสูทที่ดิสเพย์หน้าร้าน นอกนั้นก็เป็นกลุ่มที่แนะนำต่อๆ กันมาบ้าง

ครั้นยุคอินเทอร์เน็ตเฟื่องฟู ทางร้านก็เปิดเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และคุณภาพการบริการเพื่อขยายฐานลูกค้า ขณะเดียวกันก็เปิดระบบออเดอร์ชุดสูทเพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าในอีกมุมหนึ่งของโลกที่ปรารถนาครอบครองชุดสูทที่ตัดโดยทางร้าน

“ในเว็บไซต์ นอกจากจะโชว์ผลงาน คุณภาพผ้า ราคาและรูปแบบสูทที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีหน้าแนะนำขั้นตอนการวัดสัดส่วนตัวเองของลูกค้าด้วย เพื่อพวกเขาจะได้วัดสัดส่วนตัวเองได้ถูกต้อง ก่อนกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์มออเดอร์สำหรับสั่งตัดสูทของทางร้าน โดยจะสามารถเลือกรูปแบบและคุณภาพของผ้าได้ตามความต้องการ ง่ายๆ แค่คลิก”

นายห้างคนเดิมเผย พลางเล่าต่อว่า โดยเฉลี่ยแล้วสนนราคาค่าสูทที่สั่งตัดทางออนไลน์จะไม่ต่างจากเดินทางมาตัดที่ร้าน ส่วนระบบการจ่ายเงินก็เช่นเดียวกับการซื้อสินค้าทั่วไปที่จะใช้บัตรเครดิต โดยระยะเวลาในการจัดส่งจะใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนนับแต่วันสั่งออเดอร์

ทั้งนี้ การมาถึงของอินเทอร์เน็ต แม้จะกล่าวได้ว่าพลิกโฉมรูปแบบการทำธุรกิจของร้านตัดสูทเหล่านี้ ทว่าหากยุติอยู่แค่นั้น พวกเขาย่อมไม่อาจรอดชีวิตได้ในการแข่งขันทางธุรกิจที่ดุเดือดและห้ำหั่นเฉือนคมด้วยโปรโมชันหนักหน่วง รวมถึงแพกเกจล่อตาล่อใจมากมาย

การพลิกกลยุทธ์เชิงรุกอย่างเต็มตัว ด้วยการเปิดบริการรับลูกค้าผู้ปรารถนาจะตัดสูทกับทางร้านจากในโรงแรมหรือสนามบินมายังร้านเพื่อทำการวัดตัว จึงเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการให้บริการวัดตัวลูกค้าถึงในโรงแรม บ้าน หรือสถานที่อื่นแล้วแต่จะร้องขอ ก่อนนำข้อมูลของลูกค้าไปสั่งตัดกับช่างคนไทยอีกต่อหนึ่ง

จะว่าไปแล้วการบริการลูกค้าเหนือระดับเหล่านี้เรียกได้ว่าแทบจะพบเห็นได้ในทุกเว็บไซต์ของร้านตัดสูทลักษณะนี้

กระนั้นธุรกิจที่บีบรัดตัวมากขึ้นในห้วงขณะที่ลูกค้าลดน้อยถอยลงจากการสกัดกั้นกันด้วยราคา ยังทำให้หลายร้านจำเป็นต้องผุดกลยุทธ์การนำลูกค้าเดินทางไปต่างประเทศเพื่อตัดสูท โดยเฉพาะฝั่งยุโรปและอเมริกา ดังร้านตัดสูทที่กุมบังเหียนโดยนายห้างคนไทยเชื้อสายเนปาลผู้นี้ที่ปีละ 2 ครั้งที่เขาจะนำคณะลูกค้าเดินทางไปอเมริกาและประเทศยุโรปเพื่อตัดสูท รวมถึงนำตัวอย่างเส้นใยผ้าใหม่ๆ ที่เหมาะสมสำหรับตัดสูทกลับมายังประเทศไทย แล้วให้ลูกค้าเลือกชม หากชอบใจทางร้านก็จะอิมพอร์ตผ้าชนิดนั้นเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อทำการตัดสูทในฝันของลูกค้าทันที

แน่นอนทีเดียวว่าราคาชุดสูทเหล่านี้ย่อมทะยานไปหลายร้อยเหรียญสหรัฐอย่างแน่นอน เนื่องด้วยจะประณีตพิถีพิถันมากขึ้นในการตัดเย็บ ขึ้นทรง รวมถึงคุณภาพของผ้าและสไตล์ที่จะเฉี่ยว เนี้ยบ และเดิร์นขึ้นมาก ต่างจากชุดสูทแบบ 24 ชั่วโมงที่เน้นความรวดเร็วเข้าว่า

.. .หากไม่อคติจนเกินไปนัก จะพบว่าในปรากฏการณ์สูทด่วน 24 ชั่วโมงที่เสมือนจะไม่มีส่วนไหนเชื่อมร้อยสัมพันธ์แน่นแนบกับคนไทยเลยนั้น กลับซ่อนส่วนเสี้ยวที่ขาดหายไปในสังคมไทยที่ไม่ค่อยนิยมการตั้งคำถามมากมาย อย่างน้อยก็เริ่มต้นจากสายธารที่ว่าทำไมคนไทยเชื้อสายแขกหรือแขกจึงเชี่ยวชาญและแตกฉานในการค้าขายเสื้อผ้าอาภรณ์มากกว่าคนไทย กระทั่งเหตุใดร้านตัดสูทที่ดำเนินการโดยคนไทยจึงไม่ยอมหันหัวเรือมามุ่งเน้นการตัดสูทที่สอดคล้องกับสภาพความเร่งรีบของตลาดนี้เสียที ก่อนที่จะเสียส่วนแบ่งทางการตลาดให้แก่จีนและเวียดนามที่นับวันจะแซงขึ้นมา

* * * * * * * * * * * *

เรื่อง/ภาพ : ภาณุเบศร์ มหาเรือนขวัญ

มีผ้าหลากสีหลายแบบให้เลือก
เสื้อสูทที่รอการลองตัวของลูกค้า
สูทเท่ๆที่สามารถตัดเสร็จได้ภายในวันเดียว



รับตัดทั้งสูทของผู้ใหญ่และเด็ก

กำลังโหลดความคิดเห็น