xs
xsm
sm
md
lg

ฟังท่วงทำนองแห่งฤดูกาล ณ ค่ายดนตรีไม่มีภาษา 'SAYOWE'

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เสียงกีต้าร์โปร่งกรีดแผ่วขึ้นท่ามกลางความเงียบของอากาศ ฉับพลันเสียงเครื่องเป่าอีกหลายชนิดก็สอดรับกระหึ่มหนักแน่น จากนั้นเครื่องดนตรีทั้งสองประเภทก็บรรเลงประสานกันไปจนกลายเป็นท่วงทำนองเดียวกัน

ท่วงทำนองแห่งฤดูกาล… เพราะเสียงตัวโน้ตที่ลอยล่องอยู่ในบรรยากาศของสถานที่ฝึกซ้อมของค่ายวงดุริยางค์เยาวชนนานาชาติ ณ ศูนย์ฝึกอบรมบ้านผู้หว่าน จังหวัดนครปฐมแห่งนี้ คล้ายจะมีท่วงทำนองเป็นภาษาของตนเอง ไม่ว่าอากาศภายนอกจะครึ้มฟ้าครึ้มฝนสักเพียงไหน แต่ภายในกลับอบอวลด้วยไออุ่นและมิตรภาพที่เชื่อมนักดนตรีรุ่นเยาว์เหล่านี้ไว้ด้วยเสียงดนตรี

-1-

จากกระแสความแรงของภาพยนตร์ไทยเรื่อง 'Season Changed' ส่งผลให้ชื่อของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นที่สนใจขึ้นมาทันตา ก่อนหน้านี้มีน้อยคนจะรู้ว่ามีสถาบันการสอนดนตรีที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดสอนครอบคลุมระดับเตรียมอุดมศึกษา และตั้งแต่ปริญญาตรีไปจนถึงปริญญาเอก
จึงไม่แปลกที่หลายคนจะประหลาดใจเมื่อทราบว่า มีดุษฎีบัณฑิตหรือว่าดอกเตอร์ทางด้านแซ็กโซโฟนเปิดสอนในประเทศไทยด้วย

ชายคนหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นผู้ปลุกปั้นและพยายามทุกวิถีทางเพื่อก่อตั้งสถาบันดนตรีแห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทยนี้จนกระทั่งสำเร็จ คือ รศ.ดร.สุกรี เจริญสุข ผู้อำนวยการวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ที่เชื่อมั่นว่า ไม่เพียงแต่สอนดนตรีเท่านั้น แต่ที่นี่ยังสอนปรัชญา ความคิด และการใช้ชีวิตแก่ลูกศิษย์ลูกหาที่บัดนี้จบการศึกษาออกไปจำนวนนับร้อย

จากจุดเริ่มต้นจากเพียงเป็นสาขาวิชาดนตรี เวลา 12 ปีต่อมารั้วของสถาบันแห่งนี้ได้เปิดต้อนรับเด็กหนุ่มสาวในชุดยูนิฟอร์มแบบกระโปรงบาน-ขาสั้น เพื่อเตรียมทักษะด้านดนตรีให้พร้อมในระดับอุดมศึกษา ตั้งแต่วงมโหรี-ปี่พาทย์ ไปจนถึงวงออร์เคสตร้าและแชมเบอร์มิวสิค เริ่มตั้งแต่ทฤษฎีดนตรีขั้นพื้นฐานจนไปสู่ความเป็นวิชาชีพในระดับนานาชาติ

ไม่เพียงเท่านั้น หลักสูตรที่นี่ยังครอบคลุมไปถึงการประพันธ์ เทคโนโลยี และธุรกิจดนตรี ฯลฯ เรียกได้ว่ามีทั้งทฤษฎีและปฏิบัติครบครัน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะ 'ทำดนตรีให้เป็นอาชีพ' ให้ได้ของผู้อำนวยการสถาบัน ฉะนั้น การกระโดดลงมาจับโครงการใหม่ของรศ.ดร.สุกรีเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ด้วยการจัดโครงการค่ายวงดุริยางค์เยาวชนนานาชาติขึ้นเป็นครั้งแรก และต่อเนื่องมาจนกระทั่งถึงครั้งที่ 4 ในปีนี้นั้น จึงน่าจับตาไม่น้อยว่าจะสร้างปรากฏการณ์อะไรต่อไป ส่วนจะน่าสนใจขนาดไหน… เอาเป็นว่าถึงขนาดประเทศสิงคโปร์ส่งคนมาติดตามดูงานโครงการนี้อย่างใกล้ชิด

วงในกระซิบว่า ตอนนี้ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ไทยเรากับสิงคโปร์กำลังขับเคี่ยวเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางดนตรีในระดับภูมิภาค แม้สิงค์โปร์จะได้เปรียบในเรื่องเงินทุนที่หนากว่า แต่ถ้าเทียบศักยภาพทางด้านดนตรีแล้ว เด็กไทยกินขาด ที่สำคัญกว่านั้น การพัฒนาฝีมือดนตรีสู่ระดับสากลจากโครงการนี้ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมดนตรีในภูมิภาคนี้อย่างช้าๆ ทว่ามั่นคง

-2-

แม้จะเป็นค่ายดนตรี แต่ที่นี่ไม่มีอะไรใกล้เคียงกับ 'ค่าย' ฝึกนักเรียนอาสาสมัครรักษาดินแดน หรือแม้แต่ค่ายลูกเสือ-เนตรนารีที่เราคุ้นเคยแม้แต่น้อย

บรรยากาศที่ร่มรื่นของศูนย์ฝึกอบรมบ้านผู้หว่าน จังหวัดนครปฐม ทำให้รู้สึกสงบผ่อนคลาย บริเวณที่กว้างใหญ่และพุ่มไม้ใบเขียวที่แน่นขนัด ช่วยพรางสายตาและป้องกันสิ่งรบกวนจากภายนอกไปได้มาก เด็กๆ ในค่ายจึงมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนและฝึกซ้อมมากขึ้น

"ไม่เหมือนเมื่อปีที่แล้ว จัดค่ายอบรมที่มหิดลศาลายา แต่พักแถวปิ่นเกล้า ตกเย็นเด็กแอบหนีออกไปเดินเที่ยวที่ห้างทุกวัน" เจ้าหน้าที่โครงการบอกคล้ายจะบ่นแต่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม

ค่ายเยาวชนดนตรีวงดุริยางค์นานาชาติดังกล่าว เรียกชื่อย่อสั้นๆ ว่า 'ซาโยวี' (SAYOWE) เป็นการรวบรวมเยาวชนอายุระหว่าง 14-25 ปี ที่มีความสามารถทางด้านดนตรีสูงจากประเทศในกลุ่มภูมิภาคอุษาคเนย์ และได้คัดเลือกเยาวชนดนตรีที่มีความสามารถทางด้านดนตรีอย่างโดดเด่นมาอยู่ค่ายร่วมกัน ซึ่งในค่ายจะแบ่งออกเป็น 2 วง คือ วงดุริยางค์ซิมโฟนี (เครื่องสาย) และวงดุริยางค์เครื่องเป่า โดยมีครูผู้สอนที่มีความสามารถทางด้านดนตรีระดับชาติมาเป็นผู้ฝึกสอนให้แก่เยาวชนจากประเทศต่าง ๆ

เป้าหมายสำคัญของโครงการคือ เพื่อพัฒนาศักยภาพของวงดุริยางค์ของเยาวชนในกลุ่มประเทศอาเซียนสู่ระดับนานานาชาติ และเพื่อสร้างความสมานฉันท์ของเยาวชนอาเซียนโดยอาศัยดนตรีเป็นสื่อ โดยมีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งก็มีเยาวชนและนักดนตรีที่ร่วมกิจกรรมโครงการค่ายวงดุริยางค์เยาวชนนานาชาติ จำนวนทั้งสิ้น 217 คน ประกอบด้วย นักดนตรี 2 วง จำนวน 163 คน, วิทยากรประจำเครื่องมือ 20 คน, ศิลปินรับเชิญ 2 คน, ผู้ควบคุมวงดนตรี 2 คน และคณะทำงาน จำนวนกว่า 30 คน

เยาวชนเหล่านี้จะมาจากนานาประเทศ จำนวน 7 ประเทศ คือ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนิเซีย และประเทศไทย

เหนือง ฮวง ตัง นักดนตรีเยาวชนอายุ 21 ปีจากฮานอย ประเทศเวียดนามเปิดเผยว่า เขายินดีและพอใจต่อการเข้าร่วมโครงการค่ายซาโยวีซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ของเขาแล้วมาก นอกจากจะได้พัฒนาฝีมือแล้วยังได้แลกเปลี่ยนทักษะทางด้านดนตรีกับเพื่อนนักดนตรีเยาวชนต่างชาติ เช่นเดียวกับนักดนตรีเยาวชนไทยอย่างสุพัฒน์ หาญพัฒนชัย ตำแหน่งอัลโต แซกโซโฟน ประจำวง Wind Ensemble และอลงกรณ์ เหล่าสายเชื้อ ที่เล่นทรัมเปตในวงออร์เคสตร้า บอกว่าการมาค่ายดนตรีซาโยวีแตกต่างจากการเรียนทฤษฎีดนตรีในห้องเรียน ทำให้สนุกและสร้างสรรค์กว่าที่เคย ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 1 เช่นกัน จึงอยากมาหาประสบการณ์และเพื่อนใหม่ รวมทั้งเรียนรู้การปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่แตกต่างและหลากหลาย ณ ค่ายดนตรีแห่งนี้

ด้านตารางการฝึกซ้อม นอกจากจะซ้อมรวมวงกันทุกวันแล้ว ยังมีคลาสที่เรียกว่า master class ที่เปิดโอกาสให้นักดนตรีเยาวชนได้เรียนกับอาจารย์ที่เก่งๆ เครื่องดนตรีเฉพาะด้านในกลุ่มย่อย ซึ่งครูผู้สอนก็จะช่วยแนะนำและสอนเทคนิคต่างๆ ในช่วงเวลานี้เอง ทำให้ไม่เพียงแต่เด็กๆ จะได้รับความรู้จากอาจารย์เท่านั้น แต่ยังได้เห็นและได้ความรู้จากเพื่อนคนอื่นๆ ที่เล่นเครื่องมือเดียวกันอีกด้วย เพราะแต่ละคนก็มีความสามารถ มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป

สำหรับครูผู้ฝึกสอนดนตรีในค่ายเยาวชนนั้น เป็นบุคลากรที่มีความสามารถทางด้านดนตรีสูง มีประสบการณ์ในการสอนเยาวชนดนตรี สามารถทำงานหนักและมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเยาวชนสู่ระดับนานาชาติได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูผู้สอนจากประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย เช่น ออสเตรีย เยอรมนี รัสเซีย และครูดนตรีที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วในประเทศไทย ซึ่งเป็นอาจารย์สอนประจำอยู่ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์

คริสตอพห์ ไวเนเก้น หรืออาจารย์ไวเนเก้นของเด็กๆ เป็นหนึ่งในครูชาวต่างชาติที่มีความสามารถทางด้านดนตรี เขาจบการศึกษาด้านดนตรีจากทั้งเยอรมนีบ้านเกิดและอเมริกา และมีชื่อเสียงในฐานะผู้ควบคุมวงในหลายประเทศ ทั้งยุโรป, อเมริกาใต้, แอฟริกา, ญี่ปุ่น, เกาหลี ฯลฯ ประสบการณ์การควบคุมวงในระดับนานาชาติ กอปรกับบุคลิกขึงขังเอาจริงเอาจัง ทำให้นักเรียนทั้งชื่นชมและขยาดอยู่ในที ในคลาสฝึกซ้อมวงเครื่องสายหรือออร์เคสตร้าที่ไวเนเก้นทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมวงนั้น เราจึงเห็นเด็กทุกคนตั้งใจเล่นอย่างจริงจัง และเอาใจใส่ทุกคำแนะนำของผู้ฝึกสอนมิให้พลาดแม้แต่คำเดียว

แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับคอนดักเตอร์ชาวเยอรมนีผู้นี้แล้ว จึงพบว่าความเอาจริงเอาจังจนดูเคร่งขรึมภายนอกนั้น เป็นผลมาจากความคิดลุ่มลึกที่อยู่ภายในจากประสบการณ์การทำหน้าที่คอนเสิร์ตมาสเตอร์มากว่า 20 ปีนั่นเอง

การมาเยือนประเทศไทยของเขาในฐานะผู้ควบคุมวงออร์เคสตร้าครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว เมื่อถามถึงศักยภาพของนักดนตรีเยาวชนในโครงการนี้ของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ไวเนเก้นกล่าวว่า เนื่องจากตอนที่เราสัมภาษณ์ยังเพิ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของโครงการ เขาจึงยังไม่เห็นแววความสามารถใครโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่กระนั้นเขาก็มีความหวัง หวังว่าสักวันหนึ่งนักดนตรีเยาวชนในภูมิภาคนี้จะพัฒนาฝีมือเทียบเคียงนักดนตรีในระดับนานาชาติได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น โอกาสในการพัฒนาก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แม้แต่ในยุโรปเองการจะก้าวขึ้นมาเป็นนักดนตรีระดับมืออาชีพก็มิใช่เรื่องง่าย ขึ้นอยู่กับโรงเรียนหรือสถาบันดนตรีด้วยว่ามีรองรับมากน้อยแค่ไหน เพราะศักยภาพของนักดนตรีส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับครูที่สอน ครูแต่ละคนก็จะมีเทคนิคเฉพาะตัวในการเล่นต่างกัน รวมทั้งวงดนตรีที่รองรับก็ต้องมีเยอะด้วย ในทางกลับกันการมีงานแสดงดนตรีและนักดนตรีจำนวนมากในยุโรป ก็ทำให้การแข่งขันก็ยิ่งสูงมากตามไปด้วย

ต่อประเด็นเรื่องความแตกต่างของเด็กๆ เยาวชนในค่ายซาโยวีนั้น ไวเนเก้นบอกว่าไม่ใช่ปัญหา เขาเห็นเด็กๆ แลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านดนตรีกันโดยใช้ภาษาดนตรีเป็นตัวเชื่อม ไม่ใช่ภาษาพูด ไวเนเก้นเชื่อมั่นว่าดนตรีมีพลานุภาพเพียงพอที่จะลบอคติระหว่างชาติพันธุ์หรือสีผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่โลกมีความขัดแย้งเช่นทุกวันนี้ เขายกตัวอย่างวงออร์เคสตร้าที่จัดขึ้นร่วมกันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ หรือแม้แต่หากไปดูวงดนตรีในสหรัฐอเมริกาเองก็จะเห็นว่ามีนักดนตรีทุกสีผิว ไม่ว่าจะขาว, ดำ, แดง หรือเหลือง

"มีนักดนตรีหลายคนรู้ถึงอิทธิพลและความสำคัญของดนตรีที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ การใช้ดนตรีแก้ไขปัญหานี้เป็นแนวคิดที่ใช้กันทั่วโลก ส่วนเรื่องการพัฒนาฝีมือนั้นต้องใช้เวลา โครงการนี้อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาที่ค่อนข้างจะสั้น เพราะดนตรีเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต ตัวผมเองก็ยังต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน" ไวเนเก้นกล่าว พร้อมยืนยันว่าแม้เวลาการฝึกอบรมในค่ายจะเป็นอุปสรรค แต่เขาก็จะพยายามทำเต็มที่ เพื่อให้การจัดแสดงคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้นปิดท้ายโครงการนี้ออกมาดีที่สุด

แน่นอน ชาติต่างๆ ในอาเซียนรวมถึงประเทศไทยไม่ได้มีพื้นฐานด้านดนตรีคลาสสิกอย่างประเทศถิ่นกำเนิดเช่นในยุโรป แต่ไวเนเก้นกลับมองว่านั่นไม่สำคัญเท่าการรู้จักรากเหง้าของตนเอง

"อย่างน้อยในขั้นแรกที่เห็นเด็กๆ ในโครงการนี้ก็คือ พวกเขามีความสนใจในดนตรีคลาสสิก และมีพื้นฐานดนตรีดี มีคุณภาพ ส่วนคนที่ไม่เก่งก็สามารถเรียนรู้กันได้ สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเข้มแข็งในวัฒนธรรมตนเองเสียก่อน แต่ละประเทศก็มีดนตรีท้องถิ่นเป็นประเพณีของตนเอง น่าจะรักษาและให้ความสำคัญต่อดนตรีของชาติด้วย และถ้าหากสนใจดนตรีคลาสสิกก็ควรจะศึกษาเพิ่มเติม แนวคิดที่สำคัญที่สุดก็คือการสร้างสรรค์ดนตรี" ไวเนเก้นทิ้งท้าย

-3-

นอกจากผู้ควบคุมวงชาวเยอรมันแล้ว ยังมีนักดนตรีผู้เป็นทั้งอาจารย์ฝึกสอนทางด้านดนตรีในระดับมหาวิทยาลัยจากอเมริกาอีก 2 ท่าน ที่ใจดีสละเวลามานั่งพูดคุยกันถึงที่มาที่ไปและความรู้สึกที่มีต่อโครงการค่ายซาโยวีครั้งที่ 4 นี้

เจอร์รี่ เอฟ.จังกิ้น ศาสตราจารย์ด้านดนตรีจากมหาวิทยาลัยออสตินเท็กซัส และมีประสบการณ์ในฐานะผู้ควบคุมวงดนตรีหลายแห่ง อาทิ Dallas Wind Symphony, Hong Kong Wind Philharmonia ฝีมือการควบคุมวงของเขาในผลงานชุด 'Bells for Stokowski' ถึงขั้นที่นิวยอร์กไทม์เคยยกย่องว่า เป็นหนึ่งในซีดีเพลงคลาสสิกที่ดีที่สุดในปี 2004 แม้กระนั้น เขาก็ยังกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่โครงการซาโยวี ณ ประเทศไทยในครั้งนี้ นอกจากสถานที่ฝึกอบรมจะสวยงามสงบร่มรื่นเหมาะแก่การฝึกซ้อมแล้ว เยาวชนที่เข้าร่วมในโครงการทุกคนก็มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ แม้ในช่วงวันแรกๆ จะค่อนข้างขี้อาย เงียบขรึมไปบ้าง

"โครงการนี้เป็นโครงการที่น่าสนใจมาก ที่อเมริกาผมก็เคยเข้าร่วมในโครงการคล้ายๆ กัน แต่ส่วนมากคนที่มาเข้าร่วมโครงการมักจะมาจากประเทศหรือศาสนาเดียวกัน แต่ที่นี่มีการผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรมมาก จึงน่าสนใจมากสำหรับผม" เจอร์รี่กล่าว และแม้จะเต็มใจมาร่วมโครงการอีกในปีหน้าหากได้รับเชิญ แต่เขาเห็นว่าค่ายดนตรีแบบนี้นักเรียนควรได้เรียนรู้จากครูที่มีเทคนิคต่างกัน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตัวเด็กเองมากที่สุด

ทางด้านแพททริก ฮิวจ์ส เพื่อนร่วมชาติที่นอกจากจะมาร่วมโครงการครั้งนี้ในฐานะแขกรับเชิญพิเศษที่จะแสดงเดี่ยวฮอร์นแล้ว ยังเป็นนักดนตรีที่มีประสบการณ์การสอนดนตรีในระดับมหาวิทยาลัยมาเช่นกัน ทั้งสองต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การร่วมสอนและเล่นดนตรีกับนักดนตรีเยาวชนนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักดนตรีมืออาชีพอย่างพวกเขา

"สิ่งหนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผมอยู่ที่ นักดนตรีเยาวชนเหล่านี้เต็มไปด้วยสปิริต รักที่จะเรียนรู้และยังมีหัวใจของความสนุกอยู่มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักดนตรีมืออาชีพอาจจะลืมเลือนไปแล้วในอดีต" แพททริกกล่าว

เช่นกันกับเจอร์รี่ "ผมได้เรียนรู้ว่าเด็กนักเรียนมักจะเล่นดนตรีด้วยเหตุผลที่ถูกต้องเสมอ เขาไม่ถูกกระตุ้นด้วยอะไรบางอย่าง เว้นแต่พยายามทำให้ดนตรีเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ขณะที่ผู้ใหญ่อาจจะมีสาเหตุทางด้านเศรษฐกิจเข้ามาบีบคั้น ถ้าเขามีปัญหาทางด้านการเงิน นั่นจะไม่ได้เป็นไปเพื่อดนตรีอีกต่อไป ฉะนั้น ทุกอย่างที่นี่จึงกลายเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผมมาทำงานกับเยาวชนที่นี่ เพราะทุกคนเล่นดนตรีเพื่อความสุข"

ก่อนจากกันทั้งสองยังได้ฝากทิ้งท้ายถึงเยาวชนที่สนใจในดนตรีคลาสสิกว่า นอกจากต้องฝึกซ้อมให้หนักแล้ว ควรฟังเพลงให้มากและหลากหลายประเภทที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะจะได้แรงบันดาลใจจากเสียงเพลงและสไตล์การเล่นแต่ละแบบ

"นักดนตรีที่มีชื่อเสียงหลายคนที่ผมรู้จักเป็นคนที่รู้จักเพลงหลากหลายรูปแบบมาก ผมเรียนรู้ว่านักดนตรีที่จะประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่เพียงสนใจในสิ่งแคบๆ แต่สนใจฟังเพลงทุกแบบตลอดเวลา"

เรื่อง รัชตวดี จิตดี

*****
หากท่านเคยประทับใจบรรยากาศการซ้อมการบรรเลงเพลงออร์เคสตร้าในภาพยนตร์เรื่อง 'Season Changed' ลองพบบรรยากาศลักษณะเดียวกันในการรวมตัวของเยาวชนมากความสามารถจากหลากหลายประเทศในค่ายเยาวชนดนตรีของภูมิภาค อุษาคเนย์ (South-East Asian Youth Orchestra and wind Ensemble - SAYOWE) หรือซาโยวี ซึ่งบรรยากาศภายในค่ายครั้งนี้เสมือนแบบจำลองการใช้ชีวิตการเรียนดนตรีที่เน้นสาระและอัดแน่นกว่าปกติในเวลาที่จำกัด โดยการฝึกซ้อมจากวาทยากรที่มีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมแขกรับเชิญอย่าง Oscar Ruben Bohorquez นักเดี่ยวไวโอลินชาวเยอรมัน, Gareth Lubbe นักเดี่ยววิโอลาชาวแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ ได้กำหนดจัดการแสดงในวันที่ 13 ตุลาคม 2549 เวลา 19.00 น. โดยวงดุริยางค์ซิมโฟนี และวันที่ 14 ตุลาคม 2549 เวลา 16.00 น. การแสดงของวงดุริยางค์เครื่องเป่า ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สำรองที่นั่งได้ที่ 0 2800 2525 ต่อ154,155




วงซิมโฟนีออร์เคสตร้าที่มีเครื่องสาย
 ไวเนเก้นขณะกำลังทำการฝึกซ้อมควบคุมวงออร์เคสตร้า










ที่พึ่งทางใจ




กำลังโหลดความคิดเห็น