ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้เกิดกระแสใหม่ขึ้นในวงการหมัดมวย ด้วยบรรดาสาวน้อยหน้าใสต่างหันมาใส่นวม สวมมงคล ขึ้นวาดลวดลายแม่ไม้มวยไทยบนสังเวียนน้อยใหญ่
ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดกันอย่างครึกโครม ทั้งที่รูปร่างหน้าตาของสาวๆเหล่านี้ล้วนอรชรอ้อนแอ้น ประเภทสวยเข้าขั้นขึ้นเวทีประกวดได้ก็มีไม่น้อย เหตุใดพวกเธอจึงสนใจก้าวสู่สังเวียนมวย แทนที่จะสังกัดโมเดลลิงหรือเวทีแคตวอล์ก
*มวยหญิง กระแสใหม่มาแรง
กีฬาที่ดุดัน หนักหน่วง และต้องใช้ชั้นเชิงไหวพริบปฏิภาณทุกย่างก้าวอย่าง'มวยไทย' นั้นในปัจจุบันดูจะไม่ใช่กีฬาสำหรับผู้ชายเท่านั้น เพราะบรรดาสาวๆต่างหันมาสนใจฝึกหัดมวยไทยจนมีฝีไม้ฝีมือเข้าขั้นสามารถขึ้นชกบนเวทีมวยระดับประเทศได้อย่างไม่อายใคร และกลายเป็นสีสันบนสังเวียนที่ขาดไม่ได้ในศึกดวลกำปั้นแต่ละครั้ง
ว่ากันว่ากระแสมวยหญิงเพิ่งจะมาเริ่มตื่นตัวกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2548 เริ่มมีการจัดการแข่งขันบ้างประปรายทั้งในเวทีกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และความนิยมเริ่มเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีที่แล้ว นอกจากสาวไทยแล้วยังมีสาวๆต่างชาติทั้ง ฝรั่ง ญี่ปุ่น ข้ามน้ำข้ามทะเลมาฝึกมวยไทยกันอย่างจริงจังจนถึงขั้นขึ้นชกในระดับมืออาชีพ และในปีนี้มวยหญิงได้กลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง โดยในการแข่งขันชกมวยแต่ละครั้งมักมีการจัดมวยหญิงขึ้นชกประกบกับมวยชายด้วย
"ถามว่ามวยหญิงมีมานานหรือยัง ก็มีมานานแล้วนะ แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะไม่มีเวทีให้ขึ้นชก ในปี 2547 ทางวันทรงชัยก็ทดลองจัดการแข่งขันขึ้นในวันแม่ คือวันที่ 12 ส.ค. แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่มีสปอนเซอร์ที่มาสนับสนุนเลย ทำให้จากเดิมที่เราตั้งใจว่าในช่วงการถ่ายทอดสดจะมีมวยหญิงขึ้นชก 4-5 คู่ ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นเปิดหัวด้วยมวยชายก่อน 2 คู่ แล้วค่อยต่อด้วยมวยหญิง ซึ่งจากเวทีนั้นคนก็เริ่มรับได้บ้าง จากที่เขามองว่านักมวยหญิงคงชกกันเหยาะแหยะ ไม่ได้เรื่อง ความคิดก็เปลี่ยนไป เรามาจัดมวยหญิงอีกครั้งในวันแม่ปี 2548 ก็มีการทำสปอตโฆษณาออกทางวิทยุและโทรทัศน์ แล้วก็แจ้งไปยังค่ายมวยต่างๆว่าถ้ามีมวยหญิงและสนใจจะส่งขึ้นชกให้เป็น เกียรติประวัติแก่ทางค่ายก็ให้ติดต่อมา ก็ได้รับเสียงตอบรับเกินคาด มีคนต้องการส่งขึ้นชกหลายร้อยคน แต่เราจัดชกได้แค่ 50 คู่ ก็จัดกันจนเหนื่อยถึงเช้าเลย(หัวเราะร่วน) หลังจากนั้น กระแสมวยหญิงก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ มีคนยอมรับในฝีมือมากขึ้น
ที่น่าดีใจคือเดี๋ยวนี้แม้แต่ในต่างจังหวัดที่เราเรียกกันว่ามวยภูธรนั้นในการชกแต่ละครั้งต้องมีมวยหญิงขึ้นชกด้วยอย่างน้อย 1 คู่ และในการแข่งขันมวยหญิงในมหกรรมมวยไทยเทิดพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก็นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และเป็นการแจ้งเกิดมวยหญิงอย่างเต็มตัว หลังจากชกเสร็จก็มีคนติดต่อจองตัวไปชกในเวทีต่างๆ ขณะเดียวกันสื่อก็ให้ความสนใจมาสัมภาษณ์กันเยอะมาก"
'โอ๋' ปริยากร รัตนสุบรรณ รองประธานกรรมการ บริษัท วันทรงชัย จำกัด บอกเล่าที่มาในฐานะโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันชกมวยหญิงเจ้าแรกของไทย
*กว่าจะขึ้นสู่สังเวียน
สำหรับเส้นทางของบรรดานักมวยหญิงนั้นใช่ว่าจะง่ายดายหรือสามารถใช้หน้าตาเป็นใบเบิกทาง แต่ละคนล้วนต้องผ่านการฝึกฝนเคี่ยวกรำอย่างหนักเช่นเดียวกับนักมวยชาย ต้องซ้อมกันวันละไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่ง และจัดเจนในเชิงมวย ตั้งแต่ชกลม ล่อเป้า เตะกระสอบทราย ชกกับคู่ซ้อมทั้งที่เป็นหญิงและชาย รวมทั้งฝึกแม่ไม้ต่างๆ ซึ่งนักมวยหญิงส่วนใหญ่มักเริ่มฝึกกันตั้งแต่อายุเพียง 10 กว่าปีเท่านั้น
'เพชรยู ศิษย์ครูดุลย์' หรือชื่อจริงว่า ราตรี โครงกาพย์ นักมวยสาวหน้าใสวัย 18 ปี เธอเริ่มชกมวยมาตั้งแต่เรียนอยู่ ม.6 โรงเรียนฝายกวางวิทยาคม จ.พะเยา โดยการชักนำของครูอดุลย์ ครูพละประจำโรงเรียนซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวย ซึ่งฉายา'เพชรยู' ก็มาจากคำว่ายูซึ่งเป็นชื่อเล่นของเธอบวกกับเพชรซึ่งสื่อถึงความรุ่งโรจน์
เพชรยูมีสถิติการชกที่ยอดเยี่ยมจนหลายมหาวิทยาลัยติดต่อแย่งตัวให้เธอเข้าศึกษาเพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่สถาบัน ปัจจุบันเธอเรียนอยู่ชั้นปี 1 เอกพละศึกษา มหาวิทยาลัยสยาม และยังชกมวยอย่างต่อเนื่องเพื่อนำเงินที่ได้ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียน
"ตอนแรกยูเล่นบาสที่โรงเรียนก่อน พอมีเวลาว่างเลยขออาจารย์ลองซ้อมมวย ซ้อมได้ 2-3 วัน อาจารย์ก็ส่งขึ้นชกเลย ชกครั้งแรกเจ็บไปหมดทั้งตัวเลย (หัวเราะร่วน) ก็ยังไม่เข็ดขอฝึกมวยต่ออีก พ่อของยูก็สนับสนุนเพราะพ่อเป็นนักมวยเก่า ชกอยู่ในค่ายมวยแถบภาคเหนือ บางทีซ้อมเสร็จกลับไปบ้านพ่อก็ซ้อมให้ต่อ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะยึดเป็นอาชีพหรอก แต่พอชกมาเรื่อยๆก็ติดใจ จนถึงตอนนี้ก็ชกมาได้ 22-23 ครั้งแล้ว บางทีก็ตาเขียว บางทีก็ขาเขียว แต่ไม่เคยคิดจะเลิกนะ ไม่กลัวเสียโฉมด้วย คือไม่ได้นึกถึงจุดนี้ พอจบ ม.6 ก็มีมหาวิทยาลัย 2-3 แห่งมาติดต่อให้เข้าเรียนเพราะเห็นว่าเรามีฝีมือเรื่องการชกมวย ยูเลือกมหาวิทยาลัยสยามเพราะอยู่ใกล้กับค่ายมวยที่อาจารย์ดุลย์รู้จัก แล้วก็เอายูมาฝาก ตอนนี้ก็ซ้อมทุกวัน ตอนเช้าก็ซ้อมก่อนไปเรียน เรียนเสร็จก็มาซ้อมอีก วันหนึ่งตก 4-5 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายและฝีมือเราอยู่ตัว"
ด้านเจ้าของฉายา'กระยางขาว' หรือ 'น้องเปิ้ล'จรูญ โลกรวม สาวน้อยวัย 15 ปี จากค่ายมวยดังแถบราชบุรี บอกว่า เข้าสู่วงการมวยเพราะซึมซับศิลปะมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก
เนื่องจากอาของเธอเป็นเจ้าของค่ายมวย เปิ้ลจึงฝึกเชิงมวยกับอามาตลอด และเมื่อมีการชกมวยหญิงที่ดอนตูม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และนักมวยจากดอนตูมซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอได้แชมป์ ทางโรงเรียนของเธอจึงสนับสนุนให้เปิ้ลซึ่งมีฝีมือด้านนี้ขึ้นชกในเวทีต่างๆด้วย
"กลับจากโรงเรียนมาก็ต้องซ้อมมวยจนถึง 3 ทุ่ม แต่เปิ้ลไม่ชอบซ้อมกับผู้หญิงนะ ชอบซ้อมกับผู้ชายมากกว่า เพราะส่วนใหญ่นักมวยหญิงในค่ายก็เป็นเพื่อนเราทั้งนั้น เราก็กลัวเขาเจ็บ แต่ซ้อมกับผู้ชายเราทำได้เต็มที่ เขาก็เตะเราเต็มที่เหมือนกัน(หัวเราะ) ตอนซ้อมแรกๆเรายังเตะแข้งซ้ายไม่ถนัด ก็โดนอาแกล้งเตะจนช้ำ เขารู้ว่าเราเจ็บก็ยิ่งแกล้ง พอเขาเห็นน้ำตาเปิ้ลเขาก็เอาเป้าล่อมาตบที่ขาเราบ้างอะไรบ้าง เปิ้ลก็ร้องไปต่อยไป แต่ไม่เข็ด เพราะรู้ว่าที่เขาทำเพราะอยากให้เราเก่งขึ้นนะ"
*ฝีมือเข้าขั้นแม้ไม้ครบเครื่อง
สำหรับฝีไม้ลายมือของนักมวยหญิงในปัจจุบันนั้นต้องจัดว่าเข้าขั้นและมีชั้นเชิงแพรวพราวไม่ต่างจากนักมวยชายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นลูกเตะ เข่า ศอก ถีบ ถอง จนถึงเตะก้านคอ เรียกว่าครบเครื่องแม่ไม้มวยไทย แต่แม้สาวๆจะมีชั้นเชิงมวยที่เด็ดขาดรุนแรงเพียงใดแต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้ในการชกบนสังเวียนได้ทั้งหมด เนื่องจากมวยไทยเป็นศาสตร์การต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรง หากนำมาใช้ทุกกระบวนท่าอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนั้นการโชว์แม่ไม้ให้ครบกระบวนท่าบนสังเวียนมวยเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องจากนักมวยต้องระวังทุกฝีก้าวและรุกรับอย่างรวดเร็ว หากพลาดเพียงนิดเดียวอาจถูกสอยถึงขั้นแพ้น็อกได้
เพชรยู บอกว่า "บนเวทีจะชกกันเร็วมาก 4 ยกบ้าง 5 ยกบ้าง แล้วแต่เวที ดังนั้นการจะออกอาวุธจึงทำได้ยาก ส่วนใหญ่ก็จะใช้ลูกเตะตัดลำตัว กันมากกว่า เพราะถ้าไปมัวคิดว่าจะใช้แม่ไม้ท่านั้นท่านี้มันไม่ทัน เผลอนิดเดียวโดนเขาเตะสวนมาถึงขั้นน็อกได้"
ขณะที่ กระยางขาว บอกว่า "โห...ก่อนขึ้นชกนะคิดไว้เลยว่าขึ้นเวทีจะต้องใช้ท่าโน้นท่านี้ แต่พอขึ้นจริงมันไม่ได้ เพราะเตะกันเร็วมาก เราก็ต้องเน้นทำคะแนนไว้ก่อน เปิ้ลเป็นแชมป์ที่ราชบุรี รุ่น 48 กิโลกรัม คือที่ราชบุรีนี่เปิ้ลต่อยจนไม่มีใครต่อยด้วยแล้ว เปิ้ลชกมา 14 ครั้ง ชนะ 11 ครั้ง แพ้ 3 ครั้ง เคยโดนน็อกอยู่ครั้งหนึ่งตอนชกกับลูเซีย จากประเทศฮอลแลนด์ ไปต่อยที่เชียงใหม่แล้วเปิ้ลแพ้อากาศ ก็รู้ตั้งแต่ขึ้นเวทีแล้วว่าแพ้แน่เพราะไม่สบายตั้งแต่ก่อนขึ้นเวที"
*ความงามอีกจุดขายหนึ่งของมวยหญิง
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าตาที่สวยสดใสของบรรดาสาวๆหมัดสั่งนับเป็นจุดขายอย่างหนึ่งของนักมวยหญิง เพราะไม่ว่าเวทีไหนหากมีสาวๆหน้าใสขึ้นชกแล้วล่ะก็รับรองได้ว่ายอดขายบัตรเข้าชมเพิ่มขึ้นทันตาเห็นเลยทีเดียว นอกจากรูปร่างหน้าตาแล้วชุดนักมวยของสาวๆที่สวมเสื้อกล้ามสีสดใส ใส่นวมสีชมพู ก็ดูสดชื่นและสร้างสีสันได้เป็นอย่างมาก
ปริยากร ทายาทของ 'ทรงชัย รัตนสุบรรณ' โปรโมเตอร์มหาชน กล่าวว่า
"ในส่วนของวันทรงชัยเรามีหน้าที่ประสานไปยังค่ายมวยเพื่อหานักมวยหญิงมาขึ้นชก เวลาจัดการแข่งขันชกมวยหญิงนั้นเราจะดูเรื่องการชกบนเวทีเป็นสำคัญ คือต้องประกบคู่มวยให้มีฝีมือใกล้เคียงกัน แต่ก็ยอมรับว่าเสน่ห์ของมวยหญิงคือความสวย ความน่ารัก ซึ่งถือเป็นจุดขาย ถ้าพูดถึงน้องเพชรยู คนจะบอกว่าคนนี้หน้าตาเหมือนดาราหนังนะ จะมาขึ้นชกเหรอ..เขาก็ตื่นเต้นกัน แต่ช่วงแรกๆคนก็จะประมาทนักมวยสวยๆว่าคงสวยอย่างเดียว ฝีมือคงไม่เอาไหนหรอก เราก็ต้องย้ำกับหัวหน้าค่ายมวยว่าอย่าทำให้คนดูผิดหวังนะ ฝีมือต้องดีด้วย เรามีหน้าที่โปรโมต ทำประชาสัมพันธ์ ทางค่ายมวยก็ต้องซ้อมมาให้ดี
อีกอย่างที่คนดูชอบมากคือการไหว้ครูซึ่งนักมวยหญิงเขาจะอ่อนช้อยงดงามมาก แต่ละคนก็จะมีท่าไหว้ที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างเพชรยูเขาก็จะใส่ชุดพื้นเมืองแบบชาวเหนือทับชุดนักมวย ตอนไหว้ครูก็จะนำท่าฟ้อนของชาวเหนือมาผสมผสาน สวยมากๆ พอไหว้ครูเสร็จก็ถอดชุดพื้นเมืองออกแล้วขึ้นชก ซึ่งลีลาก็จะหนักหน่วงแบบคนละเรื่องกับตอนไหว้ครูเลย"
หากจะพูดถึงนักมวยสาวที่สร้างความฮือฮาให้แก่วงการมวยหญิงในช่วงนี้คงหนีไม่พ้น 'น้องเนะ' อโณทัย นิรุตติเมธี ลูกสาวคนสวยของ 'ทนายต๋อย' สมบูรณ์ นิรุตติเมธี หัวหน้าค่ายมวย อีมิแน้นท์แอร์ ซึ่งเธอขึ้นชกโชว์ในการแข่งขันมวยหญิงในมหกรรมมวยไทยเทิดพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา ด้วยดีกรีระดับนางเอกช่อง 3 จากละครเรื่อง 'จ้าวหนูเทควันโด' และยังคว้าตำแหน่ง ป๊อปปูลาร์โหวต ในการประกวดมิสทีนไทยแลนด์อีกด้วย
ปัจจุบัน 'น้องเนะ' อายุ 17 ปี กำลังศึกษาอยู่ใน ม.มหิดล หลายคนสงสัยว่าสวยระดับนี้เหตุใดจึงมาชกมวยหญิง ซึ่งเรื่องนี้น้องเนะ บอกว่า
"เนื่องจากคุณพ่อเป็นเจ้าของค่ายมวยเลยฝึกชกมวยมาตั้งแต่อยู่ ม.ต้น เพราะคุณพ่อเป็นห่วงว่าเราเป็นผู้หญิง ไปไหนมาไหนอันตรายเลยให้หัดมวยไว้จะได้ป้องกันตัวเองได้ ถึงแม้การขึ้นชกในวันแม่จะเป็นการชกโชว์ ไม่ได้ยึดเป็นอาชีพ แต่ก่อนขึ้นชกเนะก็ต้องซ้อมหนักมาก ต้องทำได้ทุกอย่างเหมือนพวกมืออาชีพเขาทำกันเพราะเราเป็นลูกเจ้าของค่าย จะมาชกเหยาะแหยะไม่ได้ ท่าไม้ตายของเนะจะเป็นท่าเตะสับแล้วตีศอกที่ต้นขาคู่ต่อสู้"
*มวยหญิง อนาคตสดใส
สำหรับค่าตัวของนักมวยหญิงในปัจจุบันนั้นถึงแม้ว่าจะไม่สูงเท่านักมวยชาย แต่ก็จัดว่ามีรายได้ไม่น้อยทีเดียว โดยเริ่มจากหลักพันถึงหลักหมื่นขึ้นอยู่กับประสบการณ์และฝีมือ โดยนักมวยหญิงที่ขึ้นชกใหม่ๆจะมีค่าตัวประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป และไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ หากมีฝีมือฉกาจฉกรรจ์ การชกแต่ละครั้งค่าตัวจะขึ้นไปถึง 30,000 บาทเลยทีเดียว
ปริยากร โปรโมเตอร์หญิงหนึ่งเดียวของเมืองไทย กล่าวว่า
"เชื่อว่ามวยหญิงจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เท่าที่เห็นมีผู้ที่สนใจจัดมวยหญิงกันมากขึ้น และคนดูก็ชอบ ในส่วนของวันทรงชัยจะมีรายการใหญ่ที่จัดการแข่งขันชกมวยหญิงอีกครั้งประมาณเดือนตุลาคมปีนี้ จากนั้นก็จะไปจัดอีกทีในวันพ่อ คือวันที่ 5 ธันวาคม ปีนี้ โดยจะจัดขึ้นที่เวทีมวยกรุงเทพฯ ที่รัชดา ซึ่งเป็นเวทีมวยเปิดใหม่ที่เราจะเปิดอย่างเป็นทางการในวันดังกล่าวพร้อมกับโรงเรียนสอนมวยไทยวันทรงชัย ที่เปิดสอนมวยไทยแก่คนไทยและต่างชาติแบบครบวงจร
ถามว่าสำหรับมวยหญิงแล้วในแง่ธุรกิจดีไหม ก็ยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่ดีหรอกนะ ยังขาดทุนอยู่ (หัวเราะ) แต่เราถือว่าเป็นการจุดประกายให้แก่วงการมวย อยากให้ผู้หญิงที่สนใจการชกมวยเขามีกำลังใจในการชก และอยากให้เป็นอีกอาชีพหนึ่งของผู้หญิง ซึ่งบางคนเขาฐานะไม่ค่อยดีก็จะได้มีรายได้จากตรงนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งสามารถนำรายได้จากการชกมวยไปเป็นทุนการศึกษาและช่วยเหลือครอบครัวต่อไป"
*สาวต่างชาติแห่ฝึกมวยไทย
ปัจจุบันมวยหญิงกลายเป็นที่นิยมของทั้งสาวไทยและต่างชาติ จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้มีสาวๆจากชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เยอรมนี ออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกา ฯลฯ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาฝึกมวยไทยกันเป็นจำนวนมาก
พาพล่า สแตนโกวา นักบำบัดฟื้นฟูสุขภาพ วัย 27 ปี จากสาธารณรัฐเช็ก ก็เป็นหนึ่งในนั้น พาพล่าชอบมวยไทยเป็นชีวิตจิตใจ และฝึกมวยไทยมาได้ 5 ปีแล้ว เธอเคยขึ้นชกมวยไทยในเวทีที่สาธารณรัฐเช็กมาแล้วถึง 25 ครั้ง และปัจจุบันเธอครองตำแหน่งแชมป์มวยไทยหญิงที่สาธารณรัฐเช็กด้วย
"ดิฉันชอบกีฬาประเภทต่อสู้ เล่นทั้งเทควันโด คิกบ็อกซิง แต่ชอบมวยไทยมากที่สุดเพราะรู้สึกว่ามีลีลาการชกที่หนักหน่วง ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง"
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามวยไทยนั้นศิลปะการป้องกันตัวที่งดงามและมีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ ยากต่อการลอกเลียนแบบ และไม่ว่าชนชาติอื่นจะชื่นชอบมวยไทยสักเพียงใดก็คงไม่มีประโยชน์
หากคนไทยเองไม่เห็นคุณค่าและช่วยกันอนุรักษ์ศิลปะการต่อสู้ของไทยไว้
///////////////
เรื่อง – จินดาวรรณ สิ่งคงสิน