xs
xsm
sm
md
lg

‘ช็อป-ชม’ ย่านตลาดคลองถมเชียงใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แรกที่มาเยือนเมืองเชียงใหม่เมื่อหลายปีก่อน เคยได้ยินชื่อ ‘กาด’ หรือตลาดขายสินค้าที่น่าสนใจของเชียงใหม่หลายแห่ง นับตั้งแต่ตลาดไนท์บาซ่าร์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว หรือตลาดนัดถนนคนเดินที่มาแรงเหลือเกินในช่วงปีหลังๆ ที่ผ่านมา แม้แต่ ‘กาดซุ่มมืด’ ที่มีจุดขายอยู่ที่ความโรแมนติกไม่เหมือนใคร เพราะพ่อค้าแม่ค้าจะพากันนำสินค้ามาวางขายใต้แสงเทียนยามค่ำคืน สินค้าหลายอย่างก็ไม่ต่างจากตลาดนัดตามเมืองท่องเที่ยวทั่วไป แต่บรรยากาศต่างหากที่ทำให้หลายคนบรรจุโปรแกรม ‘ชมตลาด’ ไว้ทุกครั้งที่มีโอกาสมาเยือนแดนนครพิงค์แห่งนี้

กรุงเทพฯ มีตลาดนัดสวนจตุจักร…เชียงใหม่ก็มี ‘เจเจมาร์เก็ตเชียงใหม่’ สินค้าเป็นงานฝีมือที่เน้นขายไอเดียเก๋ๆ เป็นเอกลักษณ์ของล้านนา และแม้แต่ตลาดคลองถมที่ย่านคลองหลอด ก็ได้ถูกดัดแปลงผสมผสานกับตลาดนัดท้องถิ่นจนกลายเป็นตลาดคลองถมเชียงใหม่ แม้ขนาดจะไม่ใหญ่โตและมีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภทเท่า แต่ผู้ชอบสะสมของเก่าและของแปลกหายากทั้งหลายไม่ควรพลาดแวะเที่ยวชมที่นี่ ไม่แน่ว่า…คุณอาจจะได้พบเจอของถูกใจที่คาดไม่ถึงติดไม้ติดมือกลับบ้านสักชิ้น

เชียงใหม่… ดินแดนเหนือที่รุ่มรวยอารยธรรมล้านนาเก่าแก่ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติทั้งป่าเขาและสายน้ำปิงที่เป็นดั่งเส้นเลือดหลักหล่อเลี้ยงผู้คนที่นี่ คือจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของนักเดินทางทั้งไทยและทั่วโลก แม้ในวันนี้โฉมหน้าของตัวเมืองเชียงใหม่จะเปลี่ยนไปตามกระแสการท่องเที่ยวเชิงบริโภคนิยมอันเชี่ยวกราก แต่ในบางซอกมุม เชียงใหม่ยังคงดำรงเอกลักษณ์ของตนเอาไว้เท่าที่จะทำได้ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างต้นทุนทางวัฒนธรรมและทุนนิยมในสังคมบริโภคที่ต่างมีความสำคัญเป็น ‘ทุน’ ในการใช้ชีวิตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

แม้รถจะเริ่มติด นักท่องเที่ยวจะล้นทะลักแทบตลอดทั้งปี แต่เชียงใหม่ก็ชดเชยด้วยการมีหอศิลป์ และศูนย์วัฒนธรรมล้านนากระจายอยู่ทุกมุมเมือง มีการจัดกิจกรรม งานนิทรรศการศิลปะ เทศกาลดนตรี อีกทั้งฟรีคอนเสิร์ตจากนักดนตรีทั้งไทยและเทศเป็นประจำ นอกจากนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่นจริงๆ แล้ว ควรหาโอกาสไปเดินตลาดสดหรือตลาดนัดท้องถิ่นดูสักครั้ง

ในบ่ายวันที่ท้องฟ้าครึ้มไปด้วยเมฆฝน การจราจรในตัวเมืองเชียงใหม่ค่อนข้างหนาแน่น หากใครนึกเบื่อเดินช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แนะนำให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศโดยขับรถมาเส้นถนนอัษฎาธรรอบนอกตัวเมือง จะพบแผงขายสินค้าเรียงรายอยู่ข้างทางที่จะมุ่งหน้าไปเจเจมาร์เก็ตเชียงใหม่ แม้อากาศอาจจะอบอ้าวตามฤดูกาลไปบ้าง แต่บรรยากาศและสายลมที่โชยมาจากชายทุ่งเขียวขจีกลับเป็นจุดเด่นที่หาไม่ได้จากเครื่องปรับอากาศในห้างสรรพสินค้า

ข้าวของสิ่งละอันพันละน้อยที่ทุกชิ้นล้วนมีเรื่องราวบอกเล่า รอวันที่จะมีใครมาค้นพบ…คือเสน่ห์ของสินค้าที่วางเรียงรายบนแผงริมถนนในตลาดนัดคลองถมของเมืองเชียงใหม่แห่งนี้ ภาพถ่ายขาวดำกองใหญ่ถูกวางขายในราคาใบละ 2-3 บาทในตะกร้า พิจดูจากการแต่งกายและทรงผมคนในรูปน่าจะเป็นคนสมัยก่อน ยุคคุณตาคุณยายยังสาว ในอิริยาบถต่างๆ กันไป บางรูปก็เหมือนรูปถ่ายกันเองเล่นๆ ในครอบครัว แล้วใครจะอยากซื้อรูปถ่ายของคนแปลกหน้า ซึ่งไม่ใช่บุคคลมีชื่อเสียงหรือเป็นภาพเก่าหายากแต่อย่างใด ?

คำตอบของคำถามนั้นแท้จริงไม่ได้อยู่ที่ใครเป็นผู้ซื้อ แต่เป็นเพราะเขาซื้อไปเพื่ออะไรต่างหาก ผู้เชี่ยวชาญในตลาดนัดของสะสมบางคนเพียงแต่ยิ้ม แล้วบอกว่าไม่ได้มีเหตุผลพิเศษอะไรนอกไปจาก ‘ความสุขใจ’ ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น เวลาที่ผู้เฒ่าบางคนยังเป็นเพียงเด็กน้อย หรือช่วงเวลาของความหนุ่มสาวอันหอมหวานที่ไม่อาจหวนคืน ตรรกะแห่งความเป็นเหตุเป็นผลอาจใช้ไม่ได้กับการซื้อขาย ณ สถานที่แห่งนี้ ที่ๆ ใช้ความรู้สึกวัดคุณค่ามากกว่าตัวเงิน

จึงไม่แปลกที่จะเห็นชายชรายอมควักเงินหลายร้อยแลกกับถาดสังกะสีเก่าๆ สักใบ ขณะที่ป้ายนีออนเครื่องดื่มบางชนิดถูกวางทิ้งให้ฝุ่นจับโดยไม่มีใครคิดอยากซื้อ

นพรัตน์ เป้าทองคำ ผู้ดูแลตลาดคลองถมเชียงใหม่ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นแรกเริ่มเดิมทีของตลาดแห่งนี้ว่า มีที่มาจากการรวมตัวกันของพ่อค้าขายของเก่าที่บริเวณถนนรัตนโกสินทร์ หลังโรงเรียนปริ้นรอแยลส์เชียงใหม่ ที่คนเมืองต่างรู้จักกันดีเมื่อหลายปีก่อน แต่ปัจจุบันผลจากการจัดระเบียบการจราจร ทำให้พ่อค้าเร่ริมถนนเหล่านี้ส่วนใหญ่พากันย้ายมาอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเมืองบริเวณนี้ ซึ่งเมื่อหมดปัญหาเรื่องสถานที่ก็ทำให้มีผู้ค้าและสินค้าหลากหลายประเภทมากขึ้นตามไปด้วย จากเดิมที่เป็นกลุ่มผู้ค้าของเก่าเล็กๆ แค่สิบกว่าเจ้า ปัจจุบันมีผู้ค้าของเก่าเพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 50 เจ้าเลยทีเดียว

ธนวิน พ่อค้ารายหนึ่งในตลาดคลองถมเชียงใหม่ เล่าว่า ส่วนมากตลาดคลองถมเชียงใหม่จะมีสินค้าประเภทอะไหล่รถมือสองจำนวนค่อนข้างมาก ที่เหลือเป็นของเก่าของโบราณสักประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะเน้นเฉพาะของมือสองของโบราณของเมืองเชียงใหม่ เช่น งานฝีมือจำพวกไม้สัก เป็นต้น ส่วนสินค้าในร้านของเขานั้นจะเน้นพวกเครื่องเล่นวิทยุและแผ่นเสียงโบราณซึ่งเป็นความชอบและความสนใจส่วนตัวของผู้ขายเอง

เส้นทางสู่อาชีพพ่อค้าของเก่าของธนวินนั้น หลังจากใช้ชีวิตเป็นคนทำงานอยู่กรุงเทพฯ มานับ 10 ปี เขาก็ย้ายกลับมาที่เชียงใหม่ เมื่อเห็นสมัครพรรคพวกค้าของเก่ากัน ธนวินก็สนใจทำบ้าง โดยเริ่มจากนำสินค้าส่วนตัวใส่ท้ายรถออกมาขายทีละลังสองลัง ก่อนจะค่อยศึกษาเพิ่มเติมเรื่องแผ่นเสียงโบราณด้วยตนเอง แล้วลงมาจับตลาดสินค้านี้เต็มตัว สินค้าในร้านของเขามีตั้งแต่แผ่นเสียงอายุเก่าหลายสิบปี จนถึงแผ่นเสียงรุ่นใหม่ที่หายาก นอกจากขายและรับซื้อแล้ว ยังมีระบบ ‘เทรด’ แลกซื้อโดยนำแผ่นเสียงมาแลกเปลี่ยนที่ร้านอีกด้วย

“ตลาดเก่าที่ถนนรัตนโกสินทร์จะปิดทุกวันเสาร์อาทิตย์ แต่ที่นี่เปิดทุกวัน และยังเดินทางสะดวก เส้นนี้ตรงไปก็ถึงท่าแพเลย นักท่องเที่ยวผ่านก็จะเห็นของที่เราวางขาย” ธนวินกล่าวถึงข้อดีของทำเลใหม่ตรงจุดนี้

ลูกค้าที่มาเดินเลือกชมสินค้าที่ตลาดคลองถมเชียงใหม่นั้น ธนวินบอกว่ามีหลากหลายกลุ่ม ทั้งเจ้าของธุรกิจ นายธนาคาร แม้แต่นักเรียนนักศึกษา ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็พอมีบ้างประปราย แต่มักจะเป็นกลุ่มที่เสาะหาของแปลกของเก่าจริงๆ เช่น ชาวญี่ปุ่นที่มักจะแวะเวียนมายังตลาดแห่งนี้เป็นประจำ โดยสินค้าที่เป็นที่สนใจส่วนมากจะเป็นงานเฟอร์นิเจอร์จำพวกไม้สักและของตกแต่งบ้าน

“คนที่มาซื้อของที่นี่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ นักท่องเที่ยว, พ่อค้าบ้าง และคนที่ซื้อของไปเก็บสะสมหรือนำไปตกแต่งบ้านจริงๆ สำหรับพ่อค้าที่ซื้อไปขายต่ออีกทีราคามันก็จะต่างกัน ก็อยากให้ลองมาเดินเที่ยวดู เพราะที่นี่มีของหลายอย่างนำไปใช้งานในชีวิตประจำวันได้ หรืออาจจะนำไปสะสม ของเก่าๆ แปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็นในราคาไม่แพง หรืออาจจะพาลูกพาหลานมาเที่ยวดูเฉยๆ ก็ได้ เพราะของพวกนี้เป็นของเก่าเล่าเรื่องอดีต บางคนมีอดีตกับของเก่าบางชิ้น อย่างวิทยุเครื่องนี้คุณตาคุณปู่เคยใช้ ทีวีเครื่องนี้ตอนเด็กๆ เคยดู พอโตมาแล้วไม่เห็นก็อาจจะซื้อเอาไปตั้งไว้รำลึกความหลังที่บ้าน เพราะของสะสมมันทำให้เราผ่อนคลาย ไม่ต้องฟุ้งซ่านอะไรมากมาย แค่นั่งดูของที่เราสะสมก็มีความสุขแล้ว ก็เป็นความพึงพอใจทั้งคนขายคนซื้อ” ธนวินทิ้งท้าย

นรินทร ไทยนิยม พ่อค้าของเก่าอีกรายเปิดเผยว่า ส่วนมากเขาจะใช้วิธีขับรถตระเวนไปตามอำเภอรอบนอกเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงในวันหยุด เพื่อหารับซื้อของเก่าของโบราณตามบ้าน ซึ่งก็ต้องเสี่ยงดวงเอาเหมือนกัน เพราะบางครั้งก็ต้องตีรถเปล่ากลับ ไม่ได้สินค้าอะไรพอคุ้มค่าน้ำมัน แต่บางคราวโชคดีก็ได้ของเก่าหายากมา เขายกตัวอย่างรถสังกะสีซึ่งเป็นของเล่นโบราณอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปีที่แขวนโชว์ในร้านว่า เขาไปเจอซุกอยู่ใต้ยุ้งข้าวที่อำเภอจอมทอง แล้วซื้อต่อจากเจ้าของเดิมในราคา 50 บาท ปัจจุบันมีหลายคนมาถามซื้อและให้ราคาสูงถึง 2,000 บาท แต่นรินทรก็ไม่ขาย เพราะงานสังกะสีรุ่นนี้หาไม่ได้อีกแล้ว

สินค้าในร้านของนรินทรส่วนใหญ่จะเป็นของโบราณที่มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป เช่น นาฬิกาตราสมอ-ตราม้า หรือตะเกียงทองเหลืองอายุกว่า 60 ปี ไปจนกระทั่งซากเลียงผาโบราณที่มีอายุ 40 กว่าปี แต่ยังคงสภาพสมบูรณ์ซึ่งเจ้าของเดิมซื้อมาจากธิเบต ซึ่งหลายครั้งนรินทรก็ได้ลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรบอกข่าวคราวว่ามีสินค้าอะไรน่าสนใจ บางครั้งเขาก็จะไปรับซื้อและตีราคาถึงบ้าน ส่วนสินค้าที่ขายดีเป็นพิเศษ ได้แก่ ตู้ไม้สักโบราณ และภาพวาดบนแผ่นไม้สักที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกันมาก

“จริงๆ แล้วไม้สักพวกนี้เป็นไม้เก่าอายุหลายสิบปี แต่เราเอามาทำให้มีมูลค่าขึ้นมา แทนที่มันจะเป็นแค่ไม้เกล็ดหลังคาโบราณ เราก็เอามาวาดรูปใหม่ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมั่นใจในร้านผม เพราะผมก็อยู่ในอาชีพนี้มานาน ถ้าเป็นของใหม่ก็ใหม่ไปเลย เก่าก็เก่าจริงๆ ไม่ใช่ของทำเลียนแบบของเก่า ส่วนใหญ่คนที่มาเดินที่นี่ก็เป็นคนที่มีความรู้เรื่องของโบราณต่างๆ เราไม่สามารถหลอกลูกค้าได้ อายุของสินค้าและการสังเกตต่างๆ มันบ่งบอก มันหลอกกันไม่ได้” นรินทรยืนยัน กฎอีกข้อหนึ่งที่เขายึดอย่างเคร่งครัดคือ ไม่รับเทรดซื้อสินค้าหน้าร้านเป็นอันขาด

“เรื่องการแลกซื้อมันค่อนข้างจะเสี่ยงกับสินค้าที่ขโมยมา คือของพวกนี้เราจะไม่รู้ที่มาที่ไป แต่ถ้าเราไปซื้อตามบ้านลูกค้า เวลามีปัญหาอะไรเราก็รู้ที่มาที่ไป ส่วนตัวผมเองผมไม่ซื้อของส่งเดช เพราะว่าจากประสบการณ์ที่ผมสะสมมาและจากประสบการณ์การซื้อขายของเก่า เราต้องระมัดระวัง ต้องมีข้อสังเกต ของบางชิ้นอย่างนาฬิกาโบราณมีคนเอามาขาย สมมติว่ามูลค่าที่เราจะซื้อได้อยู่ที่ 2-5 พัน แต่เขามาเปิดราคาแค่ 400-500 อย่างนี้แสดงว่าเขาไม่รู้ราคาแล้ว เพราะเขาไม่ใช่เจ้าของ”

สินค้าทุกชิ้นภายในร้านของนรินทรจะไม่มีการซ่อมแซม ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้ของทุกชิ้นเป็นไปตามอดีต เพราะนั่นคือเสน่ห์ของของเก่า นรินทรบอกว่าไม่มีใครอยากซื้อของใหม่ไปใช้ แต่จุดประสงค์คือต้องการซื้อของเหล่านี้ไปเพื่อย้อนรำลึกถึงวันเวลาในอดีตต่างหาก

วิรชัย ปิฏกานนท์ เจ้าของกิจการวัย 78 ปี เป็นอีกผู้หนึ่งที่ชอบมาเดินเลือกซื้อสินค้าที่ตลาดของคลองถมเชียงใหม่เป็นประจำ ด้วยความที่เป็นนักสะสมของสวยงามแปลกๆ โดยเฉพาะถาดสังกะสีหรือจานที่มีรูปวาดลวดลายต่างๆ ซึ่งเขาสะสมมากว่า 30 ปี จำนวนนับหลายพันใบ โดยจะนำมาติดโชว์ประดับไว้ตามฝาผนัง เมื่อเพื่อนๆ มาที่บ้านก็ได้พาชมและบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของถาดแต่ละใบให้ฟัง นับเป็นงานอดิเรกยามว่างหลังจากที่เขาวางมือจากธุรกิจที่ทำอยู่

“คนอื่นไปต่างประเทศมักจะซื้อเสื้อผ้า,ของกิน แต่ผมชอบซื้อของที่ระลึก ของที่ในเมืองไทยไม่มี พอมาเดินที่นี่ก็ได้เจอของที่ไม่เคยเห็น คุณภาพใช้ได้ก็ซื้อ ไม่มีหลักการอะไร ของเก่าแล้วราคาแพงๆ เราก็ไม่กล้าซื้อเสียดายตังค์ ถ้าของไม่ค่อยแพง ราคาเหมาะสมเราก็ซื้อไว้เป็นของที่ระลึก ของพวกนี้บางอย่างมีเงินก็หาซื้อไม่ได้ ถ้าเป็นของใหม่ๆ ในปัจจุบันก็หาซื้อง่าย เราเป็นพ่อค้าค้าขายมันเครียด ยิ่งปัจจุบันมันยิ่งเครียด ของสะสมพวกนี้มันดูแล้วผ่อนคลายอารมณ์ ก็ทำให้เราไม่เครียด โรคภัยไข้เจ็บก็ไม่ตามมา” คุณลุงวิรชัยเผยเคล็ดลับช็อปปิ้งอย่างมีสุขภาพดีให้ฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ตลาดคลองถมเชียงใหม่จะเริ่มเปิดตั้งแต่ช่วงสายๆ ของวัน ประมาณ 10 โมงเช้า ก่อนที่จะไปวายในช่วงค่ำประมาณ 2 ทุ่ม หลังช็อปของเก่าที่ตลาดนัดคลองถมเสร็จ ใครยังมีแรงเหลืออาจจะไปเดินเลือกซื้อดอกไม้ต่อที่ตลาดคำเที่ยงซึ่งอยู่เลยไปอีกไม่ไกลกันนักก็ได้ เพราะทั้งของเก่าและดอกไม้ต่างก็ให้ความชุ่มชื่นหัวใจแก่ผู้ซื้อได้ไม่ต่างกัน
********

เรื่อง/ภาพ รัชตวดี จิตดี
ตลาดนัดคลองถมเชียงใหม่




ร้านขายแผ่นเสียงเก่า







กำลังโหลดความคิดเห็น