xs
xsm
sm
md
lg

เอก ฮิมสกุล สุดยอดคัมภีร์ฟุตบอลโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอก ฮิมสกุล แฟนพันธ์แท้ ฟุตบอลโลกและแฟนพันธ์แท้ ฟุตบอลยูโร
เปิดฉากระเบิดความมันทุกแมทซ์การแข่งขัน คุ้มค่าสมกับการรอคอยของคอบอลมานานถึง 4 ปีกันไปแล้ว สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 สุดยอดมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ของหมู่มวลมนุษยชาติ

ท่ามกลางกระแสศึกลูกหนังกำลังร้อนระอุในเวลานี้ “ผู้จัดการปริทรรศน์” จึงเชิญชวนคอบอลทั้งหลายจับเข่าคุยกับ “เอก ฮิมสกุล” แฟนพันธ์แท้ฟุตบอลโลก ผู้สั่งสมความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลมานานกว่า 20 ปี หลากหลายเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลทั้งไทยและเทศซึมอยู่ทั่วทุกอณูในกระแสเลือดของหนุ่มคนนี้ กระทั่งสามารถยกให้เขาเป็นหนึ่งในคัมภีร์ฟุตบอลโลกก็ว่าได้

จุดประกายชื่นชอบฟุตบอล

กีฬาฟุตบอลกับเด็กผู้ชายนั้นเป็นของคู่กัน สำหรับเอก ฮิมสกุลก็เช่นเดียวกัน เขาย้อนอดีตให้ฟังว่าเริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก โดยที่ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา และรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับฟุตบอลอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งวันที่ต้องค้นคว้าหาข้อมูลมาประกอบการจัดบอร์ดเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลโลก เพื่อนำไปแสดงนิทรรศการของทางโรงเรียน

ขณะนั้นอายุได้ 8 ปี เขาเล่าต่อไปว่า ระหว่างทางเดินกลับบ้านไปเจอหนังสือฟุตบอลมือสองวางขายอยู่ริมฟุตปาธ และเมื่อพลิกเนื้อหาก็เห็นว่าภาพข้างในสวย พร้อมทั้งมีประวัติเกี่ยวกับฟุตบอลโลกอยู่มาก จึงได้ซื้อติดมือกลับบ้าน ประกอบกับในปีนั้นมีการแข่งขันฟุตบอลโลก
 
“เห็นปุ๊บก็ซื้อมาดู เพราะต้องใช้รูปในหนังสือมาตัดติดบอร์ด ก็เริ่มต้นจากตรงนั้น ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับฟุตบอลโลก รวมทั้งยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับนักเตะมหัศจรรย์ของโลก ทำให้รู้สึกว่าคนที่เล่นฟุตบอลก็อยากเตะบอลให้เก่งเหมือนเขา คนที่ไม่เคยรู้เรื่องราวก็อยากรู้”

และนั่นก็คือจุดเริ่มต้น หลังจากนั้นก็เริ่มติดตามข่าว และเรื่องราวเกี่ยวกับฟุตบอลอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยการติดตามซื้อหาหนังสือเกี่ยวกับฟุตบอลมาอ่าน โดยเฉพาะ “สตาร์ซอคเก้อร์ รายสัปดาห์” ซึ่งสมัยนั้นยังเด็ก ค่าขนมยังน้อย จึงต้องฝากให้แม่ซื้อมาให้ทุกฉบับ

“ไม่ว่าจะเป็นหนังสือใหม่ออกทุกสัปดาห์ หรือหนังสือเก่า ตอนนั้นหนังสือใหม่ราคาเล่มละ 11-12 บาท ผมยังเด็ก ซื้อไม่ไหว เราก็ซื้อหนังสือเก่าเล่มละ 2-3 บาท ซื้อมาเก็บรูป ดึงออกมาติดข้างฝาเต็มไปหมด โปสเตอร์ต่างๆ หรือมีการถ่ายทอดแข่งขันฟุตบอลก็จะตามดูตลอด มันเหมือนกับเราชอบ อยากเป็นนักเตะคนนี้ อยากเก็บรูปเขา อยากมีทุกอย่างเกี่ยวกับฟุตบอล”

“ชอบเล่นบอลมาตั้งแต่เด็ก แต่ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลต่างประเทศ สมัยก่อนทีวี หนังสือพิมพ์ยังไม่มากเท่าสมัยนี้ เคเบิลทีวีก็ยังไม่มี ฉะนั้นหนังสือที่เกี่ยวกับฟุตบอลต่างประเทศ ถ้าจะหาข้อมูลให้ละเอียดที่สุดต้องเป็นสตาร์ซอคเก้อร์”

ยิ่งทวีความรู้สึกรัก และความสนใจในกีฬาฟุตบอลมากขึ้น เมื่อเรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษา ได้กลุ่มเพื่อน ต่างก็ชอบฟุตบอลเหมือนกัน ดังนั้นในวงสนทนาจึงมีแต่เรื่องลูกหนังกลมๆ

“พอเข้าเรียนมัธยมมีเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ชอบและติดตามฟุตบอลต่างประเทศเหมือนกัน กินข้าวก็จะคุยแต่เรื่องฟุตบอล ซื้อเสื้อทีมฟุตบอลมาใหม่ก็จะนำมาอวดกัน”

เมื่อก่อนเป็นนักฟุตบอลโรงเรียน นักฟุตบอลมหาวิทยาลัย พอจบก็ยังเล่นฟุตบอล กระทั่งปี 2542 แข่งฟุตบอลให้กับบริษัท ประกอบกับไม่ได้วอล์มก่อนลงสนามทำให้เอ็นเข่าขาด จึงเลิกเล่นไป 3-4 ปี หลังจากผ่าเข่าก็กลับมาเล่นอีกครั้ง และพยายามที่จะหาเวลาออกกำลังกาย

“ตอนเด็กๆ ดูแล้วทำตาม เลียนแบบท่านักฟุตบอลคนนี้สลับขา ฟับๆ บางคนสลับครั้ง สองครั้ง พอทำตามได้ อย่างโรนัลดินโญ ทำตามไม่ทัน แต่รู้ว่าทำอย่างไร ทดลองคนเดียวได้ ช้าหน่อย แต่พอถึงเวลาเล่นจริง มันทำไม่ได้ เพราะมันเป็นพรสวรรค์ส่วนตัวของนักเตะแต่ละคน”

ฟุตบอลฟีเวอร์

เอกเปิดใจถึงความรักในกีฬาลูกหนังว่า ซึมอยู่ในสายเลือด วันไหนไม่ได้อ่านหนังสือบอลจะรู้สึกหงุดหงิด ถึงขนาดต้องซื้อมาเก็บไว้ทุกฉบับที่วางแผง กระทั่งที่บ้านแทบไม่มีที่เก็บ จนต้องตัดใจเลือกเก็บเฉพาะข่าวที่สำคัญๆ เช่น ปีนั้นเยอรมันได้แชมป์โลก นักเตะคนนี้ดีที่สุด หรือหล่อที่สุด”

“เมื่อก่อนสตาร์ ซอคเกอร์วางแผนรายวัน ฟุตบอลอังกฤษจะเตะกันทุกสุดสัปดาห์ สมมุติฟุตบอลเตะวันจันทร์ หนังสือก็จะตีพิมพ์วันจันทร์หรืออังคาร แต่ผลจะเป็นของวันเสาร์-อาทิตย์นู้น เพราะฉะนั้นมันก็ช้าไป เราดูจากข่าวหนังสือพิมพ์ คนนั้นยิง คนนี้ยิง แต่ไม่รู้รายละเอียด ใครเป็นอย่างไร ต่างจากเดี๋ยวนี้ ถ้าฟุตบอลเตะตี 3 ตอนเช้าหนังสือพิมพ์เสนอข่าวแล้ว ทำให้วันไหนไม่ได้อ่านหนังสือเหมือนคนสูบบุหรี่แล้วไม่ได้สูบ หงุดหงิด”

เขาพูดถึงเสน่ห์ของลูกหนังว่า “เหมือนหนังเรื่องหนึ่ง ไม่มีสั่งคัท มีบทบาทให้เล่นตลอด บทพอมาช่วงนี้ จากทีมที่แข็งแกร่ง ก็มีโรยราลงไป มีพระเอกทีมใหม่เข้ามาแทน หรือนักเตะบางคนจะได้ไปแข่งอยู่แล้ว แต่ต้องมาประสบอุบัติเหตุ ขาหัก มันมีอะไรน่าสนใจให้ติดตามตลอด ต่อไปจะเกิดประวัติศาสตร์อะไรใหม่ๆ ขึ้น ทีมนี้เป็นเต็งบ๊วยของฟุตบอลยูโร แต่ได้แชมป์ มันมีอะไรที่เซอร์ไพรส์”

สุดยอดแฟนพันธ์แท้บอลโลก

จากการคว้าแชมป์ “แฟนพันธ์แท้ ฟุตบอลโลก” สานฝันให้เขาได้รับประสบการณ์ และความรู้สึกประทับใจ เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2002 เป็นครั้งแรก ซึ่งนัดนั้นเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่โยโกฮ่าม่า ประเทศญี่ปุ่น
 
“ความหวังสูงสุดของผมคืออยากไปดูบอลโลก คิดว่ารางวัลสูงสุดของแชมป์แฟนพันธ์แท้คือการได้รับโอกาสไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลก แม้จะมั่นใจว่ามีความรู้เกี่ยวกับฟุตบอล แต่ก็ยังต้องเตรียมตัว เพราะมองว่าคำถามไม่ได้มีแต่ในหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการวิเคราะห์ ศึกษาด้วย จากเดิมอ่านหนังสืออย่างเดียว ก็หันไปเปิดเว็บไซด์ หาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอะไรให้ผ่านตา แต่ยังมีอะไรที่ยังไม่รู้อีกเยอะแยะมาก บางครั้งเป็นสิ่งที่ต่างประเทศบันทึกไว้ก่อนที่อินเตอร์เนตจะแพร่หลาย จึงยังไม่มีที่ไหนนำมาตีพิมพ์ ซึ่งยิ่งค้นก็ยิ่งสนุก”

ของสะสม เก็บไว้ด้วยใจรัก

หนังสือคือของสะสมชิ้นแรกๆ ของเอก จากนั้นของสะสมก็ค่อยๆ เพิ่มประเภท และจำนวนชิ้นขึ้นตามความชื่นชอบที่สั่งสมมาหลายปี

“ของสะสมส่วนใหญ่เป็นหนังสือบอลฟุตบอลโลก ในแต่ละครั้งจะมีหนังสือออกมา หาง่าย เพราะมีการทำซ้ำ และอายุการวางตลาดนาน แต่สำหรับหนังสือบอลมีอายุวางตลาดไม่นาน หมดแล้วก็ส่งคืนโรงพิมพ์ ดังนั้นจึงหายากกว่า และมีคุณค่ากับเรามากกว่า”

“ไม่ใช่แค่หนังสือฟุตบอลเพียงอย่างเดียว มีทั้งวีซีดี ดีวีดีฟุตบอลโลก ยอดนักเตะดังของโลกปีต่างๆ เสื้อบอล ลูกฟุตบอล รองเท้าสตั๊ด รู้สึกมีความสุขที่ได้ซื้อพวกของที่ระลึกต่างๆ เวลาไปดูฟุตบอลก็จะเก็บไว้ เช่น นกกระเรียนกระดาษ ที่ถูกโปรยในสนามนัดชิงชนะเลิศ หรือตั๋วชมฟุตบอลโลก 2002 นัดชิงชนะเลิศ ที่โยโกฮาม่า”

2 นักเตะในดวงใจกับทีมในฝัน

“มาร์ค ฮิวจ์” และ “อิริค คันโตนา” คือสองนักเตะในดวงใจของเอก เขาเล่าด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มว่า

“นักเตะคนแรกที่ชอบคือมาร์ค ฮิว มีร่างกายที่แข็งแรง ท่อนขาเบ้อเริ่ม เบียด ใจสู้ ยิงประตูสวยๆ บ่อย หลังจากหมดมาร์ค ฮิว ก็มีอิริค คันโตนาขึ้นมาเป็นศูนย์หน้าต่อ เป็นนักเตะที่ทำให้แมนยูคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี นอกจากนี้บุคลิกลักษณะเป็นคนที่มีความพิเศษส่วนตัว โดนแบนกี่เดือนไม่เป็นไร และเขาเลิกเล่นในช่วงที่โด่งดัง ทำให้คนดูอารมณ์ยังค้าง นักเตะคนอื่นอาจจะเล่นจนสภาพไปไม่ไหวแล้ว”

“ฮิวจ์ป็นนักเตะกองหน้า แต่ไม่ได้ยิงประตูเยอะแยะเหมือนนักฟุตบอลคนอื่นที่ฤดูกาลหนึ่งๆ จะยิงประตูได้เยอะๆ ฮิวจ์ยิงประตูได้ไม่เยอะ แต่มีลีลา และความดุดัน อีกอย่างแต่ละลูกที่ยิงล้วนเป็นประตูในเกมสำคัญ ถ้าไม่ได้ประตูนี้ต้องแพ้แน่ มาร์ค ฮิว และอิริค คันโตนา เหมือนพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามายิงประตูทุกที ประเภทที่เกมชนะแล้วยิงอีกๆ มันเฉยๆ แต่พวกนี้ยิงแต่ละลูก ลีลาไม่ธรรมดา ต้องเบียด กระแทกแล้วยิง แต่ละลูกท่าทางสวย ยิงเต็มแรง”

“แต่แปลก นักฟุตบอลที่ชื่นชอบมากๆ ไม่ได้ไปบอลโลก ดังนั้นเวลามีแข่งฟุตบอลโลกก็จะเชียร์ หรือเอาใจช่วยนักฟุตบอลที่มาจากทีมแมนยู แต่อังกฤษก็จะเชียร์มากหน่อย เพราะถือเป็นความสำเร็จของแมนยูด้วย”

แมนยูคือทีมในฝันที่อยากจะเข้าไปร่วมทีม “ชอบ อยากอยู่แมนยู มองว่าเป็นทีมที่เล่นแล้วเอนเตอร์เทนคนดูมากๆ”

มุมโปรดนั่งเชียร์บอล

คอบอลส่วนหนึ่งอาจจะชอบนั่งเชียร์บอลร่วมกันตามร้านอาหาร เพื่ออรรถรสในการประสานเสียงเชียร์ แต่สำหรับเอก สถานที่เชียร์บอลที่ดีที่สุดคือที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่าน ด้วยเหตุผลที่ว่าคนเยอะ ดูไม่ได้รายละเอียด

“ไม่ชอบดูบอลที่มีคนเยอะ เวลาดูแล้วมีคนพูดจะไม่มีสมาธิในการดู อย่างมากก็ไปดูบ้านเพื่อนที่สนิทๆ 2-3 คน อย่างนั้นฟังแล้วจะได้ยิน อย่างมากก็แหย่กันเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าไปดูในที่ที่มีคนเยอะๆ รายละเอียดในเกมไม่ชัด ฟังคนพากย์ไม่ชัด เกิดอะไรในเกมก็ไม่รู้ จึงชอบดูในที่ที่สามารถเห็นรายละเอียดได้เยอะๆ”

เผยเคล็ดลับดูบอลให้ได้อรรถรส

เอกเล่าว่า ตอนเด็กๆ จะติดตามทุกเกมการแข่งขัน และไม่เคยขาดเรียนเลยสักครั้ง ถึงวันนี้การทำงานจัดรายการวิทยุรอบดึก ทำให้การนอนดึก ตื่นเช้ากลายเป็นความเคยชิน แต่สำหรับคนทั่วไป เขาแนะนำวิธีดูบอลให้สนุกและรักษาสุขภาพด้วยการเลือกดูบอลเป็นบางคู่ หรืออัดเทปเก็บไว้ดูในวันหลังก็ได้

“หรือไม่ก็นอนก่อน นอนตั้งแต่หัวค่ำ ตั้งนาฬิกาปลุกขึ้นมาดูก็ได้ เพราะส่วนใหญ่คู่เตะใหญ่ๆ จะแข่งกันดึก คิดว่าคนที่สุขภาพแข็งแรงอยู่แล้ว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ อดนอนวันละ 2-3 ชั่วโมงน่าจะไหว แต่ส่วนใหญ่คนที่ไปดูตามผับ กินเหล้า ดูบอลด้วย ทำให้ตื่นไม่ไหว”

ดูอย่างไรไม่ให้ง่วงเหงาหาวนอน “อาบน้ำเลย ก่อนเตะอย่านอนดู เพราะนอนดูหลับไปก่อนทุกราย และถ้าดูเกมไม่มัน สลบเหมือดทุกคน คือถ้าอยากดูเกมให้จบ ให้นั่งดู และอาบน้ำ ตาจะสว่างทันที แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็นอน ดูแบบเก็บรายละเอียดไม่ได้ก็นอนดีกว่า”

ดูให้สนุก ปราศจากความเครียด ต้องไม่มีการพนัน “เล่นพนันแล้วดูบอลไม่สนุก ไม่มีความสุข อย่างพอเชียร์แมนยู แมนยูต้องชนะ เชียร์ให้ชนะ กับเชียร์ให้ได้ชนะ 2-0 ความสุขต่างกัน ยิ่งตอนหลังได้ตำแหน่งแฟนพันธ์แท้ คนรู้จักเยอะขึ้นก็มีคนโทรศัพท์เข้ามา ซึ่งไม่รู้ว่าไปเอาเบอร์มาจากไหน โทร.ถามฟุตบอล เราก็จะบอกไปว่านั่งดูเหอะ ผมยังไม่รู้เลย เสี่ยง พวกนี้บางทีเล่นพนันบอลเป็นแฟชั่น”

“ถ้าเลิกพนันบอลไม่ได้ก็เล่นไปเถอะ แต่อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน อยากสนุกก็สนุกแค่พอดี อย่าเอาความสนุกของคุณไปทำให้พ่อ-แม่ ลูก-เมียเดือดร้อนก็เพียงพอ เงินคุณ คุณทำงานมาเหนื่อยก็อยากสนุก ห้ามไม่ได้ ก็เล่นไปเหอะ แต่อย่าเล่นถึงขนาดเสียงานเสียการ เป็นหนี้เป็นสินเสียจนไม่มีกระจิตกระใจไปทำอย่างอื่น” เอกกล่าวทิ้งท้าย

******

เรื่อง – ศิริญญา มงคลวัจน์


ของสะสม




กำลังโหลดความคิดเห็น