เปเล่ ราชาลูกหนังโลกจากบราซิลเคยเปรียบเปรยฟุตบอลว่าเป็น "The Beautiful game" ของมวลมนุษยชาติ แต่ในปัจจุบัน เกมลูกกลมๆนี้มีความหมายมากมายหลายมิติ แถมยังส่งผลกระทบกว้างไกลไปทั่วโลกเกินกว่าที่คนจะคาดคิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกฟุตบอลโลกซึ่งสี่ปีจะมีสักครั้ง แน่นอนมันคือเกมแห่งชีวิต ในอดีตมีกันถึงขนาดที่แฟนฟุตบอลลุ้นเกมหน้าจอโทรทัศน์จนหัวใจวายคาที่ หรือแม้กระทั่งหน้ามืดเล่นการพนันจนหมดเนื้อหมดตัว โดนเจ้าหนี้ตามปลิดชีพ
ขนาดนักฟุตบอลเองอย่าง อันเดรส เอสโคบาร์ ปราการหลังของโคลัมเบีย ซึ่งทำเข้าประตูตัวเองในเวิลด์คัพปี 1994 ในนัดที่พบ "เจ้าภาพ" สหรัฐอเมริกา จนทำให้ทีมแพ้ไป 1-2 และตกรอบแรก เมื่อกลับถึงประเทศ เอสโคบาร์ ถูกยิงเสียชีวิตทันที โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจของโคลัมเบียสันนิษฐานว่าเอสโคบาร์ พัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติดและการพนันบอล
มาถึงฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งจะเปิดสนามในวันศุกร์ที่ 9 มิ.ย. นี้ด้วยคู่ "เจ้าภาพ" เยอรมนีเจอกับคอสตาริกา แน่นอนนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งมหกรรมที่ทำให้ผู้คนที่คลั่งไคล้ฟุตบอลจะต้องเฝ้าอดหลับอดนอนเพื่อชมการแข่งขันในครั้งนี้ตลอดหนึ่งเดือนเต็มๆ
เวิลด์คัพครั้งนี้นอกจากจะเป็นศูนย์รวมแห่งความสนใจของผู้คนทั่วโลกแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของ "ที่สุด" ในอีกหลายๆเรื่องที่แฟนฟุตบอลจะต้องจับตา ซึ่งทีมข่าวกีฬาของผู้จัดการรายวันได้รวบรวมไว้ในบรรทัดต่อจากนี้
ที่สุดแห่งความสูสี
การแข่งขันฟุตบอลโลกเที่ยวนี้อาจจะถือว่าเป็นครั้งที่สูสีและคาดเดายากที่สุด หลายๆครั้งที่ผ่านมาบรรดาตัวเต็งถูกมองเห็นอย่างเด่นชัดไม่เกิน 2-3 ทีม แต่เที่ยวนี้ทีมที่จะมาวินถูกกะเก็งกันไปมากมายหลายชาติ
เริ่มจากเต็ง 1 อย่าง บราซิล ที่หลายสำนักชี้ให้จับตา เพราะมีขุนพลระดับพระกาฬคับทีมทั้ง โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่, กาก้า, อาเดรียโน่ ฯลฯ แต่ปัญหาก็คือเที่ยวนี้เล่นในแผ่นดินยุโรป ด้วยสภาพแวดล้อมและเสียงเชียร์ทีม "แซมบ้า" ย่อมตกเป็นรอง
ขณะเดียวกันการรักษามาตรฐานความสำเร็จให้ยืนยาวระดับ 16 ปีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในอดีต บราซิล ได้แชมป์มาแล้ว 5 ครั้ง โดยยุคล่าสุดเข้าชิงชนะเลิศมา 3 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1994 ถึง 1998 และครั้งล่าสุดปี 2002 เป็นเวลาแห่งความยิ่งใหญ่กว่าทศวรรษ นักเตะที่เป็นแกนหลักในทีมเริ่มอายุมากและไม่อยู่ในฟอร์มสุดยอด ไล่เรียงมาตั้งแต่กัปตันทีม มากอส คาฟู ในวัย 36 กะรัต ต่อด้วยแบ็กซ้ายอย่าง โรเบอร์โต้ คาร์ลอส ปาเข้าไป 33 ขณะเดียวกัน เอเมอร์สัน, ลูซิโอ หรือแม้กระทั่ง โรนัลโด้ ก็อยู่ในช่วงขาลงกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นบราซิล ไม่ใช่ตัวเต็งที่โดดเด่นเหมือนเมื่อสี่ปีที่แล้วอย่างแน่นอน
หันมามองเจ้าภาพ เยอรมนี ซึ่งจะได้เปรียบอย่างสูงเพราะเล่นในถิ่นตัวเอง แต่ เจอร์เกน คลินส์มันน์ กุนซือหนุ่มก็ยังหาทีมที่ลงตัวไม่ได้ การทดลองใช้ผู้เล่นดาวรุ่งของเขานั้นทำให้แฟนฟุตบอลกังวล แถมแผงหลังก็มีอาการเปื่อยยุ่ยน่าเป็นห่วงยิ่งนัก จากการอุ่นเครื่องหลายนัดที่ผ่านมาโดนคู่ต่อสู้ยิงจนพรุน
จากการสำรวจขนาดคนเยอรมันเองยังไม่เชื่อว่าทีม "อินทรีเหล็ก" จะไปบรรลุความฝัน โดยส่วนใหญ่คาดว่าทีมของพวกเขาจะจบเส้นทางเพียงแค่รอบ 8 ทีมเท่านั้น เช่นนี้แล้วบรรดาเกจิจะกล้ามอบความเป็นกระบี่มือหนึ่งจากฝั่งยุโรปให้เยอรมนีได้อย่างไร
หันไปมองทีม "สิงโตคำราม" อังกฤษ ตัวเต็งทุกสมัยแต่สุดท้ายวืดทุกที เที่ยวนี้ว่ากันว่าพวกเขามาด้วยขุนพลครบเครื่องที่สุดตั้งแต่คว้าถ้วย จูลส์ริเมต์ ได้เมื่อ 40 ปีก่อน ด้วยปราการหลังระดับ จอห์น เทอร์รี่, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ แอชลี่ย์ โคล ขณะเดียวกันแผงมิดฟิลด์ก็อุดมคับคั่งไปด้วยแข้งทองอย่าง เดวิด เบ็คแฮม, แฟรงค์ แลมพาร์ด รวมทั้งสตีเว่น เจอร์ราร์ด
ปิดท้ายด้วยจอมปิดสกอร์อย่างไมเคิล โอเว่น ใครจะกล้าดูแคลน?
ทว่าอาการบาดเจ็บของ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวหลักจะส่งผลกระทบต่อพวกเขาขนาดไหนเป็นสิ่งที่น่าห่วง แถมในแดนกลางยังไม่มีตัวตัดเกมที่เฉียบขาด หากเจอกับทีมที่มีมิดฟิลด์ตัวรุกที่มีเทคนิคเฉพาะตัวสูงอย่าง บราซิล อิตาลี โปรตุเกส หรือ ฮอลแลนด์ ก็น่าเป็นห่วง
อังกฤษ ยิ่งชอบตกม้าตายในรอบน็อกเอาต์ด้วยเหตุการณ์โชคไม่เข้าข้างอีกด้วย ก็น่าจับตาว่าเที่ยวนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน หัวหน้าโค้ชจะทำลายอาถรรพ์ได้สำเร็จหรือ
ส่วนทีมยุโรปอื่นๆนั้นก็ค่อนข้างสูสีกันสุดประมาณ อิตาลี เจ้าของแชมป์ 3 สมัยภายใต้การคุมทีมของมาเชลโล่ ลิปปี้ มีดีที่กองหลังอย่าง อเลสซานโดร เนสต้า กับฟาบิโอ คันนาวาโร่ และความโหดในแดนกลางของ เจนนาโร่ กัตตูโซ่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ทว่าในเกมรุกนั้นยังคาดเดายากว่า ฟรานเชสโก้ ต็อตติ, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, ลูก้า โทนี่ และ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ จะแผลงฤทธิ์ออกหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องของการควบคุมอารมณ์ นักเตะอิตาเลียนนั้นบทจะดีก็ดีใจหาย แต่บทจะไม่เอาก็เบี้ยวเสียดื้อๆ
ส่วน ฮอลแลนด์กับฝรั่งเศสนั้นมีลุ้นอยู่พอประมาณ "กังหันสีส้ม" อยู่ในยุคสร้างทีมใหม่โดย มาร์โก้ แวน บาสเท่น ทีมเวิร์คเยี่ยม นักเตะมีเทคนิคสูงและเล่นเกมเร็วได้ดี ทว่าประสบการณ์เป็นเรื่องน่าห่วงของเด็กดัตช์ชุดนี้ ขณะที่ทีม "ตราไก่" นั้นอยู่ในยุคโรยราของ ซีเนอดิน ซีดาน, ลิลิยง ตูราม และ โคลด มาเกเลเล่ กลุ่มนักเตะแกนหลักเหล่านี้จะเป็นผู้นำและตัวถ่วงทีมยังไม่มีใครคาดเดาได้ ฝรั่งเศสคงต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์และความสามารถเฉพาะตัวของ เธียร์รี่ อองรี
ทีมสุดท้ายที่อาจจะมีลุ้นแชมป์ก็คือ อาร์เจนติน่า ทีม "ฟ้า-ขาว" จากแดนอเมริกาใต้ ซึ่งฟุตบอลโลกหนที่แล้วตกรอบแรกไปอย่างอดสู เที่ยวนี้พวกเขาปฏิวัติทีมใหม่ แต่ก็ยังไม่มีดาราชูโรงที่น่าปักใจเชียร์ ลีโอเนล เมสซี่ ดาวรุ่งมหัศจรรย์ก็อายุเพียง 18 และไม่ค่อยสมบูรณ์ ฮวน โรมัน ริเคลเม่ เชื่องช้าและมักจะโชว์ฟอร์มไม่ออกในเกมใหญ่ๆ น่าคิดยิ่งนักว่าลีลาละตินของอาร์เจนตินา เมื่อเทียบกับเกมเร็วของทางฝั่งยุโรปจะมีปัญหาหรือไม่
สรุปแล้วเวิลด์คัพเที่ยวมีลุ้นแชมป์กันอยู่ในวงกว้างมากทีเดียวจากสองทีมอเมริกาใต้บราซิลและอาร์เจนติน่า ส่วนฝั่งยุโรปก็ส่ง เยอรมนี อังกฤษ อิตาลี ฮอลแลนด์ และฝรั่งเศส เข้าประกวดในกลุ่มตัวเต็ง รวมแล้วลุ้นกันถึง 6-7 ทีม ถือว่าเที่ยวนี้สูสีกันสุดประมาณทีเดียว
สุดยอดเรื่องจำนวนผู้ชม
การนัดพบกันของ 32 ทีม 32 ชาติยอดฝีมือจากทั่วโลก นั่นจะทำให้มหกรรมฟุตบอลโลก 2006 ทำลายสถิติผู้ชมของเวิลด์คัพทุกครั้งที่ผ่านมาอย่างย่อยยับ ทั้งเรื่องจำนวนคนดูในสนามและผู้ชมหน้าจอโทรทัศน์
ฟีฟ่าซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันได้ทำการคำนวณเม็ดเงินที่เกิดจากการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดให้กับสถานีโทรทัศน์ทั่วโลกว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันสถิติผู้ชมทางจอแก้วที่คาดว่าน่าจะเบรกทำสถิติสูงสุดในเที่ยวนี้เช่นเดียวกัน
โดยเควิน อลาวีย์ นักวิเคราะห์อาวุโสแห่งบริษัท "อินิชิเอทีฟ ฟิวเจอร์" ได้ทำการวิจัยถึงทิศทางการรับชมของผู้คนผ่านสื่อโทรทัศน์มีการคาดหมายกันว่าจะมีแฟนลูกหนังทั่วโลกชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เพิ่มขึ้นอีก5 พันล้านคน
หากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ "ดอยช์ลันด์ 2006" กลายเป็นฟุตบอลโลกที่มีผู้ชมผ่านทางโทรทัศน์ทุกนัดรวมกันสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดการแข่งขันขึ้นมาแตะที่ตัวเลข 5.42 หมื่นล้านคนเลยทีเดียว โดยจะทำลายสถิติผู้ชมหน้าจอโทรทัศน์เมื่อ 4 ปีก่อนซึ่งเกาหลีและญี่ปุ่นร่วมกันเป็นเจ้าภาพและทำสถิติตั้งแต่ฟีฟ่าจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกขึ้นมาไว้ที่ 4.92 หมื่นล้านคน
ไม่เพียงแต่ผู้ชมหน้าจอโทรทัศน์เท่านั้น หากแต่คนดูที่ต้องการเข้าไปสัมผัสบรรยากาศเวิลด์คัพจากทั้ง 12 สนามทั่วเมืองเบียร์ดูตื่นตัวเป็นพิเศษ แถมทั้งฟีฟ่าและบรรดาสปอนเซอร์จัดการแข่งขันทั้งหลายยังมีประสบการณ์ตั๋วเหลือ เนื่องจากมัวแต่กั๊กไว้รอปล่อยนาทีสุดท้าย ปรากฏว่าสุดท้ายตั๋วเน่าคามือบานเบอะ
เที่ยวนี้การกระจายบัตรเข้าชมทำกันอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น ฟีฟ่า เปิดให้จองออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตหลายต่อหลายรอบ แต่สุดท้ายด้วยความสนใจจากมหาชนอย่างล้นหลาม จึงทำให้ตั๋วเข้าชมการแข่งขันครั้งนี้เป็นที่ต้องการและราคาพุ่งขึ้นสูงอย่างเหลือเชื่อ
ขนาดตั๋วที่จำหน่ายโดยตัวแทนเท่านั้นก็ถูกโขกแพงขึ้นไปประมาณ 10 เท่า ยกตัวอย่างราคาหน้าบัตรของรอบรองชนะเลิศประมาณ 2 หมื่น จะถูกบวกราคาโดยนายหน้าขายให้กับผู้สนใจถึง 2 แสนบาท แต่ก็ยังไม่วายขายดิบขายดี เพราะมีผู้อยากไปสัมผัสบรรยากาศเกมลูกหนังระดับโลกที่ 4 ปีมีเพียงครั้งเดียวกันอย่างมากมาย
ล่าสุด "ไกเซอร์ฟรานซ์" หรือฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ของเยอรมนี ยังออกโรงมายืนยันว่าตั๋วฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในครั้งนี้เหลืออีกไม่มากแล้ว และคาดว่าจะขายหมดในอีกไม่ช้าไม่นานนี้ หลังจากที่ฝ่ายจัดการแข่งขันได้กระจายขายตั๋วฟุตบอลโลก 2006 ไปกว่า 3 ล้านใบตามช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ แต่ก็มีบ้างที่ถูกตีคืนมายังฝ่ายจัดการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ไม่ได้กังวลใจและคิดว่าตั๋วที่เหลือจะสามารถขายได้หมดแน่นอน
ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันครั้งนี้เผยว่า "ตั๋วที่ถูกส่งคืนมามีเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ผมก็มั่นใจว่าบัตรที่เหลือเหล่านั้นจะถูกจัดจำหน่ายหมดลงในไม่ช้า"
โดยตั๋วที่เหลือทาง "ไกเซอร์ฟรานซ์"ได้สั่งการให้ โวล์ฟกัง นอยซ์บัค รองประธานดำเนินการนำตั๋วไปจัดจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ที่ร่วมสนับสนุนฟุตบอลโลกในครั้งนี้
ซึ่งเชื่อว่าเมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นสนามแข่งขันทั้ง 12 เมืองของเจ้าภาพจะต้องแน่นขนัดไปด้วยผู้ชมอย่างเป็นประวัติการณ์
ขนาดเมืองไทยเราเองก็คลั่งฟุตบอลโลกไม่แพ้ชาติอื่นเหมือนกัน โดยมีการวิจัยจากบริษัท "สตาร์คอม" ที่ชื่อว่า ‘StarCapture’ ระบุว่าเที่ยวนี้คนไทยกว่า 44 ล้านคนร่วมดูบอลโลกสูงกว่าปี 2002 ถึง 26.6%
Star Capture โดยสตาร์คอม มีเดียเวสต์ กรุ๊ป มีเดียเอเยนซีชั้นนำสรุปรายงานว่าในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้เมื่อเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว คาดว่าจะมีกลุ่มผู้ชมโทรทัศน์ในช่วงเวลาดังกล่าวสูงเพิ่มขึ้นถึง 26.6% ในเมืองไทย เมื่อเทียบเคียงกับฐานข้อมูลเดิมเราจึงสามารถสรุปได้ว่าการถ่ายทอดฟุตบอลโลกส่งผลโดยตรงทำให้เรตติ้งผู้ชมโทรทัศน์สูงขึ้น สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้คาดว่า คนไทยอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจะดูฟุตบอลโลกสูงถึง 43.9 ล้านคน จากฐานประชากรกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งมีทั้งประเทศรวมกันทั้งสิ้น 48.8 ล้านคน หรือคิดเป็น 90% ของกลุ่มประชากรดังกล่าว ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์"
"พนัน" เป็นประวัติการณ์
เอแบคโพลสำรวจพบคนไทยกว่า 3 ล้านคนตั้งใจเล่นพนันฟุตบอลโลก โดยมีวงเงินสูงหมุนเวียนถึงกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท!!!
แต่ไหนแต่ไรเมื่อมีฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ระเบิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นศึกยูโรหรือฟุตบอลโลก คนไทยผู้นิยมการได้เสียทั้งมือเก่ามือใหม่ถือเป็นโอกาสดีที่จะกระโดดเข้าสู่การแข่งขัน ประเภทตาดีได้ตาร้ายเสีย แต่ส่วนใหญ่เสีย และส่วนหนึ่งของส่วนใหญ่นั้นเสียแบบไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่าย ต้องตกเป็นหนี้เป็นสินโต๊ะพนันบอลผิดกฎหมาย ที่รอให้เจ้าหน้าที่ทำการกวาดล้าง
นอกจากนั้นแล้ว การพนันระบบแทงปากเปล่าในเมืองไทย ทำให้พฤติกรรมแทงง่ายแต่จ่ายยาก ต้องตามล้างตามทวงหนี้สินกันด้วยกำลังและบางครั้งลูกตะกั่ว
เที่ยวนี้ก็เช่นเดียวกันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความห่วงใยอีกครั้ง ว่าจะเกิดการพนันบอลที่มียอดคนเล่นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
จากโพลของเอแบคนั้นประมาณการว่ามีประชาชนทั่วประเทศไทยสูงถึง 3,688,273 คนที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลในฟุตบอลโลก 2006 ครั้งนี้ด้วยยอดเงินหมุนเวียนในการเล่นอยู่ที่ 14,034,525,124 บาท ตัวเลขดังกล่าว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2004 พบว่า จำนวนผู้ที่ตั้งใจเล่นพนันเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณร้อยละ 130 หรือกว่าเท่าตัว
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่ายินดีว่าวงเงินที่เล่นพนันบอลมีแนวโน้มลดต่ำลงถึงประมาณร้อยละ 54 โดย 599,477 คนไม่เคยเล่นพนันทายฟุตบอลมาก่อน หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงมีประชาชนถึงประมาณ 600,000 คน เป็นมือใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ยิ่งไปกว่านั้นจะมีคนที่เคยเลิกเล่นและจะกลับมาเล่นอีก 750,290 หรือประมาณ 750,000 คนในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้
โดยหลังจากจำแนกกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 3 กลุ่มตามวงเงินที่ตั้งใจจะเล่นคือ กลุ่มแรกไม่เกิน 1,000 บาท กลุ่มที่สอง 1,001-10,000 บาท และกลุ่มที่ 3 มากกว่า 10,000 บาทขึ้นไป ผลสำรวจพบหลายประเด็นที่แตกต่างกันใน 3 กลุ่มเหล่านี้คือ ถ้ายิ่งมีวงเงินจะใช้เล่นสูงขึ้น ยิ่งมีสัดส่วนของคนที่คาดว่าทีมชาติอังกฤษจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในขณะที่กลุ่มแรกและกลุ่มที่ 2 ส่วนใหญ่ยังคงคาดว่า ทีมชาติบราซิลจะคว้าแชมป์ และบางส่วนคิดว่าทีมชาติอื่นๆ จะคว้าแชมป์เช่น ทีมชาติเยอรมนี ฝรั่งเศส อาร์เจนตินา อิตาลี สเปน เป็นต้น
สำหรับคนที่จะใช้วงเงินเกินกว่า 10,000 บาทขึ้นไปในการเล่นทายพนันบอลครั้งนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 53.9 ระบุว่าเคยประสบปัญหาเล่นทายพนันบอล จนต้องขายหรือจำนำของมีค่า ร้อยละ 30.3 เคยทะเลาะวิวาทกับโต๊ะบอลหรือผู้เล่นพนันด้วยกัน และเกินกว่า 1 ใน 4 หรือร้อยละ 28.9 เคยโดนโกง ไม่จ่าย จ่ายไม่ครบ ร้อยละ 25.1 หยุดงาน หนีเรียน และร้อยละ 24.0 ขัดแย้งกับคู่รักและคนในครอบครัว
นอกจากนี้กลุ่มคนที่จะใช้วงเงินมากกว่า 1,000 แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ระบุสารพัดปัญหาที่เคยประสบเช่นกันโดยกระจายไปในทุกกลุ่มปัญหาที่แตกต่างเพิ่มขึ้นมาคือ การมีหนี้สินจากการพนันและต้องโกหกคนใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองหรือคู่รัก และจากการวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า ผู้ตั้งใจจะเล่นทายพนันบอลจำนวนมากมักเล่นพนันเกินกว่าวงเงินที่ตั้งใจไว้อีกด้วย
สุดยอดเทคโนโลยีและการตัดสิน
"ฟุตบอลโลก" เปรียบดั่งละครโรงใหญ่ซึ่งถูกจับจ้องโดยสายตาประชาชนนับพันๆล้านคู่ ทั้งในสนามแข่งขัน และผ่านทางหน้าจอ นอกจากนั้นยังมีกล้องโทรทัศน์ที่จะคอยจับจ้องและจับผิดทุกอิริยาบถของนักเตะ ไม่ว่าใครทำอะไรที่ไหนในสนาม เที่ยวนี้ฟีฟ่าได้อนุญาตให้ใช้กล้องโทรทัศน์มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา บรรจุอยู่ตามมุมสำคัญ เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นทุกซอกทุกมุม และได้อรรถรสในการชมเกมอย่างเต็มอิ่มที่สุดเท่าที่จะทำได้
นอกจากนั้นเรื่องการตัดสินของกรรมการในสนาม ฟีฟ่าก็พยายามเน้นเป็นพิเศษ เพื่อลบล้างความผิดพลาดในอดีต ซึ่งมีหลายครั้งได้ประจานความผิดพลาดของ "สิงห์เชิ้ตดำ" ออกมาชัดๆ เช่นกรณีที่ ดิเอโก้ มาราโดน่า ใช้มือชกบอลเข้าประตูทีมชาติอังกฤษไปในฟุตบอลโลก 86 และขนานนามประตูนั้นว่าเป็น "หัตถ์พระเจ้า"
การตัดสินว่าลูกเข้าไม่หรือไม่เข้า ผ่านเส้นประตูเข้าไปหรือยังก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ฟีฟ่าให้ความสำคัญ เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเช่นปี 1966 ที่เกิดประตู "ปริศนา" ของทีม "สิงโตคำราม" เจ้าภาพนัดชิงชนะเลิศซึ่งพวกเขายิงเยอรมันตะวันตกในช่วงต่อเวลา ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าลูกยิงของ เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ข้ามเส้นเข้าไปแน่ๆแล้วหรือยัง
แต่การใช้ลูกฟุตบอลอัจฉริยะฝังไมโครชิปยังอาจจะเร็วเกินไป ฟีฟ่า เลยยังไม่กล้าทดลองใช้ในคราวนี้ แต่หันไปเน้นเรื่องคุณภาพและความพร้อมของผู้ตัดสิน ซึ่งมีการทดสอบและเน้นสภาพความฟิตกันมากกว่าทุกคราวที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนจะมีการคัดตัวรอบสุดท้าย แถมยังมีด่านทดสอบเรื่องภาษามาเป็นตัวพิจารณาในครั้งนี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีการอบรมและสัมมนาทำเวิร์กชอปเข้มเป็นพิเศษด้วย
ฟีฟ่ายังนำเทคโนโลยีเรื่องอุปกรณ์สื่อสารมาช่วยทีมผู้ตัดสิน ซึ่งจะทำงานร่วมกันระหว่าง กรรมการในสนาม ไลน์แมน และผู้ตัดสินสำรองข้างสนาม โดยทุกคนจะมีหูฟังและไมค์ในการติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ในสนาม และยังมีเครื่องมือสั่นสะเทือนรัดอยู่ที่แขนในการกระตุ้นเตือนในจังหวะสำคัญๆด้วย
นอกจากนั้นฟีฟ่ายังได้กำชับเป็นพิเศษถึงมาตรการลงโทษนักเตะให้มีมาตรฐานเดียวกัน บางครั้งผู้ตัดสินห้ามใจอ่อนเด็ดขาด ทั้งในเรื่องของการเข้าสกัดข้างหลัง การเจตนาถ่วงเวลา การโต้เถียงและไม่เคารพผู้ตัดสิน รวมทั้งการพุ่งล้มที่นักฟุตบอลจะต้องได้รับใบเหลืองทันที
แถมเที่ยวนี้ขนาดเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ยังลงมาเล่นเอง และสั่งเน้นให้บรรดาผู้ตัดสินในศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี ดูแลปกป้องนักเตะให้รอดพ้นจากการโดนศอกของคู่ต่อสู้เล่นงาน โดยเฉพาะบรรดาซูเปอร์สตาร์ ซึ่งเสี่ยงต่อการสูญเสียฟันในมหกรรมลูกหนังระดับโลกในครั้งนี้
แบล็ตเตอร์ ได้เน้นย้ำให้ผู้ตัดสินปกป้องนักเตะจากทุกชาติโดยเฉพาะซูเปอร์สตาร์ที่อาจตกเป็นเหยื่อของลูกศอกมหาภัยจากคู่ต่อสู้ "ผมอยากจะวอนไปยังผู้ตัดสินทุกคนให้ดูแลนักเตะในสนามให้ดี โดยเฉพาะการปะทะกัน คุณคงเคยเห็นมาบ้างแล้วที่นักเตะต้องสูญเสียฟันของเขาจากการโดนศอกของคู่แข่ง ในเกมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปตามการถ่ายทอดสดผ่านจอโทรทัศน์ ซึ่งผมไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยเฉพาะกับบรรดาซูเปอร์สตาร์"
ทั้งหมดคือเจตนาที่ฟีฟ่าต้องการจะให้การตัดสินรวมทั้งฟุตบอลโลก 2006 เที่ยวนี้ดูเนี้ยบเป็นพิเศษเพื่อต้อนรับสายตาแฟนบอลมากมายมหาศาลจากทั่วโลกนั่นเอง เรียกว่างานใหญ่ขนาดนี้ยอมขายหน้าไม่ได้ เพื่อให้มหกรรมครั้งนี้สมบูรณ์แบบที่สุด
ถึงนาทีนี้ได้เวลาที่เราจะนับถอยหลังเพื่อก้าวเข้าสู่พิธีเปิดการแข่งขันเวิลด์คัพครั้งที่ 18 ณ ประเทศ เยอรมนี จากนี้ไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆที่โลกจะต้องหยุดหมุนเพื่อเฝ้าชม "ที่สุด"แห่งเกมลูกหนังครั้งนี้!!!
* * * * * * * * * * * * *
ดาราบ้าบอลโลก
กระแสคลั่งฟุตบอลโลกคราวนี้หาได้มีขอบเขตจำกัดอยู่เพียงคนในวงการกีฬาเท่านั้น หากแต่แทรกซึมไปถึงผู้คนทุกระดับ และแน่นอนคนในวงการบันเทิงซึ่งมีชีวิตไม่เคยหลับใหล ก็ตกอยู่ในสภาวะตื่นเต้นสุดขีดที่จะได้ชมเวิลด์คัพครั้งนี้เช่นกันโดยเฉพาะ 3 รายนี้ที่ทีมข่าวบันเทิงของผู้จัดการดอดไปเจาะใจมาฝากกัน
"เสนาหอย" เกียรติศักดิ์ อุดมนาค
ชอบทีมไหน?
"จริงๆแล้วชอบเหมือนคนอื่นน่ะนะ ชอบอังกฤษ แต่ว่าเวลาเราเชียร์บอลโลกหรือบอลยูโร เราจะเชียร์บอลที่เราชอบกับเอาใจช่วย อังกฤษเนี่ยชอบมาก คือนักเตะทุกคนเท่าที่เราดูมาทุกตำแหน่งดีหมดไม่ว่าจะเป็นจอนห์ เทอร์รี่,โจโคล อย่าง เวย์น รูนีย์ผมว่าน่าจะได้ลงนะถึงแม้ว่าจะเจ็บก็เถอะ ก็ลูกรักเฟอร์กี้น่ะ เป็นห่วงแค่โกลอย่างเดียวน่ะปีนี้
ส่วนทีมอื่นๆนอกจากนั้นก็เอาใจช่วยก็ทีมไอวอรี่ โคสต์เพราะเป็นทีมน้องใหม่ล่าสุดที่เขี่ยแคเมอรูนตกรอบได้ถือว่าเจ๋งนะ แล้วก็มีดร็อกบาที่มาจากเชลซี แล้วเป็นศูนย์หน้าที่ค่อนข้างมหัศจรรย์พอสมควร ลูกมหัศจรรย์เขาเยอะ...ชอบ
รักอังกฤษมานานรึยัง?
"ก็เชียร์ทุกครั้งน่ะไม่ว่าจะมีบอลยูโรหรือบอลโลก เชียร์อยู่เสมอแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ ผมอยากให้เขาเตะกับบราซิลมากเลย จะได้ไปแก้แค้น ผมก็ชอบโรนัลดินโญ่นะแต่ผมก็เอาใจช่วยทีมที่ผมชอบดีกว่า"
ชอบลีลาการเล่นของอังกฤษใช่มั้ย?
"ฟุตบอลลีกทุกๆอัน อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศสหรือสเปนเดี๋ยวนี้ผมก็อาจจะดูนะบอลสเปนแต่ว่าเวลาบอลอังกฤษเล่นจะเป็นฟุตบอลที่สนุกที่สุดในโลกเพราะว่าไม่มีอุดน่ะ เล่นกันแบบเอาตาย ยิงกันกระจายย่ะแล้วมันก็ดูไหลลื่น เยอรมันจะดูแข็งๆไปหน่อย อิตาลีก็อุดพอได้ก็อุดกัน ไม่สนุกนะ ที่ดูก็สเปน รีล มาดริดก็ดู ผมชอบบาร์เซโลนาเลยชอบโรนัลดินโญ่
ผมชอบอังกฤษมาตั้งแต่ที่เขาแพ้อาร์เจนตินาน่ะ มาราโดน่า ศูนย์หน้าเก่าๆคือเราได้ดูบอลอังกฤษเยอะที่สุดก็เลยรู้จักทั้งทีมของอังกฤษเยอะที่สุดอย่างอิตาลีเราก็รู้จักแค่ต็อตติ ไม่ทั้งทีมไง แต่เผอิญบราซิลเราก็รู้จักทั้งทีม อังกฤษเราดูทุกเสาร์-อาทิตย์เพราะมีพรีเมียร์ลีก ก็เลยคิดว่าเราประทับใจในการเล่นที่ดุดันที่จะทำประตูกันเยอะนะ แต่เป็นห่วงโกล เดวิด เจมส์ครับเฟอะฟะนิดหน่อยครับ ตลอดมาเขาคาดหวังอะไรไมได้ครับบางทีก็เหนี๊ยวเหนียว บางทีก็ไม่เหนียวเลย
ปีนี้ผมว่าอังกฤษน่าจะติด 4 ทีมสุดท้ายแน่นอนเพราะมันมีกองกลางแลมพาร์ดซึ่งมีคนบอกว่าเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ น่าจะมียิงนะเพราะปกติเขายิงมากกว่ากองหน้าอีกแต่ตอนนี้เคราช์ก็มั่นใจมากขึ้นนะ เขาทำท่าหุ่นยนต์ได้น่ารักมากครับ แล้วอีริคส์สันบอกว่าถ้าอังกฤษได้แชมป์บอลโลกปีนี้เขาจะทำท่าหุ่นยนต์ให้ดูเลย"
ทีมที่คิดว่าจะได้แชมป์บอลโลกปีนี้?
"คิดว่ามันก็มีหลายทีมนะ ปีนี้มีหลายทีมที่เก่งๆ อาร์เจนตินาก็เก่ง บราซิล อังกฤษแล้วก็มีทีมม้ามืดอีก ฮอลแลนด์ก็ตัวดี๊ดี ดีมาก นี่เกือบที่สุดในโลกเลยนะแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จในบอลโลกเลย ประสบความสำเร็จช่วง 3 ทหารเสือที่มีรุด กุลลิต, แฟรงค์ ไรจ์การ์ด,แวน บาสเท่น ฝรั่งเศสถือว่าลูกผีลูกคน ยังเชื่อว่าบราซิลน่าจะชิงชนะเลิศ แต่ถ้าบราซิลได้ชิงอังกฤษก็ต้องตกเพราะว่าต้องเจอกันก่อน"
"ถ้าจะให้ผมฟันธงผมยังนึกถึงอาร์เจนติน่าน่าจะชิงกับบราซิล มีสิทธิ์หรือเปล่าไม่รู้ บราซิลได้เข้าชิงแน่ๆเลยน่ะ ดูจากตัวในทุกตำแหน่งเนี่ยคือตัวที่ดีที่สุดในโลกทั้งนั้น ค่าตัวแพงๆทั้งนั้น ยกเว้นโกล"
จะดูทุกแมตช์มั้ย?
"ก็พอดูได้ คงจะต้องพยายามดูทุกแมตช์ครับ อยากดูอยู่แล้วล่ะเพราะมันมี 4 ปีทีน่ะโอ้โห ไม่พลาด"
ถั่วแระ เชิญยิ้ม
พี่ถั่วแระเตรียมตัวอย่างไรในการดูบอล?
"ต้องดูแลสุขภาพเราให้ดี เราอดนอนไหวมั้ย เราจะตื่นมาทำงานไหวรึเปล่า นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องคิดต่อ ถ้ามันดึกมากแล้วทำงาน 6 โมงเราไหวก็ไม่มีปัญหา อย่างถั่วแระ หรือตลกเนี่ยทำงานกลับบ้านถึง ตี 3 ตี 4 แล้วตื่น 10 โมง 11 โมงไม่มีปัญหาเลยสบายมาก เพราะเราก็คนกลางคืนตื่นสายได้ คนที่ทำงาน 8 โมงเช้า ถ้าดูบอลจบตี 3 ไปทำงานมันไม่ไหวหรอก มันอยู่ที่ตัวเรา เราไม่ดูสด ดูเทปได้มั้ย นั่นแหละวิธีแก้ เราต้องพิจารณาตัวเอง อย่าไปเสียยาบำรุงดูเลย อย่าไปเล่นการพนัน ถั่วแระบอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องดูแมตช์สดๆก็ได้ ง่วงก็นอนพรุ่งนี้เช้าดูจากข่าวก็ได้"
ชอบทีมไหน?
"ใจจริงผมชอบบราซิลนะ ชอบสไตล์การเล่น ชอบทีมเวิร์กของเขา พี่ก็ดูว่าบราซิลจะเตะกี่ครั้งถึงจะเข้ารอบชิง เตะกับใครบ้าง ชอบใครถ้าว่างเราก็ดู แต่ถ้าเราไม่มีเวลา สมมติบราซิลแข่ง 7 นัด เรามีงาน ชนงานเสีย 3 นัด เราก็ต้องยอมไม่ดู มันนานาจิตตังนะ ผมไม่ได้โปรดปรานบอลมากนะ มันขึ้นอยู่กับว่าคนที่เขามีเพื่อนชวนกันดู 5 คนขึ้นไป แต่ถั่วแระมีลูกกับเมีย มันอยู่คนละห้องหมดเลย เลยชวนกันดูไม่ได้ พอง่วงก็นอน พรุ่งนี้ก็มาฟังข่าวว่าแพ้หรือชนะ ไม่ซีเรียสว่าต้องดูทั้งหมด"
ตั้งใจจะไปดูที่ไหน?
"มันตอบยากนะ เพราะเราไม่ชอบไปดูจากจอที่เขาตั้งไว้ให้ ถ้ามีเพื่อนมันก็ดีตรงที่มันมีที่กินเบียร์กินโน่นนี่ และอาจจะสานต่อไปอีกหลายๆอย่าง ถ้ามีเพื่อนก็ไป ปีที่แล้วไปดูที่สถานีช่อง 3 เลย มีเพื่อนไงเลยไป ดูส่วนตัวเราจะไม่มีเรื่องพนันเข้ามา"
นักฟุตบอลในดวงใจมีมั้ย?
"จริงๆผมชอบอยู่ 2 คนนะ โรนัลดินโญ่กับโรนัลโด้ เขาเล่นพลิ้ว อีกคนก็ซีดานของฝรั่งเศสน่ะก็ชอบ อาร์เจนตินาก็ชอบ ชอบไอ้เตี้ยน่ะ บอลมันเหมือนหนังน่ะ ทีมที่ไม่เคยชนะใครเลยผมไม่เชียร์หรอก ไม่รู้ว่าปีนี้ใครจะโค่นแชมป์ได้นะ กีฬามันมีแพ้มีชนะแหละแต่ว่าน่าจะมีพลิกโผก็ได้ บราซิลเขาฝึกคนดี เขาส่งนักเตะไปฝึกในสโมสรต่างๆแต่เขาก็ทำให้มารวมกันเป็นหนึ่ง ได้ มันน่าดูตรงนี้แหละ"
เคยไปเกาะขอบสนามบอลโลกจริงๆบ้างมั้ย?
"ที่เกาหลีกับญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพก็ไปนะ ปีนี้ก็จะไปแฟรงก์เฟิร์ต บอลโลกเนี่ยมีเจตนาอยู่อย่าง ที่ไปยืนโบกธงเนี่ย เพราะทีมไทยไม่เคยได้ไปสักที มีคนถามเยอะว่ามีไปเชียร์รึเปล่า เราก็บอกว่าไปครับ ในเอเชียบอลไทยเราเก่ง แต่บอลโลกเราไม่สามารถไปได้ แต่อยากให้มีกองเชียร์จากประเทศไทยไปให้กำลังใจคนเอเชียเหมือนกัน เจตนามันแค่นั้นเอง เราอยากให้กำลังใจกับนักกีฬา เราก็คนเอเชีย ผมก็มีสิทธิ์ที่จะไปเชียร์เพราะทีมจากเอเชียก็มี ค่าใช้จ่ายมันก็แล้วแต่สถานที่ บอลโลกครั้งนี้เตรียมไว้เถอะไม่ต่ำกว่า 2 แสน คราวที่แล้วแสนกว่าบาท ทำแล้วมันมีความสุข เราได้ไปเที่ยวด้วย"
รัฐบาลสนับสนุนอะไรบ้าง?
"ในเอเชียเขาเคยให้นะ ถึงเขาไม่ช่วยเราก็ไม่ได้ลำบาก เพราะเราก็อยากทำแบบนี้เอง เราไม่ได้เรียกร้องจากใคร ผมทำคนเดียวมันก็ไม่ไหวหรอกถ้าจะทำให้มันเป็นสมาคมน่ะ เวียดนามเขายังสามารถเหมาเครื่องบินมาเชียร์ได้เลยนะตอนซีเกมส์ครั้งที่แล้ว นี่คือเวียดนาม ประเทศไทยมีอยู่คนเดียว แล้วก็ไปหาคนไทยเอาข้างหน้า บางทีเราก็มีงานอย่างอื่นด้วย"
"ต๊อก" ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ
เชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษเที่ยวนี้?
"เชียร์เป็นพิเศษก็คงเป็นทีมที่ไปจากเอเชียมั้งครับ อย่างทีมเกาหลี ญี่ปุ่น อิหร่าน ผมเชียร์ทีมเอเชียมาตลอด เพราะเขาก็พัฒนามาเรื่อยๆ มีความรู้สึกว่าบอลเอเชีย เข้าไปก็ตกรอบตลอด แต่เดี๋ยวนี้ญี่ปุ่นก็เก่งขึ้นแล้ว ชอบเชียร์ทีมที่เป็นรองอยู่แล้ว อย่างทีมเก่งๆเขาก็เก่งมานานแล้ว เราก็ไม่เชียร์ เชียร์ทีมเล็กแล้วเหมือนว่าเขาจะต้องเหนื่อยกว่า กว่าจะผ่านมาได้"
อนาคตทีมเอเชียจะโอเคกว่านี้มั้ย?
"น่าจะดีขึ้นไปเรื่อยๆนะ อย่างญี่ปุ่นเขาก็ส่งลูก ส่งนักบอลไปเรียนในบราซิล ไปเรียนในยุโรปในหลายๆที่ ผมชอบเปเล่นะ ตอนเด็กๆดูเขาแล้วผมก็ทำเลียนแบบเขา เบสิกเขาดี มีการให้และรับลูกแม่นยำ ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวเขาเก่งอยู่แล้ว แล้วเขาก็เป็นคนใจกว้าง แล้วก็เป็นคนที่เล่นบอลสะอาด อย่างนักบอลบางคนเขาจะเตะฝ่ายตรงข้ามแรงๆ แต่เปเล่เขาจะไม่มีแบบนี้เลยนะ ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆนี่ผมชอบเธียร์รี่ อองรี , โรนัลดินโญ่ เขาเล่นแฟร์ๆน่ะ ไม่มีการไปเกี่ยวใครล้ม ฟุตบอลถ้าเราอยากทำร้ายใคร เราทำได้นะ เข้าข้างหลังก็ได้แล้วแต่เปเล่เขาไม่ทำ มีน้ำใจเป็นนักกีฬาสูง อองรีสปิริตก็โอเค ลูกไหนเล่นยากเขาปล่อยให้เพื่อนช่วย เล่นในกติกา ผมชอบ"
คิดว่าปีนี้ใครจะคว้าแชมป์?
"ส่วนมากบอลโลกเจ้าภาพได้เปรียบในเรื่องของอาหาร สภาพความเป็นอยู่ กำลังใจ แถมเล่นในบ้านตัวเองอีก เยอรมนีน่าจะได้เปรียบเรื่องของเจ้าบ้าน เสียงเชียร์ที่มันดังมากกว่าทีมอื่นมันมีผลมากนะผมว่า ผมไปเล่นบอลจะรู้เลยว่าทำดีคนจะกรี๊ดกร๊าด ทำไม่ดีก็จะโดนโห่ ถ้าเราเป็นเจ้าบ้านก็จะเล่นได้ดี"
ฝีมือเกี่ยวมั้ยกับแชมป์?
"ฝีมือกับการพัฒนามันเกี่ยวนะ บอลเก่งๆมาเจอความสามารถเฉพาะตัวสูงๆมันก็สามารถจะพลิกเกมได้เหมือนตอนที่ญี่ปุ่นชนะบราซิลมาแล้ว ดวง จังหวะมันเกี่ยวด้วยนะ มันขึ้นอยู่กับอะไรหลายๆอย่าง"
เคยไปดูติดขอบสนามจริงๆบ้างมั้ย?
"ไปดูบ่อยครับเวลามีบราซิลดังๆมา อาร์เซนอลผมก็ไป หลังๆวงการบันเทิงเขาก็ส่งเสริมเรื่องบอลเราก็เลยได้เกี่ยวข้องกันบ่อยๆ เล่นกีฬามันได้มิตรภาพด้วย คนนิสัยอย่างไร เล่นบอลออกมาเขาก็จะนิสัยอย่างนั้น มันรู้หลายอย่าง มันจะชัดเลย ผมไม่จำกัดว่าจะดูกับใครที่ไหน ดูได้ทุกที่ในกองถ่ายก็ดู เพื่อนนัดกินข้าวก็ไปดูกันก็มี นัดใหญ่ๆก็ไปตามสถานที่ใหญ่ๆก็ไปกัน กองเชียร์ก็แต่งตัวแต่งหน้ากันมาเต็มที่เลยเหมือนในสนามจริงๆเลย บ้านเราก็ออกแนวลานเบียร์ มากกว่าโล่งดี"
ดูทุกนัดมั้ย?
"คงไม่ดูทุกนัดหรอกครับ เพราะว่าก็ต้องมีงาน ผมว่างก็ดู บางนัดเตะตี 3 ก็มาดูหลังจากแข่งสดไปแล้วก็ได้ ดูบอลมันติดนะเหมือนดูละครนั่นแหละ ฟุตบอลดูแล้วก็ติด ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย เพื่อนผมก็มีนะผู้หญิงที่เขาชอบบอลมากๆน่ะ อย่างน้องฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์ เขาก็เล่นฟุตบอล เขาชอบมาก"
เตรียมตัวอย่างไรในการดูบอล?
"ทั้งวันเราก็รับประทานอาหารธรรมดา ดูบอลอาจจะทำให้อ้วนได้ เพราะช่วงดูบอลเราหาอะไรขบเคี้ยวมากินไงครับ มันเพลิน ก็หาอาหารเสริมมากินก็ดีเหมือนกัน บำรุง อย่างถั่วแระญี่ปุ่นก็กินได้ เม็ดทานตะวัน อย่าไปกินพวกไอศกรีม ขนมหวาน คุกกี้ แต่ระวังเพราะหลังจากจบบอลโลกน้ำหนักอาจจะขึ้นได้"
* * * * * * * * * * *
โดยทีมข่าวกีฬา