xs
xsm
sm
md
lg

ธนบัตรหมายเลขสวย ใบเดียว-เฉียดล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในจำนวนผู้คนหลากเพศหลายวัยที่เดินไปมาบนฟุตปาธ แถวท่าพระจันทร์ ส่วนใหญ่นั้นดั้นด้นมาเลือก ชมและบูชาพระเครื่อง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งนั้นแวะไปยังแผงขายธนบัตร ซึ่งแทรกตัวอยู่ท่ามกลางร้านพระเครื่อง

หากกล่าวถึงธนบัตร หมายถึงสิ่งที่สามารถนำไปใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสิ่งของ ด้วยเหตุนี้ธนบัตรที่ใช้กันอยู่ทุกวันจึงมีมูลค่าในตัวเอง และนับวันธนบัตรเก่า หายาก เลิกใช้ไปนานจะยิ่งทวีมูลค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น ถึงขั้นมีมูลค่ามากกว่าชนิดราคาที่อยู่บนธนบัตร โดยเฉพาะ 'ธนบัตรเลขสวย'

ธนบัตรแบ่งตามแบบและแบ่งตามชนิดราคา หากแบ่งตามแบบมีทั้งหมด 1-15 แบบ นับตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มนำธนบัตรออกใช้เป็นครั้งแรก ปีพุทธศักราช 2445 ตามพระราชบัญญัติธนบัตรสยามรัตนโกสินทร์ศก 121 ในระยะแรกธนบัตรแบบที่ 1-10 ผลิตโดยบริษัทรับจ้างพิมพ์ธนบัตรมาจากต่างประเทศ กระทั่งปี 2512 ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงได้จัดตั้งโรงพิมพ์ธนบัตรเป็นผลสำเร็จ และเริ่มพิมพ์ธนบัตรขึ้นใช้เองภายในประเทศ ตั้งแต่แบบ 11 เป็นลำดับมาจนถึงปัจจุบันใช้แบบ 15

ส่วนธนบัตรแบ่งตามชนิดราคา ได้แก่ ชนิดราคา 50 สตางค์, 1 บาท, 5 บาท, 10 บาท, 20 บาท, 100 บาท, 500 บาท และ 1,000 บาท

สำหรับธนบัตรที่วางขายอยู่ตามหน้าร้านต่างๆ เหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นธนบัตรที่ทางราชการได้ประกาศเลิกใช้ไปแล้ว มีตั้งแต่ธนบัตรเก่า ผลิตขึ้นใช้ในสมัยแรกๆ วางเรียงตามอายุธนบัตรจนถึงธนบัตรสมัยใหม่ที่ยังคงมีใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งด้วยความที่ธนบัตรเหล่านี้เป็นธนบัตรเก่าหายากนี่เอง จึงทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสม

ในการพิจารณาเลือกซื้อธนบัตรเก่า จะดูจากรายละเอียดบนธนบัตร ได้แก่ ปีที่ผลิต ลายเซ็นและดูจากสภาพของธนบัตรว่ายังคงสภาพดี สวยงามหรือไม่ ซึ่งหากธนบัตรมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ในการพิจารณาดังกล่าว มูลค่าของธนบัตรก็จะมีราคามากเกินชนิดราคาจริงของธนบัตรนั้นๆ

สมพิศ ธนธีรานันท์ เจ้าของร้าน ’21 ถนนท่าพระจันทร์ เล่าว่าธนบัตรที่นำมาวางขายได้จากการรับซื้อจากพรรคพวกเอามาขายหรือแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ยังมีการประมูลทางอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

"บางทีแบงก์ไทยแต่ต่างประเทศมีก็นำมาขายทางอินเทอร์เน็ต พวกนี้เน้นแบงก์ที่มีสภาพเดิม ยังอยู่ในสภาพดี ถ้าได้ตัวเลขสวยด้วยก็ยิ่งดี แต่เพียงแค่แบงก์สวยก็หายากแล้ว"

แม่ค้าสาวเล่าต่อไปว่า ธนบัตรรุ่นแรก รัชกาลที่ 5 หายากและเป็นที่ต้องการของนักสะสม และหากยังคงสภาพดีจะมีมูลค่าสูงถึงหลักล้าน

"แบงก์เก่าที่นิยมและหายากเป็นแบงก์ทุกประเภทที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ในรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 8 รวมถึงธนบัตรรุ่นแรกในรัชกาลที่ 5 ฉบับละ 1,000 มีชนิดราคาตั้งแต่หนึ่งบาท ห้าบาท สิบบาท หนึ่งร้อยบาท หนึ่งพันบาท เป็นแบงก์หายาก นักสะสมถามหากันมาก ถ้ายังมีสภาพดี สวยๆ ราคาเป็นล้าน"

ด้วยเหตุนี้คุณค่าของธนบัตรเก่าและหายากจึงเป็นเสน่ห์เย้ายวนให้นักสะสมแสวงหามาไว้ในครอบครอง นอกจากนี้ คุณสมบัติดังกล่าว ยังมีคุณสมบัติของธนบัตรอีกอย่างหนึ่งที่เรียกความสนใจจากนักสะสมได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ‘ความสวยงามของการเรียงตัวเลขบนธนบัตร’

ความสวยงามของการเรียงตัวเลขบนธนบัตร ประกอบด้วยพยัญชนะและเลขประจำหมวด เรียงเลขตั้งแต่ 00001 ถึง 100000 เรียงจำนวนกันเป็นแบบต่างๆ ตามชื่อที่นักสะสมนิยมได้แก่ เลขสวย ชนิดราคา และแบบเดียวกัน (เช่น 1 A1111111, 9 A 9999999), เลขเรียง (เช่น 2A1234567), เลขเก้าหน้าเก้าหลัง (เช่น 3C9113549), เลขตอง (เช่น 4 A 4444555, 8 H 2222999), เลขเกือบตอง คือเลขจำนวนเดียวกันเรียงกัน แต่มีเลขจำนวนอื่นเข้ามาแทรกกลางที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยพิมพ์ขึ้น ซึ่งในทางกฎหมายแล้วไม่สามารถนำมาใช้ชำระได้ตามกฎหมาย (เช่น 0 A 0000000)

สมพิศอธิบายว่า ในจำนวนธนบัตรเลขสวยที่หาได้ง่ายคือ เลขเก้าหน้าเก้าหลัง ขณะที่ธนบัตรเลขสวยหายากคือเลขตองและเลขทั้งเจ็ดตัวเหมือนกัน

"แบงก์ทุกสิบแหนบจะมีเลขเก้าหน้าเก้าหลัง แบงก์ที่หายากคือเลขตองและเลขเหมือนกันหมด ธนบัตรจำนวนล้านใบจึงจะพบเลขเหมือนกันหมดอยู่หนึ่งใบ และส่วนใหญ่เลขพวกนี้มักมีใบเดียว ไม่ซ้ำกัน หาแบงก์ที่มีตัวเลขเหมือนกันหมดทุกตัวยาก ทำให้มีราคาแพง ราคาตั้งแต่หลักพันขึ้นไป ถ้าขายเป็นเซต คือมีตั้งแต่ชนิดราคา 1 บาท ถึง 1,000 บาท ยิ่งมีมูลค่าสูงถึงหลักล้าน"

โดยทั่วไป นักสะสมธนบัตรนิยมซื้อหาธนบัตรที่มีเลข 8 และ 9 เป็นส่วนประกอบ และถ้าหากตัวเลขเหล่านี้เรียงจำนวนกันมากเท่าไร ธนบัตรใบนี้ก็จะยิ่งทวีมูลค่ามากตามจำนวนตัวเลขที่เพิ่มขึ้น

"คนจีนนิยมเลข 8 แต่โดยทั่วไปนิยมเลข 9 ตรงข้ามถ้าเป็นเลข 4 คนไม่ค่อยนิยม ส่วนเลข 7 นั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล ถ้านักสะสมเห็นว่าสวยหรือถูกโฉลกกับชะตาชีวิตก็อาจจะหาซื้อ ทำให้มีราคาแพงได้" สมพิศกล่าว

นอกจากจะซื้อหาเพื่อเสริมดวงชะตาแล้ว ชูชาติ คล้ายนาค อายุ 48 ปี เจ้าของร้านอ้วน บางกรวย ริมฟุตปาธ ย่านท่าพระจันทร์ เล่าว่านักสะสมบางคนยังมีความเชื่อว่า ถ้าหากนำธนบัตรเก่า หายาก หรือมีเลขสวยเป็นส่วนประกอบไปลงคาถาอาคมจากพระหรืออาจารย์ ก็จะยิ่งทำให้ธนบัตรนั้นมีพลังในการเสริมดวงชะตาชีวิต การทำงานและการค้ามากยิ่งขึ้น

และจากประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงนักสะสมธนบัตรมาเป็นระยะเวลา 15 ปี เขาสังเกตพบว่ามีคนสะสมธนบัตรเยอะมาก อายุตั้งแต่ 15 ปีก็หันมาเป็นนักสะสมกันแล้ว แต่ส่วนมากนักสะสมจะอยู่ในวัยกลางคน และเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

"ลูกค้าบางคนดูหมอดู แล้วหมอดูแนะนำให้หาเลขมงคลกับแต่ละคน ทั้งนี้ตัวเลขในธนบัตรนั้นต้องไม่มีเลข 0 และเลข 6 รวมอยู่ด้วย เพราะไม่ดีกับคนๆนั้น เลขศูนย์ไม่สวยอยู่แล้ว แต่เลขเก้าส่วนใหญ่นิยม เลขเก้าเป็นเลขมงคลตามความเชื่อส่วนตัวอยู่แล้ว บางครั้งนำไปให้อาจารย์ลงคาถาตามนิสัยคนไทย เป็นมงคลติดกระเป๋า"

สำหรับมูลค่าของธนบัตรเลขสวย พิจารณาจากสภาพของธนบัตร ความเก่า และเลขที่เรียงกันว่ามีความสวยงามเพียงใด สมพิศกล่าวว่า

"แบงก์เก่ามีราคาแพง มูลค่าก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นกว่าแบงก์ใหม่ๆที่ยังใช้อยู่หรือเพิ่งเลิกใช้ไปได้ไม่นาน ราคาไม่มีตายตัว ขึ้นอยู่กับทางผู้ขายแต่ละร้านจะตั้งราคา หรือขึ้นอยู่กับการประมูลราคาของลูกค้า ทางอินเทอร์เน็ตหรือตามตลาดนัด ถ้าเป็นเซตตั้งแต่ 0000000 ถึง 9999999 ก็จะยิ่งมีราคาแพงราคาถึงหลักแสน"

ส่วนชูชาติแจกแจงราคาของธนบัตรเลขสวยให้ฟังว่า

"แบงก์ต้องเป็นเลขสวยและเลขสวยก็ต้องมีสภาพดี เพราะไม่เช่นนั้นราคาก็จะไม่สูง ที่นิยมกันก็มีทั้งแบงก์เก่าและแบงก์ใหม่ ขึ้นอยู่กับความชอบของนักสะสม ราคาแล้วแต่ว่าเป็นเลขสวยหายากขนาดไหน อย่างแบงก์สมัยรัชกาลที่ 7-8 เป็นแบงก์หายาก แล้วมีเลขสวย ราคาเป็นหมื่น แบงก์ร้อย แบบ 9 ตองศูนย์ถึงตองเก้า ขายเป็นชุด ชุดหนึ่งประกอบด้วยชนิดราคา 1 บาท 20 บาท 100 บาท 1,000 บาท ราคาชุดละแสนบาท หรือแบงก์ชนิดร้อยบาท แบบเดียวกัน เลขตองหนึ่งถึงตองเก้า ราคาเป็นแสน หรือแบงก์ ร.6-ร.7 มีราคาแพง ใบละแสนขึ้น"

สมพิศแสดงความเห็นถึงคุณค่าของธนบัตรเลขสวยว่าสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน และนับวันจะมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ถึงขั้นที่ว่าช่วยเหลือฐานะทางเศรษฐกิจของผู้มีไว้ครอบครองยามที่เดือดร้อนทางการเงินได้

"พี่ไม่ได้เก็บไว้เลย ส่วนมากได้มาก็ขายออก ถ้าซื้อมาถูก ขายถูกก็พอไปได้ ยิ่งขายพวกพ่อค้าด้วยกันก็ขายได้เร็ว ช่วงไหนเศรษฐกิจดีจะมีคนหันมาซื้อธนบัตรสะสมกันเยอะ แต่ถ้าช่วงไหนเศรษฐกิจไม่ดี ส่วนมากคนก็จะเอาธนบัตรออกมาขาย แล้วแต่บางคนไม่รู้จะเอาเงินมาจากที่ไหน ดีกว่าไปกู้ยืม ก็นำธนบัตรมาขายดีกว่า พี่มองว่าธนบัตรไม่มีวันเสื่อมราคา นับวันมีแต่จะเพิ่มมูลค่า ยิ่งเก็บไว้นานก็ยิ่งมีค่า ไม่เหมือนเบอร์โทรศัพท์หมายเลขสวย ถ้ามีการยกเลิกก็คือหมด หายไป"

สำหรับชูชาติ นักสะสมและพ่อค้าธนบัตรแสดงความเห็นว่า

"ผมเริ่มสะสมแบงก์มาก่อน เห็นคนอื่นสะสม แล้วนำออกมาซื้อขาย เห็นมีราคาดีก็เริ่มสนใจ หันมาสะสม เอาออกมาซื้อ-ขายบ้าง เริ่มสนุก ซื้อเก็บไว้ แบงก์ไหนเลขสวยๆ สภาพยังดีก็เก็บไว้ พอเยอะเข้าก็นำออกมาวางขาย เก็บไว้เพียง 3-4 ใบ เอามาแลกเปลี่ยนกันบ้าง ซื้อมาบ้าง อันไหนมีอยู่แล้วและมีปริมาณมากก็นำออกมาขาย แบงก์เลขมงคลและเป็นเบงค์เก่าหายากมาก ถ้าหายไปก็จะหาไม่ได้แล้ว เกิดความเสียดาย ก็ไม่เอาออกมาขาย เก็บสะสมไว้เอง ตอนนื้มีอยู่หลายสิบใบ มือถือหายังไงก็ได้ แต่แบงก์เลขสวยหายาก และเก็บไว้ได้นาน"

หน้าร้านขายหินนำโชคและเครื่องประดับของ สุเวช ไตรมิตร อายุ 50 ปี เป็นที่สะดุดตาของผู้สัญจรไปมาบนถนนท่าพระจันทร์ เมื่อได้เห็นแบงก์รัชกาลที่ 5 ชนิดราคา 5 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรเก่าหายาก ที่สำคัญยังมีเลขสวย คือเป็นเลขเก้าเรียงกันทั้งเจ็ดตัว และแม้ว่าจะเป็นเพียงธนบัตรจำลอง แต่ก็ทำให้บรรดานักสะสมหรือคนที่ชอบเรื่องตัวเลขแวะเวียนกันเข้ามาไถ่ถามขอซื้อต่อ

"ใบนี้ได้มา 3 ปีแล้ว เป็นธนบัตรที่หลวงพ่อคูณเป่าถาคาให้ ประกอบกับเป็นแบงก์เลขสวย เลขเก้าเป็นเลขนำโชคสำหรับคนไทย เพียงแค่เลขเก้าหน้าเก้าหลังก็ถือว่าดีแล้ว แต่นี่เป็นเลขเก้าทั้งหมดก็ยิ่งดี จึงนำมาตั้งไว้หน้าร้าน การค้าขายก็ดีขึ้น ชีวิตหลายอย่างก็ดีขึ้น เหมือนเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้เราขยันทำมาหากิน ซึ่งถ้าขยันทำมาหากินก็เป็นสิ่งแน่นอนว่าต้องประสบความสำเร็จบ้าง

"ไม่ซีเรียสเรื่องต้องสะสมธนบัตรเลขสวย แต่ถ้าเจอก็ถือว่าดี เพราะเป็นของหายาก และตามความเชื่อของคนไทย ขึ้นชื่อว่าเลขเก้าแล้วถือว่าดี เป็นเลขมงคล เป็นความเชื่อสืบทอดมา ความรู้สึกก็จะสืบทอดต่อๆไป แต่จริงๆ ถ้าถามว่าดีจริงไหม แล้วแต่ความเชื่อและสิ่งที่เราทำมากว่า ถ้าเราเชื่อแล้วเราทำก็จะได้รับผลดี บางคนมาถามขอซื้อ เพราะเข้าใจว่าเป็นแบงก์จริง แต่พอเราปฏิเสธ ให้เหตุผลว่าเราขายของ เอาไว้บูชาก็ไม่รบเร้า"

ในความเห็นของ ดุจประเสริฐ กีรกุลกำธร นักสะสมธนบัตรเป็นงานอดิเรก เลือกสะสมตามที่กระทรวงการคลังประกาศว่าแบงก์ชนิดนี้จะเลิกหมุนเวียนใช้แล้ว และแบงก์ที่ระลึก เล่าถึงเหตุผลที่สะสมว่าเพียงเพราะต้องการเก็บไว้ให้ลูกหลานศึกษา สำหรับธนบัตรเลขสวยนั้น หายากจึงมีสะสมไม่มาก

"ไม่ได้สะสมเป็นจริงเป็นจังมาก คนอื่นเขาเล่นเพื่อเป็นธุรกิจ แต่เราเล่นแบบสะสมไว้โชว์ไว้แลกเปลี่ยนกับคนรู้จักกัน ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องเลขสวยไม่สวย เพราะเป็นสิ่งที่ยากในการตามหา เลือกจากความเก่า ไม่มีมูลค่าทางจิตใจ แต่ก็ไม่ได้คิดจะหากำไร ไม่เคยคิดว่าจะต้องเก็บไว้เก็งกำไรขายในอนาคต แต่เก็บไว้อีกสัก 50 ปี ให้ลูกหลานได้เห็น เพราะถ้าเราไม่เริ่มเก็บ เดี๋ยวพรุ่งนี้ใช้หมดไป มันก็หาไม่ได้อีกแล้ว เบอร์มือถือมันไม่อมตะ แต่แบงก์เป็นอมตะ แล้วของพวกนี้มันจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อเจอคนที่เขาต้องการ ถ้าคนที่เขาไม่อยากได้ ตั้งราคาถูกแค่ไหนก็ไม่มีใครซื้อ" เขากล่าวทิ้งท้าย

***********************

เรื่อง – ศิริญญา มงคลวัจน์









กำลังโหลดความคิดเห็น