"เคยมั้ยที่อยากจะมีรูปร่างแมนๆ แบบนี้" หรือ "รูปร่างของคุณล่ำสันพอที่จะกระชากใจสาวๆ แล้วรึยัง" จากหลากหลายคำโฆษณาตามเครื่องออกกำลังกายรูปแบบต่างๆ ยังคงแสดงให้เห็นว่าบนโลกใบนี้คำว่าชายชาตรีผู้มีรูปร่างบึกบึนยังคงมีนัยของการแสดงถึงคำว่า 'บุรุษเพศ' อยู่เสมอ
แม้ปัจจุบันจะมีฟิตเนสหรือสถานที่ให้ออกกำลังกายมากมาย จนกลืนกิน 'ยิมเพาะกาย' เก่าแก่ไปจนหมดสิ้น ซึ่งต่างค่อยๆ ทยอยปิดกิจการกันไปตามวาระตามกาลเวลา จนภาพแห่งความยิ่งใหญ่ของชายฉกรรจ์รูปร่างคมเข้มตามแบบฉบับพระเอกหนังไทย แทบจะเลือนหายไปจากความทรงจำ...แต่เชื่อหรือไม่ ยิมเพาะกายแห่งแรกของประเทศไทย ยังคงเปิดอยู่!!!!!
*เปิดม่านแห่งความยิ่งใหญ่
บ่ายแก่ๆ ของวันที่อากาศสดใส เราได้มีโอกาสเดินทางไปยังซอยศรีวิชัย ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟบางซื่อ กรุงเทพฯ ซึ่งตามคำบอกเล่าแล้วละก็ แถวนี้คือที่ตั้งของยิมซึ่งได้ชื่อว่าเป็น 'เจ้าแรกในประเทศไทย' เมื่อย่างก้าวแรกที่ได้สัมผัสก็รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของยุคสมัยเก่าก่อน ดัมบ์เบลเหล็กหลากหลายขนาด อุปกรณ์ในการออกกำลังตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แน่นขนัดอยู่เต็มลานเพาะกาย แทบไม่น่าเชื่อ คำนวนด้วยสายตาดูแล้ว สภาพมันไม่น่าจะใช้งานได้!!
พูลศักดิ์ กิ่งมณี ผู้เคยสร้างตำนานด้วยการพานักเพาะกายชาวไทยคว้าตำแหน่ง 'Mr.Asia' หรือนักเพาะกายระดับเอเชียมาแล้ว ด้วยวัย 81 ปี แต่สมองยังคงจดจำภาพเก่าๆในยุครุ่งโรจน์ของ 'พูลศักดิ์ยิม' แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี เขาเล่าให้ฟังว่า ช่วงที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น อายุ 13-14 มีโอกาสไปเห็นพวกตำรวจหน้าอกใหญ่ๆ จนทำให้เกิดความรู้สึกว่า "ทำไมเขามันแมนจัง" จึงอยากที่จะมีกล้ามแบบนั้นบ้าง แต่ก็ยังไม่เริ่มที่จะทำอะไรจริงๆ จังๆ แต่แรงผลักดันที่ทำให้เริ่มหันมาสนใจเล่นกล้ามจริงๆ ก็ตอนที่แม่บ่น
"ตอนนั้นที่บ้านมีเรือให้พวกญี่ปุ่นเช่า 50-60 ลำ คิดดูแล้วกันลำละ 1,000 บาทในสมัยก่อน บ้านเรารวยขนาดไหน วันนั้นแม่ใช้ให้ไปเปลี่ยนหางเสือเรือ ไอ้เราก็ตัวนิดเดียว ยกไม่ไหว เกิดนึกน้อยใจว่าทำไมมันถึงไม่มีแรงยก ตอนนั้นเลยนึกถึงตำรวจพวกที่มันอกใหญ่ ก็ไปดูเขาเล่น มันเอาปูนมาหล่อแล้วเอาไม้มาเหลาแล้วเสียบ เราก็ทำบ้าง ตอนนั้นเอาเงินไปซื้อปูนมาหล่อ ทำเองเล่นเองไม่มีใครสอน เราไม่รู้หรอกว่าที่เรายกมันผิดวิธี ก็ยกอยู่แบบนั้น
จุดเปลี่ยนจริงๆ ตอนได้เจอกับนักมวยปล้ำชาวสิงคโปร์ 'เจีย ยิ่น ล็อค' เรายกให้เขาเป็นครู ชอบเขามาก เขามาปล้ำที่เมืองไทย ก็คุยกัน เลยให้เขาแนะนำวิธีการเล่นกล้าม แล้วมันก็ตกเรือไม่ได้กลับบ้าน เลยให้เขามาสอนเล่นกล้าม พอเขาเห็นท่าเราเท่านั้นแหละ ขำร่วนเลย มันผิดหมด ทั้งท่าทาง ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ เลยตัดสินใจเอาเงินไปซื้อเหล็กแผ่นมาทำเป็นน้ำหนัก ซึ่งมันต้องใช้เหล็กในการเล่นถึงจะถูกวิธี ทำแบบจริงจังเลย ผลออกมามันก็ขึ้นสิ เลยตัดสินใจลงทุนทำพวกเครื่องออกกำลังเป็นเหล็กหมดเลย ตอนนั้นเลยเริ่มลงทุนเปิดยิมเองที่บ้านที่สะพานเหลือง ตอนนั้นยังอยู่แถวหัวลำโพง คนก็มาเล่นกัน เพราะตอนนั้นไม่ค่อยมีที่ให้เล่น แล้วของเราก็สอนแบบถูกวิธีด้วย คนเลยติด มากันวันละเป็นร้อยคน"
นับแต่นั้นเป็นต้นมาถือเป็นช่วงที่เข้าสู่ความยิ่งใหญ่ของ 'พูลศักดิ์ยิม' เพราะรัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ในช่วงปี 2500 สนับสนุนในเรื่องกีฬาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกีฬาเพาะกาย โดยในเวลานั้นสวนสัตว์เขาดินยังคงถูกจัดให้เป็นสถานที่จัดประกวดอยู่เป็นประจำ และได้รับความนิยมจากประชาชนดูการแข่งขันทีละหลายพันคน ซึ่งผลงานของทางค่ายพูลศักดิ์ยิมก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ชนะการประกวดมา 6 ปี ติดต่อกัน สืบเนื่องมาจาก ผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ ยังใช้ท่าทางผิดๆ ในการฝึกฝน จนปี 2515 ด้วยสภาพเดิมที่คับแคบไม่สามารถขยับขยายได้ จึงย้ายมาอยู่แถวสถานีรถไฟบางซื่อแทนที่เก่า
"เราชนะบ่อยจนเริ่มอาย จนรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วต้องไปที่อื่นบ้างแล้ว เลยเริ่มติดต่อกับเพื่อนชาวมาเลเซียว่ามีการแข่งขันที่ไหนบ้าง เขาเลยแนะนำให้ไปประกวดที่ศรีลังกา และนั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเจอนักกล้ามตัวใหญ่ๆ ไม่รู้มันจะใหญ่ไปไหนนักหนา ทำเราตัวเล็กไปเลย ผลที่ได้จากการไปเจอชาวต่างชาติ เด็กของเรา 2 คนตกรอบทั้งคู่" เขาเล่าจบพร้อมๆ กับหลับตานึกภาพในอดีตเจือด้วยรอยยิ้มแบบอายๆ
จากผลลัพธ์ของการประกวดในครั้งนั้น ทำให้ทางค่ายได้จัดการปรับปรุงตัวเองขึ้นมาใหม่ นั่นเองที่ทำให้ในปี 2516 เด็กในค่าย 'พูลศักดิ์ยิม' ก้าวขึ้นมาผงาดครองตำแหน่ง 'Mr. Asia' (ณรงค์ อิริสัจจะ) ขึ้นเป็นครั้งแรกบนแผ่นดินมาเลเซีย สร้างชื่อเสียงให้แก่ชาวไทย
*หลากเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบัน
พูลศักดิ์ย้อนความทรงจำออกมาเป็นคำพูดให้เราได้ฟังถึงเรื่องราวในอดีต
"เมื่อก่อนผู้ชายเขาถือนะว่าจะต้องมีกล้ามเป็นมัดๆ ให้ดูบึกบึน ไม่อย่างนั้นจะดูไม่เป็นผู้ชาย มันไม่เหมือนเดี๋ยวนี้ที่จะต้องผอม เราเห็นแล้วรู้สึกขัดหูขัดตามากๆ สมัยก่อนวันสงกรานต์เราแทบไม่ได้เดิน สาวๆ จ้องแต่จะสาดน้ำจ้องแต่จะประแป้ง ผู้หญิงสมัยก่อนเขาจะชอบผู้ชายกล้ามโตๆ ตัวใหญ่ๆ ผู้หญิงเลยมาติดเยอะ"
เขายังบอกอีกว่า คนที่คิดจะเล่นกล้ามจริงๆ ต้องเป็นคนที่มีเพื่อนน้อย นั่นจะทำให้มีสมาธิในการฝึกซ้อม ไม่ทำให้โดนพวกมากลากไปจนเสียระบบ และด้วยการซ้อมที่สม่ำเสมอก็เป็นอีกหนึ่งข้อปฏิบัติที่สำคัญ ซึ่งเมื่อก่อนมีคนมาเล่นจนหลับคาอุปกรณ์ไปเลยก็มี อุปกรณ์และเครื่องเล่นของที่นี่ก็มีทุกอย่างสำหรับทุกส่วนที่ต้องการจะเล่น แต่โดยส่วนมากแล้ว ผู้ที่มาเล่นจะนิยมเพาะกล้ามหน้าอกก่อนเป็นอันดับแรก โดยปัจจุบันสะดวกเพราะมีทั้งยาบำรุงและเงินทุน
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไปนานเท่าใด ตั้งแต่ยุคที่ค่าบริการเดือนละ 1 บาท มาจนปัจจุบันที่ 200 บาท ต่อเดือน แต่ด้วยความเชื่อถือของอาจารย์ในเรื่องของหลักในการสอนที่ถูกต้อง ยังคงทำให้ยิมแห่งนี้ดำเนินกิจการอยู่ควบคู่ไปกับฟิตเนสดังๆ ราคาสูงตามห้างฯต่างๆได้
"ถึงตรงนี้ถ้าเราตายปุ๊บ ก็คงต้องรูดม่านปิด เพราะไม่มีใครสานต่อ มันวุ่นวายและคงไม่มีใครเข้าไปคลุกคลีได้หรอก ตอนนี้ก็ยังออกกำลังแต่เล่นเบาลง ดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น เพิ่งมารู้ว่าที่ออกกำลังไปมันมีผลตอนแก่นี่เอง ในฐานะที่เล่นมาจนอายุ 81 ก็อยากจะเห็นคนไทยอายุยืนมีสุขภาพที่ดี อะไรมันก็ไม่สำคัญเท่าสุขภาพ" พูลศักดิ์ทิ้งท้าย ด้วยรอยยิ้มดั่งเช่นเคย
*2 วัย กับ 'พูลศักดิ์ยิม'
ใครๆ ในพูลศักดิ์ยิม เรียกเขาว่า 'พี่เปี๊ยก' หรือ สุนทร บุนนาค อายุ 70 ปี ถือเป็นสมาชิกรุ่นลายครามใช้บริการที่นี่มากว่า 40 ปี ตั้งแต่ครั้งยังอยู่ที่สะพานเหลือง เล่าให้ฟังถึงมนต์เสน่ห์ของที่นี่
"ผมเล่นมาตั้งแต่อายุ 15 แล้วล่ะ ตอนนั้นเล่นกล้ามใหญ่ เล่นหนัก ก็เล่นมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ ที่มาเล่นที่นี่เพราะว่าตอนนั้นถือเป็นแห่งแรกของเมืองไทย มีชื่อเสียงมาก รุ่นเก่าๆ รุ่นเดียวกับผมเดี๋ยวนี้เลิกกันไปหมดแล้ว แม้ปัจจุบันบ้านจะอยู่บางกะปิก็ยังนั่งรถมาเล่นที่นี่อยู่"
บาส-สุทธิพัฒม์ มาลากรอง อายุ 22 ปี เด็กรุ่นใหม่ของค่าย 'พูลศักดิ์ยิม' เขาเป็นสมาชิกตั้งแต่ครั้งบ้านยังอยู่ละแวกนี้ พูดถึงยิมที่เขาหลงใหล
"ผมเล่นมาตั้งแต่อายุ 17 จนตอนนี้ 22 ก็ยังเล่น เมื่อก่อนอยู่แถวนี้จึงลองหันมาเล่น ปัจจุบันบ้านอยู่แถวบางใหญ่ เคยไปเล่นที่อื่น แต่กลับให้ความรู้สึกไม่เป็นกันเองเท่าที่นี่ จึงต้องกลับมาที่นี่อีก เพราะที่นี่ให้ทั้งบรรยากาศที่ร่มรื่น มีความสนิทสนมดั่งพี่น้องอีกด้วย"
ถึงแม้กาลเวลาจะทำให้เหล็กเปลี่ยนเป็นสีดำ แต่เวลาก็ไม่สามารถทำให้น้ำหนักของลูกเหล็กเสื่อมหายไป คุณประโยชน์ของมันหาใช่ความสวยงามไม่ แต่คุณค่าที่แท้จริงคือ คุณประโยชน์ที่ได้ให้ไว้แก่ผู้ใช้มัน เฉกเช่นดั่งที่ 'พูลศักดิ์ยิม' สร้างไว้ให้กับลูกผู้ชายไทยกล้ามโตร่างกายบึกบึนมากว่าค่อนศตวรรษ
***********************
เรื่อง - สันติภาพ ชุ่มมี