ถึงเวลานี้เช็กเรตติ้งกระแส "ไฮโซ"ดูก็ยังฮิตฮอตไม่เลิกราแถมดูเหมือนว่าจะแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะออกาไนเซอร์ระดับใหญ่รายหนึ่งบอกว่าตั้งแต่ปีใหม่มาจนถึงวันนี้ลูกค้าขยันจัดอีเวนต์แทบทุกวัน และอีเวนต์แต่ละงานก็หนีไม่พ้นที่จะต้องใช้ไฮโซมาร่วมงานซึ่งกลายเป็นสูตรแห่งความสำเร็จไปเสียแล้ว
ขณะที่งานอีเวนต์เพิ่มมากขึ้นและจัดกันถี่ขึ้น แต่ตัวเลขประชากรไฮโซที่รับเชิญมาเป็นแขกร่วมงานกลับไม่ค่อยจะเติบโตสอดคล้องกับตัวเลขของอีเวนต์เอาเสียเลย ดังนั้นจึงเกิดปรากฏการณ์ไฮโซหน้าเดิม ๆ ออกงานบ่อยเสียจน "หน้าช้ำ" ลามไปจนถึง "หน้าเละ" ทำเอาไฮโซออกงานก็เบื่อ สื่อมวลชนสายสังคมก็เบื่อ จนถึงเจ้าของสินค้าก็เริ่มเบื่อเหมือนกัน
ไฮโซ "หน้าใหม่" จึงกลายเป็นกระแสใหม่ที่คนที่เข้ามาหากินกับวงการสังคมกำลังต้องการอย่างมาก งานนี้จึงมีทั้งพวก born to be และพวกที่ดันตัวเองให้ขึ้นมาอยู่ทำเนียบไฮโซให้ได้
** ยุทธการหาไฮโซ "หน้าใหม่"
เมื่อไฮโซหน้าเก่าเริ่มไม่เร้าใจแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของบรรดาเจ้าของบริษัท "รับเชิญแขก" ทั้งหลายจะต้องสวมบทบาทเป็นแมวมองเพื่อเสาะหาคนหน้าใหม่ ๆ เข้ามาสร้างสีสันให้กับงานอีเวนต์หรืองานสังคมบ้าง
ธุรกิจ "รับเชิญแขก" หรือ Invitation Business ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ถ้าย้อนหลังไปเมื่อ 4 - 5 ปีที่แล้วแทบจะนับรายได้ที่หันมาทำธุรกิจรับจ้างเชิญแขกออกงาน แต่เมื่องานอีเวนต์มีอัตราการเติบโตมากขึ้น ธุรกิจเชิญแขกก็โตตามไปด้วยส่งผลให้ ณ ปัจจุบันนี้มีหน้าใหม่ที่เข้ามาทำธุรกิจนี้ไม่ต่ำกว่า 15 - 20 ราย ซึ่งมีทั้งรายใหญ่อย่างพิมพลัส ไปจนถึงรายเล็กรายน้อยที่ทำเป็นรูปแบบฟรีแลนซ์ไปพร้อม ๆ กับการทำงานประจำที่เกี่ยวเนื่องกับสังคมไฮโซ
หัวใจธุรกิจรับเชิญแขกนั้นอยู่ที่จะต้องมีสมาชิกในพอร์ตมาก ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกใช้ตามสไตล์ของงานที่หลากหลายเช่นกัน ดังนั้นเจ้าของธุรกิจรับเชิญแขกแต่ละรายจึงต้องสวมบทบาท "แมวมอง" เพื่อเสาะหาไฮโซหน้าใหม่ ๆ เข้ามาสู่วงการสังคม ซึ่งแต่ละคนก็จะมีสไตล์แตกต่างกันออกไปซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นฐาน แบ็กกราวนด์ของแต่ละคน
ยิ่งตอนนี้งานอีเวนต์เพิ่มปริมาณมากขึ้น การเสาะหาไฮโซหน้าใหม่จึงกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ทุกค่ายจะต้องแข่งขันกัน
** คำถามก็คือจะไปหาไฮโซหน้าใหม่กันที่ไหนบ้าง???
ตามปกตินั้นถือเป็นประเพณีปฏิบัติที่บรรดาไฮโซรุ่นแม่ที่ชอบจูงลูกสาวหรือลูกชายที่อยู่ในวัยพอที่จะออกงานได้คือประมาณ 18 -20 ปี มาเป็นเพื่อนออกงานสังคม เพื่ออวดลูก ๆ บ้าง หรือเพื่อหาพวกพ้องให้ลูกบ้าง เมื่อลูกออกงานบ่อยขึ้นจนคุ้นเคยแล้ว ก็จะเริ่มปล่อยเดี่ยวให้ลูกออกงานเองบ้าง จนในที่สุดก็ถึงยุคของลูกที่จะก้าวขึ้นสู่ทำเนียบไฮโซสืบทอดหน้าที่แทนคุณแม่
" ไม่ว่าไฮโซรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ก็ยังนิยมจูงมือลูกออกงานอยู่ แต่อายุของลูกที่เหมาะสมจะออกงานนั้นเริ่มมีอายุน้อยลง บางคนลูกยังเล็ก ๆ อยู่ก็เริ่มออกงานกันแล้ว แต่โดยเฉลี่ยอยู่ในช่วงอายุวัยรุ่นคือ 14 ปีขึ้นไป " ออกาไนเซอร์รายหนึ่งตั้งข้อสังเกต
ไฮโซกลุ่มนี้ที่เห็นได้ชัดในวันนี้ขอยกเป็นตัวอย่าง เช่น มาริษา มหาวงศ์ตระกูลกับลูกสาวเมลิสสา , จิตรามณฑน์ เตชะไพบูลย์ กับน้องกิ๊บ - สรัญทร , กบ-ประภัสรา เตชะไพบูลย์และน้องเหนือ เป็นต้น
แม้จะมีกรณีแม่จูงลูกเข้าสู่วงการไฮโซก็ยังมีจำนวนไม่พียงพอจะมาประดับวงการไฮโซกันได้ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของธุรกิจรับเชิญแขกที่ต้องใช้เวลาทุกนาทีสอดส่ายสายตามองหาคนหน้าใหม่ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องมีนามสกุลดังเหมือนในอดีตแล้ว เพราะนิยามไฮโซยุคนี้ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนที่มีไลฟสไตล์ที่น่าสนใจ เป็นคนทำงานระดับบริหาร มีการศึกษาดี มีเงินทอง ใช้ของแบรนด์เนม เหล่านี้คือคุณสมบัติใหม่ของไฮโซหน้าใหม่
" เดี๋ยวนี้จะไปหาคนนามสกุลดัง ๆ มาออกงานก็หายากแล้ว เพราะพวกนี้บางคนก็ไม่อยากออกงาน บางคนก็ไม่รวยเหมือนเมื่อก่อน นิยามของไฮโซยุคใหม่จึงเปลี่ยนไป " ออกาไนเซอร์คนเดิมกล่าว
กลยุทธ์ในการหาไฮโซหน้าใหม่ของแต่ละค่ายก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งกล่าวมาแล้วว่าขึ้นอยู่กับแบ็กกราวนด์ของแต่ละคน อย่างปุ๊กลุก- ศศิวิมล ณ ระนอง สาวสวยไฮโซที่ผันตัวเองมาตั้งบริษัทประชาสัมพันธ์และรับเชิญแขกนั้นจะใช้วิธีหาจากเพื่อนตั้งแต่เพื่อนในวงการไปจนถึงเพื่อนนักเรียนเก่า ๆ
ขณะที่จีน่า - สนิทพิมพ์ เอกชัย เจ้าของค่ายพิมพลัสอาศัยความเก๋าที่วนเวียนอยู่ในหมู่ผู้ดีคนรวยตั้งแต่รุ่นคุณแม่ จึงทำให้ค่ายนี้มีจุดแข็งคือมีสมาชิกที่นามสกุลดัง ๆ เยอะกว่าทุกราย
และรายล่าสุดฮอลลี่ อมรนันท์ สาวใหญ่ไฮโซที่เพิ่งจะพาตัวเองเข้ามาทำธุรกิจรับเชิญแขกหลังจากที่ตัวเองเป็นสมาชิกให้บริษัทเหล่านี้อยู่พักใหญ่ ในส่วนตัวแล้วฮอลลี่จะมีเพื่อนและรุ่นพี่ที่นามสกุลดัง ๆ จึงเป็นที่รู้กันในบรรดาออกาไนเซอร์ว่าถ้าอยากได้แขกระดับนามสกุลดังอายุ 40 ปีขึ้นไปก็มาใช้บริการของฮอลลี่ได้
นอกจากจะเสาะหาจากคนรู้จักรอบตัวแล้ว ยังต้องขยันออกไปตามแหล่งที่มีบรรดาคนรวยรุ่นใหม่จับกลุ่มกัน ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส ผับบาร์ระดับสูง หรือคลับเฮาส์ที่มีระดับซึ่งจะมีลูกหลานคนรวยมาใช้บริการกันจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งศูนย์การค้าที่คาดว่าจะมีลูกคนรวยมาเดินชอปปิ้งกัน เป็นต้น
หรือแม้กระทั่งลูกค้ากระเป๋าหนักของบรรดาสินค้าแบรนด์เนม อาทิ คลับ 21 , เครื่องสำอางลาแมร์, ร้านจิวเวลรี่มีระดับ เป็นต้น ในงานแทงกิ้วปาร์ตี้ลูกค้าที่เจ้าของสินค้ามักจะเชิญบรรดาลูกค้ากระเป๋าหนัก ๆ มาร่วมงานนั้น จะมีบรรดาเจ้าของธุรกิจรับเชิญแขกไปด้อม ๆ มอง ๆ อยู่เป็นประจำเพราะลูกค้าระดับนี้สามารถผลักดันให้เป็นไฮโซได้สบาย
"เพื่อนชวนเพื่อน" เป็นอีกช่องทางหนึ่งของการเข้ามาสู่วงการไฮโซได้ไม่ยากเย็น เพราะมีหลายงานที่คนเชิญแขกไม่สามารถหาสมาชิกมางานได้เต็ม ก็จะอาศัยให้สมาชิกไปชวนเพื่อน ๆ มาร่วมงานได้ วิธีการนี้ถ้าเพื่อนในก๊วนเปรี้ยวซ่ามาด้วยกันบางทีก็มีโอกาสเกิดยกแก๊งได้เหมือนกัน
กับอีกเวทีหนึ่งที่ร่อนเอาแต่ลูกผู้ดีมีตระกูลมาร่วมงานคือ "งานการกุศล" ที่บรรดาคุณหญิงคุณนายมักจะนิยมพาลูกหลานที่เก็บงำเอาไว้อยู่ในบ้านมาออกงานด้วยความยินดี และงานประเภทนี้กลายเป็นโอกาสดีที่จะมองหาลูกสาว ลูกชายที่มีนามสกุลดัง ๆ หรือตระกูลรวย ๆ มาประดับวงการ อย่างเช่นงาน DES DEBUTANTES ของห้างเอ็มโพเรียมที่เชิญลูกสาวของคนในตระกูลดังมาเดินแฟชั่น งานนี้ก็ได้แจ้งเกิดกันหมดทุกคนไม่ว่าจะเป็น มัดมุกและมัดหมี่ ลูกสาวคนสวยของเกร็ดดาว พาณิชย์สมัย , ลูกสาววิทวัส สุนทรวิเนตร์ เป็นต้น
** คุณสมบัติ "หน้าใหม่ไฮโซ"
แต่ใช่ว่าใครที่เป็น "หน้าใหม่" เดินเข้าไปในงานสังคมแล้วจะได้ "แจ้งเกิด" ได้ทุกคน เพราะการ "แจ้งเกิด" ในสังคมไฮโซก็ยังมีขั้นตอนไปจนถึงงัดกลยุทธ์ผลักดันกันให้เกิดให้ได้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าของธุรกิจรับเชิญแขกที่จะเป็นคนตัดสายสะดือให้เด็กหน้าใหม่ในค่ายเกิดและดังในวงการไฮโซให้ได้
คุณสมบัติทั่วไปของ "ไฮโซหน้าใหม่" ที่จะดังได้นั้นจะต้องมีนามสกุลดัง ไม่ว่าจะเป็นราชนิกุลหรือตระกูลคนรวยนักธุรกิจ คนกลุ่มนี้ถ้าออกงานจะได้รับความสนใจจากสื่อมาก ถือเป็นใบเบิกทางได้ดี อย่างช่วงนี้ถือเป็นยุคของลูกหลานที่เริ่มเข้ามารับงานธุรกิจสืบทอดจากพ่อแม่แล้ว เจเนอเรชั่นกลุ่มนี้กำลังถูกจับตามองในวงสังคมอย่างมาก อาทิ ลูกหลานตระกูลจิราธิวัฒน์ , ลูกชายรูปหล่อทั้ง 3 คนของคุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดชที่ออกงานปั๊บก็แจ้งเกิดได้เลย และลูก ๆ ของตระกูล "พูลวรลักษณ์" เศรษฐีเจ้าของโรงหนังของเมืองไทย
ตัวอย่างเช่น หนูแหวน - ปวริศา เพ็ญชาติ ลูกสาวปัญชลี เพ็ญชาติ ที่ออกงานสังคมครั้งแรกในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของค่ายเอสเต้ โดยเป็นเซเลบรับเชิญ ปรากฏว่าในวันนั้นหนูแหวนโชว์อกอวบอั๋นโดนใจสื่อมวลชนจนรุ่มถ่ายรูปไม่ยั้ง แถมบุคคลิกที่พูดเก่งจึงทำให้แค่งานแรกหนูแหวนก็ตัดสายสะดือแจ้งเกิดตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว หรือหนูเล็ก - ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร หลานสาวของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ เจ้าของโรงแรมปาร์ก นายเลิศ
"แก้งค์ 11 newsline" หรือผู้ประกาศข่าวภาคภาษาอังกฤษของช่อง 11 ซึ่งเป็นลูกหลานของบรรดาลูกท่านหลานเธอแถมเป็นเด็กนักเรียนนอกที่ภาษาดีเยี่ยม หน้าตาดี มีความสามารถสูง กลุ่มนี้กำลังเป็นที่จับตามอง อาทิ ปอ-ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ , เจ บุนนาค , ม.ล.... เทวกุล เป็นต้น
จากเริ่มแรกที่เจนนิเฟอร์ ซู หนึ่งในอดีตผู้ประกาศรุ่นแรกที่ชอบปรากฏตัวตามงานสังคมพร้อมกับหมวกสวยไม่ซ้ำอันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของเธอ ส่งผลให้เจนนิเฟอร์ ซู กลายเป็นดาวไฮโซไปด้วย หรือปอ-ศีกัญญาที่กำลังเนื้อหอมในหมู่วงการไฮโซด้วยคุณสมบัติเพียบ ความสามารถพร้อม เพียงแค่ได้รับเชิญมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง ความสวยและเก่งของปอก็สะดุดตานักข่าวจนแจ้งเกิดในเวลานี้
แต่คนที่นามสกุลไม่ดังก็ยังมีสิทธิ์ลุ้นได้ ถ้าเป็นหนุ่มหล่อสาวสวย บุคลิกดี แต่งตัวเก่งสะดุดตา เป็นเด็กนักเรียนนอก มีตำแหน่งเป็นผู้บริหารหรืออยู่ในบริษัทข้ามชาติ ไปจนถึงมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เหล่านี้ถือว่าเริ่มเป็นที่น่าสนใจแล้ว
** สูตรสำเร็จ "แจ้งเกิด" ของไฮโซหน้าใหม่
เป็นที่รู้กันในวงการสังคมไฮโซว่าใครอยากจะได้เกิดนั้น "สื่อมวลชน" จะมีอิทธิพลผลักดันเป็นอย่างมาก ถ้าใครมีโอกาสมีภาพตีพิมพ์ในหน้าสังคมของหนังสือพิมพ์รายวันหรือหน้าสังคมแมกกาซีนแล้ว ความหวังที่จะได้เกิดเริ่มทอแสงรำไรมาแล้ว
ดังนั้นจึงเป็นที่รู้กันว่าใครที่ยังอยู่ในทำเนียบหน้าใหม่นั้นถ้าอยากจะแจ้งเกิดก็ต้องทำตัวให้สื่อสนใจ ซึ่งไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวแล้วแต่ว่าใครจะงัดกลยุทธ์อะไรออกใช้บ้าง เช่นรุ่นใหญ่อย่างเจ้ดา - ดารุณี กฤตบุญญาลัย และเพื่อนรักสมศักดิ์ ชลาชลนั้น สามารถแจ้งเกิดได้จนดังกระจายไปทั่ววงการก็ด้วยการแต่งตัวให้ "เวอร์" กว่าทุกคนในงาน
วิธีการนี้จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้กล้องของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะต้องรัวชัตเตอร์มายังพวกเธอ แล้ววันรุ่งขึ้นหน้าสังคมทุกฉบับก็จะตีพิมพ์เผยแพร่ความเวอร์ของพวกเธอจนกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ไปเลย วิธีการนี้ส่งผลให้กลุ่มนี้ยังเป็นดาวค้างฟ้าที่มีงานเชิญอย่างสม่ำเสมอไม่ขาด
หรือเจ้ชู - ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ เจ้าของร้านเพชรที่แต่เดิมก็โนเนม และได้เกิดจากงาน "ประมูล" จนกลายเป็น case study ให้ไฮโซรุ่นใหม่นำไปใช้บ้าง ว่ากันว่าในยุคแรก ๆ เจ้ชูจะขยันออกงานประมูลการกุศลไม่ขาด เริ่มจากประมูลแว่นตาของเพื่อนรักคือสมศักดิ์ ชลาชล ด้วยสนนราคาแพงลิ่วในงาน "แก้วตาดวงใจ"ซึ่งจัดโดยคู่สมรสรัฐมนตรี งานนี้แตะตานักข่าวจนต้องแห่กันไปสัมภาษณ์นอกรอบ จากนั้นเจ้ชูก็เดินสายประมูลอยู่เรื่อย ๆ แต่งานที่สร้างให้เจ้ชูดังเปรี้ยงปร้างคือการจัดแฟชั่นโชว์เพชรเม็ดตู้มแข่งกับเป้าของหนุ่มหล่อล่ำ ในงานวันเกิดของเพื่อนรักสมศักดิ์ ชลาชล งานนี้ส่งให้เจ้ชูดังจนไม่ต้องอาศัยเกาะไอโซอีกต่อไป แถมธุรกิจร้านเพชรก็อัปเกรดมาอยู่ที่เพนนินซูลาพลาซามีลูกค้าไฮโซแห่กันมาจองเครื่องเพชรยังกับแจกฟรี
อีกรายที่ถือเป็นกรณีศึกษาที่คลาสสิกมากในวงการไฮโซคือการเข้าสู่วงการของซ้อโซเฟีย ลา สาวใหญ่โนเนมที่ไม่มีใครรู้จักแบ็กกราวนด์ แต่เชื่อกันว่าคนที่จูงซ้อโซเฟียเข้าสู่วงสังคมไฮโซคือรัญชา บริบาลบุรีรักษ์ แม้จะโนเนมมาก่อนแต่ความกระตือรืนร้นที่อยากจะออกงานรวมถึงการที่อยากจะเป็นข่าวจึงทำให้ซ้อโซเฟียทำทุกวิถีทางจนกลายเป็นที่กล่าวขานของวงการไฮโซว่าชอบ "ออฟไซด์" กับทุกคน จนซ้อโซเฟียได้ขึ้นทั้งภาพสังคมและข่าวซุบซิบอยู่เสมอ
อีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังดังอยู่ในวงการไฮโซขณะนี้คือ สมหญิง เอวาสี ทนายความสาว , แอ้นท์ - ญาดาพัฒน์ เรื่องสุรัตน์ , ศศินันท์ โลจายะ สาว ๆ เหล่านี้เริ่มเข้าวงการจากเพื่อนชวนเพื่อน แต่เดิมเคยอยู่ในลิสต์เชิญแขกในกลุ่มสำรอง หมายถึงว่าถ้าแขกตัวจริงเชิญแล้วไม่ไปหรืองานไหนแขกไม่เต็ม บรรดาเจ้าของธุรกิจเชิญแขกก็จะใช้แขกสำรองมาช่วยให้งานดูแน่น ๆ แต่กลุ่มนี้ก็สามารถสร้างความโดดเด่นให้ตัวเองจนปัจจุบันนี้เริ่มกลายเป็นตัวจริงที่มีงานออกบ่อยขึ้น
** อายุขัย "หน้าใหม่"
มีผู้สันทัดกรณีในวงการไฮโซวิเคราะห์ว่า ถ้าจะสร้างไฮโซ "หน้าใหม่" ขึ้นมาสักคนนั้นจะต้องเริ่มที่พยายามสร้างความโดดเด่นให้กับหน้าใหม่ก่อนเพื่อให้สะดุดตานักข่าวสะดุดมือช่างภาพจนลั่นชัตเตอร์เก็บภาพไปขึ้นหน้าข่าวงสังคมให้ได้
แต่ก็ขึ้นอยู่กับไฮโซหน้าใหม่ที่จะต้องขยันออกงานหน่อยให้นักข่าวคุ้น ๆ หน้าเช่นกัน เพื่อผลักดันให้มีภาพของตัวเองขึ้นไปปรากฏอยู่ในหน้าข่าวสังคมสัก 1 - 2 ครั้ง จากนั้นก็จะเริ่มเป็นที่ติดตาของวงการแล้ว แต่กว่าจะเบียดพื้นที่บรรดาไฮโซดาวรุ่งหรือไฮโซหน้าเก่าเจ้าประจำขึ้นมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน
สมมติถ้ามีโอกาสขึ้นหราบนหน้าข่าวสังคมได้แล้วต้องพยายามสร้างความถี่อย่าให้ขาดช่วง เพราะอาจจะต้องไปเริ่มต้นกันใหม่ ทำไปสัก 4 - 6 เดือนก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว ยิ่งถ้ามีแมกกาซีนที่คอยเก็บข่าวสังคมจากหนังสือพิมพ์รายวันตามไปสัมภาษณ์ต่อถือว่าโอกาสทองมาถึงแล้ว เพราะงานนี้จะได้เป็นศิลปินเดี่ยวไปในบัดดล
นักข่าวสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในสายข่าวสังคมไฮโซคนหนึ่งเปิดเผยว่า บรรดานักข่าวสังคมก็พยายามแสวงหาไฮโซ "หน้าใหม่" ด้วยเช่นกัน เพราะคนเก่า ๆ ก็ลงภาพซ้ำ ๆ เจาะเรื่องราวทุกแง่ทุกมุมกันจนไม่รู้จะนำเสนออะไรอีกแล้ว
สำหรับไฮโซหน้าใหม่ที่นักข่าวสนใจนั้นเริ่มจากเวลาไปทำข่าวตามงานสังคมก็จะมองหาใครที่โดดเด่นทั้งบุคคลิก หน้าตาและการแต่งกาย
" เดี๋ยวนี้ไฮโซหน้าใหม่ที่อยากจะเกิดนั้นจะต้องพรีเซ็นต์ตัวเองให้เป็น คือมีสมองพร้อมที่จะตอบคำถามทุกเรื่องจากนักข่าวได้ และต้องมีงานอดิเรกมากกว่า 1 อย่างขึ้นไป เพราะเวลาหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งไปทำงานอดิเรกชิ้นแรกไปแล้ว เธอก็จะต้องพยายามหางานอดิเรกอื่น ๆ มานำเสนอให้หนังสือพิมพ์ฉบับอื่น ๆ ได้อีกเหมือนกัน "
ไฮโซหน้าใหม่จะเวียนว่ายอยู่ในวงสังคมไฮโซไม่เกิน 2 ปีก็จะถูก "คลื่นลูกใหม่" มาบดบังรัศมีแล้ว หรือบางคนออกงานได้สัก 3 - 5 ปีก็เริ่มจะมีครอบครัว มีลูก แล้วก็เริ่มไม่มีเวลาออกงาน ถึงตอนนั้นก็จะอำลาวงการกันไป
การเกิดและตายในวงการไฮโซจึงกลายเป็นวงเวียนชีวิตที่หลายคนอยากจะเข้ามาสัมผัส หลายคนถามว่าออกงานสังคมแล้วได้อะไรบ้าง คำตอบจากปากของพวกเธอคืออยากรู้จักคน อยากเด่นอยากดัง และบางคนก็เข้ามาเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ เหมือนที่หลายคนประสบความสำเร็จมาแล้ว
ถนนสายสังคมไฮโซจึงมีคนเข้าและออกอยู่ไม่ขาดสาย
*******
เรื่อง - ทีมข่าวสังคม


