xs
xsm
sm
md
lg

แฟชั่นชุดชั้นใน เทรนด์ใหม่ปี 2006

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การแสดงแฟชั่นโชว์ชุดชั้นใน คอลเลกชันปี 2006 ของ Boudoir ในงาน Ell  FASHION WEEK 2005
ดีไซเนอร์ชุดชั้นในขานรับเทรนด์ใหม่ปี 2006 มีความเป็นแฮนด์เมดมากขึ้น เพิ่มลูกเล่นและความสนุกในการสวมใส่ ติดคริสตัล มุก หินสี ปักเลื่อม ระบายลูกไม้เพิ่มความหวาน โชว์สายและเนินอกรับแฟชั่นเสื้อเปิดไหล่-สายเดี่ยว ส่วนสีสันลดความร้อนแรง แมตช์คู่สีทูโทน ล่าสุดออกเสื้อในแบบรีฟิล ตัวเสื้อเป็นผ้าซีทรู ซึ่งสามารถเปลี่ยนรองทรงได้หลากหลายสี ขณะที่บิกินีแบบบอยคัต-จีสตริงมาแรง

*เพิ่มลูกเล่น ประดับคริสตัล-หินสี

ชุดชั้นใน หรือ underwear จัดเป็นอาภรณ์ชิ้นสำคัญของคุณสาวๆ ซึ่งถึงแม้จะอยู่ด้านใน แต่ก็ใช่ว่าจะแห้งแล้งไร้สีสัน ในปัจจุบันการออกแบบชุดชั้นในกลายเป็นแฟชั่นที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปทุกปี และในปีนี้เราก็มีเทรนด์แฟชั่นชุดชั้นในมาแนะนำคุณผู้หญิงที่รักความสวยความงามให้เลือกสวมใส่กันได้แบบไม่ตกเทรนด์

ในปีนี้บรรดาผู้ผลิตและดีไซเนอร์ชุดชั้นในต่างหันมาให้ความสนใจกับการตกแต่งบราเซีย และบิกินีกันมากขึ้น มีการเพิ่มลูกเล่นต่างๆ เพื่อให้สาวๆ สนุกสนานกับการแต่งตัว และที่สำคัญต้องช่วยเพิ่มเสน่ห์และความน่ารัก เก๋ไก๋ให้แก่เสื้อผ้าภายนอก

สวัติ์ สุภาพแท้ Product Manager บริษัทไอซีซี อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือสหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายชุดชั้นในกุลสตรี และโมเดิลเค เปิดเผยถึงแนวการออกแบบชุดชั้นในในปีนี้ว่า แฟชั่นชุดชั้นในปี 2549 ของกุลสตรีและโมเดิลเคจะออกแนวย้อนยุค ฮิปปี้-เรโทร เน้นงานแฮนด์เมด อีกทั้งจะเพิ่ม accessory และลูกเล่นมากขึ้น

“ในการออกแบบนั้น เราจะดูเทรนด์แฟชั่นของเมืองนอกก่อนว่าปีนี้แบบไหน สีอะไรมาแรง แล้วก็นำมาปรับให้เหมาะกับสไตล์ของสาวไทย อย่างปีนี้เมืองนอกจะมีการปักเลื่อม และนำหินธรรมชาติ เช่น เทอร์ควอยส์ มาประดับตกแต่ง ซึ่งดูแล้วก็น่าจะเอามาใช้กับบ้านเราได้

อย่างไรก็ดี กุลสตรีและโมเดิลเคจะมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของตัวเองไว้ชัดเจน โดยกุลสตรีเป็นชุดชั้นในสำหรับสาววัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มแมกซิมา (maxima) หรือสาวทรงโต เป็นสินค้าคุณภาพดี ราคาปานกลาง ขณะที่โมเดิลเคมุ่งเจาะกลุ่มวัยรุ่น โดยมีดีไซน์ที่ทันสมัยและราคาซึ่งค่อนข้างต่ำเป็นจุดขาย

ดังนั้น การออกแบบชุดชั้นในทั้ง 2 ยี่ห้อจึงมีความแตกต่างกัน คือกุลสตรีจะเน้นสไตล์เรียบ โก้ accessory ที่เพิ่มขึ้นจะเพิ่มความเก๋ไก๋ มีไสตล์ เช่น มี accessory ที่ใช้เกี่ยวกับสายเสื้อในเป็นสร้อยคอ ส่วนโมเดิลเคจะออกแนวเซ็กซี่ โรแมนติก อีกทั้งมีสีสันและลูกเล่นที่สนุกสนานกว่า เช่น สามารถนำ accessory ที่ตกแต่งตัวเสื้อชั้นในไปเกี่ยวกับห่วงเป็นต่างหูได้ อีกตัวที่ถือเป็นลูกเล่นใหม่คือ 'เสื้อชั้นในแบบรีฟิล' ซึ่งเป็นเสื้อในที่สามารถเปลี่ยนรองทรงได้หลายๆสี

ด้าน 'ออม' ดิษยา ประกอบสันติสุข Creative Director และ Designer ของ 'Boudoir' ชุดชั้นในแบรนด์หรู บอกว่า ในปีนี้ 'บูดัวร์' จะมีลูกเล่นเยอะขึ้น มีการเล่นสีสันมากขึ้น และมี detail เพิ่มขึ้น เป็นดีไซน์ที่มีความเป็นผู้หญิงมากๆ วัสดุตกแต่งจะมีการเอาคริสตัลเข้ามาเล่น มีพวกลูกไม้ ริบบิ้น และ accessory ต่างๆ เยอะขึ้น

“คริสตัลของ 'บูดัวร์' จะใช้ 'ชวาฟลอฟสกี้' ซึ่งเราใช้มาตั้งแต่เริ่มออกสินค้าตัวแรกเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้เราก็ยังใช้อยู่ โดยจะนำคริสตัลมาประดับที่บริเวณอกเสื้อและตัวบิกินี และมีการประดับ accessory ต่างๆบนตัวเสื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มลูกเล่นและความหรูหราให้ชุดชั้นในมากขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมีเครื่องประดับ เช่น คลิบติดสายเสื้อใน จิวเวลรีสำหรับติดกับตัวเสื้อชั้นใน คือเราต้องการเพิ่มความสนุกในการแต่งตัวให้มากขึ้น” ดิษยา บอกพลางชี้ให้ดูคลิบติดสายเสื้อในชิ้นหรู

ขณะที่ 'ทรานซ์' ชุดชั้นในอิมพอร์ตจากอเมริกา ก็ได้ออก 'มิส แองเจิล' คอลเลกชันใหม่ในปี 2549 ซึ่งรายละเอียดในการตกแต่งชุดชั้นในมีสไตล์หลากหลายมากขึ้น เช่น มีโบ ระบาย ลูกไม้ มีเครื่องประดับที่เป็นประกายระยิบระยับ ติดเพชร ติดมุก และมีดีไซน์ที่โชว์สายเสื้อชั้นในมากขึ้น

*โชว์สาย รับเทรนด์เปิดไหล่-สายเดี่ยว

นอกจากความสบายในการสวมใส่แล้วปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงในการออกแบบชุดชั้นในก็คือเทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าในช่วงนั้นๆ และเนื่องจากในช่วงหลายปีมานี้เสื้อสายเดี่ยว เปิดไหล่ เกาะอกเป็นเทรนด์ที่มาแรงและเชื่อว่ายังคงเป็นที่นิยมของสาวอีกหลายปี ดังนั้น ดีไซน์ของเสื้อชั้นในในปีนี้จึงมีการปรับรูปแบบของสายเสื้อใน พร้อมทั้งมีลูกเล่นในการตกแต่งมากขึ้น เพื่อให้สาวๆ สามารถสวมใส่เสื้อสายเดี่ยวได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลว่าสายเสื้อในที่โผล่ออกมาจะดูไม่น่ามอง โดยสายเสื้อของบราเซียจะมีการปักเลื่อม หรือปักลายต่างๆ ติดคริสตัล ริบบิ้น หรือ accessory ต่างๆ

ดิษยา Designer ของ 'Boudoir' กล่าวถึงการดีไซน์สายเสื้อชั้นในของ 'บูดัวร์' ว่า

“สมัยก่อนสายเสื้อชั้นในของบ้านเราจะเป็นสีขาว หรือสีเนื้อ สายใหญ่ๆ เวลาใส่เสื้อเปิดไหล่หรือสายเดี่ยวแล้วสายเสื้อชั้นในแล่บออกมากก็จะไม่น่าดู เหมือนเป็นส่วนเกิน คนที่มองก็จะรู้สึกเลยว่าสายเสื้อในแลบ 'บูดัวร์' เลยมาเล่นกับรายละเอียดของสายบ่า ทำให้ดูน่ารักหรือเรียบหรูขึ้น เช่น นำผ้าชีฟองมาหุ้มยางให้ดูสวยๆ ทำเป็นสายสปาเกตตีเหมือนสายเสื้อของชุดกลางคืน หรือติดริบบิ้น ติดคริสตัล ซึ่งเวลาสายเสื้อแลบออกมาจากเสื้อกล้ามหรือเสื้อสายเดี่ยวก็จะดูหรู ดูน่ารัก กลายเป็นส่วนหนึ่งของเสื้อผ้าตัวนอก หรืออย่างคลิบติดสายเสื้อชั้นในที่เราทำออกมาก็เป็นจิวเวลรี เป็นคริสตัล เมื่อติดกับสายเสื้อชั้นในจะทำให้เสื้อกล้ามที่ใส่อยู่ดูมี detail เก๋ขึ้น”

ด้าน กุลสตรี และโมเดิลเค ก็เพิ่มลูกเล่นในการตกแต่งสายเสื้อชั้นในมากขึ้น โดย สวัติ์ Product Manager บริษัท ไอซีซี อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายชุดชั้นในดังกล่าว บอกว่า

“หลักการออกแบบชุดชั้นในนั้นที่สำคัญ คือ ต้องช่วยเสริมให้ผู้สวมใส่ดูดีและมีความมั่นใจยิ่งขึ้น ดังนั้น เราต้องคำนึงถึงลักษณะของเสื้อตัวนอกด้วย เมื่อแฟชั่นสายเดี่ยวมาแรงเราก็ต้องปรับดีไซน์เสื้อชั้นในของเราให้ดูกลมกลืนกัน โดยในปีนี้นอกจากการติดโบน่ารักๆ ปักลวดลายลงบนสายเสื้อชั้นใน และทำสายเสื้อชั้นในที่มีสีสันสดใสแล้ว กุลสตรีและโมเดิลเคยังนำหินสี เทอร์ควอยส์ และคริสตัล มาติดตกแต่งสายเสื้อในเพื่อเพิ่มความเก๋ไก๋ด้วย เวลาใส่เสื้อสายเดี่ยวแล้วเห็นสายเสื้อในก็จะดูเก๋ไปอีกแบบ เหมือนเป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่ง อีกทั้งสายเสื้อชั้นในของเราจะสามารถถอดเข้าออกได้เพื่อให้สะดวกในการปรับใช้กับเสื้อผ้าแบบต่างๆ”

ส่วน'ทรานซ์' ชุดชั้นในอิมพอร์ตจากอเมริกา ก็มีดีไซน์ที่โชว์สายเสื้อชั้นในมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้นสายเสื้อชั้นในยังสามารถปรับเปลี่ยนจากสายบ่ามาเป็นสายคล้องคอได้ด้วย เพื่อโชว์สายเสื้อชั้นในที่มีสีตัดกับสีของเสื้อตัวนอก หรือปรับเปลี่ยนสายได้ตามสไตล์เสื้อผ้าที่สวมใส่

*เน้นงานแฮนด์เมด ระบายลูกไม้

ว่ากันว่าความรู้สึกโหยหาอดีตทำให้เทรนด์ของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เพลง ของตกแต่งบ้าน แม้กระทั่งการแต่งกายต่างก็หันหาแนวย้อนยุคกันมากขึ้น ดีไซน์ของชุดชั้นในก็เช่นกัน ในปี 2006 นี้นอกจากจะมีการนำลูกไม้สีหวานแบบวินเทจมาใช้ในการประดับตกแต่งแล้ว การตัดเย็บที่ประดิดประดอยแบบงานแฮนด์เมดก็เป็นที่นิยมมากขึ้นด้วย

ในปีนี้ 'ทรานซ์' ชุดชั้นในอิมพอร์ตจากอเมริกา และ 'บูดัวร์' ชุดชั้นในแบรนด์หรูของไทย ต่างก็พร้อมใจกันนำลูกไม้และระบายแบบต่างๆ มาใช้ในการตกแต่งชุดชั้นในดูหรูและหวานขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มลูกเล่นในการตัดเย็บโดยการประดิษฐ์ ปักและตกแต่งซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นงานแฮนด์เมดที่ต้องด้วยมือ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเหมือนย้อนไปในอดีตแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าตนเองคือสาวคนพิเศษเพราะได้ใส่ชุดชั้นในที่ประดิดประดอยขึ้นมาเป็นพิเศษ

ดิษยา กล่าวว่า “ปีนี้เราเน้นความเป็นแฮนด์เมดมากขึ้น การประดับตกแต่งทำด้วยมือทั้งหมด เราดีไซน์ชุดชั้นในขึ้นมาเป็นพิเศษ อย่างตัวนี้ (เธอหยิบเสื้อชั้นในที่เย็บบริเวณทรวงอกเป็นรูปดอกกุหลาบให้เราดู) ช่างของเราต้องเย็บผ้าซ้อนกันเป็นชั้นๆเพื่อให้ออกมาเป็นดอกกุหลาบ ซึ่งนอกจากจะใส่เป็นเสื้อชั้นในแล้วยังสามารถใส่กับเสื้อสูท โชว์ความสวยหรูของตัวเสื้อชั้นใน แทนการใส่เสื้อกล้ามหรือแขนกุด หรืออย่างอีกตัวหนึ่งที่เป็นลูกไม้สีน้ำตาลซึ่งติดลงบนตัวเสื้อชั้นในสีชมพูก็เป็นการเย็บมือ เพราะเราเน้นความประณีตของงานเพื่อให้ผู้ใส่รู้สึกว่าเป็นคนพิเศษจริงๆ”

*บราแบบ 'in and out' ใส่แทนเสื้อสายเดี่ยว

นอกจากนั้น เทรนด์หนึ่งที่เป็นที่นิยมสำหรับแฟชั่นชุดชั้นในก็คือ บราแบบ 'in and out' หรือเสื้อชั้นในที่สามารถใส่แทนเสื้อกล้ามสายเดี่ยว หรือเกาะอก โดยผู้ผลิตจะเลือกใช้ผ้าเนื้อหนาและเพิ่มการประดิษฐ์ตกแต่งมากขึ้น เพื่อให้ดูคล้ายเสื้อสายเดี่ยว หรือเสื้อเกาะอก มากกว่าจะเป็นชั้นในแบบทั่วๆไป

เช่น 'โมเดิลเค' มีออกแบบเสื้อชั้นในให้เป็นแบบเต็มตัว มีการปักลวดลายดอกไม้บริเวณเนินอก ขณะที่ 'บูดัวร์' ก็มีเสื้อชั้นในแบบเต็มตัว สีชมพูหวาน ตกแต่งบริเวณทรวงเป็นกระเป๋าใบเล็กๆ น่ารัก, หรือเสื้อชั้นในสีม่วงที่นำลูกไม้มาเย็บซ้อนกันหลายๆชั้นเป็นรูปดอกไม้บริเวณทรวงอก เย็บผ้าซ้อนกันเป็นชั้นๆ เพื่อให้ออกมาเป็นดอกกุหลาบ รวมทั้งเสื้อชั้นในแบบเต็มตัวสีชมพู และสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นการเย็บผ้าซ้อนกันเป็นชั้นๆให้ออกมาเป็นดอกกุหลาบ

สวัติ์ Product Manager บริษัท ไอซีซี อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายชุดชั้นในดังกล่าว กล่าวว่า
“เราต้องการเพิ่มรูปแบบการใช้งานของเสื้อชั้นในให้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของสาวยุคใหม่ที่ต้องเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา เราจึงออกเสื้อชั้นในแบบ 'in and out' ซึ่งสามารถใส่แทนเสื้อเกาะอกหรือเสื้อสายเดี่ยวได้ เพียงแค่สวมเสื้อสูททับตัวเดียวก็สามารถใส่ออกงานได้แล้ว โดยเราเน้นการตกแต่งตัวเสื้อให้ดูหรูหราขึ้น และใส่ accessory ต่างๆ เข้าไป”

*สีสันลดความร้อนแรง เน้นสี ทูโทน-ทรีโทน

สำหรับสีสันของชุดชั้นในในปีนี้นั้นไม่ร้อนแรงเท่าปีที่ผ่านมา แต่มีการเล่นสีสันในลักษณะของการจับคู่สีมากขึ้น โดยในชุดชั้นในแต่ละชิ้นจะมีสีมากกว่า 1 สี เทรนด์ที่มาแรง คือ two tone คือมี 2 สี และ three tone คือมี 3 สี

ดิษยา พูดถึงสีสันของชุดชั้นในในปีนี้ว่า

“ปีที่แล้วจะหนักไปที่สีฉูดฉาด แต่ในปีนี้โทนสีจะนิ่มขึ้น หวานขึ้น เช่น สีพาสเทล แต่สีฉูดฉาดก็ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้าง ส่วนสีที่เป็นสียอดฮิตตลอดกาลสำหรับชุดชั้นในยังคงเป็นสีชมพู คือยังใช้ได้เรื่อยๆ อย่างของ 'บูดัวร์' นี่ในปีนี้เราแบ่งเป็น 2 คอลเลกชัน คือ สปริงซัมเมอร์(ฤดูร้อน) กับออทัมวินเทอร์ (ฤดูหนาว) โดยสปริงซัมเมอร์จะเน้นสีสันที่สดใส หวานแหวว เป็นสีสันแบบวันฟ้าใส วันแดดออก เช่น ฟ้าสด เขียวตองอ่อน ม่วง เหลือง ชมพู ส่วนวินเทอร์จะเป็นโทนสีอบอุ่น แนวเอิร์ธโทน เช่น เขียวเข้ม น้ำตาลอ่อน ซึ่งสไตล์ของ 'บูดัวร์' ในปีนี้จะออกแนวทูโทนและทรีโทนมากขึ้น มีการเล่นสี จับคู่สี อย่าง ออทัมวินเทอร์ ก็เอาสีชมพูมาจับคู่กับสีน้ำตาล ส่วนสปริงซัมเมอร์ ก็จับสีแดงมาจับคู่กับเขียวตองอ่อน”

ส่วนกุลสตรี และโมเดิลเค ก็หันมาเล่นโทนสีที่อ่อนลงเช่นกัน สวัติ์ บอกว่า

“ในปี 48 สีสันของชุดชั้นในจะเป็นโทนสีแรงๆ แต่ในปี 49 ถึงจะมีสีแรงๆอยู่บ้าง เช่น เขียวตองอ่อน หรือสีอมตะอย่างสีดำ แต่โดยรวมแล้วโทนสีจะ drop ลง ทั้งกุลสตรีและโมเดิลเคจะเป็นสี milk tone คือสีที่ผสมสีขาวลงไป ทำให้สีดูนุ่มนวลขึ้น เช่น ม่วงผสมขาว เขียวตองอ่อนผสมขาว ที่สำคัญจะมีนำการจับคู่สี ทีโทนและทรีโทนเข้ามาเล่นด้วย เพื่อให้สีสันดูสนุกสนานขึ้น ไม่น่าเบื่อ เช่น ตัวเสื้อสีดำ แต่สายเสื้อชั้นในเป็นสีชมพู หรือตัวเสื้อสีเขียวตองอ่อน ส่วนขอบและสายเสื้อชั้นในเป็นสีเหลืองมะนาว”

ขณะที่ คอลเลกชัน 'มิส แองเจิล' ของ 'ทรานซ์' ชุดชั้นในอิมพอร์ตจากอเมริกานั้นสีสันดูไม่หวือหวามากนัก โดยจะเน้นสีชุดชั้นในโทนสีหวานๆ เช่น สีชมพู ขาว โอลด์โรส และครีม ซึ่งเป็นสีที่ใส่ได้เรื่อยๆเป็นหลัก

*จี-สตริง - บอยคัต มาแรง

สำหรับตัวบิกินีนั้นในปีนี้นอกจากจะยังคงมีบิกินีแบบเอวต่ำ โคนขาเว้าสูง แล้วยังมีบิกินีแบบบอยคัต หรือบิกินีขาสั้น (คล้ายกางเกงว่ายน้ำของผู้ชาย) และจีสตริง ก็มาแรงเช่นกัน เนื่องจากแฟชั่นกางเกงและกระโปรงในปัจจุบันนิยมแบบเอวต่ำและรัดรูปทำให้บิกินีต้องมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้สอดรับกับการสวมใส่กางเกงและกระโปรงด้วย

ดิษยา บอกว่า “นอกจากบิกินีจะต้องเป็นเซตเดียวกับเสื้อชั้นในแล้ว ในปีนี้บิกินีของ 'บูดัวร์' ยังมี 3 ดีไซน์ คือ แบบบอยคัต สำหรับสาวๆที่ต้องการความมั่นใจ ให้ความรู้สึกกระชับในยามสวมใส่ เหมาะกับชุดทำงาน หรือชุดกีฬา แบบที่ 2 คือ เอวต่ำ โคนขาเว้าสูง ให้ความรู้สึกเบาสบาย เหมาะกับการใส่กระโปรงหรือกางเกงเอวต่ำ

และจี-สตริง เหมาะกับกางเกงรัดรูป หรือชุดราตรี ซึ่งการออกแบบบิกินีให้มีความหลากหลายนั้นทำให้สาวๆสามารถเลือกสวมใส่บิกินีที่เหมาะกับชุดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นเรายังออกให้บิกินีของเราสามารถสวมใส่เข้าคู่กับเสื้อชั้นในได้หลายตัว เพื่อให้ผู้สวมใส่ไม่รู้สึกซ้ำซากจำเจ”

ด้าน สวัติ์ พูดถึงเทรนด์แฟชั่นของบิกินีในปีนี้ว่า

“จากการสำรวจพบว่า ในวันหนึ่งๆ คุณผู้หญิงจะใส่บิกินี 3-4 ตัว เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเสื้อผ้าที่สมใส่ เช่น ไปทำงานอาจใส่บิกินีแบบบอยคัต ไปชอปปิ้งก็ใส่แบบเอวต่ำเพื่อให้ดูไม่น่าเกลียดเวลาใส่กางเกางยีนส์เอวต่ำ ถ้าจะไปดินเนอร์ก็เปลี่ยนเป็นจีสตริงเพื่อไม่ให้เห็นขอบกางเกงเวลาใส่ชุดรัดรูป ส่วนเวลานอนจะเลือกบิกินีซีทรูซึ่งสบายกว่า ดังนั้นในปีนี้กุลสตรีและโมเดิลเคจึงออกบิกินีมา 3 แบบ คือ จี-สตริง เอวต่ำ และบอยคัต และมีเนื้อผ้าหลากหลาย ทั้งที่เป็นแบบลูกไม้ ผ้ายืด และซีทรู”

แม้แฟชั่นชุดในจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่อย่าลืมว่าเรา ใส่ 'ชุดชั้นใน' เพื่อปกปิดสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะหากคุณสาวๆ จงใจใส่เสื้อผ้าแบบที่เปิดโอกาสให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ได้ชื่นชมชุดชั้นในตัวสวยแล้ว อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้สวมใส่โดยไม่รู้ตัว

* * * * * * * * * * * *

เรื่อง - จินดาวรรณ สิ่งคงสิน
เทรนด์ชุดชั้นในปี 2006 จะเพิ่มลูกเล่นมากขึ้น
ออม ดิษยา ประกอบสันติสุข ดีไซเนอร์ของ บูดัวร์
ชุดชั้นในซีทรู สามารถเปลี่ยนแผ่นรองทรงได้หลายสี เป็นลูกเล่นใหม่ของ โมเดิลเค
สวัติ์ สุภาพแท้ Product Manager บริษัทไอซีซีอินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายชุดชั้นในกุลสตรีและโมเดิลเค
ในปีนี้ บูดัวร์เพิ่มความหวานให้ชุดชั้นในด้วยการติดระบายลูกไม้และริบบิ้นสวยหรู
เครื่องประดับบริเวณหน้อก สามารถถอดไปคล้องเป็นต่างหูได้ อีกลูกเล่นของ กุลสตรี
บูดัวร์ เน้นงานแฮนด์เมด ซึ่งเป็นอีกกระแสที่มาแรงในปีนี้
เทคนิคการเย็บผ้าซ้อนกันเป็นรูปดอกกุหลาบ ไอเดียเก๋ๆของดีไซน์เนอร์ บูดัวร์
บูดัวร์ ทำคลิบติดสายเสื้อในเพิ่มความโก้หรู
เสื้อชั้นในแบบ in and out ปักลวดลายเพิ่มความหรูหราของ กุลสตรี สามารถใส่แทนเสื้อสายเดี่ยว
กำลังโหลดความคิดเห็น