ความเชื่อในโชคชะตาราศีดำรงอยู่เคียงคู่สังคมไทยมาช้านาน ปรากฏหลักฐานก่อนสมัยสุโขทัย จากร่องรอยการค้นพบจักรราศี ดวงชะตาที่โบราณสถานบ้านเชียง กอปรกับหนังสือประวัติศาสตร์และพงศาวดารบันทึกการคำนวณผูกดวงชะตา คำศัพท์และชื่อราศีรับอิทธิพลมาจากอินเดีย
ความสำคัญของโหราศาสตร์ ยังปรากฏการเรียนการสอนตั้งแต่สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์เพื่อเข้ารับราชการในกรม กระทั่งวิทยาศาสตร์เจริญขึ้นเป็นผลให้กรมโหรถูกยุบลงเหลือฐานะเป็นกอง ในรัชกาลที่ 7 ถูกยุบกองเป็นแผนกอยู่ในสำนักราชวัง
ปัจจุบันความเชื่อเรื่องโชคชะตาราศียังอยู่ในความสนใจของคนทั่วไป และดูเหมือนจะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วว่า ในวารดิถีขึ้นปีใหม่ ส่งท้ายปีเก่า บรรดาโหราพยากรณ์จากสำนักต่างๆ มักออกมาทำนายทายทักเหตุบ้านการณ์เมือง ภาพรวมของประเทศที่จะเกิดขึ้น
สำหรับโชคชะตาพยากรณ์ "ดวงเมือง 2549" จะเป็นอย่างไรนั้น เชิญติดตามการพยากรณ์จากโหราจารย์แขนงต่างๆ ผ่านลีลาการโคจรของดวงดาว ไพ่ยิปซี และพยากรณ์ตามนักษัตรโหราศาสตร์จีน
มหาสงกรานต์ จุดเชื้อไฟกลางเมือง
วันขึ้นปีใหม่สากล ตรงกับวันที่ 1 มกราคม 2549 เวลา 00.00 น.(24.00น) สำหรับการพยากรณ์ของไทยได้นำการพยากรณ์วันมหาสงกรานต์รวมไว้ด้วย ตามปฏิทินโหราศาสตร์ประจำปีตรงกับวันที่ 14 เม.ย. 2549 เวลา 06.30น. 36 วินาที ตรงกับวันศุกร์แรม 2 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ สัปตศก 1367 เปลี่ยนเป็นจุลศักราช 1368 ในวันที่ 16 เม.ย. 2549 เวลา 10.28 น. 12 วินาที เรียกว่าปีจอ อัฐศก พระอาทิตย์ยกจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ
ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ตั้งสมญานามประจำปีจอว่า "ปีสุนัขจนตรอก" เนื่องจากคนอยู่ในภาวะกดดันต้องใช้ความเพียรพยายามในการต่อสู้ดิ้นรนต่อสู้เพื่อการดำรงชีวิต พยากรณ์ว่าปริชนทั้งหลายจะบังเกิดความใคร่วิปริตเป็นอันมาก วันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์ ข้าว น้ำ ลูกหมาก รากไม้ทั้งหลายจะอุดม แต่จะแพ้เด็ก ฝนและพายุจะชุม จะเจ็บตายกันมากนักแล
อีกตำราหนึ่งทายว่า เทวดาจะรักษาคนทั้งหลาย ผู้ประพฤติดีอยู่ดีกินดี บ่มีความใคร่ ข้าวจะงาม คนจะเกิดความศรัทธา ทำบุญให้ทาน จะเกิดความสุขแก่คนทั้งหลายแล วันเนา พยากรณ์ว่าข้าวปลาจะแพง จะเกิดเพลิงกลางเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะต้องโทษ ข้าวจะตายฝอย น้ำจะน้อยกว่าทุกปี ชีพราหมณ์จะร้อนใจนัก ผลาผลผักจะแพง วันอาทิตย์เป็นวันเถลิงศก พระมหากษัตริย์จะเรืองอำนาจ มีชัยชนะแก่ศัตรูทั่วทุกทิศานุทิศ
สำหรับการพยากรณ์ดวงเมือง เรียกว่า "ดวงกรุงรัตนโกสินทร์" พยากรณ์จากดวงพระฤกษ์ฝังเสาหลักเมือง วันที่ 21 เม.ย. 2325 เวลา 06.54 นาที ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จุลศักราช 1144 ลัคนาสถิตราศีเมษ ในวันที่ 21 เม.ย. 2549 จะมีอายุครบ 224 ปี ย่างเข้าสู่ปี 225
ปีที่ดวงเมืองมีอายุ 224 ปี ดาวกาลกิณีคือดาวพฤหัสฯ เป็นกาลกิณีไปจนถึงวันที่ 21 เม.ย. เวลา 06.54 น. และเมื่ออายุเมืองวิวัฒน์ย่างเข้าสู่ปีที่ 225 ดาวที่ให้โทษหรือเป็นกาลกิณี คือราหู
อาจารย์ภิญโญอธิบายว่า นับตั้งแต่ราหูโคจรทับลัคนาเมืองมา ส่งอิทธิพลค่อนข้างชัดเรื่องของอบายมุข ยาเสพติด กระทั่งยกเข้าสู่ราศีธาตุน้ำและทับราหู ถึงตอนนี้ยังคงทับดวงเมืองเพียงแต่ทับองศาไม่สนิท ดังนั้น อิทธิพลของราหูจึงยังคงมีอยู่ ราหูเข้าสู่ราศีมีน ธาตุน้ำ กอปรกับดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีก็ยกเข้าราศีธาตุน้ำด้วย
"ตรีเทพยังคงโคจรอยู่ในราศีธาตุน้ำ ดังนั้น ปัญหาเรื่องน้ำ ภัยแล้ง อุทกภัย ยังคงมีให้เห็นค่อนข้างชัดต่อไปในปี 2549 อาชีพที่เกี่ยวกับน้ำก็ควรระวัง เช่น การเกษตร การประมง ราหูเป็นความมึนเมา อบายมุข ดังนั้น เรื่องของเหล้าเบียร์ยังเป็นปัญหาให้แก้ไขต่อไป ราหูเข้าราศีธาตุน้ำ ปัญหาน้ำมันยังคงมีราคาแพง ส่งผลเศรษฐกิจอื่นๆที่เกี่ยวพัน"
"ราหูเป็นความมืดเข้ามาสู่เรือนของดาวพฤหัสฯ ศีลธรรมถูกคุกคาม ปัญหาอบายมุขจะเข้าสู่สถานที่ที่อบายมุขไม่ควรกล้ำกราย ราหูยังทับศุกร์ ดาวเศรษฐกิจจะมีเรื่องของคอร์รัปชันที่รุนแรง แต่เนื่องจากอยู่ในเรือนของพฤหัส ทำนายว่าเป็นการคอรัปชันของคนที่มีความรู้ มีวิธีการแยบยลในการคอรัปชั่น หาทางจับผิดได้ยาก ราหูทับราหูเน้นอบายมุข ราหูทับพุธ(เทพแห่งการสื่อสาร การพูด การอภิปราย แสดงความคิดเห็น) โหราศาสตร์ถือว่าเป็นคู่ศัตรู ดังนั้นทำนายว่าจะเกิดปัญหาเรื่องวิวาทะ สื่อมวลชนจะโดนผู้มีอิทธิพลบีบ"
พุธดับส่อเค้ายกเครื่อง ครม.
นอกจากอิทธิพลของราหูโคจรทับดาวพุธในดวงเมือง การโคจรของดาวพุธยังวิปริต โคจรถอยหลังและสวนทางกับดวงอาทิตย์ นำมาซึ่งปัญหาเกี่ยวกับการโต้ตอบ แสดงความคิดเห็นวิวาทะ ระหว่างนักคิด นักวิชาการ ความคิดเห็นตรงข้ามรัฐบาล มีการอภิปรายที่รุนแรง และนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ
ช่วงแรก ดาวพุธโคจรในราศีกุมภ์ ระหว่าง 1 ก.พ.–8 เม.ย. ควรระวังช่วงที่ดาวพุธโคจรถอยหลัง ระหว่าง 4 ก.พ. -17 มี.ค. นอกจากนี้พุธเดินถอยหลังสวนอาทิตย์ ประมาณวันที่ 2-4 มี.ค. อาจจะมีข่าววิวาทะโต้ตอบอย่างรุนแรง มีการอภิปรายแสดงความคิดเห็นตรงข้ามกับรัฐบาล ตรงนี้จะเป็นผลต่อการปรับครม.ปี 2549 ครั้งแรก
ครั้งที่ 2 พุธโคจรถอยหลังในราศีมิถุน ระหว่าง 29 พ.ค.-2 ส.ค. ระวังระหว่าง 23 มิ.ย.-12 ก.ค. ช่วงเวลาโคจรถอยหลังสวนกับพระอาทิตย์ ภาษาโหรเรียกว่า "พุธดับ" ตรงกับวันที่ 4 ก.ค. การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้น นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเวลาต่อมา เช่น อาจจะมีการปรับครม.ครั้งใหญ่ประมาณเดือนก.ค.-ส.ค.
ครั้งที่ 3 วันที่ 23 ธ.ค. ดาวพุธโคจรอยู่ราศีตุลย์ ระวังดาวพุธโคจรถอยหลังระหว่าง 16 ต.ค.-5 พ.ย. 2549 และโคจรสวนอาทิตย์ตรงกับวันที่ 28 ต.ค. 2549
ราหูทับศุกร์-วิกฤติเศรษฐกิจซ้ำรอย
ดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนกดุมภะ หมายถึง ทรัพย์สินเงินทอง ความรัก เพศตรงข้าม การสมรส ดังนั้นเมื่อราหูทับศุกร์ เกิดปัญหาเศรษฐกิจการเงิน-การคลัง การธนาคาร ภาวะเงินเฟ้อ ใช้เงินไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แจกสะบั้นหั่นแหลก เรียกว่า ใช้เงินมือเติบ
"ปัญหาเศรษฐกิจที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามา พอราหู(ความมืด)เข้ามาบัง ทับศุกร์สนิทวันที่ 4 เม.ย. ทำนายว่าใช้เงินเปลืองจนหมด ดังนั้น สถาบันการเงิน ธนาคาร ไฟแนนซ์ สินเชื่อ หรือกิจการขนาดกลางจะมีปัญหา ดูเหมือนจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจอีกรอบ แต่ลีลาการเกิดจะไม่เหมือนกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2539-2540 จากครั้งที่ผ่านมากระทบนักลงทุน ครั้งนี้จะกระทบเป็นบริเวณกว้างกว่ายังประชาชนในระดับรากหญ้า"
อีกนัยหนึ่ง ดาวศุกร์ยังหมายถึงความรัก การแสดงความรัก ความสุขของประชาชนในประเทศ รวมถึงความสวยงาม ซึ่งหมายถึงศิลปินนักแสดง ดังนั้นตั้งแต่ปีใหม่ถึงสิ้นปีจะมีข่าวความรักค่อนข้างมาก ความรักของประชาชนเมื่อถูกราหูเข้ามาบดบังจะเปลี่ยนแปลงไป ประชาชนเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับความรัก นิยมอยู่ก่อนแต่ง เกิดปัญหาการหย่าร้างเกิดขึ้นมาก ปัญหาความผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ
"29 ก.ย. ราหูยกจากราศีมีนเข้าสู่ราศีกุมภะ ภพลาภะ หมายถึง รายได้ ผลประโยชน์ เมื่อราหูเข้าเรือนลาภะ พยากรณ์ว่ารัฐบาลมีมาตรการหารายได้เข้าประเทศแปลกๆ ราหูและจันทร์เป็นดาวคู่หนี้สิน ประเทศอาจจะมีการกู้ยืนเงินอีกครั้งหลังจากว่างเว้นมานานด้วยวิธีการแยบยล นอกจากผลประโยชน์และรายได้แล้ว ลาภะยังหมายถึงภพที่ 11 หมายถึงราหู(ผู้มีอิทธิพล)จะเข้ามาครอบงำรัฐสภา นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบรัฐสภา"
"โทษทุกข์" ไพร่ฟ้าหน้าเศร้า
ตามหลักโหราศาสตร์ ดาวเสาร์หมายถึงดาวโทษทุกข์ ความเครียด ความวิตกกังวล เป็นเจ้าเรือนภพที่ 10 คือ กัมมะ หมายถึงคณะรัฐมนตรี ดังนั้นจะเห็นว่าในปี 2548-2550 ดาวเสาร์โคจรมาสู่ภพที่ 4 พันธุ หมายถึงที่ดิน ที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้าง กิจการอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นรัฐจะมีการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆมากมาย แต่เนื่องจากพระเสาร์มีมาตรฐานเป็นปรเกษตร หมายถึงอ่อนแอ แปรปรวน ความเครียด ความชักช้า ดังนั้น โครงการต่างๆที่วางไว้จะมีอุปสรรค์ ความสำเร็จเกิดขึ้นน้อย ส่วนกิจการอสังหาริมทรัพย์มีปัญหา รุนแรงยิ่งขึ้นช่วงกลางปีไปแล้ว
"พระจันทร์หมายถึงประชาชน อารมณ์ ความรู้สึก ในดวงเมือง อยู่ในตำแหน่งค่อนข้างดี แต่เมื่อพระเสาร์ซึ่งเป็นดาวโทษทุกข์เข้ามาทับจันทร์สนิทองศา วันที่ 27-29 ก.ค. ไพร่ฟ้าจะหน้าเศร้าเกิดความเครียด ความทุกข์ ดาวเสาร์ยกจากพระจันทร์วันที่ 11 สิงหาคม 2550 ดังนั้นถ้ารัฐเข้ามาดูแลความทุกข์ร้อนของประชาชน ผ่านจุดตรงนี้ไปได้ก็น่าจะอยู่ได้ครบเทอม แต่ถ้าไม่ผ่านตรงนี้ก็อยู่ได้แค่นี้"
อาจารย์ภิญโญอธิบายว่าระหว่างวันที่ 3 มี.ค. -13 ก.ค. ดาวพฤหัสฯโคจรวิปริตถอยหลัง ดังนั้นกิจการตามดาวพฤหัสฯได้แก่วงการการศึกษา วงการแพทย์ ศาสนา จะผันแปร อาจจะมีคนออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎหมายสำคัญๆ และตั้งแต่ 22ต.ค. ดาวพฤหัสฯจะโคจรเข้าภพมรณะของดวงเมือง ดังนั้นบ้านเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย เพราะไม่มีใครคุ้ม ช่วงปลาย ต.ค.-ธ.ค. ต้องระมัดระวังเรื่องการสูญเสียบุคคลสำคัญ ผู้นำชั้นสูง ผู้นำทางจิตวิญญาณเป็นที่นับถือของประชาชน นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจ
อังคารชี้ดวงเมืองแตกแยก
ดาวอังคารและดาวเสาร์เป็นดาวคู่อุบัติเหตุ เมื่ออังคารไล่ทันเสาร์ควรระวังเรื่องของอุบัติภัยและภัยธรรมชาติ ประการหนึ่งอังคารและเสาร์ทับจันทร์ในราศีกรกฏ ซึ่งเป็นภพพันธุของดวงเมือง ทำให้เกิดความตึงเครียด อุบัติเหตุ การทะเลาะเบาะแว้งกันได้ง่าย ครอบครัวมีปัญหาเกิดความแตกแยก ดาวอังคารกับดาวจันทร์คือดาวคู่ชู้ ดังนั้นจะมีปัญหาเกี่ยวกับชู้สาว อังคารโคจรเล็งมฤตยูในราศีกุมภ์วันที่ 14 ส.ค.ช่วงดังกล่าวจะมีปัญหาเรื่องเด็กและเยาวชนทั้งเรื่องดีและไม่ดี อังคารสถิตราศีกันย์โคจรเล็งราหูในราศีมีน ระหว่าง 29 ส.ค.-14 ต.ค.เล็งสนิทองศาวันที่ 1 ก.ย.ทำนายว่าการเดินทางทางอากาศอาจเกิดปัญหาได้ เกิดวาตภัย-อุทกภัย
14 ต.ค.-26 พ.ย.ดาวพระเคราะห์ทั้ง 4 ดวง ได้แก่ ดาวอังคาร ราหู ดาวมฤตยู ดาวเสาร์ ส่งกระแสจุดตั้งรับสำคัญในดวงเมืองคือลัคนาและอาทิตนุเสก ราหูส่งกระแสสำคัญถึงลัคนาเมือง พระอังคารกุมและเล็งอาทิตย์
"ดวงดาวและราศีที่สัมพันธ์กันล้วนเป็นบาปพระเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ดาวพฤหัสฯกำลังโคจรอยู่ในภพมรณะ ย่อมไม่สามารถคุ้มครองชะตาเมืองได้ถนัด ดังนั้น ช่วงเวลาดังกล่าวควรระวังอุบัติเหตุ-อุบัติภัย ภัยธรรมชาติรุนแรง โดยเฉพาะที่เกิดจากลม และภัยที่เกิดจากน้ำนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิต ทรัพย์สินและบุคคลสำคัญครั้งใหญ่ และ 26 พ.ย. 2549- ต้นม.ค. 2550 ระมัดระวังเรื่องของอุบัติภัยและภัยธรรมชาติที่รุนแรง ระหว่าง 3-8 ธ.ค.49 โดยเฉพาะวันที่ 4-6 ธ.ค. 49 แต่เนื่องจากดาวพฤหัสบดีและอาทิตย์กุมกันในราศีพิจิก อาจบรรเทาความรุนแรงให้น้อยลง"
จันทร์ดับรัฐอับโชค
อาจารย์ภิญโญพยากรณ์ต่อไปว่าในปี 2549 จะเกิดคราสทั้งหมด 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 วันที่ 15 มี.ค.เวลา 06.37 น. จันทรุปราคาในราศีกันย์ อาณาเขตของโจฬฤกษ์ ระยะเวลาดังกล่าว (ก่อน-หลัง 1 เดือน) ก่อให้เกิดเรื่องที่ส่งผลยุ่งยากสลับซับซ้อนเกินกว่าการสอบสวน ปัญหานัดหยุดงาน อาชญากรรมเกิดมาก โรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดหนัก มีความยุ่งยากวงการศาสนาและการศึกษา
"การเดินทางระยะนี้ควรระมัดระวัง ระวังการพังทลายของดิน ดินแดนอาณาเขตมีปัญหา การค้าและพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย รัฐบาลมีความอับโชคมีคะแนนนิยมตกต่ำ ดาวเสาร์ทับจันทร์ทำให้คะแนนนิยมตกต่ำ เพราะปัญหาเศรษฐกิจการเงินการคลัง และปัญหาการคอร์รัปชั่น การเอารัดเอาเปรียบ ฉกชิงวิ่งราวเกิดขึ้นทั่วไป งานบริการที่เคยโดดเด่นกลับทรุดลง สุขภาพและโครงการเกี่ยวสุขภาพของประชาชนกระทบกระเทือน"
ครั้งที่ 2 วันที่ 29 มีนาคม 2549 เวลา 07.17 น.เกิดสุริยุปราคาในราศีมีน อาณาเขตของราชาฤกษ์ เกิดปัญหาคล้ายคลึงกับครั้งแรก ปัญหาเรื่องน้ำ พายุลูกเห็บที่รุนแรง บางพื้นที่เกิดฝนหลงฤดู สร้างความเสียหาย ระวังเรื่องอุทกภัย ความตายอันเกิดจากการจมน้ำ รัฐบาลประสบปัญหาอย่างรุนแรงเรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้ง อาชีพเกี่ยวกับน้ำมีปัญหา โรคภัยไข้เจ็บระบาดหนักเป็นโรคที่มาจากของเหลว ให้ระมัดระวังสุขภาพ ความปลอดภัยของบุคคลสำคัญ บุคคลสำคัญของประเทศจะถึงแก่กรรม เกิดวิกฤตศรัทธาผู้นำ เกิดในภพที่ 12 คือ ภพวินาศของดวงเมืองจะนำปัญหาและความเศร้าโศกมาสู่ประชาชน
ครั้งที่ 3 วันที่ 8 กันยายน เวลา 01.43 น. เกิดจันทรุปราคาในราศีกุมภ์ มีผลเป็นระยะเวลานาน บางกรณีเกิดอย่างฉับพลันทันด่วน เหตุการณ์รุนแรงเหนือความคาดหมาย มีการตายของบุคคลสำคัญ เรื่องของโรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บทำให้คนตายกันมาก
"ผู้มีอิทธิพลจะเข้าครอบงำรัฐสภาอย่างหน้าด้านที่สุด เกิดภัยพิบัติใหญ่โต ราศีกุมภ์เป็นวาโยธาตุก่อให้เกิดลมพายุทำลายล้างรุนแรง มีปัญหาการร่างกฎหมาย หลายฉบับ มีปัญหา พรรคการเมืองมีการแตกแยกอย่างเห็นได้ชัด ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถูกรบกวนและผันแปร เกิดปัญหาสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านขาดความนิยม คราสครั้งนี้เกิดในอาณาเขตของเพชฌฆาตฤกษ์ มีการใช้อำนาจของผู้ปกครองอย่างเฉียบขาดต่อประชาชน ทำให้ถึงแก่ความตายอย่างเฉียบพลัน อาจจะเป็นสัตว์ก็ได้ ถ้ามีปัญหา เกิดในภพลาภะของดวงเมืองทำให้พรรคการเมือง รัฐสภาเกิดความแตกแยกรุนแรง สมาชิกสภาจะถึงแก่กรรมกันมากและมีการเลือกตั้งซ่อม"
ครั้งที่ 4 เกิด 22 กันยายน 2549 เวลา 18.47 น. เกิดสุริยุปราคาในราศีกันย์ ก่อให้เกิดปัญหาคล้ายครั้งที่ 1เนื่องจากอยู่ในราศีเดียวกัน แต่เนื่องจากเป็นสุริยปราคาจึงมีความรุนแรงกว่า
"ปีหน้าคราสเกิดในราศีธาตุดิน 2 ครั้ง ดังนั้นเรื่องของการพังของดิน แผ่นดินทรุดถล่มยังต้องจับตามองตามความหมายพระเคราะห์ดวงใหญ่ ราหู ดาวเสาร์ ดาวพฤหัสฯโคจรอยู่ในราศีธาตุน้ำให้ผลค่อนข้างแรงชัดเจน ปีหน้าให้จับตาราหูย้ายราศีในวันที่ 29 ก.ย. และดาวพฤหัสฯย้ายราศีจากราศีตุลย์เข้าสู่ราศีพิจิกวันที่ 22 ต.ค. ดาวฝ่ายเทพและมารย้ายมาคุมเชิงกัน"
สึนามิเศรษฐกิจ
ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสฮวงจุ้ยชื่อดัง เริ่มต้นพยากรณ์ดวงเมืองปีหน้าตามหลักโหราศาสตร์นักษัตรจีนว่าตามความหมายนักษัตรจีน ปีจอเป็นนักษัตรแห่งความซื่อสัตย์ กตัญญูรู้คุณคน
"อีกนัยหนึ่งสุนัขเป็นสัตว์ที่กัดไม่ปล่อย เห็นใครเดินผ่านไปมาเห่าไว้ก่อน ทำนายว่าเป็นปีที่ทุกคนออกมาป่าวประกาศ ประชาชนออกมาปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวมมากขึ้นกลายเป็นความกตัญญูต่อแผ่นดิน กำจัดสิ่งไม่ดีจากสังคม เข้าทำนองอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล หมาเฝ้าบ้านจะออกมาฟัดคนไม่ดีออกจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นวงการเมือง เศรษฐกิจ ธุรกิจ และจะได้คนดีๆเข้ามาจัดระบบ ปีหน้าคนจะหันมาให้ความสำคัญความกตัญญูมากขึ้นกว่าเดิม"
ซินแสชื่อดังกล่าวต่อไปว่า "ปีนี้ตรงกับธาตุไฟชงกับธาตุน้ำ ซึ่งเป็นดวงเมือง น้ำดับไฟ ไฟเผาน้ำ ปีหน้าเพลิงใหญ่ ดังนั้นน้ำจึงถูกเผาระเหย การเงินเดือนร้อนวุ่นวายทั้งระบบ ปี 2549-2550 ระวังปืนไฟและธาตุไฟเผาผลาญทุกสิ่งลงสู่ดิน เข้าสู่ภาวะ สึนามิเศรษฐกิจ โหมเข้ามาทันทีพังทั้งระบบ ปลายมี.ค.-ต้นพ.ค. ดวงเมืองปั่นป่วนหนักสุด รัฐบาลต้องคุมเกมให้ดี ไม่อย่างนั้นจะบานปลาย ตุลาคมระวังประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ธาตุไฟเผาเงิน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้นต้องระวัง เศรษฐกิจเข้าสู่ระบบเดิม ระวังปืนไฟและภัยธรรมชาติจากไฟ ไฟเผาคุณธรรมดังนั้นความมีคุณธรรมจะน้อยลง เกิดเรื่องอื้อฉาวคาวโลกีย์มากขึ้น"
"ดวงผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ตรงปีมะโรง ชงปีจอ ซึ่งเป็นปีเกิดของจอช ดับเบิลยู บุช ผู้นำสหรัฐฯ และไม่เกื้อหนุนปีฉลู ซึ่งตรงกับปีเกิดของนายกฯทักษิณ ปีที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีเข้าเคราะห์ครึ่งต่อครึ่งจึงวุ่นวาย ปีหน้าดวงเกณฑ์ดีเพียงแค่ 10 คน ถ้าไม่เปลี่ยนรัฐมนตรีพัง"
ซินแสภาณุวัฒน์ขยายความต่อไปว่าปี’ 49 เป็นปีจอชงปีมะโรงและไม่เกื้อหนุนปีมะแม ปีฉลู ปีระกา ดังนั้นต้องระวังให้มาก อาจจะต้องเหนื่อยด้วยตัวเอง จากที่เคยลุยทุกเรื่องมีคนเข้ามาช่วย ปีหน้าดวงตกคนก็ผละหนี ระวังคนใกล้ตัวสร้างความเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม ปีจอเกื้อหนุนปีเถาะ สมพงศ์ปีขาลและมะเมีย นอกจากนี้ในปี 2550 ตรงกับปีกุลยังสมพงศ์กับปีเถาะและเกื้อหนุนปีขาลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น คนปีขาลและปีเถาะจะออกมาโดดเด่นมีบทบาทอีกครั้ง
"อายุ(นับแบบจีนคือบวกเพิ่มอีก1)เข้าเคราะห์อยู่ในเกณฑ์ไม่ดี สำหรับผู้ชายได้แก่ 3,6,9 ส่วนผู้หญิง 2,5,8" สำหรับปีจอ 2549 ซินแสตั้งชื่อว่าเป็นปี "หมาบ้า" โดยให้เหตุผลว่า "ฟัดกันนัวเนียไม่รู้ใครเป็นใคร จึงต้องคุมเกมให้ดีไม่งั้นไม่รู้จบ"
สัญญาณเตือนภัยจากธรรมชาติ
สำหรับ คฑา ชินบัญชร หมอดูไพ่ยิปซีชื่อดัง ตั้งสมญาดวงโลก "ปีหมาป่า ล่าชีวิต" พยากรณ์ว่าอิทธิพลไพ่ความตาย มัจจุราช ไพ่หอคอยหรือตึกถล่ม ไพ่คนแขวนคอและไพ่พระจันทร์ส่งผลถึงสถานการณ์โลกร้อนระอุ
"ต้นปีชาวโลกจะพบกับโรคร้ายกระจายอย่างรวดเร็ว กลางปีมีแผ่นดินถล่ม แม่พระธรณีพิโรธ ปลายปีแม่พระคงคา พระพิรุณกระหน่ำซ้ำล้างแผ่นดิน พระอัคคีเผาผลาญป่าและเมืองใหญ่ จากการก่อการร้ายและสงครามเริ่มจากตะวันออกกลาง เอเชียกลางถึงอ่าวเปอร์เซีย สงครามใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้ง"
สำหรับดวงเมืองอาจารย์คฑาเรียกว่าปี "สุนัขจิ้งจอกหลอกลวงคน" รัฐบาลพบศึกหนัก เศรษฐกิจมีการขยายตัวดีเป็นช่วงๆ ระวังภัยธรรมชาติ อุทกภัย น้ำท่วม รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆ
"ม.ค.-ก.พ. อิทธิพลไพ่ 7 คทา รัฐบาลมีการเลือกตั้ง ส.ว. ได้ผู้มีวิสัยทัศน์ดี มองการณ์ไกล เศรษฐกิจเริ่มพุ่งทะยาน การส่งออกมีมากขึ้น ปัญหาราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นทำให้สินค้ามีราคาแพง ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ยังคงรุนแรงขึ้น ปัญหายาเสพติดลงใต้ดินมีช่องทางแพร่กระจายใหม่ๆมากขึ้น มีการปรับค.ร.ม รับ ส.ว.ใหม่"
"มี.ค.-เม.ย. อิทธิพลไพ่ 8 ดาบ เกิดปัญหาการประท้วง อภิปรายไม่ไว้วางใจและอาจมีการปรับค.ร.ม.จับตาสาธารณสุขมีปัญหาฟัดกันหนัก รัฐบาลสะดุดขาตัวเอง"
เสริมอีกว่า "อีกช่วงที่ควรระวังคือเดือนกรกฎาคม-กันยายน ถ้ารัฐบาลยังอยู่ได้จนถึงเดือนตุลาคมก็จะอยู่ได้อีกนาน แต่ถ้าอยู่ไม่ได้โอกาสกลับมาค่อนข้างยาก รวมถึงทายาทหญิง ผิวขาว รูปร่างสันทัด หรือชายผิวขาว เจ้าเนื้อที่วางตัวไว้ค่อนข้างแย่ การเลือกตั้งจะมีเรื่องราวพลิกล็อก รัฐบาลจะเสียฐานเสียงค่อนข้างมาก เนื่องจากปีหน้าทิศเหนือไม่ดี ช่วงก่อนตรุษจีนทิศเหนือดี หลังตรุษจีนทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดดเด่นส่งพลังมากที่สุดประชาชนตั้งแต่ระดับรากหญ้าเกิดจิตสำนึกรักชาติ ไพ่หอคอยไฟไหม้ พังทลายเอง ดังนั้น ถ้ารัฐยังคำนึงถึงผลประโยชน์แผ่นดินยังคงอยู่ได้"
"พ.ค.-มิ.ย. อิทธิพลไพ่ 3 ดาบเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการปกครอง เกิดการชิงดีชิงเด่นมีเกณฑ์การเดินขบวนก่อม็อบ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มีเกณฑ์โดนย้ายกันมาก เศรษฐกิจตกต่ำผลจากราคาน้ำมันพุ่งสูง การส่งออกขยับขยายดี สินค้าทางการเกษตรตกต่ำ"
"ก.ค.-ส.ค. อิทธิพลไพ่ 8 ถ้วย เศรษฐกิจกลับมาดีอีกครั้ง ธุรกิจส่งออกและการเกษตรด้านเสื้อผ้าและสิ่งทอกลับมาคึกคัก กระทรวงศึกษาธิการมีเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาใหม่ๆ"
"ก.ย.-ต.ค. อิทธิพลไพ่ 8 คทา ตลาดการค้าส่งออกมีมากขึ้น ธุรกิจท่องเที่ยวอุตสาหกรรมมีความคล่องตัว ตลาดหุ้นกลับมาดี โดยเฉพาะหุ้นพลังงานและสถาบันการเงินสามารถทำกำไรได้ ระวังภัยธรรมชาติใหญ่ที่มีเข้ามาร้ายแรง จับตามองรัฐบาลจะมีปัญหาด้านการทำงานของบริวารที่ไม่สามารถแก้ได้ การคอรัปชันยังเป็นปัญหา"
"พ.ย.-ธ.ค. อิทธิพลของไพ่ 9 เหรียญ ปัญหาราคาน้ำมัน ข้าวของขึ้นราคา การเงินการคลังยังไม่คล่องตัวทำให้ธุรกิจการเงินมีปัญหา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และต่างประเทศโดดเด่นดี ปลายปีรัฐบาลจะเข้มแข็งเป็นระบบมากขึ้น สินค้าทางการเกษตรและสิ่งทอมีการขยายตัวดี"
หมอดูยิปซีชื่อดังกล่าวทิ้งท้ายว่า "อยากให้เริ่มตั้งแต่ต้นปี ดำเนินชีวิตอย่างมีสติ พอมีสติก็จะเกิดปัญญาทำมาหากินก็จะมีสตางค์ นำไปสร้างความสุขแก่ตัวเองแลครอบครัว แล้วก็อยากให้เผื่อแผ่แก่สังคม"
ที่สุดแล้ว อิทธิพลของการพยากรณ์จะส่งผลกระทบต่อผู้คนในสังคมมาก-น้อยเพียงใดนั้น ส่วนหนึ่งย่อมขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละคนเป็นสำคัญ
