xs
xsm
sm
md
lg

'เจเอ็มจี อคาเดมี่' ฝันไกลจาก 'บ้านบึง' ถึง 'ไฮบิวรี่'

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


การเดินทางสู่สถานภาพนักกีฬาอาชีพในเมืองไทยนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เหล่าผู้ล่าฝันต้องหาทางกันเอาเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางของนักฟุตบอลอาชีพ ที่ดูจะหนักหนาและหาปลายทางแห่งความสำเร็จได้ยากยิ่ง ต่างจากกีฬาประเภทเดี่ยวอย่างเทนนิสหรือกอล์ฟ ที่นักกีฬาสัญชาติไทยสามารถพัฒนาสถานะไปสู่เศรษฐีกีฬาได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี

เหตุผลที่ความสำเร็จไม่เคยเดินทางมาเยือนนักฟุตบอลไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีทีมฟุตบอลเยาวชนฝีเท้าดีพอฟัดพอเหวี่ยงกับทีมเยาวชนญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งมาจากวงการฟุตบอลของประเทศยังเติบโตในลักษณะสมัครเล่น ไม่มีลีกฟุตบอลอาชีพอย่างจริงจัง ความไม่พร้อมทั้งเรื่องสนามแข่งขัน ผู้สนับสนุน ไล่เรื่อยไปจนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาวงการฟุตบอลอย่างจริงจังจากระดับองค์กรที่รับผิดชอบ

ทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นเครื่องกีดขวางที่ทำให้หนทางการค้าแข้งอาชีพในต่างประเทศของเยาวชน ที่รักในกีฬาฟุตบอลและต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ถูกบีบจนตีบตันเหลือเพียงการตีตราในฐานะทีมชาติเท่านั้นถึงจะทำให้พวกเขาอยู่รอดในวงการลูกหนังได้

แต่เมื่อถึงปลายทางดูเหมือนว่าลีกที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะได้สัมผัสก็เป็นเพียงลีกในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนโอกาสที่จะได้ค้าแข้งในยุโรป หรือ ลีกใหญ่ๆอย่าง 'เจลีก' ของญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่ง 'เคลีก' ของเกาหลี ที่นับวันจะแข็งแกร่งขึ้นก็ดูจะเป็นเรื่องยากเย็นเกินไปสำหรับนักฟุตบอลที่ไม่มีตัวแทนนักกีฬาระดับอาชีพคอยเจรจา

ในอดีตนั้นการเดินทางไปค้าแข้งในต่างแดนไม่ว่าจะเป็น เอสลีกของสิงคโปร์ หรือลีกอาชีพในมาเลเซีย รวมไปถึง วีลีกในเวียดนาม นักฟุตบอลไทยที่มีโอกาสได้เข้าไปค้าแข้งส่วนใหญ่จะเป็นขุนพลลูกหนังที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับทีมชาติ เมื่อแสดงฝีเท้าให้ต้นสังกัดได้ประจักษ์ถึงเชิงบอลของลูกหนังไทยบรรดาเพื่อนนักฟุตบอลที่มีฝีเท้าก็จะถูกเรียกตามไปสมทบภายหลัง ปฏิบัติการดังกล่าวใกล้เคียงกับหน้าที่ของตัวแทนนักกีฬาอาชีพ หากแต่ยังไม่เคยมีคนในวงการกีฬาไทยคิดทำให้เป็นรูปแบบอย่างจริงจัง

การมาถึงของสถาบันเจเอ็มจี ดูเหมือนจะเป็นการเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปบนเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ เพราะการดำเนินงานของเจเอ็มจี นั้นนอกจากจะเป็นสถาบันฟุตบอลที่ออกเสาะหานักฟุตบอลเพื่อนำมาฝึกฝนทักษะลูกหนังอย่างจริงจังแล้ว สถาบันแห่งนี้ยังเป็นโรงเรียนที่ทำหน้าที่ตัวแทนนักกีฬาและรับประกันแน่นอนว่า เยาวชนทุกคนที่สามารถอดทนและอยู่กับ สถาบันได้ครบ 7 ปีจะต้องได้สวมเสื้อสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างแน่นอนไม่ในลีกใดก็ลีกหนึ่งที่มีอยู่บนโลกใบนี้

*เจเอ็มจี มิใช่แค่โรงเรียนสอนฟุตบอล

สถาบันสอนฟุตบอลเจเอ็มจี อคาเดมี่ ก่อตั้งโดย อดีตนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส "ฌอง มาร์ก กียู" ซึ่งเป็นอาจารย์ของอาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมอาร์เซนอล ได้รับการกล่าวขวัญถึงทั่วทวีปยุโรปว่าเป็นสถาบันฝึกนักฟุตบอลที่ดีที่สุดมายาวนานกว่า 10 ปี

ส่วน เจเอ็มจี อคาเดมี่ ไทยแลนด์ เป็นสาขาแรกของทวีปเอเชียภายใต้การดูแลของ เฉลิมชัย มหากิจศิริ ผู้อำนวยการสถาบัน โดยจะเปิดทำการสอนทักษะให้กับเยาวชนที่รักฟุตบอลด้วยผู้ฝึกสอนที่มีมาตรฐานระดับโลก ที่ตั้งของสถาบันอยู่ที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้สถาบันดังกล่าวได้กลายเป็นแหล่งฝึกนักฟุตบอลอาชีพแห่งแรกในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 50 ล้านบาท นอกจากเจเอ็มจี จะก้าวเข้ามาเพื่อพัฒนาฝีเท้าเยาวชนลูกหนังไทยให้ก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลกได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังเป็นสถาบันที่จะคอยดูแลส่งนักฟุตบอลในสังกัดให้ถึงฝั่งอย่างเรียบร้อยในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ

นอกจากนี้สถาบันเจเอ็มจี ยังมี อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสของอาร์เซนอล ถือหุ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่าโอกาสของนักเตะในสังกัดเพื่อก้าวไปสู่ลีกระดับพรีเมียร์ชิป ภายใต้ตราสัญลักษณ์ของสโมสรอาร์เซนอล ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีแมวมองคอยจับตามองผลงานอยู่แล้ว ใครเด่นก็มีโอกาสจะได้ไปทดสอบฝีเท้ากับทีมเยาวชนหรือทีมสำรองของ "ปืนใหญ่" ได้เลย

ที่ผ่านมาสถาบันแห่งนี้เคยปั้นนักฟุตบอลดังๆ มานับไม่ถ้วน ทั้งโคโล่ ตูเร่ และ เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ สองปราการหลังของอาร์เซนอล ดิดิเย่ร์ โชเกร่า ของทีมแซงต์ เอเตียง ทีมในลีกเอิง ฝรั่งเศส และยังมีนักเตะชื่อดังอีกกว่า 30 คนทั่วโลก เป็นการการันตีมาตรฐานการฝึกของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญในระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี การฝึกสอนฟุตบอลแบบฉบับของเจเอ็มจี ประกอบกับการศึกษาที่ได้เรียนหนังสือทั้งภาคภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทางสถาบันได้ให้ความมั่นใจว่าจะมีเด็กไทยค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรปแน่นอนใน

สำหรับพื้นที่ 20 ไร่ในสถาบันแห่งนี้ที่อำเภอบ้านบึง ลงทุนไปกว่า 50 ล้านบาท เพื่อให้เป็นแหล่งเก็บตัวและฝึกซ้อมที่ดีที่สุดในประเทศ ซึ่งมีสนามแข่งขัน, สนามฝึกซ้อมที่ได้มาตรฐาน, สระว่ายน้ำ, ห้องอาหาร, ห้องรับแขก, โรงครัว, ห้องพัก, ห้องเรียน และทุกอย่างที่แคมป์เก็บตัวนักฟุตบอลควรมี เพื่อให้ได้มาตรฐานสะดวกสบายที่สุด

ที่ผ่านมาสถาบันเจเอ็มจีฯในประเทศไอวอรี่ โคสต์ ได้ผลิตนักฟุตบอลก้าวขึ้นมาติดทีมชาติถึง 12 คน และล่าสุดนักเตะทั้งหมดสร้างประวัติศาสตร์พาทีม ชาติไอวอรี่ โคสต์ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ ประเทศเยอรมนี ในปี 2006 ได้เป็นครั้งแรก

สำหรับแผนงานต่อไปสถาบันฯ จะทำการคัดเลือกนักฟุตบอลฝีเท้าดีจากทั่วประเทศ 2 ปีครั้ง ครั้งละประมาณ 20 คน นำมาเก็บตัวสถานที่แห่งนี้ เมื่อมีฝีเท้าที่เก่งกล้าก็จะส่งให้ทีมงานที่มีอยู่ทั่วยุโรปไปนำเสนอกับสโมสรฟุตบอลอาชีพเพื่อเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพต่อไป

โดยล่าสุดทางสถาบันเผยว่าเด็กรุ่นแรกทั้งหมด 16 คน มีฟอร์มเด็ดๆหลายคนและบางคนน่าจะสามารถก้าวไปติดทีมชาติไทยในเร็วๆนี้ และมีแววที่จะเป็นนักเตะอาชีพได้ในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งมี 2 คนที่มีฝีเท้าดีมาก รับรองว่าภายในระยะเวลา 7 ปี จะมีเด็กไทยได้เล่นในลีกเบลเยี่ยมหรือพรีเมียร์ชิปของอังกฤษอย่างแน่นอน

* 7 ปีสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

แต่กว่าที่นักฟุตบอลเยาวชนที่ไทยที่ได้รับการคัดเลือกจากสถาบันเจเอ็มจีในเมืองไทย จะก้าวสู่ความเป็นนักกีฬาอาชีพได้อย่างจริงจังพวกเขาต้องอดทนและใช้เวลาฝึกซ้อมอย่างยาวนานถึง 7 ปี และเป็น 7 ปีนับตั้งแต่วัยเพียง 11-13 โดยที่ต้องอยู่ประจำที่สถาบัน ได้กลับบ้านพบกับผู้ปกครองตามเวลาที่ทางสถาบันได้อนุญาต

ทั้งนี้เส้นทางของ การเป็นนักฟุตบอลในสถาบันแบ่งเป็นสองระยะ

ระยะที่ 1 เป็นการฝึกซ้อม 7 ปี
- ทำการคัดเลือกอย่างเป็นธรรมร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งจะทำการคัดทุกๆ 2 ปี
- สร้างความสมดุลของร่างกาย ทั้งทักษะ และเทคนิค
- การฝึกซ้อมแบบคนเดียว แบบกลุ่ม ตามหลักสูตรของ JMG
- เข้าร่วมแข่งขันในรายการต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะและสภาพจิตใจ
- ดำเนินการก่อตั้งสโมสรภายในระยะเวลา 4 ปี

ขั้นตอน 7 ปี สู่ความเป็นมืออาชีพ
- 6 เดือนแรก เริ่มพัฒนาพื้นฐานทักษะและเทคนิค ความสามารถเฉพาะตัว
- 2 ปีแรก ตระเวนทำการอุ่นเครื่อง กับทีมฟุตบอลต่างๆในประเทศ
- ในช่วงท้ายของทุกปี จะได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาภายในประเทศ
- ปีที่ 3 ทำการคัดเลือกเยาวชนในรุ่นสอง ไปทั่วประเทศอีกครั้ง
- ปีที่ 4 ทำการแข่งขันกับทีมสโมสร หรือทีมโรงเรียนต่างๆ ที่มีอายุมากกว่า
- นักฟุตบอลคนใดมีความสามารถ อาจได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ
- สร้างทีมเข้าร่วมแข่งขันในลีกอาชีพของเมืองไทย
- ตระเวนเข้าร่วมแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ นานาชาติ ทั้ง โมนาโก, อาร์เซนอล และ โตเกียว
- ในปีที่ 5 เยาวชนจะเริ่มพัฒนาสู่การเป็นนักเตะอาชีพ และสามารถเข้าร่วมแข่งขันกับทีมที่มีอายุมากกว่าได้อย่างไม่เป็นรอง
- ในปีที่ 6 คาดหวังว่าจะเป็นทีมที่ดีที่สุดในเมืองไทย และตระเวนออกแข่ง แมตช์กระชับมิตรกับ ในยุโรปทั้งอังกฤษ, เบลเยี่ยม และฝรั่งเศส
- ปีที่ 7 สู่นักเตะอาชีพ และเป็นการเตรียมพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นนักเตะอาชีพ และ 1 ในนักเตะ จะได้รับการคัดเลือก ขึ้น ชั้นเป็นนักเตะอาชีพในสโมสรลีกสูงสุดของ เบลเยียม ได้

ทั้งหมดที่ผ่านการฝึกซ้อมมาเป็นระยะเวลาตลอด 7 ปีเต็มพวกเขาเหล่านี้สามารถจะก้าวสู่การเป็นนักเตะอาชีพที่พร้อมไปด้วยประสบการณ์ที่จะพาทีมชาติไทยทำผลงานในทัวร์นาเมนต์ระดับโลก รวมไปถึงฟุตบอลโลกที่คนไทยใฝ่ฝัน

ระยะที่ 2 พัฒนาสู่ตลาดยุโรป
- ผลิตนักฟุตบอลสู่ลีกสูงสุดของเบลเยี่ยม (เบเวอเรน) และร่วมมือกับ อาร์เซนอล
- พัฒนานักเตะอย่างมีขั้นตอน และกระบวนการจากสโมสรเล็กๆ สู่สโมสรที่ยิ่งใหญ่ต่อไป
- พัฒนาทักษะและความสามารถของนักเตะตามอายุ
- มีแผนงานรองรับเพื่อการขยายสโมสร

* ผลผลิตจากเจเอ็มจีโอกาสของนักฟุตบอลไทย

จากผลิตผลเดิมพิสูจน์ให้เห็นว่าสถาบันเจเอ็มจี สามารถผลิตนักเตะชั้นยอดก้าวขึ้นไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพทั่วโลกมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ โดยเริ่มต้นในสโมสรเล็กๆ ก่อนที่จะก้าวขึ้นไปสู่สโมสรชื่อดังในทวีปยุโรป อาทิ โคโล่ ตูเร่ และเอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ของอาร์เซนอล หรือโซโลมอน คาลู ของเฟร์เยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม แห่ง ฮอลแลนด์ รวมทั้งนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในลีกดังๆ ทั่วโลก ซึ่งรวมแล้วกว่า 70 คน

นอกจากนี้สถาบันแห่งนี้ยังได้เปรียบเนื่องจากมีสาขากระจายอยู่ทั่วยุโรปถึง 16 สาขาและในประเทศเบลเยียมอีก 5 สาขา รวมไปถึงในฝรั่งเศสอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาสโมสรเหล่านี้สร้างผลงานคว้าแชมป์รายการต่างๆ มามากมาย

ส่วนสถาบันเจเอ็มจี ในเมืองไทยนั้นอยู่ในระหว่างการคัดเลือกและพัฒนาสถาบัน ที่ผ่านมาได้คัดเยาวชนที่รักในกีฬาลูกหนังเข้ามาฝึกกับสถาบันแล้วจำนวนหนึ่งซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจ แต่กว่าจะได้เยาวชนเหล่านี้ทางสถาบันต้องทำการคัดเลือกจากเยาวชนเกือบทั่วประเทศ เริ่มตั่งแต่ทดสอบฝีเท้า ทดสอบความอดทน และท้ายที่สุดความมุ่งมั่นในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกโดยส่วนใหญ่นั้นมีอายุระหว่าง 11-13 ปี ในสังคมไทยถือว่ายังเล็กมากสำหรับการอยู่ห่างจากครอบครัว ดังนั้นเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกจึงต้องมุ่งมั่นและอดทนกับสิ่งที่ตนเองใฝ่ฝันให้มากที่สุด

โดย"กานต์ จินรัตน์" เจ้าหน้าที่อาวุโส ของสถาบันได้เปิดเผยถึงบรรยากาศภายในเจเอ็มจี ตลอดระยะเวลาที่เปิดมาแต่ยังไม่ครบขวบปีว่า "เด็กทุกคนที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาอยู่ในสถาบันทั้งหมดจะได้รับการฝึกสอนทักษะเชิงลูกหนังและการศึกษาควบคู่กันไป นอกจากนี้ยังมีการเรียนภาษาอังกฤษ และ ฝรั่งเศส เพิ่มเติมเพราะในอนาคต ภาษาจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญของเหล่านักฟุตบอลจากเจเอ็มจี ที่จะได้ไม่มีปัญหาหากต้องไปค้าแข้งในต่างแดน"

ในส่วนของคุณสมบัติเยาวชนที่จะสามารถผ่านเข้าสู่สถาบันได้นั้น เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถาบันได้เปิดเผยว่า "นอกจากฝีเท้าแล้ว ทางสถาบันต้องทำความเข้าใจกับตัวเด็กและครอบครัวด้วยว่า สถาบันของเราไม่ได้เป็นแต่เพียงโรงเรียนฟุตบอล แต่เป็นโรงเรียนเพื่อคัดนักฟุตบอลไปเล่นอาชีพด้วย ดังนั้นเยาวชนทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกของสถาบันมีโอกาสได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพทุกคน ยกเว้นเสียแต่ว่าจะล้มเลิกความตั้งใจกลางคัน

ที่ผ่านมามีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้ว แต่ผู้ปกครองต้องมารับกลับบ้านเพราะไม่สามารถทนคิดถึงครอบครัวได้จำนวนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่จะมีความอดทนและสุดท้ายก็คุ้นเคยกับสถานที่และทำการฝึกซ้อมอย่างตั้งใจ ถึงเวลานี้มีเยาวชนไทยที่ผ่านการคัดเลือกและได้ฝึกซ้อมอยู่กับสถาบันจำนวนหนึ่ง และในจำนวนนั้นก็มีบางคนที่ทางสตาฟโค้ชของเจเอ็มจีเห็นแววแล้วว่า พวกเขามีความสามารถพอกับลีกในระดับยุโรป และบางคนก็สามารถค้าแข้งในระดับเอเชียได้เลย"

แน่นอนว่าการก้าวเข้าสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของเยาวชนไทยจากจีเอ็มจี ในอีก 7 ปีข้างหน้าไม่ได้เป็นการก้าวเดินคนเดียว แต่ทางสถาบันจะเปลี่ยนสถานะตนเองจากโรงเรียนที่เคยให้ความรู้และฝึกสอนเชิงลูกหนังกลายเป็นตัวแทนนักกีฬาให้กับพวกเขา

เมื่อถึงเวลานั้นเยาวชนไทยก็จะได้สัมผัสกับคำว่านักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว นอกจากจะได้เล่นเกมใหญ่ในสนามฟุตบอลอาชีพแล้ว พวกเขายังอาจได้รับโอกาสจากผู้สนับสนุนรายใหญ่ รวมไปถึงผลตอบแทนจากสโมสรฟุตบอลที่สามารถเปลี่ยนสถานะเด็กหนุ่มวัย 19-20 ปีคนหนึ่งจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย

แม้ว่าการดำเนินการของ เจเอ็มจี คือรูปแบบทางธุรกิจ ด้วยการคัดเลือกนักฟุตบอลเยาวชนที่มีพรสวรรค์ ฝึกฝนจนเป็นมืออาชีพ หลังจากนั้นก็ทำการจำหน่ายออกให้กับสโมสรฟุตบอล แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นการเปิดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่สำหรับเยาวชนไทยที่มีพรสวรรค์และมุ่งมั่นจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ที่สำคัญหากพวกเขาสามารถพัฒนาฝีเท้าจนได้เล่นกับสโมสรใหญ่ในยุโรปหรือในเอเชียได้ ผลพลอยได้ก็คือทีมชาติไทยก็จะได้เพชรเม็ดงามมาประดับทีมโดยปริยาย

เวลาเพียง 7 ปีไม่มากหรือน้อยเกินไปที่จะรอคอยเมื่อเวลาดังกล่าวมาถึงคนไทยคงได้พิสูจน์กันว่าผลงานที่ เจเอ็มจี มุ่งมั่นจะสร้างนักฟุตบอลอาชีพให้กับเมืองไทย จะสำเร็จดังที่พวกเขาคาดหวังหรือไม่

***********************

เรื่อง - ทีมข่าวกีฬา







กำลังโหลดความคิดเห็น