'เกย์' หรือกลุ่มชายรักชาย เป็นคนกลุ่มหนึ่งที่มีบทบาทในแทบทุกอณูของสังคม ตั้งแต่ข้างถนนไปถึงหอคอยงาช้าง จากคนธรรมดาไปถึงรัฐมนตรี ว่ากันว่าช่วงไม่กี่ปีมานี้พวกเขากล้าเปิดเผยตัวตนและกล้าที่จะทำตามเสียงร่ำร้องของหัวใจกันมากขึ้น แฟชั่นการแต่งกายของพวกเขาก็โดดเด่น ชัดเจน และแสดงความเป็นตัวตนอย่างเปิดเผย
ลองไปดูว่า 'แฟชั่น' ของชาวสีม่วงจะหวือหวา โฉบเฉี่ยว เปรี้ยวปรี๊ด ขนาดไหน
เลื่อมพราย ลายปัก
ตามพจนานุกรมนั้น GAY นอกจากจะหมายถึงกลุ่มชายรักชายแล้ว ยังหมายถึง ผู้ที่ชอบความสนุกสนาน ร่าเริง เบิกบาน หรูหรา และหลงใหลสีสันอันฉูดฉาด ดังนั้นแฟชั่นของเหล่าชาวสีม่วงจึงสะท้อนถึงความหมายดังกล่าวเช่นกัน
แฟชั่นในปีนี้ยังคงมีความระยิบระยับแพรวพราวของลายเลื่อมที่ปักลงบนเนื้อผ้าและสีสันสดใสของลูกปัดหลากสีสันให้เห็นอยู่ แม้จะไม่มากเท่าปีที่ผ่านมาก็ตาม เสื้อผ้าแนวนี้ของร้านหรูที่เปิดขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำก็เน้นสีสันที่ฉูดฉาดบาดตา ประเภทฟ้า เหลือง ชมพู เขียว เปรี้ยวซ่าขนาดนี้ใส่ไปไหนใครๆต้องมองจนเหลียวหลัง อย่างไรก็ดี สีขาว-ดำ ก็ยังคงถูกจัดให้เป็นสียอดฮิตตลอดกาลของชาวสีม่วง แบบว่าใส่ได้ทั้งปีไม่มีเอาต์
แบงก์ พนักงานขายเสื้อผ้าแนวชายรักชาย ย่านสีลมซอย 4 บอกว่า "ถ้าพวกวัยรุ่นเขาจะชอบสีสัน ปีนี้โทนสีเหลือง ชมพูช็อกกิ้งพิ้ง เขียวขี้ม้า มาแรง แต่ถ้าเป็นเกย์รุนใหญ่จะเน้นพวกลายปักระยิบระยับ พวกปักลายดอกไม้เขาก็ชอบกันนะ พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเกย์สาว บางคนก็ชอบปักเลื่อมเยอะๆ ดูอลังการ พวกเกย์ฮ่องกงกับญี่ปุ่นก็มาหาซื้อเสื้อปักกันเยอะ"
ลายหนุ่มเปลือย-ตัวเลข-เพลย์บอย มาแรง
หากเทียบกันแล้วเสื้อยืดจะได้รับความนิยมจากกลุ่มชายรักชายมากกว่าเสื้อเชิ้ต เพราะใส่สบาย ใส่ได้หลากหลายโอกาส ส่วนเสื้อเชิ้ตส่วนใหญ่เฉพาะเวลาไปทำงาน หรือหากใส่ไปปาร์ตี้สังสรรค์ก็จะเป็นเสื้อเชิ้ตแขนกุด หรือสีสันแรงๆ
เสื้อยืดที่พวกเขาชอบนั้นมีทั้งสีขรึมๆ มีลูกเล่นแปลกตา และสีพื้นลวดลายแปลกๆ แต่ที่กำลังอินเทรนด์ตอนนี้เห็นจะหนีไม่พ้น เสื้อยืดลาย‘ผู้ชายเปลือย’ ที่ทั้งดูบึกบึนและเซ็กซี่ นายแบบในภาพวาดกึ่งการ์ตูนจะโพสท่าทางต่างๆที่แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของชายชาตรี ขณะที่บางภาพถึงจะมีกล้ามล่ำบึกแต่ก็แฝงความเป็นสาวให้เห็นอย่างเด่นชัด
แบงก์ บอกว่า " ลายผู้ชายเซ็กซี่นี่มาแรงสุด ขายดีมาก ถ้าเป็นเกย์รุ่นใหญ่เขาจะแต่งตัวแรง กล้าเปิดเผย เขาก็ชอบอะไรที่มันดูเซ็กซี่ๆ รูปผู้ชายโชว์กล้าม ถึงจะเป็นเกย์สาวเขาก็ชอบสัญลักษณ์อะไรที่มันดูบึกบึนนะ เดี๋ยวนี้เกย์ไทยกล้าแต่งตัวขึ้น การเลือกซื้อเสื้อผ้ามันหรือแต่งตัวแรงๆมันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเขา อย่างลายแปลกๆหวือหวานี่เกย์ฮ่องกงกับญี่ปุ่นชอบมาก"
ด้าน เจริญ บุญเชียงราก เจ้าของแผงเสื้อแถบสีลมซอย 2 พูดถึงกระแสแฟชั่นของชาวสีม่วงในช่วงนี้ว่า
"ตอนนี้ที่ฮิตกันมากก็พวกเสื้อยืดลายตัวเลข ลายเพลย์บอย(รูปกระต่าย) ลายมงกุฏ เสื้อเชิ้ตก็มีทั้งแขนสั้นหรือเชิ้ตแขนยาวพับปลายแขนใหญ่ๆ แต่เสื้อยืดขายดีกว่า ถ้าแบบหวือหวาหน่อยจะขายดีมาก ตอนแรกผมขายเสื้อผ้าผู้ชายอย่างเดียว พอเห็นแฟชั่นพวกนี้เริ่มมาแรง และคนใส่กันมากขึ้นเลยหันมาจับเสื้อผ้าแนวนี้ ตอนแรกจะดูก่อนว่าเกย์เขาชอบใส่แบบไหนกัน เสื้อกล้าม เว้าหน้าเว้าหลัง ก็ไปหาแบบนั้นมาขาย เสื้อยืดฟิตๆ คอวี คอกลมนี่ก็ขายดีนะ"
เสื้อกล้ามเว้าหลัง โชว์บอดี้
สิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นชาวสีม่วงก็คือ เสื้อฟิตๆ รัดรูป กระฉับพอดีตัว เพราะเขาเหล่านี้มักให้ความสำคัญกับรูปร่างและภูมิใจในหุ่นอันล่ำสันของตัวเอง
"พวกนี้เขาจะชอบดูแลตัวเอง ชอบเล่นกล้าม หุ่นดี ล่ำสัน กล้ามใหญ่ แล้วก็กล้าโชว์เนื้อหนังมังสา(หัวเราะ) ก็จะชอบเสื้อที่ใส่แล้วดูฟิตๆหน่อย หรือพวกเสื้อกล้าม เสื้อแขนกุดก็ได้รับความนิยมมาก ขายได้ตลอด เสื้อกล้ามแบบเว้าหลังก็กำลังฮิตนะ เสื้อกล้ามสายเล็กๆแบบที่ดีไซน์มาสำหรับคนที่ต้องการโชว์กล้ามโดยเฉพาะ ใส่แล้วแบบว่าได้โชว์ปีกหลัง โชว์กล้ามเนื้อแน่นๆ ดูเซ็กซี่ คนไทยจะชอบเสื้อกล้ามมากกว่าเสื้อแขนกุด คงเพราะมั่นใจว่าหุ่นดีมั้ง" แบงก์ บอกยิ้มๆ
ด้าน สุจิตรา เชื้อสวย เจ้าของร้านเสื้อแถวสีลม บอกว่า
" แฟชั่นตอนนี้จะเน้นเสื้อยืดลายแปลกๆ แล้วก็เชิ้ตรัดรูปซึ่งจะมีลูกเล่นเก๋ๆ เดินตะเข็บคู่ พวกเสื้อยืดแขนกุดกับเสื้อกล้ามนี่ขายได้ตลอดนะ แต่จะเน้นใส่พอดีตัวนะทั้งเสื้อยืดเสื้อเชิ้ต พวกนี้เขาจะเน้นโชว์บอดี้ โชว์ความแข็งแรง ก็จะมีแค่ 2 ไซส์คือ S กับ M"
คำบอกเล่าของเจ้าของร้านเสื้อดังกล่าว สอดคล้องกับความคิดของลูกค้าอย่าง มาร์ก พนักงานออฟฟิศ หนึ่งในกลุ่มชายนิยมชาย ซึ่งพูดถึงแนวเสื้อผ้าที่เขาและเพื่อนๆชื่นชอบว่า
" ก็จะเป็นเสื้อพอดีตัว เน้นบอดี้ คือพวกเราจะดูแลสุขภาพ ดูแลรูปร่าง ถ้ารูปร่างดีๆนี่ใส่เสื้อผ้าสไตล์นี้แล้วจะมั่นใจมาก เวลาไปทำงานก็เป็นเสื้อเชิ้ตเข้ารูป ปลายแขนอาจพับขึ้นมาหนาหน่อย ติดกระดุมเก๋ๆ มีลายปักตกแต่งตรงปกหรือกระเป๋า ส่วนเวลาไปเที่ยวก็จะเป็นเสื้อยืด เสื้อกล้ามที่ออกแนวสปอร์ตๆหน่อย"
อย่างไรก็ดี เสื้อผ้าตาข่ายและผ้าซีทรู ก็ยังคงเป็นเทรนด์ฮิตของเหล่าบรรดาชาวเกย์ เพราะนอกจากสามารถโชว์หุ่นอันสมส่วนแล้ว ยังดูเซ็กซี่ น่าค้นหาอีกด้วย
ชั้นในขาว- ขายาวซูเปอร์โลว์
สำหรับแฟชั่นกางเกงของชายรักชายนั้น ในปีนี้นิยมกางเกงยีนส์เอวต่ำแบบซูเปอร์โลว์ ขามอส และขาม้า ซึ่งจะเน้นลูกเล่นในการตัดเย็บมากกว่ากางเกงผู้ชายทั่วไป เช่น กางเกงยีนส์ผ้าปะผ้าต่อ ที่ดูเซอร์ๆแต่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร ขณะที่กางเกงหนังสีดำที่เน้นความสมส่วนและกล้ามเนื้อแน่นๆของเรียวขาก็ยังครองใจชาวเกย์รุ่นใหญ่อยู่ไม่เสื่อมคลาย
ส่วนชุดว่ายน้ำและชุดชั้นในนั้นชาวสีม่วงจะชื่นชอบสีขาวเป็นพิเศษ เพราะเน้นความเซ็กซี่ของสรีระ แบบซีทรู และจีสตริงก็ยังคงได้รับความนิยมเช่นกัน นอกจากนั้นในปีนี้ยังมีสีแรงๆ และลายดอกไม้มาเพิ่มความแปลกใหม่ให้บรรดาเกย์สาวด้วย
" กางเกงว่ายน้ำนี่สีขาวจะขายดีที่สุด คือสีขาวเวลาโดนน้ำแล้วดูเซ็กซี่ เน้นสัดส่วน แหม..ใครๆก็อยากหันมามอง(หัวเราะ) ปีนี้กางเกงว่ายน้ำขาจะเว้าสูงขึ้นนะ ทรงนี้พวกหนุ่มๆชอบ แต่ถ้าเกย์ที่อายุเยอะหน่อย 40-50 ไปแล้วนี่จะใส่กางเกงว่ายน้ำขาสั้นมากกว่า คือหุ่นเขาไม่เฟิร์มแล้วไง ใส่โชว์ขาอ่อนอาจจะไม่น่าดู" แบงก์ พนักงานขายเสื้อผ้าย่านสีลม บอก
รองเท้าหัวตัด-เข็มขัดห้อยโซ่
แฟชั่นเข็มขัดและรองเท้าของชาวเกย์ในปีนี้ เน้นดีไซน์เก๋ไก๋ มีสไตล์ที่แตกต่าง โดยเข็มขัดมักมีส่วนประกอบของโลหะมากกว่าเข็มขัดของชายแท้ทั่วไปที่ มักมีการเจาะรู ตอกหมุดลงบนสายหนังเพื่อความเก๋แปลกตา และเพิ่มลูกเล่นด้วยการใส่โซ่คล้องเข็มขัดเป็นสายห้อยลงมาจากขอบกางเกง
ส่วนรองเท้านอกจากยังคงใส่รองเทาผ้าใบสไตล์นักกีฬาเหมือนปีที่ผ่านมาแล้ว ว่ากันว่าดีไซน์เก๋สุดฮิปของปีนี้ได้แก่รองเท้าหนังขัดมัน ที่สำคัญต้องเป็นแบบหัวแหลม หรือหัวตัด และช่วงปลายเท้าจะเชิดงอนขึ้น เพิ่มความหรูกว่ารองเท้าทั่วๆไป
"เข็มขัดตอกมุดนี่กำลังฮิต รองเท้าหัวตัดหรือปลายแหลมนี่จะซื้อกันแถวสยาม ส่วนเครื่องประดับอื่นๆก็แถวสีลม ส่วนมากจะเล่นพวกจี้ ก็แล้วแต่ใครชอบลายไหน ถ้าทรงผมก็ต้องรองทรงแล้วใส่เจล ยกตรงกลางแหลมแบบโมฮอก ตอนนี้ฮิตมาก " เอ็ดดี้ หนึ่งในชายรักชายซึ่งกำลังเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่แถวสีลม บอกกับเรา
แฟชั่นเริ่มแรง ตั้งแต่ปี 45
เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แฟชั่นของบรรดาชาวสีม่วงเริ่มมาแรงและมีความชัดเจนขึ้น อาจเป็นเพราะกระแสสังคมที่เปิดใจยอมรับพวกเขามากขึ้น และชายรักชายที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหลายต่อหลายคนก็กล้าที่จะออกมาเปิดตัว และบอกเล่าถึงวิถีชีวิตของพวกเขาให้สังคมได้รับรู้ โดยเฉพาะการบอกเล่าผ่านตัวหนังสือ ซึ่งพ็อกเก็ตบุ๊กของเหล่าชาวเกย์ที่ออกมาวางแผงในช่วง 2-3 ปีมานี้ก็ล้วนได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้อ่าน ถึงขนาดต้องพิมพ์ซ้ำหลายต่อหลายครั้ง
เมื่อสังคมเปิดกว้าง ชาวสีม่วงก็กล้าที่จะลุกขึ้นมาแต่งตัวในแบบฉบับของพวกเขา บางคนอาจอาจใส่เสื้อกล้ามรัดรูปเพียงเพราะต้องการโชว์หุ่นอันบึกบึน แต่บางคนก็อาจใส่เสื้อผ้าแนวเซ็กซี่หวือหวาเพื่อประกาศอิสรภาพทางสังคม
เจริญ พูดถึงแฟชั่นการแต่งตัวของชาวสีม่วง ว่า "ช่วง 3 ปีมานี่เสื้อผ้าเกย์ขายดีมาก โดยเฉพาะก่อนไข้หวัดนกมีเท่าไรขายหมด ช่วงนั้นลูกค้าจีนฮ่องกงมาเที่ยวเมืองไทยเยอะ เขาชอบก็มาเหมาไป ผมว่าเดี๋ยวนี้เกย์เยอะมากนะ อาจจะเป็นเพราะเขากล้าเปิดเผยกันมากขึ้น กล้าแสดงออกกันมากขึ้น ด็อกต่งด็อกเตอร์เขาก็ออกมาเปิดตัวกันหมดแล้ว"
ขณะที่ สุจิตรา เจ้าของร้านเสื้อแถวสีลม บอกว่า "เดี๋ยวนี้เกย์เปิดเผยขึ้น กล้าแต่งตัวขึ้น เห็นชัดโดยเฉพาะ 2-3 ปีมานี่ เกย์แถวนี้เปิดเผยนะ ขายแต่เกย์(หัวเราะ) วัยรุ่นมาซื้อเยอะ อายุตั้งแต่ 20 กว่าๆ"
แหล่งแฟชั่นชาวสีม่วง
ร้านเสื้อผ้าสำหรับบรรดาชาวสีม่วงนั้นมีอยู่หลายแห่งด้วยกัน โดยเฉพาะย่านสีลม ประตูน้ำ จตุจักร และห้างสรรพสินค้าศูนย์รวมแหล่งแฟชั่นอย่างสยามเซ็นเตอร์ นอกจากนั้น ยังมีร้านขายส่งที่ห้างใบหยก ซึ่งส่วนใหญ่จะเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นถึงวัยทำงาน
สำหรับย่านสีลมซึ่งจัดเป็นศูนย์รวมแฟชั่นเกย์นั้นร้านเสื้อจะเปิดในช่วงเย็นจนถึงดึก คือตั้งแต่ประมาณ 3 โมงเย็นจนถึงตีหนึ่ง ซึ่งช่วงที่ขายดีจะเป็นช่วงก่อนผับเปิดและหลังผับเลิก
เจริญ เจ้าของแผงเสื้อแถบสีลมซอย 2 บอกว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาเที่ยวสถานบันเทิงแถวสีลม ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ
" พวกฝรั่งจะซื้อทีละเยอะๆนะ อย่างน้อยๆก็ 10 ตัวขึ้นไป บางคนซื้อ 30-40 ตัว แล้วฝากไว้ก่อน พอผับเลิกก็กลับมาเอา คือเสื้อผ้าบ้านเราราคาถูก มาเมืองไทยทีก็เหมาไปเลย แต่ฝรั่งจะต่อราคาเยอะนะ คนไทยต่อน้อย ซื้อครั้งละตัว 2 ตัว แต่มาซื้อบ่อยๆ เปลี่ยนไปตามแฟชั่น"
เท่าที่เราสังเกตดูร้านเสื้อของบรรดาชาวสีม่วงนั้นมีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นย่านสีลม จตุจักร หรือร้านเสื้อในห้างสรรพสินค้า
โจ หนุ่มน้อยวัย 20 ต้นๆที่กล้าเปิดเผยว่าเขาเป็นหนึ่งในชาวสีม่วง บอกว่า
" ส่วนใหญ่จะซื้อเสื้อผ้าแถวสีลม ชอบกางเกงยีนส์ เสื้อกล้ามเว้าหลัง ใส่แล้วเย็นสบายดี ผมเน้นเสื้อผ้าที่ใส่สบายมากกว่า ก็ตามแฟชั่นบ้าง แต่ไม่เน้นว่าจะต้องเป็นแบรนด์เนม ใส่ธรรมดา เสื้อตัวละ 120-150 บาท ส่วนมากจะมาซื้อช่วงเย็นๆนะ เพราะผมทำงานกลางคืน กลางวันก็จะหลับ(หัวเราะ)"
สำหรับย่านสยามเซ็นเตอร์นั้นจะมีร้านเสื้อเพื่อชาวสีม่วงอยู่ไม่ต่ำกว่า 4-5 ร้าน มีทั้งดีไซน์เรียบหรูดูไฮโซ และแนวหวือหวา สีสันบาดตาบาดใจ
ร้าน THEATRE บนชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์ ก็เป็นร้านหนึ่งที่ทำเสื้อเพื่อคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ แต่ร้านนี้จะจับกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นหลัก โดย ศิริชัย ทหรานนท์ ดีไซน์เนอร์และเจ้าของร้านจะเน้นเสื้อผ้าสไตล์หรูหรา เอาใจกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 19-35 ปี ด้วยคัตติ้งเฉียบ ดีไซน์แรง จึงมีไฮโซสีม่วงจำนวนไม่น้อยมาเลือกซื้อหาและเป็นลูกค้าประจำ มีทั้งแบบลำลอง และแบบหวือหวาใส่ไปงานปาร์ตี้
นอกจากนั้น ยังมีเสื้อผ้าแบรนด์เนมบางยี่ห้อที่แม้ไม่ได้ตั้งใจผลิตมาเพื่อเจาะตลาดชาวสีม่วงแต่ก็เป็นที่นิยมของหนุ่มกลุ่มนี้อยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น HOM , GUYSSODA หรือแม้กระทั่ง GREYHOUND
********
'X APPEAL' ร้านเสื้อเพื่อชาวสีม่วง
X APPEAL ร้านเสื้อสไตล์เฉี่ยวในซอยธนิยะช็อปปิงสตรีท ย่านสีลม ก็เป็นร้านหนึ่งซึ่งทำเสื้อผ้าเพื่อลูกค้าชาวสีม่วงโดยเฉพาะ
คุณกบ เจ้าของร้าน บอกกับเราว่า เสื้อผ้าของร้าน X APPEAL ไม่ได้อิงกระแสแฟชั่น แต่จะดีไซน์ตามแรงบันดาลใจของตัวเอง ด้วยความที่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ ดังนั้นเสื้อของร้านนี้จึงดูหวือหวา แบบที่เรียกว่า 'แรง' จริงๆ และแต่ละแบบจะเพียงตัวเดียว
"ชื่อร้านนี้ความหมายจะคล้ายคำว่า 'SEX APPEAL' นะ แต่แรงกว่า(หัวเราะชอบใจ) คือจะเอ็กซ์มากกว่าปกติ ช่วงเปิดร้านแรกๆเสื้อผ้าแรงกว่านี้อีกนะ เสื้อผ้าร้านพี่จะมีเว้านิดแหว่งหน่อย ดูหวือหวา คนที่ซื้อส่วนใหญ่จะใส่ไปงานปาร์ตี้หรือเที่ยวกลางคืนมากกว่า คงไม่ได้ใส่ไปเดินตามท้องถนนทั่วไป
แนวเสื้อของร้านพี่นี่ลูกค้าต่างชาติจะชอบนะ บางคนเข้ามาดูแล้วบอกว่า โอ้...UNSEEN ลูกค้าคนไทยบางคนมาเห็นบอดี้สูทแนบเนื้ออาจจะถามว่าเสื้อตัวนี้จะใส่ไปโอกาสไหน แต่ลูกค้าต่างชาติจะซื้อเลย จะไม่ถาม คือแฟชั่นบ้านเขาอาจเปิดกว้างกว่าเมืองไทย และไม่จำกัดรูปแบบ อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นลูกค้าประจำของร้านพี่คือพวกช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ซึ่งด้วยอาชีพของของ เขาก็จะต้องการเสื้อผ้าที่เก๋ๆ มีสไตล์ไม่เหมือนใคร เขาก็จะนึกถึงร้านเรา
อย่างสีขาว สีดำ หรือสีเข้มๆอย่าง น้ำตาล แดงอิฐ นี่อยู่ได้ตลอดนะ ลูกค้ามองว่าใส่แล้วดูหรู ดูเนี้ยบ ใส่ออกงาน ไปปาร์ตี้มันๆ นี่เหมาะมาก ส่วนสีแรงๆทำแกมาบ้าง แต่เราจะเปลี่ยนแบบไปตลอดนะ บางทีลูกค้าที่ซื้อไปติดใจ กลับมาดูอีก อ้าว! ไม่มีแบบทีเขาเคยเห็นแล้ว คือลูกค้าเรามีหลายกลุ่มด้วยก็ต้องทำออกมาหลายๆแนว"
คุณกบ ยังพูดแสดงความเห็นเกี่ยวกับสไตล์การแต่งตัวของชาวสีม่วง ในมุมมองที่ต่างออกไปว่า
"พี่มองว่าเดี๋ยวนี้เกย์กล้าเปิดตัวกันมากขึ้น แล้วก็แต่งตัวกันมากขึ้น แต่โดยส่วนตัวพี่มองว่าเกย์แต่งตัวเรียบลงนะ ไม่หวือหวาเหมือนเมื่อก่อน ช่วง 2-3 ปีก่อนเกย์ในไทยมีไม่เยอะ แล้วพวกนี้ก็จะต้องเป็นคนที่กล้าเปิดเผย ก็จะเปิดเผยด้วยการแต่งตัว แต่ทุกวันนี้เกย์รู้สึกว่าสังคมยอมรับแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวแรงๆเพื่อประกาศตัวว่าเป็นเกย์อีก เขาสามารถแสดงออกด้วยกิริยาท่าทาง ควงกันได้อย่างเปิดเผย เพราะสังคมไม่ได้ปิดกั้นอีกต่อไป หรือเกย์บางคนพออายุมากขึ้นก็จะไม่ค่อยแต่งตัวแล้ว เพราะวัยมันไม่ให้
อย่างตัวพี่เองก็ไม่แต่งตัวนะ คนจะบอกว่าทำไมเจ้าของร้านทำเสื้อผ้าสไตล์นี้แต่ไม่แต่งตัวเลย คืออายุเราไม่ใช่แล้ว แล้วเราไม่ใช่คนเซ็กซี่ พี่ทำเสื้อผ้าให้ลูกค้าดูเซ็กซี่ เพื่อให้ลูกค้ามีสไตล์ของตัวเองก็พอแล้ว"