วันศุกร์ ในคืนฝนพรำ .....
"โอ๊ย!! ทำไมวันนี้รถมันโคตรติดเลย แล้วนี่จะไปทันนัดไหมวะเนี่ย"
"บอย" (นามสมมติ) หนุ่มตัวเล็กร่างบาง สบถลั่นในระหว่างที่นั่งลุ้นอยู่หลังพวงมาลัยในรถเก๋งคันโก้ว่า วันนี้เขาจะไปทันนัดกับกลุ่มเพื่อนๆของเขาหรือเปล่า
สำหรับบอยแล้วยามทำงานปกติเขาคือมนุษย์เงินเดือนที่ขยันขันแข็ง แต่ว่าในยามนี้ที่พอถอดหัวโขนของการทำงานออก บอยคือ "เกย์" ผู้มีตัวเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงผู้ก๋ากั่น ที่หากถูกตาตาต้องใจกับชายคนใดแล้ว บอยยินดีหันหลังให้ผู้ชายคนนั้นหิ้วขึ้นเตียง หรือไม่เขาก็เลือกที่จะเป็นผู้ถูกหิ้วขึ้นเตียงเสียเอง
ในอดีตพฤติกรรมเยี่ยงนี้ถือเป็นที่น่ารังเกียจของสังคมไทย แต่ว่าเมื่อวันเปลี่ยน คืนผ่าน สังคมเปิด เกย์ถูกยอมรับในสังคมมากขึ้น ทำให้เกย์ในเมืองไทยสามารถใช้ชีวิตกันอย่างเปิดเผยได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
และก็เหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับบอยที่ในแทบทุกเย็นวันศุกร์ บอยและเพื่อนๆจะนัดกันหลังเลิกงานออกท่องราตรีของกรุงเทพฯ เพื่อดื่มกินสรวลเสเฮฮากันตามประสาคนไม้ป่าเดียวกัน ตั้งแต่หัวค่ำไปยังดึกดื่น ส่วนเกย์คนไหนหากต้องการที่จะขึ้นสวรรค์ในค่ำคืนนั้น ก็คงต้องใช้ความสามารถพิเศษไปเสาะหาชายหุ่นล่ำมาจุดพลังแห่งดำฤษณากันเอาเอง
แล้วที่ไหนในเมืองกรุงบ้างล่ะ ??? ที่เหล่าสมาชิกก๊วนเกย์มักจะนิยมไปนั่งดื่มด่ำ ดูดดื่ม หรือไปนั่งจุดอารมณ์สีม่วง รวมถึงไปนั่งเหล่หนุ่มหล่อล่ำ สำหรับเรื่องนี้ บอยมีคำตอบบางส่วนให้ ซึ่งบอยคนนี้คือคนละคนกับ"บอยไม่ดื่มฮ่ะ" แห่งโฆษณาเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง แต่บอยคนนี้เธอชอบดื่มและชอบเที่ยวตามประสาคนสีม่วง ที่วันดีคืนดีเราๆท่านๆอาจจะเจอบอยนั่งดื่ม ส่งสายตาหวานซึ้งอยู่ตามมุมต่างๆของร้านเหล่านี้ก็เป็นได้
"ลาบแจ๊ส" จุดอารมณ์เกย์ ปลุกเสน่ห์พลังสีม่วง
สำหรับค่ำคืนนี้ที่ฝนพรำ "บอย" นัดกับบรรดาเพื่อนๆก๊วนเกย์มาสรวลเสเฮฮา และร่ำสุราจุดอารมณ์กันที่ ร้าน"ลาบแจ๊ส" ย่าน อ.ต.ก. (จตุจักร) ซึ่ง ณ ตอนนี้ร้านอาหารส่วนใหญ่ของย่าน อ.ต.ก. กลายเป็นแหล่งรวมพลคนสีม่วง ที่ชาวเกย์ต่างรู้จักกันดี
....20.30 น. ณ ร้านลาบแจ๊ส...
"เฮ้อ!! มาถึงจนได้ ไม่รู้ว่าพวกอี....จะมาถึงกันหรือยัง" บอยรำพึงรำพันกับตัวเอง พร้อมกับสืบเท้าก้าวเข้าร้าน
คืนนี้บอยเลือกที่นั่งมุมติดกระจกด้านนอกสุดของร้าน พร้อมกับกวาดตามองหากลุ่มเพื่อนๆที่นัดไว้ แต่ทว่าก็ยังคงไร้ซึ่งเงาของเพื่อนๆบอย
ถึงแม้ว่าเพื่อนยังไม่มา แต่ว่าบอยก็ไม่เหงาใจ เพราะจะว่าไปแล้วร้านนี้ถือเป็นร้านประจำที่แม้ว่าจะมานั่งคนเดียว แต่บอยก็ยังคงมี "สิทธิ์ วรรณสิทธิ์" หรือ "แหม่ม" เจ้าของร้านลาบแจ๊ส เป็นเพื่อนพูดคุยยามที่บอยหาคนคุยไม่ได้
สำหรับคืนนี้บอยได้เปิดประเด็นสนทนากับแหม่มเกี่ยวกับเรื่องราวของร้านลาบแจ๊ส เพราะได้ข่าวมาว่าอีกไม่นานพี่แหม่มจะมีการปรับปรุงร้าน ซึ่งเรื่องที่น่ายินดีสำหรับบอยก็คือ แหม่มได้ปรับแต่งร้านให้มีพื้นที่เพื่อเกย์มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาสมาชิกชาวเกย์ถือเป็นลูกค้ามกลุ่มใหญ่ของร้านลาบแจ๊ส และอีกหลายๆร้านๆในย่าน อ.ต.ก.
"ได้ข่าวว่า พี่แหม่มจะปรับร้านใหม่ จะปรับเป็นแนวไหนล่ะ บอกบอยหน่อยได้เปล่า" บอยยิงคำถามใส่
"รูปแบบมันก็ต้องร่วมสมัยหน่อย แต่ไม่ถึงกับทันสมัยมาก เราต้องการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพราะที่ผ่านๆมาพวกเกย์อย่างบอยนิยมมานั่งกันมาก แต่ว่าพี่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะทำร้านให้เป็นร้านอาหารเกย์หรอกนะ เพราะร้านเพื่อเกย์อายุมันสั้น ร้านลาบแจ๊สเราอยู่มาตั้ง 13 ปี เมื่อจะปรับก็คงทำให้มันคลาสสิกหน่อย แต่ว่าพี่จะปรับร้านให้มันมีมุมที่ตอบโจทย์ของพวกเกย์มากขึ้น"
"ที่พี่จะทำให้เห็นชัดเจน ก็คือตั้งใจว่าจะทำห้องน้ำเกย์ เพราะเมื่อเกย์เข้าร้านนี้เยอะ เราก็อยากทำอะไรเพื่อคนกลุ่มนี้บ้าง แต่ยังไม่ได้ทำตอนนี้รอให้ออกแบบก่อน และก็ว่าอยากจะหาดีเจที่เป็นเกย์สักคนมาเปิดแผ่นให้ชาวเกย์โดยเฉพาะ เผื่อว่าจะได้เข้าใจอารมณ์อยากฟังเพลงคนกลุ่มเดียวกันมากขึ้น" คำตอบนี้ของแหม่มเล่นเอาบอยดีใจ เพราะว่าอย่างน้อยก็ยังมีคนเห็นความสำคัญของคนกลุ่มเล็กๆ อย่างบอยบ้าง
"เออนี่บอยมานั่งกินจนนับครั้งไม่ถ้วน แล้ว แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมร้านนี้มันถึงชื่อว่าร้านลาบแจ๊สล่ะ" บอยยิงคำถามอีก
"อ๋อ...ชื่อร้านนะเหรอ มาโดยบังเอิญ ด้วยความที่พี่เป็นคนอีสาน ตอนเปิดร้านก็ไม่ได้ตั้งใจทำเป็นร้านอาหารใหญ่โตอะไรหรอก เพราะว่าเงินมันน้อย เราทำกันเอง แต่ว่าพอมันตกแต่งดีเกินไป มันก็เลยกลายเป็นร้านอาหารขึ้นมา เลยต้องมีชื่อร้าน ก็นึกไม่ออกว่าจะใช้ชื่ออะไรดี พอดีพี่ชอบฟังเพลงแจ๊ส เพลงบลูส์ แล้วก็ถนัดอาหารอีสาน ก็เลยกลายเป็น "ลาบแจ๊ส" ตอนแรกใช้ลาบแกล้มแจ๊สก่อน แต่แม่บอกว่าคำว่าแกล้มไม่ดีให้ตัดออก พี่ก็เลยใช้ "ลาบแจ๊ส" และสไตล์ร้านเมื่อก่อนไม่ได้เป็นสไตล์โมเดิร์นแบบนี้ เมื่อก่อนเป็นสไตล์น่ารักๆ"
"เป็นเรสเทอรองต์อย่างเดียวไม่ใช่ผับ เป็นร้านอาหารแบบเข้ามานั่งกินสบาย ๆ มีทั้งกลุ่มลูกค้าหลากหลาย ทั้งชาย หญิง รวมถึงเกย์ก็มีบ้าง แล้วพอช่วงหนึ่งที่พี่ปรับโฉมร้านมีดีเจมาเปิดเพลง พอกลางคืนก็สนุก คนก็เต้นรำกัน คราวนี้พอศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์คนก็ติดเข้ามาเต้นรำกัน แล้วก็มีกลุ่มชาวเกย์อย่างบอยนี่ล่ะที่เข้ามากันเยอะมากๆ จนกลายเป็นว่าร้านพี่เป็นร้านชุมนุมชาวเกย์ไปเลย" แหม่มตอบบอยแบบอมยิ้มเล็กน้อย
"แล้วไม่ดีเหรอลูกค้าอย่างบอยนะ ถามจริงเถอะในสายตาและความรู้สึกของพี่มองลูกค้าที่เป็นเกย์อย่างพวกบอยเป็นยังไง" บอยยิงคำถามนี้ใส่แหม่ม แล้วรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
"ก็ดีนะ ลูกค้าแบบพวกบอยก็ดี น่ารักดี ดูสนุกๆ กันดี เพราะว่าพี่ทำงานบริการไม่สามารถจะเลือกได้หรอก ทุกคนก็ลูกค้าเหมือนกันหมดไม่ว่าจะเพศไหน" คำตอบจากพี่แหม่มทำเอาบอยยิ้มแก้มแทบปริ
หลังจากนั้นแหม่มก็ขอตัวไปดูแลลูกค้าคนอื่น ปล่อยบอยให้นั่งอยู่คนเดียวอีกครั้ง แต่ว่าก็เป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพราะหลังจากนั้นไม่นานบอยก็มีเพื่อนคุย
ปกรณ์ ดุลยกรณ์ หรือ พี่เปิ้ล เป็นอีกหนึ่งชาวเกย์ที่เปิดเผยตัวและชอบมานั่งที่ร้านลาบแจ๊สแห่งนี้ เรียกว่าทุกครั้งที่บอยมานั่งร้านนี้ บอยเจอพี่เปิ้ลแทบทุกครั้ง
สำหรับเหตุผลที่เปิ้ลชอบมานั่งร้านลาบแจ๊สนั้น เขาได้บอกกับบอยว่า
"พี่ชอบบรรยากาศของร้านนี้ เพราะมันน่านั่งและทางร้านก็เปิดเพลงไม่แรงเกินไป พี่ชอบแบบมานั่งคุยสังสรรค์กันก่อน ถ้ามีอารมณ์อยากเต้นก็เต้นได้นิดนึง ไม่ถึงกับว่าไปถึงต้องไปเต้นเลย และอีกอย่าง อยู่ที่ร้านนี้มันได้หลายอารมณ์ ตอนหัวค่ำก็นั่งคุยกัน ดึกๆ หน่อย คนเริ่มเยอะก็ลุกไปแดนซ์กัน ทำให้ได้ 2 อารมณ์ในร้านเดียว ไม่ต้องลุกไปไหนเลย ที่เดียวจบ อาทิตย์นึงพี่จะมา 2 วัน เสาร์กับอาทิตย์ มารีแลกซ์ มาฟังเพลง กินข้าว เวลาที่พี่มาแหล่งที่มีเกย์เยอะๆ แบบที่นี่ มันเหมือนว่าพี่ได้มาเจอเพื่อนฝูง ได้มารีแลกซ์"
เปิ้ลรัวคำตอบเป็นชุด ก่อนที่จะยิงคำถามใส่บอยบ้าง "แล้วบอยล่ะทำไมถึงชอบมาที่นี่"
กับเรื่องนี้บอยตอบแบบไม่ต้องครุ่นคิดอะไรมากว่า
"ที่ชอบมาที่ร้านลาบแจ๊ส เพราะโดยรวมมันก็ดูสบาย ๆ แล้วก็ไม่หรูมาก ไม่โลโซมาก ไม่ไฮโซมาก มันเป็นอะไรที่พอนั่งได้ ราคาไม่ถึงกับสูงมาก มานั่งกินข้าว เมาท์กับเพื่อนสบายๆ มาฟังเพลง ที่นี่เปิดเพลงดี รวมๆ แล้วก็โอเคนะพี่ แล้วก็แบบว่าได้มามองหาออเดอร์หนุ่มๆ นิดหน่อย ได้มั่งไม่ได้มั่งก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มาแล้วได้เพื่อนคุย แล้วมันเป็นถิ่นที่เกย์มาเยอะเข้าไปนั่งแล้วบอยรู้สึกว่าไม่แปลก บางร้านที่บอยเข้าไปแล้วรู้สึกแปลก บอยจะขาดความมั่นใจ"
บอยกับพี่เปิ้ลนั่งคุยกันอยู่สักพัก โทรศัพท์มือถือบอยก็ดังขึ้น พร้อมกับมีเสียงจากปลายสายของเพื่อนๆบอยว่า คืนนี้พวกเขาได้ไปรอบอยอยู่ที่ "สีลม" แล้ว
"อีห่...ย้ายที่กันก็ไม่ยอมบอก ปล่อยให้กูนั่งหง่าวอยู่คนเดียว" บอยสบถก่อนที่จะออกจากร้านลาบแจ๊สมุ่งหน้าสู่สีลม แหล่งรวมพลชาวเกย์อันอมตะนับจากอดีตถึงปัจจุบัน
"สีลม" แหล่งรวมพลคนสีม่วง
....23.00 น. ณ ย่านสีลมที่ครึกครื้น...
"มันต้องอย่างนี้สิ ยามราตรีอันมีสีสันของฉัน" หลังจากนั่งโดดเดี่ยวคนเดียวที่ร้านลาบแจ๊ส พอบอยได้มาสทบกับเพื่อนร่วมก๊วนเกย์ที่สีลม บุคลิกของเขาก็ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า จากที่นั่งคนเดียวอย่างเงียบๆ ติ๋มๆ แต่พอบอยมาเจอสมาชิกเท่านั้นแหละ เขาก็ออกอาการเกย์อย่างสุดเหวี่ยงในระดับแรดเรียกพี่
สำหรับก๊วนของบอยคืนนี้เมื่อมายังสีลม พวกเขาเลือกที่จะนั่งจิบกาแฟ พร้อมหาอะไรกินรองท้องที่ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยเป้าหมาย ที่ข้างในซอยมากไปด้วยผับและบาร์เกย์ ซึ่งมันก็ทำให้หลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่าร้านฟาสต์ฟู้ดร้านนี้เป็นร้านเกย์ไปโดยปริยาย
คืนนี้บอยกับเพื่อนๆเลือกนั่งในร้าน โดยพวกเขาไม่เพียงแค่นั่งจิบกาแฟ และกินอาหารรองท้องเท่านั้น แต่ว่าพวกเขายังใช้โอกาสนี้ สอดส่ายสายตาเมียงมองชายหนุ่มเอ๊าะๆหน้าตาดีที่อยู่ในร้าน หรือ หนุ่มหล่อล่ำที่ผ่านไปมา ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องปกติของบอยและเพื่อนๆก๊วนเกย์ เพราะหากใครได้ออเดอร์เป็นชายถูกตาต้องใจหนีบไปด้วย คืนนี้สวรรค์ของพวกเขาและเธออยู่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้นเอง
แต่ในคืนนี้ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้างบอยและเพื่อนๆเอาเสียเลย เพราะออเดอร์ที่เล็งไว้ส่วนใหญ่มาเข้าตาของพวกหล่อน หรือใครที่เข้าตาก็น่าเสียดายว่าเขาดันควงชะนีมาท่องราตรีที่สีลมไปเสียฉิบ !!!
เมื่อนั่งจนเมื่อยตุ้ม ไม่มีออเดอร์เข้า บอยกับสมาชิกชาวเกย์จึงย้ายก๊วนเข้าไปยังสีลมซอย 4 แหล่งชุนนุมของชาวเกย์ยอดฮิต ที่โด่งดังไปไกลถึงอินเตอร์ ชนิดที่ว่าเกย์คนไหนก็ต้องแวะเวียนมาที่ซอยนี้ให้ได้ทุกคืน เพราะที่ซอยนี้มีร้านอาหารแบบผับ บาร์ตั้งอยู่เต็มไปหมดตั้งแต่ต้นซอย ยันท้ายซอย
ณ สีลมซอย 4 ราตรีนี้ก็คงเป็นเหมือนเช่นราตรีที่ผ่านๆมา คือ ตามผับบาร์ล้วนแต่คึกคักไปด้วยแสงสี และสีสันของผู้คนทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และคนประเภทเกย์อย่างบอยที่มีเยอะที่สุดในซอยนี้ ซึ่งที่นี่มีทั้งเกย์ไทย เกย์ต่างชาติ ที่ต่างก็เดินกันขวักไขว่เต็มซอยในบรรยากาศแบบเกย์ที่มีทั้ง หวานซึ้ง เขินอาย เร่าร้อน และหื่นกระหาย
สำหรับบอยและเพื่อนๆ พวกเขา หรือ พวกหล่อน ตัดสินใจเดินเข้าร้าน "เทเลโฟน" ซึ่งนอกจากจะเป็นร้านที่บอยคุ้นเคยเป็นอย่างดีแล้ว ร้านเทเลโฟน ยังเป็นร้านเกย์ที่เปิดเผยและเป็นร้านเพื่อชาวเกย์โดยเฉพาะ
"ว่าไงพวกหล่อน วันนี้ทำไมช้าจัง"
ชยังกูร อาดำ หรือ "ทัย" ผู้จัดการร้านเทเลโฟน ทักทายบอยทันทีที่เขาเดินเข้ามาในร้าน
"ก็อี...มันเบี้ยวนัด บอกให้บอยไปนั่งรออยู่ที่ร้านลาบแจ๊สคนเดียวตั้งนาน ส่วนมันไปแรดอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้" บอยตอบกลับเจ้าของร้านพร้อมกับใช้โอกาสนี้เอาคืนเพื่อนจอมเบี้ยว
"เอ้านั่งกันก่อน เดี๋ยวพี่มานั่งคุยด้วย" ทัยบอกน้องๆ
สำหรับบอยแล้วร้านเทเลโฟนถือว่าเป็นหนึ่งในดินแดนแห่งความอบอุ่นของเขา เพราะทัยนั้นได้ทำร้านนี้ขึ้นมาเพื่อชาวเกย์โดยเฉพาะ โดยทัยได้บอกกับบอยว่า ร้านเทเลโฟนถือเป็นร้านเกย์ที่เปิดเผยแห่งแรกของไทยเลยก็ว่าได้ โดยร้านนี้ เปิดมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2530 นี่อีกไม่กี่วันก็จะครบ 18 ปี แล้วช่วงวันที่ 14-18 มิ.ย.ทางร้านเทเลโฟนก็จะมีงานฉลอง 18 ปี
ส่วนที่ใช้ชื่อว่า เทเลโฟนนั้น ทัยได้บอกกับบอยว่า มาจากคำว่าโทรศัพท์ เพราะที่โต๊ะแต่ละตัวจะมีโทรศัพท์ตั้งอยู่ นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกหลายซอกหลายมุมในร้าน พร้อมๆกับมีหมายเลขติดเอาไว้ด้วย
"เมื่อ 18 ปีที่แล้ว เราเปิดโอกาสให้คนที่เข้ามาเที่ยวที่นี่มาจีบกันตรง ๆ แต่ว่าพวกเขายังคงอายกันอยู่ เราก็เลยหาวิธีให้พวกเขาจีบกันด้วยวิธีการการยกหูโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่ตามโต๊ะแต่ละตัว สมมติว่าเรานั่งอยู่ข้างบน แต่คนที่เราชอบนั่งอยู่ด้านล่าง เราก็ยกโทรศัพท์แล้วก็หมุนไปตามเบอร์ แล้วก็คุยกับคนที่เราแอบชอบหรือแอบมองอยู่ ถ้าเค้าคุยด้วยก็เป็นการเริ่มต้นสานสัมพันธ์จากนั้นก็นัดมานั่งดื่มด้วยกัน คุยด้วยกัน" ทัยอธิบายรายละเอียดให้บอยฟัง
"แหม!! เริด เสียไม่มี เดี๋ยวคืนนี้บอยปิ๊งใครจะโทรศัพท์ไปบอกรักเขาตรงๆ เลย" บอยพูดขึ้นมาด้วยอารมณ์แบบขำๆ
ในคืนนั้น ระหว่างที่รอหาคนถูกใจเพื่อโทรศัพท์ไปหา บอยกับเพื่อนๆก็พูดคุยกับบอยอยู่พักใหญ่ ในบรรยากาศอันสนุกสนาน ที่ยิ่งดึกร้านผู้คนก็ยิ่งเดินเข้าร้านเทเลโฟนมากขึ้น ส่วนเสียงเพลงในร้านก็เริ่มเพิ่มจังหวะและความดังขึ้น หลายๆคนตามโต๊ะเริ่มขยับแข้งขยับขา โยกตัวไปมาตามจังหวะเสียงเพลง แต่ว่าไม่มีใครเดินออกไปแดนซ์กระจาย เพราะว่าที่ร้านเทเลโฟนนี้ไม่อนุญาตให้ลูกค้าเต้น ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มานั่งดื่ม กิน และโทรศัพท์ เมื่อออกอาการเกย์ก็เพียงแค่ขยับขา ขยับตัวตาม
ส่วนใครที่เกิดอารมณ์อยากเต้น ก็ต้องไปตระเวนหาที่แดนซ์เอาเอง ส่วนใครที่มีความสามารถงานนี้อาจมีคู่ควงที่จีบได้ทางโทรศัพท์หนีบติดไปด้วย
สำหรับบอยคืนนี้แม้ว่าจะเป็นคืนอับโชคที่หาคนคู่เคียงไม่ได้ แต่ว่าเมื่ออารมณ์อยากแดนซ์เดินทางมาถึงพิกัดสูงสุด บอยกับเพื่อนๆจึงหาทางออกให้กับตัวเองด้วยการย้ายจากร้านเทเลโฟนไปยังสีลมซอย 2 เพื่อแดนซ์กระจายให้หนำใจ
...01.15 น. สีลมซอย 2 ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน....
สีลมซอย 2 ในยามราตรีดึกดื่นเช่นนี้ คึกคักเกินคำบรรยาย เสียงเพลงจังหวะเร้าใจ ดังกระหึ่มออกมาจากหลายๆ ร้านที่ตั้งติดกันเป็นแถวทั้ง 2 ฝั่งของในซอย และคลาคล่ำไปด้วยบรรดาชาวเกย์ที่เดินวนเข้าวนออกร้านในซอยนี้กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเกย์ชาวไทย ที่ล้วนแล้วแต่หุ่นมาดแมน กล้ามโต หน้าตาดี เดินอวดโฉมกันเต็มซอย เกย์ต่างชาติก็มีบ้างเล็กน้อย
"นี่ล่ะ คือที่ที่ฉันปรารถนา ผู้คน (ชาวเกย์) เสียงเพลง และการเต้นระบำ" บอยรำพันบทเพลง พร้อมๆกับขยับกายเข้าไปในร้านแห่งหนึ่ง ที่มีเสียงเพลงดังกึกก้อง และผู้คนด้านในที่เกือบทั้งร้านเป็นชาวเกย์ กำลังเต้นระบำโยกย้ายตัวไปตามจังหวะเพลงอย่างเมามัน
บอยกับเพื่อนๆแทรกตัวผ่านผู้คนที่กำลังเต้นระบำกันอย่างเมามัน โดยบอยหามุมที่พอจะให้สองขาน้อยๆ มีที่ยืนที่มั่นคง จากนั้นหล่อนก็วาดลวดลายแดนซ์กระจายตามอารมณ์เมามันอย่างสนุกสนาน เปรียบประหนึ่งว่าบอยกำลังปลดปล่อยเอาความเครียด ความเศร้า และความเหงาหงอยที่มีอยู่ในใจ ให้มลายหายไป พร้อมๆ กับรัตติกาลอันมีสีสันที่ชาวเกย์อย่างบอยพึงปรารถนา...
* * * *
แหล่งรวมพล คนเป็นเกย์
สำหรับชาวเกย์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นเกย์รุ่นเดอะ หรือว่าเกย์น้องใหม่ คงอยากจะรู้ว่ายังมีแหล่งกิน แหล่งเที่ยว ที่ไหนอีกบ้างที่เป็นแหล่งชุมนุมชาวเกย์ งานนี้เกย์อย่างบอยกับเพื่อนๆ ได้ขันอาสา รวบรวมแหล่งร้านอาหาร ผับ บาร์ ที่ว่าฮอตฮิตในหมู่ที่ชนชาวเกย์ชอบไปมากำนัลแก่แฟนานุแฟนชาวเกย์ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่ร้านอาหารเกย์ แต่ว่าเป็นร้านขายอาหารปกติสำหรับทุกคนทุกเพศทุกวัย เพียงแต่ว่าในบางช่วงเวลาร้านเหล่านี้จะมีเกย์นิยมไปนั่งกันมากเป็นพิเศษ
ย่านถนนสีลม กรุงเทพฯ
Telephone ตั้งอยู่ที่สีลมซอย 4 (เกย์ฮิตสุดในซอย 4) เป็นร้านอาหาร กึ่ง ผับ มีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเยอะและมีนักเที่ยวชาวไทยด้วย ด้านในร้านเปิดเพลงคึกคัก แต่ไม่มีการเต้นระบำกันอย่างจริงจัง แค่นั่งตามโต๊ะโยกตัวตามเพลงเล็กน้อย บางคนที่ยืนตรงบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ก็จะยืนคุยกัน เมาท์กันทั่วไป ด้านหน้าร้าน มีโต๊ะให้นั่งเยอะ (Out door) สำหรับคนที่ไม่อยากอยู่ในห้องแอร์
Balcony ตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้าน Telephone ร้านนี้ก็เหมือนกับร้านเทเลโฟน มีเกย์ฝรั่งมานั่งกันตรึม เกย์ไทยก็เยอะ เปิดเพลงสนุก ๆ แต่ไม่มีการ Dance แค่มานั่งเมาท์กันตามประสาเท่านั้น
Sphinx Restaurant & Pub ร้านนี้อยู่เกือบสุดซอย 4 เลยร้าน Balcony เข้าไปด้านใน เป็นร้านอาหารกึ่งผับ ไม่มี Dance มีแต่ดีเจเปิดแผ่น เกย์ชาวไทยและชาวต่างชาติชอบมานั่งกัน รวมทั้งมีกลุ่มนักเที่ยวราตรีที่เป็นทั้งผู้ชายและผู้หญิงมานั่งเหมือนกัน
JJ. Park ตั้งอยู่ที่ถนนสีลมซอย 2 เป็นร้านอาหารกึ่งผับ ที่มานั่งทานอาหารและฟังเพลง ไม่มี แดนซ์ แต่มีโชว์ร้องเพลงจากนักร้องทุกวัน เจ๊โจแอนก็มาร้องเพลงโชว์ที่นี่ด้วย ที่ร้านนี้ส่วนมากจะมานั่งเม้าท์กัน แต่เกย์ตรึมซึ่งส่วนมากจะเป็นคนไทย มีชาวต่างชาติบ้างเล็กน้อยไม่มาก
Club Caf? เป็นร้านเล็กๆ อยู่ในซอย 2 ถนนสีลม ตกแต่งสไตล์แขกนิด ๆ พนักงานเสิร์ฟ ใส่ชุดประมาณเจ้าชายอาราดิน ร้านนี้ไม่มีการแดนซ์ มีแต่เปิดแผ่นเพลงเก๋ ๆ ให้ฟัง ร้านนี้เหมาะที่จะแค่มานั่งจิบค็อกเทล ดื่มแบบเบาๆ นั่งเม้าท์กันสไตล์เพื่อนฝูง
DJ. Station ตั้งอยู่ที่ถนนสีลมซอย 2 ที่นี่เป็นดิสโก้เธคล้วน ๆ มาเต้นระบำกันลูกเดียว แดนซ์กระจาย เปิดเพลงสากลกิ๊บสุด ๆ สำหรับพวกทันสมัย และอินเทรนด์กับเพลงมันส์ ๆ เป็นร้านที่ฮิตที่สุดสำหรับชาวเกย์ในเวลานี้ ดังที่สุดในเมืองไทย นอกจากเกย์ชาวไทยแล้ว เกย์ต่างชาติก็มากันตรึม ยิ่งดึกยิ่งคนเยอะ มี Lips sing โชว์ทุกคืน หลังจากโชว์เสร็จก็แดนซ์กันกระจาย ร้านนี้ถือว่าดีที่สุดสำหรับเธคเกย์
The Expresso อยู่ในสีลมซอย 2 ร้านในสุดซ้ายมือ อยู่ตรงกันข้ามกับร้าน DJ. Station เป็นร้านยอดฮิตของบรรดาชาวเกย์คนไทย โดยเฉพาะวัยรุ่นไทยมากันเยอะ (วันศุกร์และเสาร์) เปิดแผ่นเพลงเต้นรำทันสมัยด้วยดีเจสาวสวย (ประเภทสอง) ในชุดพยาบาลสาว 3 คน เปิดแผ่นไปบางครั้งก็วาดลวดลายขึ้นมาโชว์ โดยปีนเคาน์เตอร์บาร์โชว์ Lips Sing (ไม่มีเวทีโชว์เหมือนร้าน DJ.) เปิดเพลงดี จังหวะกำลังน่าขยับเต้น ไม่แรงเกินไป
Freeman Dance Arena ร้านนี้อยู่เลยสีลม ซอย 2 ไปนิดหนึ่ง อยู่ในซอยระหว่างทางเดินไปซอย 4 ถือว่าเป็นร้านที่มีการโชว์ Lips Sing ได้เลิศและเก๋สุดในกรุงเทพฯ มีโชว์ทุกคืนประมาณเที่ยงคืนนิด ๆ โชว์ไม่ซ้ำกันเลยสักวันหลังจากโชว์เสร็จ ก็จะเปิดแผ่น แดนซ์กัน มีทั้งเกย์ชาวไทยและเกย์ต่างชาติ
ย่านอ.ต.ก. (จตุจักร) กรุงเทพฯ
Larb Jazz (ลาบแจ๊ส) pub & restaurant ถือว่าเป็นร้านที่รวมวัยรุ่นชาวเกย์ แต่ก็มีกลุ่มชายหญิงเข้ามานั่งบ้าง ช่วงเย็นจะมีกลุ่มหนุ่มสาววัยทำงานหลังเลิกงานแล้วมานั่งทานข้าว แต่พอหัวค่ำก็จะเริ่มมีกลุ่มชาวเกย์มานั่งกินข้าวกันมากขึ้น แล้วพอสัก 3 – 4 ทุ่ม ก็จะเริ่มเต็มร้าน โดยเฉพาะวันศุกร์และวันเสาร์ ช่วงเย็นเปิดเพลงไทย และเพลงสากล เบา ๆ เพราะ ๆ ซึ้งๆ แล้วเริ่มสปีดจังหวะให้เร้าใจขึ้นเรื่อย ๆ พอตกมืดหน่อย เริ่มดึก ก็จะกลายเป็นแดนซ์กันตามจังหวะ คนไม่แน่นมากกำลังดี
Moke ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านน้องใหม่เพิ่งจะเปิดตัวในย่าน อ.ต.ก. แต่ว่ามาแรงสุด ๆ ชาวเกย์เต็มร้าน มีทั้งโชว์ Lips Sing มีทั้งแดนซ์กระจาย แต่งร้านด้วยผ้าม่านสีชมพูสด ยาวลงมาจากเพดานถึงพื้นเก๋ไก๋ชวนนั่งสุดๆ
ICY ร้านนี้ถือเป็นร้านที่มีเกย์มาเยอะที่สุดในย่าน อ.ต.ก. ก็ว่าได้ มาแดนซ์กัน แน่นร้าน (เกย์สาวจะเยอะเป็นพิเศษ) เป็นร้านที่ได้รับความนิยมสำหรับชาวเกย์ขาแดนซ์ มาเต้นระบำกัน แดนซ์กันสุดเหวี่ยง
Volcano ร้านนี้มีผู้ชาย ผู้หญิง และเกย์เข้าไปแดนซ์กันแน่นร้าน เกย์วัยรุ่นรู้จักร้านนี้ดีชอบมาแดนซ์กัน
ย่านถนนรามคำแหง ซอย 89 / 2 แยกลำสาลี
Club Love เป็นสไตล์ร้านอาหารกึ่งผับ ร้านนี้เก๋สุดในย่านนี้ เป็นร้านที่มีชาวเกย์มานั่งเมาท์ และฟังเพลง โยกตัวตามจังหวะ มีโชว์ร้องเพลง เจ๊โจแอนก็มาร้องที่นี่ด้วย
ICK ร้านนี้เป็นแนวดิสโก้เธคนะ เพราะเปิดเพลงแดนซ์กันกระจายเต็มร้าน ชาวเกย์มากันแน่นขนัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเกย์วัยรุ่น
SEE MAN ชาวเกย์ตรึมนั่งกันแน่นร้าน มีโชว์ และเปิดแผ่นแดนซ์กันกระจายตั้งแต่หัวค่ำไปจนดึกดื่น