xs
xsm
sm
md
lg

ปลุกกระแส"สักยันต์" ศาสตร์แห่งคุณพระ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตั้งแต่นางเอกสาวบู๊เซ็กซี่ของฮอลลีวูด แองเจลินา โจลี ที่เจาะจงมาเมืองไทยเพื่อสักยันต์กับอาจารย์หนูจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ถือเป็นการปลุกกระแสการ "สักยันต์" ให้กลับมาฮิตอีกครั้ง เพราะตอนนี้ทั้งดารา นักธุรกิจตลอดจนข้าราชการและคนทำงานทั่วไปแห่กันไปสักยันต์กันจนต้องวิ่งไปจองคิวตั้งแต่เช้าตรู่ ยันต์ยอดฮิตที่นิยมสักกันมีอะไรบ้าง และข้อห้ามของการสักยันต์มีอะไร ลองไปไขปริศนากันดู

การสักยันต์ในอดีต ทำเพื่อป้องกันตัว สำหรับผู้ชายที่ต้องไปออกรบเพื่อกู้ชาติบ้านเมือง เปรียบเป็นเครื่องรางของขลังอย่างหนึ่งของนักรบ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ยาวมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือแม้แต่สงครามเอเชีย-บูรพา เพราะคนเชื่อว่า ถ้าสักยันต์แล้ว มนตรา อำนาจแห่งรอยสักจะช่วยคุ้มครอง และป้องกันภยันตรายจากคมมีด คมดาบ หรือลูกกระสุนได้ ดังเช่นภาพยนตร์ที่นำมาจัดทำเพื่อให้เห็นอำนาจแห่งรอยสัก อย่างจอมขมังเวทย์ หรือมหาอุตม์

จนเวลาล่วงมาถึงยุคที่เมืองไทยไม่มีสงคราม เข้าสู่ยุคขาโจ๋ที่มองการสักเป็นเรื่องของแฟชั่นหรือเป็นงานศิลปะบนเรือนร่างที่มีไว้เพื่อเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดใจเพศตรงข้ามมากกว่าจะมองเป็นเรื่องคาถาอาคม ดังนั้นลวดลายสักของขาโจ๋วจึงไม่เหมือนลายสักยันต์โดยสิ้นเชิงรวมถึงไม่มีการลงคาถาอาคมด้วย เพราะส่วนมากจะเป็นลายศิลปะงดงามอ่อนช้อยหรือเป็นลวดลายงานศิลปะของพวกเมาลีที่แลดูสวยงามและแปลกตา พวกที่รับจ้างสักจึงกลายเป็นพวกศิลปินที่ร้านเล็ก ๆ ตามย่านชุมชนใหญ่ ๆ ส่วนพื้นที่ที่นิยมสักของวัยรุ่นหนุ่มสาวยุคใหม่ก็จะหันมาสักบนเรือนร่างที่สามารถโชว์รอยสักได้ถ้าดูแล้วเซ็กซี่ยิ่งถูกวัตถุประสงค์ของการยอมลงทุนเจ็บตัวทีเดียว อย่างเช่นสะโพก เนินอก ไหล่ หน้าท้อง สะดือ ข้อเท้า เป็นต้น


"คนดัง" แห่สักยันต์
 
จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระแสการสักยันต์ดูจะกลับมาร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสำนักอาจารย์หนู กันภัย ที่ขึ้นชื่อลือมานมนาน ผู้ที่จุดพลุกระแสการสักยันต์ขึ้นมาใหม่นั้นคงต้องยกให้ดาราฮอลลีวูดชื่อก้องโลก อย่าง แองเจลีนา โจลี นางเอกภาพยนตร์"ทูมไรเดอร์" ที่ดอดบินมาเมืองไทยมุ่งตรงมาสักยันต์กับอาจารย์หนู โดยดาราสาวบู๊คนนี้เธอเปิดหัวไหล่ด้านซ้ายให้อาจารย์หนูลงอักขระขอม 5 แถว เป็นยันต์"หนุนดวง" จะทำให้มีโชคลาภและป้องกันอุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง และอีกแห่งคือก้นกบสักรูปเสือโคร่งพร้อมอักขระขอมเป็นยันต์หัวใจมหาเศรษฐี

แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวว่าพระเอกสุดหล่อหน้าหวานของฮอลลีวู้ดอย่างแบรด พิตต์ ที่เคยรักกันจี๋จ๋ากับเจนิเฟอร์ อานิสตัน จนกลายเป็นคู่ที่ใครต่อใครต้องอิจฉา แต่พอแองเจลีนา เปิดรอยสักให้พระเอกหน้าหวานดูจนโดนนะจังงังถึงกับยอมหย่ากับภรรยาคนสวยทันที แต่ทั้งหมดยังเป็นหนึ่งในสมมุติฐานของการสะบั้นรักของคู่รักคู่ร้างคู่นี้เพราะยังไม่มีใครออกมาเปิดปากพูดเรื่องจริง

อีกกระแสข่าวเกิดขึ้นที่เมืองไทย เมื่อพชร แก้วเพชร พระเอกหนุ่มนักแสดงที่งานไม่มีแถมดวงยังตกอีกต่างหาก เมื่อได้ยินว่าแองเจลินามาสักยันต์กับอาจารย์หนู ก็เลยชวนแม่มาสักบ้างเพื่อหวังให้การงานเจริญก้าวหน้า และล่าสุดนก - ฉัตรชัย เปล่งพานิช พระเอกที่เล่นภาพยนตร์เรื่อง"จอมขมังเวทย์" ก็เลือกอาจารย์หนูให้มาสักยันต์เต็มตัวเพื่อให้เข้ากับเนื้อเรื่อง

รับ"สัจจะ"ก่อนสักยันต์
 
อาจารย์หนู ยืนยันว่ากระแสของคนดัง ดารา หรือภาพยนตร์ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับการสักยันต์ "ดารา-นักแสดงก็เป็นกระแสหนึ่งที่ทำให้การสักยันต์กลับมาเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเป็นดาราจากต่างประเทศ หรือดารา-นักร้องในเมืองไทย ส่วนใหญ่ก็มาสักหมด รวมถึงพ่อค้าและคนทำงานบริษัทที่ต้องการความก้าวหน้า

แต่ถ้าใครมาสักกับอาจารย์แม้จะต้องเหนื่อยยากกับการรอคิวที่ยาวเหยียด และการเจ็บปวดในขณะสักแล้ว หัวใจสำคัญที่อาจารย์หนูเน้นย้ำก่อนที่จะสักกับทุกคนคือ

"ต้องเตรียมใจมาว่า หนึ่ง รับได้ไหมถ้าสักแล้วต้องอยู่ในศีลในธรรม มาสักแล้วใช่ว่าจะไปตีรันฟันแทงกันได้ ต้องไม่ผิดลูกผิดเมียชาวบ้าน นี่คือสิ่งที่ผู้คิดจะสักต้องรู้ เพราะที่นี่จะสักของคุณพระ ไม่ใช่เป็นการสักเล่นๆ สักแล้วก็ต้องลงอาคมทุกครั้ง"

ไม่ใช่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น ที่ อาจารย์หนู ได้เผยแพร่ความนิยมในการสักยันต์ เพราะเดี๋ยวนี้ชื่อเสียงของอาจารย์หนูโด่งดังไปถึงต่างประเทศขนาดที่มีการเชิญอาจารย์หนูบินไปสักกันถึงเมืองนอกอยู่เป็นประจำ

"อาจารย์เดินทางไปต่างประเทศ ทุกครึ่งเดือน ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง สิงคโปร์ หรือไต้หวัน ผู้คนในต่างประเทศก็สนใจการสักยันต์ไม่ต่างจากคนไทยเหมือนกัน แต่การสักยันต์นี่เป็นของพุทธ หากคนศาสนาอื่นสนใจที่จะสัก อาจารย์ก็มีล่ามแปลประวัติการสักยันต์ของไทย และพุทธศาสนาก่อน เพราะการสักยันต์ต้องมีการไหว้อาราธนาคุณพระแบบนี้ คุณรับได้ไหม ถ้ารับไม่ได้ คุณอย่าสัก ปรากฏว่าเค้าก็รับได้ อย่างที่ฮ่องกงนี่ครึ่งประเทศเลยนะที่สัก ทั้งตำรวจและดารานี่เกือบครึ่ง บางคนนับถือศาสนาคริสต์ ส่วนใหญ่ที่สักแล้วเปลี่ยนจากศาสนาตัวเองมานับถือศาสนาพุทธก็มี อย่างแองเจลินา โจลี เป็นต้น"

ถึงขนาดที่สื่อมวลชนหลายประเทศบอกว่าอาจารย์หนูเป็นคนนำศาสนาพุทธไปเผยแพร่ เพราะคนที่มาสักก็ต้องเปลี่ยนเป็นพุทธทั้งหมด แต่ในเมื่อคนที่มาสักเข้าใจและยอมรับตามกติกา ความนิยมของการสักยันต์ก็ยังคงสุกสว่างต่อไป

ข้อจำกัดของผู้รักการสักยันต์
 
แต่ใช่ว่าใครอยากจะสักยันต์แล้วเดินมาสำนักของอาจารย์หนูกันได้ทุกคน เพราะอาจารย์หนูตั้งข้อจำกัดกฎเหล็กเอาไว้หนึ่งข้อคือจะไม่สักให้คนที่อายุต่ำกว่า 20 และมีอาชีพเป็นนักศึกษา

"สำหรับอาจารย์จะไม่สักให้คนที่อายุไม่ถึง 20 ปี เพราะหากเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนมาสักแล้วอยากลองของ พากันไปตีรัน ฟันแทง มันก็ไม่ถูกต้อง อาจทำให้สังคมเดือดร้อนอย่างที่เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ ของคุณพระที่ไหนที่ช่วยไม่ได้ ใครที่มาสักอาจารย์จะสกรีนเลย โดยดูตามบัตรประชาชน พร้อมกับสั่งสอนว่า สักแล้วห้ามไปเป็นนักเลงที่ไหน ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน" อาจารย์หนูบอกถึงกฎของการสักอย่างเคร่งครัด

ลายสักที่นิยม ใช่ว่าเลือกได้เองตามใจชอบ
 
การสักยันต์มีทั้งแบบใช้หมึกดำธรรมดา และสักน้ำมัน โดยใช้น้ำมันสมุนไพรว่านร้อยแปด ซึ่งพุทธคุณเหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่จะมองไม่เห็นลายสัก เมื่อผู้หลงใหลการสักยันต์ พร้อมที่จะสักแล้ว การเลือกลายสัก ดูจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเมื่อสักยันต์ตามแบบฉบับศาสตร์แห่งคุณพระ ด้วยเครื่องมือสักแบบโบราณในประวัติศาสตร์ที่เขาทำกันมาโดยต้องเรียกอักขระ เรียกนาม เรียกสูตรผนวกกับอาคมที่แกร่งกล้าแบบนี้ยากนักที่จะลบเลือนมันออกไปจากผิวง่ายๆ ดังนั้นการเลือกลาย ผู้ที่ต้องการสักคงต้องปรึกษาอาจารย์หนูอย่างละเอียดรอบคอบ โดยลายแต่ละลายนั้นก็มีศาสตร์ที่ต่างกันออกไป

"คนที่จะมาสัก ก็ต้องมาคุยกับอาจารย์ก่อนว่า ต้องการสักเพื่ออะไร อาจารย์จะเป็นคนกำหนดให้โดยจะถามก่อนว่า อาชีพการงานเป็นอะไร ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องโชคลาภ เมตตา หน้าที่การงาน อาจารย์จะไม่เน้นเรื่องคงกระพัน เพราะเราจะรู้เมื่อบางคนมาบอกว่า ขอสักเพื่อให้หนังเหนียว อยู่ยงคงกระพัน เราก็จะรู้เลยว่าคนนี้ไปทำอะไรมา และจะไปทำอะไร อาจารย์ก็จะสอนเค้า สอนให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ดี มันเป็นการขัดเกลาจิตใจอย่างหนึ่งนะ"

ลายสักยันต์ที่เป็นที่นิยมนั้น ส่วนใหญ่จะแยกตามหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะเป็น "ยันต์หนุนดวง" เป็นอักขระขอมโบราณ 5 แถว ความยาว 7 นิ้ว กว้าง 2 นิ้วครึ่ง โดยแถวแรกเป็นคาถาเมตตามหานิยม แถวที่ 2 เป็นคาถาหนุนดวงชะตา แถวที่ 3 เป็นคาถาแห่งความสำเร็จ แถวที่ 4 เป็นคาถาราศีประจำตัวและแถวที่ 5 เป็นคาถามหาเสน่ห์ ถ้าคนดวงไม่ดี การสักต้องสักเป็นยันต์หนุนดวงเพราะถือว่าเป็นยันต์คุณพระที่มีพลังอานุภาพและสามารถที่จะเกื้อหนุนดวงที่ตกต่ำให้โดดเด่นขึ้นมาได้

นอกจากนี้ก็มี "ลายหนุมานตัวเก้า" เหมาะสำหรับอาชีพ ราชการ ตำรวจ หรือองครักษ์เพื่อส่งเสริมให้การงานเจริญก้าวหน้า , "ลายจิ้งจกคาบถุงเงินถุงทอง" ลายสักนี้เหมาะกับพวกพ่อค้าที่จะช่วย เสริมธุรกิจทำมาค้าคล่อง หรือลาย"พระพิฆเนศ" ที่เหมาะกับ ดารา ศิลปิน ซึ่งเป็นลายที่ดารา นักแสดงส่วนใหญ่นิยมมาสักกัน

"ลวดลายต่างๆ ที่นำมาสักนั้นจะยึดแบบลายในอดีตเป็นต้น แล้วอาจารย์ก็จะนำมาทำดัดแปลงให้สวยทันสมัยขึ้น อย่างเช่น สิงห์ สมัยก่อนจะไม่สวย แต่ภาพสิงห์ปัจจุบันสวยกว่า อาจารย์ ก็เลือกเอาภาพสิงห์ในปัจจุบันมาสักให้แทน ซึ่งมันก็คือสิงห์เหมือนกัน ลงอาคมแบบเดียวกัน" อาจารย์หนู กล่าวถึงการพัฒนาลวดลายในการสักยันต์ ที่คนส่วนมใหญ่มักคิดว่ามันเป็นแบบโบราณ

ส่วนตำแหน่งที่ผู้คนนิยมสักยันต์นั้น ทำได้หลายแห่งไม่ว่าจะเป็นไหล่ซ้าย ไหล่ขวา หรือข้างหลัง แต่ถ้าลงเบื้องต่ำคงไม่เหมาะ

แง่คิดสำหรับวัยรุ่นก่อนคิดจะสัก
 
ใช่ว่าในเมืองไทยจะมีสำนักสักของอาจารย์หนูเพียงสำนักเดียว แต่ยังมีอีกหลายแห่งที่เป็นทั้งลงอาคมจริง หรือลงอาคมเก้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคงต้องเป็นตัวผู้อยากสักเองว่าศรัทธาในการสักยันต์จริง หรืออยากลองของ หรืออยากทำเพื่อตามแฟชั่น

"วัยรุ่นในสมัยนี้ที่ต้องการสักยันต์หรือลงวิชาอาคม ก็ขอให้ดูด้วย ควรทำในสำนักจริงหรือของแท้ และทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ใช่สักแล้วไปเป็นนักเลงหัวไม้ ของคุณพระต้องคุ้มคนดี ถ้าเอาไปใช้ไม่ดีก็ไม่คุ้มหรอก"

นอกจากนั้นสำนักสักต่างๆ ก็ต้องมีจรรยาบรรณเช่นเดียวกัน เพราะเด็กๆ ที่ยังไม่มีรายได้ แต่อยากสักโดยไม่ได้ยั้งคิด นอกจากทำให้พวกเขาสูญเสียเงินค่าขนมไปโรงเรียนแล้ว ยังต้องมีแผ่นเปื้อนหมึกที่ยากต่อการลบ และต้องเจ็บปวดจากการสัก เรียกว่าทำให้สังคมเดือดร้อน

"การสักยันต์ด้วยศาสตร์แห่งคุณพระ ไม่ได้เป็นการสักเพื่อคุณไสย แต่เป็นการสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับตัวเอง ไม่ได้เป็นการสักเพื่อทำร้ายผู้อื่น หรือให้ผู้อื่นมาหลงรัก ดังนั้นผู้ที่สนใจการสักยันต์ควรตรองอย่างรอบคอบ และไม่ตามกระแสแฟชั่น" อาจารย์หนูฝากทิ้งท้ายเพื่อให้ทุกคนเข้าใจการสักยันต์อย่างถูกต้อง





กำลังโหลดความคิดเห็น