เสียงปี่ชวา-กลองแขก ฮึกเหิม เร่งเร้า ให้นักมวยรุ่นเยาว์ย่างสามขุมเข้าหาคู่ชกด้วยลีลาอ่อนช้อย แต่กร้าวแกร่ง หนุ่มน้อยนุ่งโจงกระเบนน้ำเงินเข้มกระโดดเข่าคู่เหนือบ่าคู่ชกหน้าละอ่อน ก่อนใช้ศอกกระแทกลงบนหัวฝ่ายตรงข้าม เรียกเสียงฮือลั่นจากผู้ชมรอบเวที ด้วย 'นารายณ์บั่นเศียร' จัดเป็นแม่ไม้มวยไทยที่ยากที่สุดในบรรดา 385 ท่า
หลายคนที่ผ่านไปแถวที่ว่าการอำเภอเมือง นนทบุรี คงแปลกใจที่เห็นเด็กๆตั้งแต่วัยยังไม่อดนม จนถึงทีนเอจเด็กแนว ตั้งใจฝึกซ้อมแม่ไม้มวยไทยอย่างจริงจัง หลายคนพันผ้าก่อนโชว์ลีลามวยคาดเชือก บ้างกำลังเตะล่อเป้าอันเป็นทักษะขั้นต้น ขณะที่ครูมวยกำลังแนะชั้นเชิงมวยให้ลูกศิษย์ตัวน้อย
'ศูนย์สอนศิลปะมวยไทย' อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อตั้งมากว่า 4 ปีแล้ว ด้วยปณิธานของ วัชรินทร์ โรจนพานิชย์ นายอำเภอเมืองนนทบุรี ที่แรกเริ่มต้องการให้ศูนย์ฯแห่งนี้เป็นที่ออกกำลังกายของเด็กและเยาวชน ตามโครงการ "ลานกีฬาต้านยาเสพติด" แต่ต่อมามีเด็กๆสนใจมาเรียนกันมากขึ้น ผู้ปกครองที่ตามมาดูแลเด็กต่างก็ให้การสนับสนุน จนถึงขณะนี้มีเด็กที่เข้ามาเป็นสมาชิกของศูนย์ฯกว่า 80 คน
'ศูนย์สอนศิลปะมวยไทย' แห่งนี้ สอนตั้งแต่ รำร่ายไหว้ครู มวยคาดเชือก ทักษะมวยไทย มวยไทยสมัครเล่น ปี่ชวา-กลองแขก จนถึง คีตะมวยไทย การออกกำลังกายแบบใหม่ที่ใช้ท่าแม่ไม้มวยไทยมาประกอบ แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงเป็นมวยคาดเชือก ซึ่งเดินทางไปโชว์มาแล้วทั้ง เวียดนาม รัสเซีย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา
ครูตี๋ หรือ ทองสุก แก้วปัดสิน อดีตนักมวยอาชีพเจ้าของฉายา 'จอมยุทธ์ 3 พิฆาต' นั่งลงข้างเวทีมวย พลางเล่าให้ฟังว่า เด็กที่มาเรียนที่นี่จะต้องเรียนให้ครบทุกอย่าง ทั้ง รำร่ายไหว้ครู มวยคาดเชือก ทักษะมวยไทย มวยไทยสมัครเล่น ปี่ชวา-กลองแขก รวมถึงถึงคีตะมวยไทย เพราะอยากให้เด็กที่มาเรียนเป็นทุกอย่าง แล้วค่อยดูว่าเด็กคนนั้นถนัดอย่างไหน หรืออยากเล่นอะไร
ครูตี๋ อธิบายต่อว่า มวยไทยกับมวยคาดเชือกจะเหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันแค่การแต่งกาย ซึ่งมวยคาดเชือกจะนุ่งกางเกงม่อฮ่อม คาดผ้าขาวม้า คาดผ้าประเจียดที่ต้นแขน และคาดเชือกที่มือก่อนขึ้นชก อีกทั้งลีลาของมวยคาดคาดเชือกจะอ่อนช้อยกว่า การจดมวยต้องย่อเข่า ค่อยๆเยื้องย่างเข้าหา
มวยคาดเชือกจะแบ่งท่าต่างๆออกเป็นหมวด คือ หมัด มี 5 แบบ คือ หมัดตรง หมัดชกตรง หนึ่ง สอง หมัดฮุกสั้น หมัดเหวี่ยง หมัดสอยดาว , ศอก มี ศอกหน้า ศอกหลัง ศอกกลับ ศอกถอง ,เข่า มี 3 แบบ คือ เข่าตรง เข่าโค้ง กระโดดเข่าลอย ,เตะ มี 2 แบบ เตะตรง เตะตวัด แล้วนำหมัดเท้าเข่าศอกแบบต่างๆมาประกอบเป็นแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมีถึง 385 ท่า เช่น พระรามเดินดง (กระโดดขึ้นเหยียบบนเข่าคู่ต่อสู้ แล้วแทงเข่า หรือเตะตวัดต้นคอ มักใช้ในจังหวะที่คู่ต่อสู้จะเดินเข้ามาแทงเข่า)
เวลาชกจะนำท่าต่างๆ 3 ท่า มารวมเป็น 1 ชุด เล่นติดต่อกัน เช่น ขุนศึกตีทวน(การเตะตัดลำตัวคู่ต่อสู้) หนูไต่ราว(แทงเข่าเข้าที่หน้าท้อง) และเถรกวาดลาน(เตะตัดล่างให้ล้ม) จากทั้ง 385 ท่านั้น ท่าที่ยากที่สุดคือ นารายณ์บั่นเศียร(กระโดดเข่าคู่เหนือบ่าแล้วใช้เข่าหนีบหัวคู่ต่อสู้ จากนั้นใช้ศอกกระแทกลงบนหัว) จระเข้ฟาดหาง และฤษีบดยา(เหยียบหน้าขาคู่ต่อสู้ อีกเท้าเหยียบไหล่ แล้วใช้ศอกตีหัว)
" ผมกลัวว่าแม่ไม้มวยไทยพวกนี้จะสูญ เพราะเดี๋ยวนี้นักมวยอาชีพไม่ค่อยออกอาวุธกันแล้ว มันมีเรื่องเงินรางวัลและการพนันเข้ามาเป็นตัวตั้ง นักมวยก็กลัวว่าออกอาวุธยากๆแล้วจะพลาด ทำให้เสียคะแนน เขาก็เลือกท่าพื้นๆเพื่อทำคะแนนไว้ก่อน อย่าว่าแต่นารายณ์บั่นเศียรเลย เดี๋ยวนี้แม้แต่จระเข้ฟาดหางก็ไม่ค่อยเห็นแล้ว" ครูตี๋ กล่าว
ครูตี๋ บอกว่า เด็กๆที่มาเรียนที่นี่มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง มีตั้งแต่อายุ 7-8 ขวบ ถึง 20 กว่าปี เราจะเริ่มสอนตั้งแต่การว่ายครู กำหมัด จดมวย ( ตั้งท่า ย่างเท้า) ท่ายืน (มี 2 ท่า คือ 2 ขุม จะยืนตรง เท้าเสมอกัน และ 3 ขุม ยืนขาเยื้องกัน 90 องศา) หัดเดิน จะใช้เวลาสอนพวกนี้อยู่ประมาณ 3 สัปดาห์ จากนั้นจะเริ่มหัดออกหมัด หัดใช้เท้า เข่า ศอก จนถึงขึ้นท่า(ออกแม่ไม้มวยไทย)ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งท่าแรกจะเป็นท่าขุนศึกตีทวน ตามด้วยหนูไต่ราว หากมีฝีมือถึงระดับจึงจะขึ้นท่ายาก อย่าง ฤาษีบดยา กว่าจะเก่งก็ใช้เวลาเรียนสัก 3 ปี เด็กๆพวกนี้ก็จัดว่าเก่งแล้วนะ ทั้งผู้หญิงผู้ชายฝีมือไม่ต่างกัน (หัวเราะ)
สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับมวยไทย ไม่ว่าจะเป็นมวยคาดเชือก มวยไทยสมัครเล่น หรือมวยไทยอาชีพ ก็คือวงปี่ชวา-กลองแขก ที่บรรเลงเพื่อสร้างความฮึกเหิมให้นักมวย และสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้ผู้ชม โดยวงปี่ชวา-กลองแขก จะประกอบด้วยเครื่องดนตรี 4 ชิ้น คือ ปี่ชวา กลองแขกตัวผู้ กลองแขกตัวเมีย และฉิ่ง ซึ่งเป็นตัวหลักในการกำกับจังหวะ
อ.สมชาย สร้อยคีรี ครูสอนปี่ชวา กลองแขก บอกว่า การบรรเลงปี่ชวา-กลองแขกที่ใช้ประกอบในการชกมวยนั้นแต่ละช่วงจะใช้เพลงแตกต่างกัน ช่วงไหว้ครูจะใช้เพลง 'โยน' ขณะที่การชกยกแรกจะใช้เพลง 'แขกเจ้าเซ็น' ซึ่งเป็นเพลงไทยสำเนียงแขก ส่วนยกต่อๆมาจะเป็นเพลงไทยชั้นเดียว เพลงอะไรก็ได้ที่มีสำเนียงแขก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นมวยไทยสากล มวยไทยสมัครเล่น หรือมวยคาดเลือก ก็ใช้เพลงแบบเดียวกันทั้งสิ้น ต่างกันเพียงถ้าเป็นมวยคาดเชือกจะไม่มีเพลง ‘เชิด’ที่ใช้บรรเลงในตอนท้ายยกสุดท้ายเพื่อบอกให้คู่ชกเร่งทำคะแนนในช่วงสุดท้ายของการชกเช่นเดียวกับมวยไทยสากล และมวยไทยสมัครเล่น
"นอกจากจะสอนศิลปะมวยไทยแล้ว ที่ศูนย์สอนศิลปะมวยไทย นนทบุรี ยังสอนปี่ชวา-กลองแขกให้เด็กๆที่สนใจด้วย ตอนนี้มีอยู่ 4 วง ก็ประมาณ 16 คน มีทั้งเด็กผู้และผู้ชาย เด็กที่นี่ฝีมือดีมาก ตอนนี้ได้รับเชิญจากเวทีมวยสยามอ้อมน้อยให้ไปโชว์ทุกวันเสาร์ โดยวงเราจะเป่าประกอบการชกของมวยคู่เอกและรองคู่เอก" อ.สมชาย เล่าด้วยความภูมิใจ
ปัจจุบันมีผู้สนใจเรียนปี่ชวา-กลองแขกลดลง เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่ยาก ผู้เรียนต้องใช้ความอดทนสูง อีกทั้งเยาวชนส่วนใหญ่สนใจดนตรีตะวันตกมากกว่า สร้างความหวั่นวิตกให้บรรดาครูมวยที่เป็นห่วงว่าในอนาคตจะไม่มีผู้สืบทอดวงดนตรีปี่มวย
อ. อำนวย แตงไทย ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ฝ่ายปกครอง โรงเรียนชลประทานวิทยา ในฐานะผู้บริหารศูนย์ศิลปะมวยไทย แสดงความเป็นห่วงศิลปะการต่อสู้ของไทยว่า ตอนนี้ศิลปะมวยไทยนั้นฝรั่งสามารถขโมยไปได้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นท่ามวยไทยยากๆ อย่าง พระรามเดินดง จระเข้ฟาดหาง มีสิ่งเดียวที่เขายังเอาไปไม่ได้คือวงปี่ชวา-กลองแขก คราวที่ผมพาลูกศิษย์ไปโชว์ที่ต่างประเทศฝรั่งสนใจมาก อยากจะขอเรียนปี่ชวา-กลองแขก ส่งครูไทยไปสอนก็เอา แต่เราไม่ยอมสอนให้
"ผมกลัวว่าวันหนึ่งคนไทยจะต้องยกพานดอกไม้ธูปเทียนไปขอเรียนมวยไทย เรียนวงปี่ชวากับฝรั่ง ถ้าคนไทยไม่สนใจอนุรักษ์ไว้ศิลปะมวยไทยต้องกลายเป็นของต่างชาติแน่" อ.อำนวย กล่าวด้วยแววตากังวล
มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่มีพิษสงรอบตัว และเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของไทย ‘ศูนย์สอนศิลปะมวยไทย’ แห่งนี้ เป็นอีกแรงหนึ่งที่จะช่วยอนุรักษ์แม่ไม้มวยไทยเอาไว้ แต่ ‘มวยคาดเชือก’ ศิลปะการป้องกันตัวที่มีมาแต่โบราณ จะยังคงอยู่ต่อไปได้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับคนไทยทุกคน
********
สนใจสมัครเรียนได้ที่ "ศูนย์สอนศิลปะมวยไทย" อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี หรือติดต่อ อำนวย แตงไทย 0-9995-4896 เอกพจน์ สมแสน 0-1685-1363 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
**********
ความในใจของ ‘นักมวยรุ่นเยาว์’
อทิญญา สินสมุทร หรือ น้องขนม อายุ 8 ปี ยืนบิดไปมาก่อนเล่าด้วยท่าทีขี้อายสุดๆ ว่า หนูอยากมาเรียนเพราะมาวิ่งกับคุณแม่ที่สวนสาธารณะ ศาลากลาง จ.นนทบุรี เห็นที่นี่(ศูนย์สอนศิลปะมวยไทย) เขาซ้อมกันน่าสนุก หนูเลยให้แม่พามาสมัคร มวยคาดเชือกก็ไม่ยากนะคะ หนูเรียนมาได้แค่ 3 เดือนเอง ก็ทำได้แล้ว
กมลวรรณ ช่วงโชติ หรือ น้องกิ่ง อายุ 7 ปี บอกว่า หนูไปเที่ยวที่ห้างเซ็นทรัล เขามีมวยคาดเชือกไปโชว์ หนูเลยอยากเรียนบ้าง แม่พาหนูกับน้องสาว(วัย 6 ปี)มาสมัครเรียนด้วยกัน ตอนมาเรียนแม่ก็มาด้วยทุกวันเลย เรียนมวยมีประโยชน์หลายอย่างนะคะ ได้ออกกำลังกาย แล้วก็มีเพื่อนเยอะด้วย
อังคณา แตงไทย อายุ 15 ปี เล่าว่า ตอนแรกอาจารย์ที่โรงเรียนเอามวยคาดเชือกไปสอน หนูชอบทางโรงเรียนก็เลยส่งมาเรียนที่ศูนย์สอนศิลปะมวยไทย ตอนแรกพ่อ(อ.อำนวย แตงไทย)มาคอยรับคอยส่ง แล้วก็ดูหนูซ้อม ไปๆมาๆคุณพ่อเลยมาช่วยบริหารงานให้ศูนย์ ที่นี่ทุกคนเรียนฟรีหมด นายอำเภอ(วัชรินทร์ โรจนพานิชย์ นายอำเภอเมืองนนทบุรี)เป็นคนหางบประมาณให้(ค่าใช้จ่ายของศูนย์เดือนละประมาณ 20,000 บาท) พวก ผู้ปกครองก็มาช่วยกัน บางทีไปแสดงโชว์ตามที่ต่างๆ พ่อๆแม่ๆก็ทำข้าวหม้อแกงหม้อมากินด้วยกัน
สราวุฒิ จันทเสน อายุ 16 ปี กล่าวว่า บางคนมองว่ามาเรียนมวยแล้วจะกลายเป็นนักเลง จริงๆไม่ใช่ ก่อนซ้อมทุกครั้งครูจะสอนว่าอย่าเอาวิชามวยไปทำร้ายคนอื่นหรือเกะกะระรานใคร เราเตะกันบนเวทีบางครั้งพลาด บาดเจ็บ ชกช้ำ แต่ก็ไม่เคยโกรธกัน เวลาอยู่ข้างนอกผมไม่เคยเอามวยไทยไปชกกับใครนะ อ้อ...เคยอยู่ครั้งหนึ่งถูกหมาไล่กัด เลยใช้แม่ไม้มวยไทยกับหมา ปรากฏว่าแพ้หมา ผมวิ่งหนีแทบตาย (หัวเราะ)