xs
xsm
sm
md
lg

อินดี้...แค่แฟชั่นหรือความสร้างสรรค์บนทางเลือก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เสียงดนตรีแปลกหูดังกึกก้อง เร้าอารมณ์ให้ใครต่อใครหัวสั่นหัวคลอนไปตามจังหวะดนตรี

นักดนตรีหนุ่มสาว ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ เรียบง่าย หน้าตาไม่ต้องแต่งแต้มสีสันเพิ่มเติมบนใบหน้าแต่อย่างใด พวกเขากำลังกระโดดโลดเต้นมอบความสุขให้ทั้งคนฟังและตอบสนองความสุขให้กับตัวเองด้วยเสียงเพลงที่บรรเลงอย่างสุดชีวิต

กลุ่มคนฟังวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ยืนเบียดเสียดกันอย่างไม่รู้เบื่อหน่าย ร้องเพลงพร้อมยักย้ายส่ายจังหวะไปพร้อม ๆ กับตัวโน้ตดนตรีที่ลอยละล่องไปทั่วบริเวณ

เวทีแห่งนี้...ไม่ใช่เวทีของซูเปอร์สตาร์ นักร้องนักดนตรีที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ไม่ใช่คนมีชื่อเสียงที่ใคร ๆ ก็รู้จัก

ทว่า นี่คือเวทีของ "คนอินดี้" และนี่คือคอนเสิร์ต ของคนธรรมดาที่มีฝัน


กระแสแฟชั่นหรือทางเลือก

ช่วงเวลาหลายปีที่ "กระแสอินดี้" ค่อย ๆ ถูกบ่มเพาะพัฒนาขึ้นมา จนกระทั่งวันนี้ อินดี้ เติบโตสุกงอมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หนุ่มสาวหลงใหลในความเป็นอินดี้และพากันแสดงออกมาด้วยลักษณะอาการหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น การแต่งตัว การอ่านหนังสือ แม้กระทั่งรสนิยมการฟังเพลง

หลายคนพูดว่า นี่คือทางเลือก สายใหม่ของคนช่างฝัน เป็นเวทีที่สร้างสรรค์และเป็นพื้นที่ให้วัยรุ่นได้แสดงออกในสิ่งที่ไม่เหมือนใคร

แต่อีกหลายคนกำลังคิดว่า "ปรากฏการณ์อินดี้นิยม" ตอนนี้เป็นเพียงกระแสหรือแฟชั่น ที่ให้หนุ่มสาวยุคนี้ได้ไหลลอยตามกันไป ไม่แตกต่างกับกระแสเพลงอัลเทอร์เนทีฟที่เคยโด่งดังมาในยุคหนึ่งก่อนที่จะเงียบหายไปตามกาลเวลา

แนวเพลงอินดี้ถูกกล่าวถึงในแง่ของเพลงที่แสดงออกซึ่งความอิสระ ความเป็นตัวของตัวเอง และไม่ซ้ำแบบใคร ความแปลกหูของเสียงดนตรีรูปแบบใหม่นี้คือสิ่งที่ผู้ชื่นชอบพากันหลงใหลที่จะค้นหาความหมายของตัวโน้ตเหล่านั้น และในทางกลับกันก็ยังมีผู้กังขาว่าเพลงเหล่านี้ร้อนแรงจัดจ้านจนฟังไม่รู้เรื่อง !!

ศิลปินและค่ายเพลงอินดี้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า "อินดี้" จะเป็นเพียงกระแสแฟชั่น หรือเป็นทางเลือกแห่งการปลดปล่อยความคิดของวัยรุ่น แต่ในปัจจุบัน เพลงอินดี้และค่ายอินดี้ก็ผุดขึ้นมามากมายจนนับไม่ถ้วน วงดนตรีกับแนวเพลงแปลกใหม่ดูเหมือนจะเข้ามาเบียดแบ่งเนื้อที่ตลาดเพลงเมืองไทยอยู่ไม่ใช่น้อย

จากสมัยก่อนที่มีค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อยู่ไม่กี่ค่าย ตอนนี้ก็มีค่ายเพลงเล็ก ๆ โผล่ขึ้นมาในใจคนฟังเพลง เป็นตัวเลือกหรือคู่แข่งขันตัวเล็ก ๆ ที่ค่ายใหญ่ ๆ จะมองข้ามไม่ได้อีกต่อไป

ศิลปินหน้าใหม่เหล่านั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พวกเขาคือ คนฟังเพลงที่เปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นคนร้องเพลงด้วยใจรักและความฝันอันเต็มเปี่ยม เมื่อเงินและหน้าตาสวยหล่อไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการทำอัลบั้ม ประตูแห่งการเป็นศิลปินก็เปิดกว้างต้อนรับคนอีกมากมายให้เข้ามาทำเพลงของตัวเองได้ง่ายขึ้น ความใฝ่ฝันที่จะได้เป็นนักร้องอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป

แม้หนทางการเป็นนักร้องได้ออกอัลบั้มเป็นของตัวเอง จะทอดมาใกล้ตัวทุกคนมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าหนทางนั้นจะเชื้อเชิญให้กับใครก็ได้ เหล่านักร้อง นักดนตรีอินดี้ ต้องขับเคี่ยวฝีมือกันอย่างเต็มที่ หากใครฝีมือยังไม่ถึงก็จะถูกวงอื่นที่โดดเด่นกว่า แผ่รัศมีกลืนกินจนหายไป หรือแม้กระทั่งกลุ่มที่มีฝีมือ เพลงถูกอกถูกใจคนฟัง อีกไม่นานกระแสเพลงที่โด่งดังนั้น ก็จะถูกเพลงอื่นซัดเข้าฝั่งไปเช่นกัน เพราะศิลปินในปัจจุบันมีเยอะมากและพร้อมที่จะเกิดมาใหม่เสมอ หากใจไม่รักและไม่อดทนต่อสู้...ใครเล่าจะไปถึงความฝัน และกลุ่มคนดนตรีต่อไปนี้คือกลุ่มนักดนตรีอินดี้ที่กำลัง "จัดการ" กับความฝันของตัวเองอยู่อย่างขะมักเขม้น

กุนซือมิวสิคคลับ

ค่ายกุนซือมิวสิคคลับได้เกิดขึ้นภายใต้การฟูมฟักดูแลของ ธนโชติ เพียรเสมา หรือที่รู้จักกันในนามของ "เปี๊ยก ดีเจสยาม" เขาเล่าว่า กุนซือมิวสิคคลับ เกิดขึ้นมาได้เพราะความเชื่อที่ว่าทุกคนมีความฝัน แน่นอนว่าความฝันของทุกคนย่อมไม่เหมือนกัน หลายคนอาจฝันอยากเป็นหมอ พยาบาล คุณครู แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่หลงใหลในโลกของเสียงเพลง และใฝ่ฝันอยากมีอาชีพที่เรียกกันว่า "นักดนตรี"

ด้วยความที่ คร่ำหวอดและคลุกคลีอยู่ในวงการเพลงมานาน ทำให้ "เปี๊ยก ดีเจสยาม" เป็นเหมือนพี่ใหญ่ที่คอยให้คำปรึกษาด้านแนวเพลง กระแสความต้องการของลูกค้า และ ให้คำแนะนำกับกลุ่มคนดนตรีแบบไม่จำกัดค่าย

ตลาดดนตรีเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เยาวชนหลายคนหลายกลุ่มมีความสามารถจนน่าทึ่ง มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เปิดคณะหรือชุมนุมที่สนับสนุนให้คนรักเสียงเพลงได้มีที่เล่าเรียนทฤษฎีดนตรี หากแต่การรู้ทฤษฎีเพียงอย่างเดียว บางครั้งก็ไม่สามารถทำให้การปฏิบัติสำเร็จได้ การประยุกต์หลักการต่าง ๆ ที่เรียนมาให้สอดคล้องกลมกลืนกับการปฏิบัติจริง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ท้าทายคนดนตรีรุ่นใหม่ไม่ใช่น้อย

ธนโชติคิดว่าการที่จะเอาทฤษฎีเหล่านั้นมาใช้ได้จริงต้องอาศัยผู้แนะนำ จึงจะสามารถนำความรู้มาใช้ในการปฏิบัติได้อย่างสมบูรณ์

และนี่คือจุดเริ่มต้นของ "กุนซือมิวสิคคลับ" ด้วยจุดประสงค์ที่อยากให้ใครก็ตามที่มีข้อสงสัย หรือมีข้อข้องใจเกี่ยวกับดนตรี กล้าที่จะเดินเข้ามาถามไถ่ปรึกษาหารือ เป็นเหมือนสถานที่ให้คำปรึกษาสำหรับคนดนตรีโดยเฉพาะ และวิธีการที่จะทำให้คนรู้จักกุนซือมิวสิคคลับก็คือ ต้องมีผลงานออกมาให้คนรู้จักและจำชื่อได้เสียก่อน ธนโชติ จึงเริ่มต้นผลิตผลงานดนตรีภายใต้สังกัดกุนซือ

มิวสิคคลับออกมา

KINDERGARTEN วงดนตรีของนิสิตศิลปกรรม จุฬาฯ จึงเกิดขึ้นมาเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่าย เมื่อได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจพอสมควร ธนโชติ จึงผลิต อัลบั้มรวมเพลงเก่าภายใต้ชื่อว่า "PLAY IT AGAIN" ออกมาอีกชุด เพื่อตอกย้ำให้ชื่อ "กุนซือมิวสิคคลับ" ติดเพิ่มอยู่ในใจของใครอีกหลายคน

สำหรับกระแสอินดี้ที่มาแรงในตอนนี้ ธนโชติให้ความเห็นว่า กระแสดังกล่าวช่วยผลักดันให้ศิลปินสามารถก้าวสูงขึ้นไปอีกขั้น อย่างน้อยตอนนี้คนรักดนตรีก็ไม่ต้องทำเดโมออกไปเดินเสนอค่ายใหญ่ ๆ อีกต่อไป เพราะว่าค่ายใหญ่ ๆ อย่างแกรมมี่ อาร์เอส จะเดินออกมาค้นหาศิลปินเอง นักร้องอินดี้ใต้ดินหลายคนหลายกลุ่มที่ได้เซ็นสัญญากับค่ายใหญ่ ๆ ขอเพียงมีฝีมือและความตั้งใจ ความฝันก็จะอยู่ไม่ไกลอีกต่อไป

ธนโชติได้ให้ความหมายของคำว่าอินดี้ไว้อย่างน่าฟัง "ผมคิดว่าอินดี้คือความอิสระที่จะทำ อิสระที่จะพูด อิสระที่จะคิด เป็นนิยามของวัยรุ่นสมัยนี้ หากย้อนไปซัก 10 ปีที่ผ่านมา คำว่าอินดี้ได้เกิดขึ้น ด้วยแรงสนับสนุนหลาย ๆ ด้าน ทั้งจากค่ายเบเกอรี่ที่นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของค่ายเพลงที่ทำดนตรีแนวใหม่ ๆ ไม่ตามตลาด , แฟท เรดิโอ สถานีวิทยุที่ช่วยเปิดเพลงนอกกระแส โดยไม่ต้องเสียเงิน และก็จากเว็บไซต์ซึ่งผมว่าเป็นสื่อใหม่ที่น่าสนใจในแง่ที่ว่าเป็นสื่อที่สนับสนุน อินดี้ ให้เติบโตขึ้นมา"

จุดเด่นที่ทำให้ เพลงอินดี้ แตกต่างไปจากเพลงของค่ายใหญ่ ๆ ก็คือ การประชาสัมพันธ์ โดยเพลงอินดี้จะต้องไม่เสียเงินค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์ของอินดี้คือการที่คนฟังชื่นชมแล้วนำไปพูดกันปากต่อปาก หรืออาจจะผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ที่เปิดกว้างให้เพลงอินดี้ออกมายืนข้างหน้าสายตาคนฟังได้โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาสักบาทเดียว

"ผมว่าถ้าวันนี้ยังไม่เกิดกระแสอินดี้ วัยรุ่นก็ยังไปเที่ยว แต่งตัวตามแฟชั่น หรือใช้เวลาไปทำอะไรที่ไม่สร้างสรรค์ แต่วันนี้เวลาว่างของวัยรุ่นก็คือการเล่นดนตรี กระแสเพลงอินดี้ทำให้เกิดที่ว่างให้วัยรุ่นได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ มันช่วยสร้างความหวังให้เยาวชนที่รักดนตรีว่า ถึงแม้หน้าตาจะไม่ดี หรือไม่ได้รวย แต่ถ้าคุณชอบร้องเพลง คุณรักเสียงดนตรี แค่นี้คุณก็ทำอัลบั้มของตัวเองออกมาได้แล้ว"

สาวสะดุ้งแบนด์

กรัณฑ์ ธรรมวงศ์ หรือ "ค้อน" มือเปียโนของวง เล่าให้ฟังว่า กว่า "สาวสะดุ้งแบนด์" จะรวมตัวกันจนเป็นวงเหมือนทุกวันนี้ ต้องผ่านเรื่องราวมากมาย จุดเริ่มต้นของวงเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา เวลานั้นยังคงเป็นช่วงที่กระแสเพลงอินดี้ยังไม่แรงเท่าใดนัก แต่ด้วยใจรักดนตรี พวกเขาก็ฝ่าฟันฝึกฝนฝีมือจนชนะการประกวด "FAT BAND RHYTHM&HORNS" เวทีการประกวดวงดนตรีรูปแบบใหม่ของคลื่นวิทยุ 104.5 FAT RADIO ในปี พ.ศ. 2545

หลังจากได้รับรางวัลชนะเลิศดังกล่าว ก็เริ่มมีค่ายเพลงเข้ามาติดต่อทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ จนในที่สุด "สาวสะดุ้งแบนด์" ก็มาลงตัวที่ จีนี่ เรคคอร์ด ค่ายเพลงในเครือแกรมมี่

กรัณฑ์ให้ความเห็นเปรียบเทียบระหว่างการเป็นศิลปินอินดี้อิสระไร้สังกัด กับศิลปินที่สังกัดค่ายยักษ์ใหญ่ว่าข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดนั้นคือเรื่องของ เงินทุน ถ้าหากสังกัดอยู่ค่ายใหญ่ย่อมได้เปรียบในเรื่องการตลาด การประชาสัมพันธ์ และการออกสื่อที่เหนือกว่าศิลปินอินดี้ไร้สังกัด เพียงแต่ว่า ศิลปินอินดี้ไม่ได้ต้องการทำเพลงมาขาย หรือทำมาเพื่อตลาด ดังนั้นข้อได้เปรียบพวกนี้อาจไม่สำคัญอะไรกับบรรดาศิลปินอินดี้ที่ทำเพลงออกมาเพื่อต้องการแสดงฝีมือของเขาให้คนอื่นได้เห็น ได้ลองฟัง และไม่ได้คาดหวังผลกำไรมากมายเท่าใดนัก

ความหมายของ เพลงอินดี้ในความคิดของกรัณฑ์ก็คือ เพลงอินดี้เป็นเพลงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง จุดประสงค์หลักของเพลงอินดี้ไม่ได้ทำเพื่อตลาด ไม่ได้ทำเพื่อเอาใจคนฟัง แต่ทำเพราะอยากให้คนฟังได้เห็นผลงานที่เกิดจากฝีมือและความคิดของตัวเอง

" เพลงอินดี้ คือเพลงที่แสดงออกในสิ่งที่เป็นตัวของตัวเอง ตัวเขาเป็นยังไง เขาก็แสดงออกมาผ่านเพลงนั้น อาจจะฟังได้หรือไม่ได้ นั่นก็คือตัวเขา เหมือนกับคุณเป็นศิลปิน คุณวาดรูปมาหนึ่งรูป มันอาจจะสวยหรืออาจจะทุเรศ แต่ใครก็ว่าคุณไม่ได้ เพราะนี่คืองานศิลปะที่ออกมาจากความคิดและฝีมือของคุณ เพลงอินดี้ไม่จำเป็นต้องฟังยาก หรือมีซาวนด์ดนตรีที่รุนแรงหรอก สิ่งสำคัญคือเพลงที่คุณทำออกไปนั้นมันคือตัวคุณหรือเปล่าต่างหาก"

กับกระแส "อินดี้นิยม" ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ กรัณฑ์กล่าวว่าที่จริง เพลงอินดี้ มีมานานแล้ว และค่อย ๆ เติบโตพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นกระแสที่มาแรงในปัจจุบัน จุดเริ่มต้นของกระแสดังกล่าวน่าจะเริ่มต้นมาเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่าน โดยอาจเป็นเพราะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มิวสิกเข้ามาทำให้ ต้นทุนการผลิตลดลง การทำเพลงด้วยตัวเองที่บ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น จากสมัยก่อนเข้าห้องอัดครั้งหนึ่งเสียเงินเป็นหลักหมื่น เข้าหลาย ๆ ครั้งก็ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเป็นแสน แต่ตอนนี้มีคอมพิวเตอร์ราคาเพียงเครื่องละ 20,000 กว่าบาท ก็นั่งทำเพลงของเราเองที่บ้านก็ได้แล้ว

"ผมว่าเพลงอินดี้ตอนนี้ มีคนบริโภคเยอะ อุปกรณ์ก็ราคาถูก มีสถานีวิทยุอย่างแฟทเรดิโอคอยเปิดโอกาสให้เพลงที่คุณทำได้ออกสู่สาธารณะ และถ้าหากคุณมีฝีมือก็มีสังกัดที่เกิดขึ้นมาใหม่ ๆ มากมายที่จะรองรับผลงานของคุณออกไปขาย กลายเป็นว่าตอนนี้เรามีแรงเสริมมากมายที่คอยสนับสนุน เพลงอินดี้ ให้เติบโตผมว่าแฟทเรดิโอเป็นแรงสนับสนุนหลักแรงหนึ่งที่ทำให้เพลงอินดี้ออกมาเยอะ เพราะเราเห็น เราได้ฟังเพลงของคนอื่น ก็กลายเป็นแรงจูงใจให้เราทำเองบ้าง เพื่อเพลงของเราจะได้ถูกเปิดออกทางคลื่นวิทยุ ให้อีกหลาย ๆ คนได้ฟังเพื่อเป็นแรงจูงใจต่อไปเรื่อย ๆ"

กรัณฑ์ให้ความเห็นว่า สำหรับตัวเขาก็ยังคงเชื่ออยู่ว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคงชอบเพลงที่เป็นเพลงตลาด แต่ด้วยกระแสอินดี้ที่มาแรงมากในตอนนี้อาจทำให้เกิดกลุ่มผู้ฟังอีกหลายคน ที่ชื่นชอบและฟังเพลงอินดี้เพราะมองกระแสมาแรงนี้ว่าเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่ง แต่ไม่ว่าผู้ฟังจะชื่นชอบจริงหรือชอบเพราะตามกระแส แต่เพลงอินดี้ที่เกิดขึ้นตอนนี้ช่วยสร้างประโยชน์ขึ้นกับกลุ่มคนฟังอย่างแน่นอน โดยคนฟังที่เป็นผู้บริโภคก็จะมีโอกาสได้ฟังเพลงเยอะมากขึ้น มีทางเลือกในการฟังที่หลากหลาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะทำให้ความคิดของกลุ่มคนฟังเปิดกว้าง ความชื่นชอบและสนใจในแนวเพลงก็อาจจะเพิ่มและไม่ยึดติดกับแนวเพลงแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

สำหรับบรรดาหนุ่มสาวอินดี้ ผู้มีความฝันอยากเป็นนักร้องมีอัลบั้มเพลงฝีมือตัวเอง กรัณฑ์ก็มีคำแนะนำง่าย ๆ ว่า " ถ้าใครอยากจะทำเพลงก็แนะนำว่า ทำไปเถอะ เราจะได้แสดงความคิดของตัวเองออกไปให้คนอื่นได้รับรู้ แต่ต้องเป็นไปในทางที่ดี ๆ นะ ไม่ใช่ในทางที่เกินเลย หรือหยาบคาย เพราะ มันก็มีเพลงอินดี้บางวงที่ออกหยาบ ๆ เกินไปสักหน่อย จริงอยู่ที่มันเป็นภาษาที่เราใช้ แต่พอมันออกไปสู่สาธารณะแล้ว มันก็เลยกลายเป็นว่าเพลงอินดี้พวกนี้อาจจะทำให้วัฒนธรรมของคนไทยเสียไปหรือเปล่า ก็ต้องลองมาคิดกันดู"

Halem Club

ฮาเลมคลับเป็นชื่อของ วงดนตรีอินดี้หน้าใหม่และค่ายเพลงอิสระ โดย บุรินทร์ทร แซ่ล้อ หัวหน้าวงเปิดเผยว่า "ฮาเลมคลับ" เกิดขึ้นมาเพราะพวกเขาเหน็ดเหนื่อยกับการเดินตระเวนสมัครเพื่อขอออกอัลบั้มกับค่ายต่าง ๆ มาหลายที่ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อต้องสังกัดค่ายใหญ่ ๆ มีมากมายเกินไป ไม่ว่าจะเป็นสัญญาที่กินเวลานาน หรือแนวเพลงของวงยังไม่เป็นที่ถูกใจของค่าย ทำให้วันหนึ่งพวกเขาจึงตัดสินใจว่า จะออกอัลบั้มของตัวเองเสียเลย

"ตอนนี้นอกจากพวกเรา ฮาเล็มคลับ เป็นศิลปินในค่าย เราก็ยังมีศิลปินคนอื่น ๆ ที่อยู่ในสังกัดของเรา เช่น โดโรธี ซึ่งเป็นนักร้องฮ่องกง สิ่งสำคัญของนักดนตรีที่สังกัดค่ายฮาเลมก็คือต้องทำเพลงเป็นจริง ๆ แล้วเราจะทำหน้าที่ช่วยเหลือให้เพลงของคุณออกมาเป็นอัลบั้มจนสำเร็จให้ได้ เราจะมองคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความสามารถและกำลังเดินหาโอกาสอยู่" หัวหน้าวงฮาเลมคลับกล่าว

บุรินทร์ทรให้ความเห็นว่า อินดี้ ไม่ใช่แนวเพลง แต่อินดี้หมายรวมถึงทุกอย่าง ทั้งการแต่งตัว ความชื่นชอบสนใจ การรักอิสระ การทำศิลปะ หนังสือทำมือ ทุกอย่างที่รวมกันคือ อินดี้ สำหรับวงการเพลงนั้นการสังกัดอยู่ค่ายเล็กหรือใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่จะชี้ว่าเป็นอินดี้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญนั้นขึ้นอยู่กับการทำงานและผลงานที่ออกมามากกว่า ว่างานของคุณมีลักษณะยังไง ตอนทำงานคุณทำด้วยความรู้สึกแบบใด เพราะจริง ๆ แล้วอินดี้คือความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

บุรินทร์ทรคิดว่าปรากฏการณ์ที่กระแสอินดี้มาแรงในวันนี้ จะช่วยสร้างสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นกับคนฟัง คือคนฟังจะได้มีโอกาสลิ้มรสดนตรีแนวใหม่ ๆ มีกลิ่นอายดนตรีที่แปลก ๆ เกิดขึ้นมา ไม่ปิดกั้นหูคนฟังให้ฟังแต่เพลงแนวเดิม ๆ ซ้ำซากอีกต่อไป กระแสที่เกิดขึ้นเปรียบเป็นกำลังใจที่สะท้อนกลับมาถึงตัวผู้ผลิตให้ตั้งใจผลิตงานดี ๆ ออกมาสู่คนฟัง ซึ่งเมื่อวัยรุ่นหลาย ๆ คนได้ฟังก็จะเกิดความหวัง เกิดความฝัน อยากทำเพลงเองบ้าง และนั่นคือความสร้างสรรค์ของ อินดี้ ที่สามารถทำให้ใครหลายคนได้ลองทำอะไรที่เป็นประโยชน์

" ถ้าคุณอยากมีเรื่องราว คุณอยากสร้างประวัติศาสตร์หรือเป็นผู้บันทึก ผมว่าเริ่มลงมือทำความฝันทันทีที่คุณคิด ตราบใดสิ่งที่คุณคิดมันไม่ผิดกฎหมาย ไม่ดูถูกใคร ทำเลย อย่ามัวรีรอ หากมีแต่คนที่คิดแต่ไม่ทำมันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นซักที อย่างน้อยก่อนเราตายไปจะได้สบายใจว่าเราได้ทำตามความฝันที่เราต้องการไปเรียบร้อยแล้ว" บุรินทร์ทรกล่าว

จริงอยู่ "อินดี้" อาจเป็นเพียงกระแสหรือแฟชั่นของหนุ่มสาวในวันนี้ แต่จะเป็นไรไปเล่า หากกระแสนี้ช่วยสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้ออกมาสู่สังคมมากมาย ประชาชนคนฟังมีทางเลือกในการฟังดนตรีมากขึ้น ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ก็ต้องตื่นตัวและพยายามผลิตงานคุณภาพออกมาสู้กับค่ายอิสระเล็ก ๆ เด็กและเยาวชนก็มีแรงจูงให้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คือ "พลัง" ที่กระแสอินดี้ผลักดันให้เกิดเรื่องราวดี ๆ ขึ้นในสังคมไทยได้อย่างน่ามหัศจรรย์





กำลังโหลดความคิดเห็น