xs
xsm
sm
md
lg

เสื้อ“บางระจัน” เกราะคุ้มชีวิตภูมิปัญญาไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การลอบดักยิงข้าราชการของรัฐยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่กระเจิงหาย ทุกคนรู้ถึงความเสี่ยงที่ตนอาจจะถูกลอบยิงเป็นรายต่อไป เพียงแต่ไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่หรือเมื่อใดเท่านั้น

ด้วยความห่วงใย อดีตนายทหารสรรพาวุธทหารบกจึงคิดค้นเสื้อเกราะมารองรับกระสุน หรือรู้จักกันดีในนาม "บางระจัน" เป็นอุปกรณ์ป้องกันชีวิตที่สร้างขึ้นจากวัสดุในไทย โดยคนไทย และเพื่อคนไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ไฟใต้ยังโหมลุกไหม้ "บางระจัน" แทบจะเป็นคำตอบเดียวเท่านั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐอุ่นใจว่า ชีวิตจะมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น


ตะลุยโรงงานผลิตยุทธภัณฑ์

ย่านเมืองใหม่บางพลี เขตนิคมอุตสาหกรรมเทพารักษ์ อาคารขนาดกลางตั้งอยู่เกือบกลางทุ่ง มองเห็นป้ายชื่อโรงงานมาแต่ไกล บริษัท พรีซีพาร์ท จำกัด

ในปี 2543 โครงการผลิตอุปกรณ์ไทยประดิษฐ์ที่คิดค้นขึ้นเพื่อป้องกันชีวิตก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นรูปเป็นร่าง และเป็นแหล่งผลิตเครื่องช่วยฝึกทางการทหารและตำรวจมาแล้วนับร้อยชนิด ไล่ชื่อมาได้ อาทิ กระสุนปืนยางพาราขนาดต่างๆ สำหรับปืนประเภทต่างๆ กระบองหลายรุ่นหลายแบบสำหรับยิงกระสุนยาง นอกจากนี้ยังมี ไฟฉาย ไม้เท้า ไม้ ค้ำยัน ระเบิดเสียง เครื่องยิงแห ลูกระเบิดยางซ้อมขว้าง ปืนลูกซองปราบจลาจล ไปจนถึง อาวุธปืนสงครามไม่ว่าจะเป็น M16 ปืนกลมือแบบ เอ็มพีไฟท์ RPG หรือปืนพกสั้น ฯลฯ นี่คือตัวอย่างเพียงเล็กน้อยที่ยกขึ้นมาให้รู้จักกันเท่านั้น

พ.ต.ทรงพล เอี่ยมบุญฤทธิ์ อดีตนายทหารสรรพาวุธทหารบก ที่วันนี้มาดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท พรีซิพาร์ท เล่าให้ฟังพร้อมเกริ่นถึงที่มาดั้งเดิมว่า ทำไมจึงคิดผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ อุปกรณ์อันตรายที่ใช้ได้เฉพาะในวงการเท่านั้น

เดิมโรงงานแห่งนี้ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2531 จะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เครื่องยนต์มากกว่า ซึ่งชิ้นส่วนที่มีในเครื่องยนต์กลไกต่างๆ เหล่านี้เอง เขาบอกว่า คือวัสดุอย่างดีที่เพียงรู้จักศักยภาพก็นำมาดัดแปลงประกอบเป็นผลิตภัณฑ์หลายประเภทที่กล่าวถึงได้

เขาเล่าว่า เดิมอุปกรณ์ป้องกันชีวิตและยุทธภัณฑ์ เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ 100% ทุกอย่างล้วนมีราคาแพงมาก การสั่งสินค้าต้องใช้เวลา กว่าจะได้สินค้ามา ก็ไม่ทันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตำรวจทหารขาดแคลนอุปกรณ์เครื่องช่วยฝึก เนื่องจากทั้งราคาแพงและเป็นของหายาก

จากเหตุผลนี้ ทหารเก่านักประดิษฐ์ อย่าง พ.ต.ทรงพล คิดว่าเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องก้าวเข้ามาช่วยเหลือ ยุคแรกของยุทธภัณฑ์ภายใต้บริษัท พรีซิพาร์ท เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ องค์กรภาครัฐ กับสกว. คืองานวิจัยเพื่อผลิตกระสุนยางขึ้นมาในปี 2542 และตามมาด้วยอุปกรณ์อีกหลายประเภท ตามความมุ่งหมายในเบื้องต้นคือ ให้เหล่าทหารตำรวจได้มีอุปกรณ์ราคาถูกสำหรับฝึกปฏิบัติได้ในภาคสนาม รวมทั้งเขายังทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ใช้งานจริง สามารถหยิบมาใช้ในการคลี่คลายสถานการณ์ที่บางครั้งการใช้อาวุธจริงอาจจะเกินความจำเป็น แต่เมื่อใช้อุปกรณ์ไทยประดิษฐ์เหล่านี้จะคลี่คลายเหตุได้ด้วยสันติวิธียิ่งขึ้น

"ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่มีปืนต่อสู้ เจ้าหน้าที่สามารถนำอุปกรณ์พวกนี้เข้าคลี่คลายสถานการณ์ได้อย่างละมุนละม่อม จะไม่มีคนเจ็บคนตายอีก ...เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ต้องโดนกรณีเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ"

เขาเล่าต่อว่า หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ถูกนำไปสาธิต และมีการใช้แพร่หลายไปทั่วประเทศ ก็มีเสียงที่ตอบกลับมาในทางที่ดี รวมทั้งยังแสดงความขอบคุณมายังบริษัท ในฐานะเป็นผู้คิดค้นเครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ขึ้น

ซึ่งถ้อยคำยกย่องเหล่านี้ มีตำรวจจากสน.ในย่านนั้น คือ ร.ต.อ.อภิชัย คำก้อน รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.ภูธร สภ.กิ่งอำเภอบางเสาธง จ.สมุทรปราการ และ พ.ต.ต.ศรายุทธ อรุณฉาย สว.ผ.ฝึกอบรมพิเศษ ของ 191 มานั่งให้คำยืนยันกำกับกันถึงที่โรงงาน พร้อมทั้งยังอธิบายกรณีตัวอย่างของการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยยุทโธปกรณ์ประเภทต่างๆ อย่างดีอีกด้วย

ยุคนั้น จึงเป็นที่มาของชื่อเสียงด้านยุทธภัณฑ์ คุณภาพ ราคาถูก ที่ผลิตจากโรงงานให้ขจรกระจายกลายเป็นที่ยอมรับในแวดวงตำรวจทหารทั่วประเทศ

เสื้อเกราะ "บางระจัน"

ประมาณช่วงปีเดียวกัน พ.ต.ต.ศรายุทธ เดินทางกลับจากการอบรมในอเมริกา เขาหยิบเสื้อเกราะกันกระสุนที่ได้รับแจกกลับมาให้ พ.ต.ทรงพล ดูแล้วถามว่า “พี่ช่วยทำแบบนี้หน่อยได้มั้ย ตำรวจส่วนใหญ่ไม่มีใส่กัน”

พ.ต.ทรงพล พร้อมนายตำรวจทั้งสอง สลับผลัดเปลี่ยนกันเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เป็นที่รู้กันดีในแวดวงเจ้าหน้าที่ว่า เสื้อเกราะที่ได้รับแจกจากรัฐมีไม่เพียงพอสำหรับนำมาให้ตำรวจใช้ปฏิบัติงานอย่างทั่วถึง เพราะราคาแพงมาก พวกเขาบอกว่า ของมือสองหลังกระทรวงตัวหนึ่งยังราคากว่า 30,000 บาท แถมยังเป็นที่เคลือบแคลงไม่มั่นใจว่ากระสุนจะเจาะทะลุเกราะได้หรือไม่ ทั้งยังเป็นเกราะอ่อนที่ไม่สามารถป้องกันการกระแทกอวัยวะสำคัญอย่างลิ้นปี่และหัวใจในเวลาที่ถูกยิงได้ ตลอดจนไม่สามารถตรวจสอบการหมดอายุของเส้นใย และไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเราด้วย

ดังนั้น จากตัวอย่างแผ่นเหล็กที่มีอยู่ในเสื้อเกราะเมดอินอเมริกา ปลายปีนั้นเอง พ.ต.ทรงพล และทีมวิจัย จึงทดลองแสวงหาเอาเครื่องโลหะทั้งหมดที่อยู่ในไทยมาปรับปรุงคุณภาพตามกรรมวิธีโลหะวิทยา เขาใช้เวลาเพียง 15 วัน ได้แผ่นเหล็กขึ้นมา 1 แผ่น แต่ที่เหมือนปาฏิหาริย์ คือเมื่อลองใช้ปืน .357 บรรจุกระสุนเจาะเกราะยิงใส่แผ่นเหล็กแล้วไม่ทะลุตั้งแต่การทดลองในครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยก็ยอมรับว่ายังมีข้อด้อยตรงที่มีน้ำหนักมากกว่าต้นแบบ จนคนทั่วไปที่ทราบข่าวในตอนนั้นใช้คำว่า "โลว์เทค" แต่ไม่ว่าคนจะว่าอย่างไร เสื้อเกราะแข็งตัวแรกของไทย โดยคนไทย ก็ได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว

ผู้คิดค้นกล่าวสรรพคุณว่า เป็นเสื้อเกราะที่ใช้เหล็กกล้าชุบพิเศษ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก 2 กิโลกรัมจากเสื้อเกราะเดิมของเมืองนอกที่ 3 กิโลกรัม ข้อดีคือ เป็นอุปกรณ์ป้องกันกระสุนปืนนานาชนิดได้ดีกว่าของต่างประเทศ ยิ่งหากเทียบราคา เสื้อเกราะกันกระสุนของต่างประเทศในระดับ "A 3" 1 ตัว สามารถซื้อเสื้อเกราะแข็งของไทยประดิษฐ์ได้ถึง 5 ตัว แม้จะมีน้ำหนักมาก แต่ก็ทนทานมีอายุคงทนได้ถึง 90 ปี เนื่องจากใช้ยางพาราหุ้ม ส่วนของต่างประเทศมีอายุไม่เกิน 7 ปี และไม่สามารถถูกน้ำได้

นอกจากนี้ทีมวิจัยก็ได้พัฒนาเสื้อเกราะโดยปรับลดจุดอ่อนบริเวณช่องว่างที่จะถูกกระสุนปืนให้มีเกราะป้องกันได้มิดชิดขึ้น พร้อมกับอุปกรณ์เสริมกันอีกหลากรูปแบบ คนต้นคิดตั้งชื่อให้เสื้อเกราะไทยประดิษฐ์นี้ว่า "เสื้อบางระจัน"

พ.ต.ทรงพล บอกว่า ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดจึงอยู่ภายใต้ชื่อ "บางระจัน" ไปด้วย ซึ่งหลังจากเสื้อเกราะบางระจัน ถูกผลิต จำหน่าย และกระจายออกสู่ท้องที่ ก็มีการรายงานเหตุการณ์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เสื้อเกราะที่ผลิตมาได้มาตรฐานและสามารถช่วยรักษาความปลอดภัยในชีวิตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ โดยเฉพาะกรณีการปราบปรามยาเสพติดแบบท้าชนล้างบางตามนโยบายรัฐบาลในเวลาที่ผ่านมา

ทางด้านผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องใช้โดยตรง ร.ต.อ.อภิชัย รองสารวัตรป้องกันปราบปราม กับ พ.ต.ต.ศรายุทธ 191 บอกว่า เสื้อเกราะมีประโยชน์มาก สถานีตำรวจบางแห่งมี 10 ตัว บางแห่งไม่มี ทั้งๆ ที่เสื้อเกราะควรเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ตำรวจทุกคนควรมีใช้ ไม่ว่าจะเอาไว้ใส่ไว้ในขณะไล่ล่า จับกุม ปิดล้อม ตรวจค้น ตั้งด่าน แต่ก็เป็นการใส่เฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์เท่านั้น เขาถึงเรียกว่า "เสื้อเผชิญเหตุ"

ทว่า แม้ เสื้อบางระจัน จะมีการมอบให้หน่วยงานตำรวจหน่วยงานรัฐไปทดลองใช้ หรือจะได้รับการตอบกลับที่ดีเพียงใดจากผู้ที่ซื้อไปใช้ แต่คุณภาพและมาตรฐานของเสื้อ ก็ยังคงเป็นรู้จักกันเฉพาะเพียงในแวดวงของเหล่าตำรวจทหารเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น

ภาคใต้ระบุ จะเอาบางระจัน

กระทั่งมาถึงปี 2547 ยุคที่รัฐบาลต้องรับมือกับสถานการณ์ไม่สงบในภาคใต้ ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดได้ง่าย ชีวิตเจ้าหน้าที่รัฐดับสิ้นลงเรื่อยๆ เป็นวิกฤตความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่ต้องเสี่ยงและล่อแหลมในการถูกลอบยิงได้ตลอดเวลา

พ.ต.ทรงพล เล่าว่า เสื้อเกราะของเดิมที่มีในประเทศทั้งหมดถูกระดมลงไปยังภาคใต้ รวมทั้ง เสื้อบางระจัน ที่เริ่มมีชื่อเสียงว่ากันกระสุนได้ดี ผู้สวมรอดตาย ถูกระบุจากเจ้าหน้าที่ทางภาคใต้ ให้นำมาเป็นเสื้อเกราะประจำกาย เขาบอกว่า นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชื่อเสียงของเสื้อเกราะบางระจันโด่งดังไปจนทั่ว

และในเมื่อสถานการณ์ยังเลวร้าย ความต้องการเสื้อเกราะก็มีเพิ่มขึ้นอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของเจ้าหน้าที่เป็นการส่วนตัว การสั่งซื้อผ่านหน่วยงาน และการอนุเคราะห์ให้ของบริษัทเองด้วย วันนี้พ.ต.ทรงพลระบุยืนยันว่า มีเสื้อบางระจันจำนวนมากแล้วที่ออกสู่ท้องถิ่น และคาดว่าจะมีความต้องการอย่างเร่งด่วนมากขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้นี้ แต่จำนวนเท่าไหร่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะไม่รู้ว่าศัตรูคือใครบ้าง

แต่ที่แน่ๆ ที่เขาบอก คือ "ที่เร่งด่วนตอนนี้ ต้องระดมผลิตเสื้อบางระจันไปให้ข้าราชการทางภาคใต้ ขวัญและกำลังของพวกเขาคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนเห็นร่วมกันว่าต้องเรียกกลับมาให้ได้"

ไม่เพียงแค่นั้น พ.ต.ทรงพล ยังติดต่อไปที่กรมราชทัณฑ์ สอบถามมือปืนรับจ้างว่าการซุ่มยิงทำอย่างไร แล้วเขาก็นำข้อมูลมาประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์ป้องกันชีวิตสำหรับข้าราชการระดับสูงขึ้นอีกหลายชิ้น เขาเรียกว่า “ชุดนิรภัย” ซึ่งประกอบไปด้วย กระเป๋านิรภัยอเนกประสงค์ เสื้อบางระจัน หมวกแก๊ปนิรภัย แผ่นบังแดดกระจกนิรภัย แผ่นเสริมประตูนิรภัย ชุดเสริมเบาะรถยนต์ หนอนนิรภัย กระเป๋าย่ามนิรภัย

เขารับประกันว่า ถ้าคนใช้ชุดนิรภัยชุดนี้จะลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้รอบด้านที่สุด ในราคาเพียงชุดละไม่ถึงสองหมื่นบาทเท่านั้น

ในขณะที่เสื้อบางระจันกำลังอยู่ในความต้องการของเจ้าหน้าที่ทางภาคใต้ ชุดนิรภัยที่มีส่วนประกอบอื่นๆ ร่วม ก็เริ่มได้รับการสั่งซื้อจากผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรต่างๆ ตามไปด้วย

เสื้อเกราะที่ผิดกฎหมาย

หลังเล่ากันถึงเรื่องบางระจัน ก็มาถึงช่วงชมการสาธิตยิงแผ่นเหล็กที่เป็นส่วนประกอบของชุดเกราะบางระจัน และแผ่นเหล็กเสริมประตูรถ
สิ้นเสียงปืน 9 มม. 11 มม. .357 และปืนลูกซอง ลูกกระสุนเพียงกระแทกทำให้แผ่นเหล็กนูนโปนไปอีกด้านหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่สามารถเจาะทะลุไปได้ แล้วผิดอย่างไรหรือ ที่เรียกว่าเสื้อเกราะ หรือชุดเกราะ รวมทั้งเรียกผลิตภัณฑ์อื่นๆ ว่า "ยุทธภัณฑ์" ด้วย

พ.ต.ทรงพล ตอบข้อซักถาม โดยไม่ได้ปฏิเสธคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อบางระจันที่เขามี ว่าคุณภาพมาตรฐานดี ถึงดีกว่า แถมราคาถูก แต่เขายืนยันเสียงแข็งว่า "พวกนี้ไม่ใช่ยุทธภัณฑ์"

"ถ้าเป็นเสื้อเกราะ รัฐตีความเป็นยุทธภัณฑ์ มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับสูงเท่านั้นที่จะมีได้ และต้องผ่านการขออนุญาตที่กรมอุตสาหกรรมทหาร บุคคลทั่วไปมีไม่ได้ กฎหมายไม่เอื้อ ซึ่งกฎหมายนี้ต้องแก้ไข เพราะขนาดปืนที่ใช้ฆ่ากันยังสามารถหาซื้อได้โดยขออนุญาตแล้วขึ้นทะเบียน แต่เสื้อกันกระสุนที่มีไว้ป้องกันตัวกลับมีไม่ได้ ผิดกฎหมาย ซึ่งความจริงแล้วควรจะแก้เป็นให้มีได้ โดยคุมด้วยทะเบียนเหมือนปืน ข้าราชการจะได้มีสิทธิ์ซื้อหาได้" เขาบอกต่อด้วยเหตุผลว่า "เราต้องให้แต้มต่อเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่าคนร้าย กฎหมายก็ต้องมีแต้มต่อให้เขาด้วย"

เสื้อบางระจัน ชุดนิรภัย และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เขามี ในเมื่อไม่สามารถนำผลิตภัณฑ์บรรจุไว้ในชื่อ ยุทธภัณฑ์ ได้ เขาจึงเบี่ยงเบนคำไปเป็น เสื้อนิรภัย ชุดนิรภัย อุปกรณ์นิรภัย เครื่องช่วยฝึกทหาร เครื่องมือ หรืออื่นๆ แทน

พ.ต.ทรงพล กล่าวว่า "งานแต่ชิ้นได้จดทะเบียนทางปัญญาไปแล้วหลายชิ้น แต่บางชิ้นก็ทำขึ้นมาเพื่อให้ตำรวจทหารมีของถูกได้ใช้ในการฝึกซ้อม อีกทั้งของที่ทำขึ้นมาอย่างแรกคือ ต้องสามารถนำไปใช้ได้จริง ไม่ใช่เป็นงานวิจัยที่ทำเสร็จออกมาแล้วอยู่แต่บนหิ้ง"

*********

เกียรติคุณยุทธภัณฑ์ไทยประดิษฐ์

มีการรายงานผลของการใช้ผลิตภัฑณ์ของ บริษัท พรีซิพาร์ท จากหลายหน่วยงาน ที่กล่าวถึงประโยชน์และความเหมาะกับสภาพของเครื่องมือ เช่น ใช้กระสุนยางยิงคนร้ายในกรณีจี้จับประชาชนเป็นตัวประกัน โดยสามารถทำให้คนร้ายชะงักแต่ไม่เสียชีวิต การใช้ระเบิดเสียงทำจากยาง สามารถสลายกลุ่มเด็กนักเรียนที่ยกพวกตีกัน กรณีแก๊งมอเตอร์ไซค์ ซิ่งกวนเมือง สามารถใช้กระบองยางตี ใช้กระสุนยางยิง โดยแค่บาดเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่เสียชีวิต สามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเข้าควบคุมฝูงชน ทำให้ฝูงชนบาดเจ็บน้อยและสลายฝูงชนได้ในที่สุด หรือ ปี 2544 กองกำกับการป้องกันและปราบปรามจลาจลแจ้งหนังสือเข้ามาเรื่องคุณภาพของระเบิดแสงเสียง และกระสุนยาง โดยสามารถช่วยเหลือตัวประกันในท้องที่สถานีตำรวจบางนาได้

ตัวอย่าง นอกจากนั้น คือ อุปกรณ์กระสุนยาง โล่ หมวกนิรภัย เครื่องยิงแห แผงกั้น ทุ่นบกดักรถยนต์ ของบริษัท พรีซิพาร์ท ถูกนำไปสาธิตและเป็นเครื่องรักษาความปลอดภัยในงานประชุม APEC ที่จัดขึ้นในประเทศไทยครั้งที่ผ่านมา

เครื่องยิงแห กระบองอเนกประสงค์ กระสุนยางลูกซอง เสื้อเกราะกันปืนพก เป็นอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานควบคุมผู้ต้องขังก้อเหตุร้ายในเรือนจำและทัณฑสถาน ของกรมราชฑัณฑ์
เครื่องยิงแหสำหรับจับสุนัขบนทางด่วน นำมาใช้โดยบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ
สถานที่ทั่วๆ ไป เป็นต้น

ทั้งนี้ วิธีการในการใช้ยุทธภัณฑ์ของบริษัทได้รับเชิญให้ไปทำการสาธิตจากองค์กรในทั่วประเทศ เช่น อุปกรณ์ที่เหมาะสมใช้ในงานเอเปก คือ กระสุนเครื่องยิงแห เครื่องยิงเสียง แผงกั้นอเนกประสงค์ ระบบป้องกันการก่อการร้ายด้วยคาร์บล็อกหรือทุ่นบกดักรถยนต์ทุกชนิด เพื่อหยุดยั้งรถยนต์ทุกชนิดที่จะเข้าไปก่อวินาศกรรมตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ และสามารถใช้หยุดยั้งรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมและฝ่าด่านตรวจตามแนวชายแดน






กำลังโหลดความคิดเห็น