เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่จะต้องบันทึกไว้ในวงการบันเทิง(หรือถ้าจะให้เจาะจงลงไปแบบตรงๆ ก็คงจะต้องบอกว่าวงการหนังเอกซ์)บ้านเราก็ว่าได้กับเรื่องราวความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับนักแสดง(หนังแผ่น) "แนท เกศริน ชัยเฉลิมพล" หลังพบว่าก่อนที่จะมาถ่ายหนังแผ่นในแนววาบหวิวนี้เจ้าตัวเคยแสดง "หนังเอกซ์" มาก่อน
ตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน เจอะเจอกับใคร(โดยเฉพาะหนุ่มๆ)หลายคนเป็นต้องคุยถึงเรื่องของเธอกันอย่างออกรส(ในลักษณะที่แตกต่างกันไป)แถมมีการเรียกกันอย่างนับญาติอย่างเสร็จสรรพไม่ว่าจะเป็นคนแก่ คนหนุ่ม สาวๆ (ตามชื่อหนังที่เธอแสดง)ว่า "น้องแนท"
จากกระแสที่เกิดขึ้นไม่เพียงจะทำให้ "หนัง" อะไรก็ตามเพียงขอให้มีชื่อแนทเข้ามาเกี่ยวข้องละก็เป็นต้องได้รับความสนใจ (ถึงขนาดที่ว่าพ่อค้าหัวใสบางคนแถวคลองถมโฆษณาขายวีซีดีเรื่องหนึ่งว่า "เด็ดๆ ครับพี่...น้องมะปรางเพื่อนน้องแนท...")ยังส่งผลให้บรรดาสื่อทั้งหลายขุดคุ้ย - เปิดโปงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตหนังโป๊ออกมานำเสนอกันอย่างกว้างขวางในหลายๆ แง่มุมชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
...และต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของกระแสที่เป็นอยู่จากข้อมูลต่างๆ รวมทั้งเรื่องราวคำบอกเล่าของคนในวงการหนังเอกซ์บ้านเรา
นายทุน - ผู้กำกับ
หลังการเรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตยในปี 2516 ส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าวมีหนัง(บนดิน)ขายฉากโป๊เปลือยจากต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่องและเด่นชัดมากยิ่งขึ้น (จากที่มีการเข้าฉายอยู่เสมอๆ ก่อนหน้านี้)ในช่วงปี 2516 ทั้งสื่อโฆษณาภาพยนตร์และสินค้าหลายชิ้นต่างใช้ภาพที่ล่อแหลมออกเผยแพร่ ถึงขนาดที่สื่อมวลชนยุคนั้นเรียกหนังเล่านี้ว่า "หนังขายเซ็กซ์"
ไม่เพียงแต่หนังนอกเท่านั้นแต่หนังไทยเองก็ค้นพบ "สูตรสำเร็จ" ในรูปแบบของการทำหนังที่มีฉากเซ็กซ์ ฉากเปลือย เข้ามาเกี่ยวข้องตลอด...แต่ถึงแม้จะมีหวือหวาขนาดไหนทว่าหนังบนดินดังกล่าวก็ไม่สามารถเลยเถิดไปถึงการร่วมรักกันอย่างโจ่งแจ้งได้ทางออกที่ดีก็คือการทำหนังเอกซ์มันซะเลย
"ตอนนั้นเราก็ทำตามพวกหนังเอกซ์ญี่ปุ่น หนังเอกซ์ฝรั่งนั่นแหละ" พี่ชอบ(นามสมมติ) หนึ่งในผู้กำกับหนังเอ็กซ์ไทยเล่าให้เราฟัง
"หนังพวกนี้แต่ก่อนไม่ค่อยจะมีวางขายโจ่งแจ้งมากมาย ต้องเช่าเอาตามร้านวิดีโอ แล้วแต่ก่อนหนังเอกซ์ที่เป็นคนไทยเล่นบ้านเราไม่ค่อยจะได้รับความนิยมเท่าไหร่นะ หนึ่งเพราะมีปริมาณไม่มาก สองผู้หญิงของเราสวยสู้เขาไม่ได้ เครื่องเคราหรือว่าลีลาของผู้ชายนี่ยิ่งไปกันใหญ่ เทียบกับฝรั่งไม่ติด แต่หนังไทยมันจะได้เรื่องของบรรยากาศที่คุ้นเคย เรือนแพบ้าง กระท่อมปลายนาบ้าง" พี่ชอบย้อนอดีตก่อนจะเข้าสู่ปัจจุบัน
"ถามว่ามันมีนายทุนสักกี่เจ้า ที่ใหญ่ๆ ถ้าเป็นตอนนี้มันมีอยู่ประมาณ 4 - 5 เจ้าได้ ส่วนย่อยๆ อันนั้นคงตอบไม่ได้..."
จำนวนตัวเลขที่บอกออกมาอาจจะดูไม่มากมายแต่ว่ากันว่า หากมีการเปิดเผยรายชื่อที่แท้จริงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังในกระบวนการผลิตหนังเอกซ์ออกมาแล้วล่ะก็รับรองว่าจะต้องเป็นข่าวชนิดสามวันสี่วันไม่มีสร่าง เพราะคนเหล่านั้นประกอบไปด้วยทั้งคนมีสี เจ้าของสื่อ เจ้าของบริษัทวิดีโอ - วีซีดี เจ้าใหญ่ๆ
"ทำหนังเอกซ์มันก็จะไปยากอะไร นายทุนเขาก็โยนเงินลงมาตูม 2 แสนบาทนี่ก็ได้หนึ่งเรื่องแล้ว หรือไม่บางทีก็ไม่มีนายทุน ทำกันเองเลย แล้วพวกนี้ที่ทำกันซึ่งก็คือพวกผมเนี่ยถามว่าเป็นใคร ส่วนใหญ่บอกเลยว่าคนเก่าๆ แล้วก็คนที่เคยคลุกคลีอยู่ตามกองถ่ายหนัง เป็นพวกไฟบ้าง เป็นตากล้องบ้างที่เคยอยู่กองละครมาก่อน พอที่จะมีความชำนาญในเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือบ้าง"
"ทีมนึงก็ทำกันไม่เยอะ 4 - 5 คนได้"
บางคนอาจสงสัยทำหนังอย่างนี้ต้องมีผู้กำกับด้วยหรือ?
"พี่ได้เงินค่าจ้างต่อเรื่องประมาณ 5 หมื่นบาทนะ เรื่องหนึ่งถ่ายสามวันนี่ได้ห้าหมื่นบาทนะ ที่ผ่านมาก็ทำประมาณ 20 เรื่องได้"
"อย่างถ้าเป็นหนังโป๊แต่ก่อนผู้กำกับก็จะมีบทบาทมากหน่อย อย่างผมก็ต้องเขียนบท เขียนสคริปต์ อ๊ะมีนะครับ แต่ว่ามันก็ไม่ได้มากมายอะไร พล็อตเรื่องเราก็เอามาจากหนังใหญ่ทั่วๆ ไป ดัดแปลงนิดๆ หน่อยๆ ธีมหลักๆ ก็หนีไม่พ้นฉากข่มขืน สาวบ้านป่าบ้านนาถูกหลอกมา อันนี้แบบเก่าๆ"
"แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ นี่ไม่ยาก บทพูดจะน้อย มาถึงก็ซัดกันเลย อันนี้ผมว่ามันเป็นเสน่ห์ของหนังไทยที่หายไป แต่ที่เขาทำดีๆ เป็นเรื่องเป็นราวก็ยังมีอยู่บ้างนะ"
"ส่วนไอ้ที่ยอดฮิตที่บอกว่าเป็นแอบถ่ายอะไรนั่นน่ะ บอกกันไว้ก่อนเลยว่าร้อยละเกือบจะร้อยเลย ถ้ามันออกมาจากบริษทันนะ เมคขึ้นมาทั้งนั้นแหละ อย่าไปเชื่อ สวนฮงสวนหิน มอมยาเด็กมัธยม จัดฉากทั้งนั้น แต่ถ้ามองแบบคนอย่างพวกผมต้องบอกว่าเป็นทางออกที่ดีของหนังเลยนะ คือถ้าเป็นเรื่องแบบเดิมๆ เอาพล็อตหนังมาทำมันซ้ำซาก"
เอเย่นต์จัดหาดารา
บอกไปอาจจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่จากปากของเอเยนต์จัดหาเด็กสาวหน้าตาดีๆ ไปถ่ายภาพนู้ดยืนยันว่าวันหนึ่งๆ จะมีสาวพาณิชย์หรือว่าเด็กเทคนิค รวมทั้งนักศึกษาเดินเข้ามาหาเธอเฉลี่ยวันละ 4 - 5 คน
"ถ้าเขารู้ว่าเราทำงานอย่างนี้นะเขาก็จะเดินมาหาเราเองเลย..." เอเยนต์กะเทยหาเด็กถ่ายนู้ดและเดินแฟชั่นเผย
"ถามว่าเด็กพวกนี้ไปหาที่ไหน คำตอบก็คือแต่ก่อนอาจจะเป็นหมอนวด เด็กบาร์ ทว่าในระยะหลังก็จะเป็นเด็กไซด์ไลน์ เด็กเที่ยวกลางคืน เด็กคาราโอเกะ ซะเป็นส่วนใหญ่"
"มันจะเป็นปากต่อปากกันค่ะ อย่างคนนึงทำก็ไปบอกเพื่อนอีกคนนึงว่าคนนี้นะเขาหาตังค์ให้เราใช้ได้นะ ถ้าอยากจะมีเงินใช้ พอเด็กคนนั้นสนใจก็จะเดินเข้ามาหาเราเอง นัดหมายดูตัวหรือว่าทำงานอะไรกันก็ไม่ยากแล้ว โทร.กริ๊งเดียว"
"ตอนนี้ที่เริ่มจะนิยมก็คือเด็กเที่ยวที่อยู่ตามต่างจังหวัดใหญ่ๆ ที่มันมีที่เที่ยวกลางคืน อย่างแถบนี้ก็ที่พิษณุโลกแล้วก็จะอยู่กันเป็นแก๊งๆ เยอะมาก เวลาไปทีก็จะได้เครือข่ายมาพอสมควร เริ่มต้นก็อาจจะถ่ายหนังสือก่อน ถ่ายคาราโอเกะ พาไปเดินแบบบ้าง เจอแสงเจอสีเข้าก็ใช้เงินมากขึ้น เอ้ามีคนสนใจเรียกไปนอน ขยับขึ้นไปอีกเอ้าไหนๆ ก็เสียไปแล้วเล่นหนังมั้ย"
ทำไมส่วนมากพอเป็นข่าวร้อยละเกือบร้อยมักจะบอกว่าโดนหลอก?
"เชื่อมั้ยล่ะ..(หัวเราะ) โดนหลอกบังคับนี่มันก็ส่วนหนึ่งแต่น้อยมาก ถามว่าทำมั้ย ไม่ทำเอ้าไม่ทำ หาคนอื่นแทน จริงๆ มันน่าจะเป็นเรื่องของการตกกระไดพลอยโจนแล้วเห็นว่ามันหาเงินได้ไม่ยากมากกว่า เด็กเขารู้อยู่แล้วว่าจะต้องมาเจอกับอะไร มันจะเป็นสเต็ปๆ อย่างที่บอก บางคนก็อาจจะขายตัวก่อน เป็นเด็กไซด์ไลน์ เอ้า ไหนก็ไหนๆ ทำแบบนั้นได้ทีนึงก็พันสองพันถ่ายหนังดีกว่าอย่างต่ำๆ ก็ได้แล้วหมื่น สองหมื่น"
"แต่ถ้าถามว่าจริงๆ เขาอยากทำมั้ย คงไม่มีใครอยากหรอกแต่ว่าด้วยฐานะ ด้วยสติปัญญา ด้วยนิสัยที่เป็นคนชอบเที่ยวชอบสนุก ถ้าไปทำอย่างอื่นมันก็ยาก ส่วนจะอายมั้ย...คือพวกเราอยู่ในที่มืดอยู่แล้ว ถึงจะรู้ก็รู้กันเองภายใน คนที่ดูก็จะเป็นกลุ่มๆ เล็กๆ แต่ที่จะทำให้เด็กกลัวก็คือพวกสื่อนี่แหละ"
"ส่วนผู้ชายก็ลักษณะคล้ายๆ กัน พวกนี้ส่วนหนึ่งก็เด็กเที่ยว บางส่วนก็จะเป็นพวกที่เขาทำงานบริการกลางคืน แต่ว่าค่าตัวผู้ชายที่ไปถ่ายหนังพวกนี้มันจะถูกนะ ถูกกว่าผู้หญิง เรื่องหนึ่งก็อาจจะได้สัก 5,000 บาท แต่ถ้าเป็นผู้ชายพวกฝรั่งอะไรนั่นอันนี้ไม่รู้เหมือนกัน"
ถามถึงเรื่องค่าตอบแทนที่ได้รับเจ้าตัวบอกว่าไม่อยากเอ่ยแต่ดูจากเฟอร์นิเจอร์ที่เธอสวมใส่ รถเก๋งที่เธอขับต้องบอกว่าไม่ธรรมดา
"ทั่วไป 30 - 70 บางทีก็ 40 - 60 แล้วแต่ ไม่มีการเซ็นสัญญา เด็กบางคนไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วถูกหักเท่าไหร่ พอมารู้ทีหลังก็โวยวาย บางคนก็แยกตัวไปทำเอง อันนี้ก็ว่ากันไปเพราะเอเยนต์ดีก็มีเอเยนต์ไม่ดีก็มี ส่วนพวกที่จ้างเองเขาก็ไม่ค่อยจะเรื่องมาก ถึงเวลาจ่ายก็จ่าย เพราะเขาค่อนข้างจะได้เยอะอยู่แล้วหนังเรื่องนึงก็กินกันยาว แต่ก็อย่างที่บอกมันก็มีทั้งที่ดีที่ไม่ดี เป็นเหมือนกันหมด"
ให้สังเกตที่ไหนมีกะเทย ที่นั่นมักจะมีเรื่องในทำนองนี้
"หนูว่าอย่างหนูเนี่ยเด็กจะกลัวมากกว่า เราก็ต้องคุยกับเขาดีๆ จริงๆ นะเพศอย่างพวกเรามันน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของเรื่องในทำนองนี้แล้วนะ เพราะพวกหนูมันเป็นประเภทที่เข้ากับคนได้ง่ายมั้ยรู้ใจทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย"
ผลิต-โลเกชัน
รถตู้ฟิล์มทึบวิ่งเขาไปจอดที่บังกะโล เด็กหนุ่ม 2 - 3 คนยกของพะรุงพะรังทั้งสปอตไลต์ดวงโต 2 ดวง สายไฟ ฯลฯ ลงจากรถพร้อมด้วยสาวๆ หน้าตาดี สามสี่คนท่าทางโฉบเฉี่ยวก้าวลงตามมา ก่อนจะมีรถเก๋งขับเข้ามาจอดชายหนุ่มวัยกลางคนก้าวเดินเข้ามาสมทบ จากนั้นทั้งหมดพากันหายเข้าไปในบังกะโลกว่าจะออกมาอีกทีก็เช้าของอีกวัน
"ที่ยอดฮิตนั่นแหละ บังกะโลลับๆ ตามชายทุ่งต่างจังหวัดที่คนน้อยๆ น้ำตกบ้าง อีกที่ยอดฮิตก็ที่แพกาญจนบุรี ทะเลที่มันเงียบๆ อุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรมากไฟ 600 หรือว่า 800 เก่าๆ ดวงสองดวง กล้องเบต้าหนึ่งตัว แค่นี้ก็ใช้ได้แล้ว เรื่องแบบนี้ยิ่งคนน้อยก็ยิ่งดี" พี่ชอบคนเดิมเล่าถึงบรรยากาศของวันออกกอง พร้อมกับบอกว่าหากเป็นเมื่อก่อนนี้กองถ่ายจะค่อนข้างจะใหญ่กว่า
"แต่ก่อนถ่ายเป็นฟิล์มเลยก็มีนะ แต่ว่ามันยุ่งยากเดี๋ยวนี้(กล้อง)เบต้าก็หรูแล้ว แต่ส่วนมากจะเป็นดีวีธรรมดา แล้วแต่ก่อนที่ถ่ายก็จะเป็นพวกน้ำตก เป็นทุ่งนาชายป่าชายเขาอะไรนั่นน่ะเวลาจะถ่ายก็จะมีคนคอยดูต้นทางให้ บางทีก็หลอกเจ้าของที่ว่าถ่ายแบบหนังสือ ถ่ายโฆษณา อาจจะให้เงินบ้าง แต่ถ้าที่ไหนเราซี้กับตำรวจในพื้นที่ก็อาจจะขอให้เขาช่วยได้"
ได้เวลาของผู้กำกับแสดงความสามารถ แต่ที่ต้องชื่นชมก็คือพวกนักแสดง
"จริงๆ ก็ไม่ได้กำกับมากมายอะไร จะบอกคร่าวๆ ว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นนะ ต้องมีแบบนั้นนะ ถ้าต้องการให้ผู้ชายเลียของผู้หญิงนี่บางครั้งเขาก็อาจจะคิดหนัก ก็ต้องมีการเพิ่มค่าแรงให้อีกนิด...มีการเทกกลางคันมั้ย ไม่นะ ส่วนมากก็จะถ่ายกันยาวเลยทีเดียว หนังแบบนี้จะมาถ่ายซ่อมอะไรมันคงยากน่ะนะ"
"เรื่องหนึ่งถ้ามันเป็นเรื่องเป็นราว ต้องหาโลเกชันก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 - 5 วันแต่ถ้าเป็นแบบว่าเปิดห้อง เปิดโรงแรมถ่ายกัน วันสองวันก็เสร็จแล้วเรื่องหนึ่ง เข้ากระบวนการตัดต่ออีก 2 - 3 วัน ก็เรียบร้อยได้มาสเตอร์พร้อมปั๊ม เรื่องนึงปั๊มกันประมาณหมื่นแผ่น โรงงานที่ทำส่วนมากก็จะอยู่รอบๆ กรุงเทพฯ แถวชานเมืองอย่างปทุมธานี หรือว่าแถวเมืองนนท์"
ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจหากพบว่าทำไมที่เรียกกันว่า "ท่าน้ำนนท์" จะมีหนังพวกนี้ขายเยอะมาก
"แหล่งปั๊มลองให้สังเกตเอาพวกทาวเฮาส์ที่มันดูดีๆ หน่อยน่ะ คือมันจะไม่ถึงขนาดเป็นตรอกชุมชนหรือว่าสลัมอะไรหรอกอย่างนั้นมันจะเป็นพิรุธ ส่วนมากที่ทำกันก็คือพวกที่เป็นทาวน์เฮาส์ค่อนข้างจะดี เข้าออกสะดวกแต่ต้องเป็นที่เงียบๆ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน"
ทำตรงนี้รู้สึกผิดบ้างมั้ย?
"จริงๆ คงไม่มีใครรู้สึกดีหรอก ก็ลองนึกดูสิถ้าตรงหน้าเป็นลูกสาวเรา ลูกชายเรา เราจะรู้สึกอย่างไร แต่บางทีมันก็คือมันไม่มีทางเลือกที่ดีๆ อย่างนี้นะ อย่างคนที่เขามาเล่นเขาก็ต้องบอกว่ามันค่อนข้างจะได้เงินง่าย แล้วบางคนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่สนุกก็มี"
หนังเอกซ์ไทยในปัจจุบัน/ทัศนะคนดู
"ถ้ารับมาจากเอเย่นต์อีกทีแผ่นนึงจะอยู่ที่ 40 บาท ราคาขายก็ 80 บาท จะฮาร์ดคอร์หรือไม่ฮาร์ด จะฝรั่งหรือไทยก็ราคานี้..." อดีตเด็กขายหนังโป๊ที่จังหวัดเชียงใหม่คนหนึ่งซึ่งปัจจุบันผันตัวมาทำงานเป็นรปภ.ในกรุงเทพฯเปิดเผย ซึ่งเมื่อถามว่าเข้าไปขายได้อย่างไร เจ้าตัวบอกว่าได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่มาอีกต่อหนึ่ง
"รับของ ก็ไม่ยากหรือวุ่นวายอะไร มีเบอร์คนที่เอามาส่งเราก็โทร.ไปนัดกับเขาสะดวกที่ไหน วันไหนอย่างไร คนพวกนี้คุยกันไม่ยากหรอก แต่ถ้าแบบว่าไม่คุ้นหน้าหรือว่าอย่างผมจะให้คนอื่นไปรับแทนนี่ไม่ได้ ต้องคุ้นหรือว่ามีการแนะนำจากคนที่เคยทำมาก่อนนั่นแหละ"
"ส่วนที่กรุงเทพฯนี่ราคาขายของมันจะอยู่ที่ 50 บาท ที่สะพานพุทธนี่ถ้าเราเอาแผ่นเก่าไปแลกก็เพิ่มเงิน 30 บาทเพราะฉะนั้นต้นทุนของมันก็น่าจะอยู่ที่ราคา 20 อันไหนขายดีราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้นได้นะ"
"แต่ก็ใช่ว่ามันจะได้กำไรมากมายอะไรนะ เพราะทำไปทำมาตอนนี้ทุกบ้านแทบจะไรต์ซีดีกันได้แล้ว ซื้อไปแผ่นเดียวไรต์กันสิบแผ่นอันนี้ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบเหมือนกัน แถมพวกนี้บางทีซื้อมาแล้วก็ไรต์ขายเองเลยก็มี"
สภาพการณ์ของหนังเอกซ์ไทยในปัจจุบันต้องบอกว่าคึกคักมากกว่าเดิมมากนัก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเทคโนโลยีที่สะดวกขึ้นทั้งในเรื่องของการผลิตรวมไปถึงการโฆษณาขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อทางอินเทอร์เน็ต
"รักเกินพิกัดเสียว" "ใจแตก" "น้องอยากเป็นอึ้งย้ง" "พิศวาสหาดป่าตอง" "น้องเหมียว" "แอบดูนักเรียนม.3" "เปิดซิงเด็กสาวใจแตก" "ฝันรักนักศึกษา" "สาวมัธยมต้น" "เปลือยนางแบบ" "เด็กเสเพล" "รวมสุดยอดนางแบบ (เพื่อเธอ)" "นวลนาง" "เกาะสวาท" "เชอรี่แอน" "สวิงกิ้งทัวร์" "Love tank" "Be heart" "รสสวาท นางไม้" "รสสวาท สาวพัทยา" "3 สาว เซ็กซ์บอมบ์" "น้องแจงและเพื่อนๆ" "น้องน้อยหน่าและน้องอุ้ม" ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือแค่บางส่วนของหนังเอ็กซ์ไทย(ทั้งเก่าและใหม่)ที่วางขายกันอยู่ในขณะนี้
"ที่ขึ้นชื่อในวงการก็อย่างเช่นที่ใช้ชื่อว่า "A moview" เขาค่อนข้างจะคัดหน้าตาของนางแบบที่มาเล่นรวมทั้งแสงเงาในภาพก็ค่อนข้างจะสวย รวมทั้ง "Butterfly" และ "Erotic Film" ที่จะเน้นไปในทางลักษณะดุเดือดเร้าใจ" นักดูหนังโป๊คนหนึ่งแสดงความคิดเห็น
"ส่วน บีบี ไพรเวท ที่เป็นข่าว พวกนี้เป็นต่างชาติที่เคยทำหนังให้กับไพรเวทบริษัทหนังโป๊ของอเมริกานะ ไพรเวทนี่เป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อและทรงอิทธิพลมากคือพวกนี้ก็ทำขายทั่วโลกอยู่แล้ว ทีนี้ตอนหลังๆ เทรนด์เอเชียเนี่ยมาแรง แล้วที่ไหนมันจะเหมาะเท่ากับเมืองไทย ทั้งที่พัก โรงแรม วิวทิวทัศน์ คือถ้าเป็นทะเลเนี่ยเมืองไทยจะมีพร้อม"
"พวกนี้เคยมาทำให้ไพรเวทแล้วมันก็เห็นช่องทาง หลังๆ ก็มาทำกันเอง ก็กลับเข้ามาเมืองไทยอีกทีแบบไม่มีสังกัด มีช่างกล้อง ดาราคนอเมริกา อิตาลี ส่วนผู้หญิงก็จะคัดเลือกเอาพวกผู้หญิงคาราโอเกะ พวกนอกตู้ที่ดูมีระดับหน่อย ทำเสร็จมาสเตอร์ก็ส่งไปนอกส่วนที่เหลือก็ปั๊มขายเมืองไทย"
"ถ้าเป็นหนังไทยนายทุนส่วนหนึ่งก็จะเป็นเจ้าของแท่นนั่นแหละ แต่ก่อนพวกนี้ก็จะปั๊มหนังโรงพวกแผ่นผีนั่นแหละ แต่ว่าระยะหลังๆ กฎหมายเข้มงวดมากขึ้นแท่นพิมพ์ถูกปิด พวกนี้ก็เลยต้องหาทางออกก็มาปั๊มหนังโป๊บ้างแต่ระยะหลังๆ พวกหนังโป๊ฝรั่งไม่เป็นที่ต้องการมากนัก แต่หนังโป๊ไทยเนี่ยขายได้พวกนี้ก็เลยทำบ้าง พวกที่มาทำให้ก็เป็นพวกที่ทำหนังสือโป๊มาก่อนหรือว่าพวกตามกองถ่ายบ้าง"
จะน่าภูมิใจหรือไม่น่าภูมิใจก็ไม่รู้แต่แหล่งข่าวยืนยันว่าหนังโป๊ไทยทุกวันนี้เริ่มมีมาตรฐานที่ดีขึ้น
"ดูกันง่ายๆ หนังฝรั่งเขาใส่ถุงยางแบบสีขาวสะอาดดูมีคลาสเลยนะ แต่ของไทยสีแดงสีเขียวดูไร้เกรดไร้ราคาเป็นที่สุด แต่ช่วงหลังๆ นี่ก็ดีขึ้นเพราะมีการคัดเด็ก เอาแบบหัวนมไม่ดำ ท้องไม่ลาย มีการตกแต่ง มีดีไซเนอร์เข้ามา"
"มันต้องปรับตัว อุตสาหกรรมนี้คนไทยต้องสู้ เมื่อก่อนถ่ายกันแต่เปิดบริสุทธิ์ไม่ได้ทำหนัง พวกต่างชาติมาก็ทิ้งความรู้ไว้ให้เพียบ เราก็เริ่มจับทางได้ เริ่มผลิตเองตอนนี้ที่มีชื่อก็อย่างผู้กำกับที่ใช้ชื่อว่าช่อ ชะบาแล้วก็แสงตะวัน ที่เขาทำ ทาร์ซาน 1 ทาร์ซาน 2 หรืออย่างเรื่องใจแตกเอาเด็กที่ดูเหมือนนักเรียนจริงๆ มาเลยแล้วก็แบบว่ามีการสัมภาษณ์มีการเล้าโลมกัน"
ก่อนจบการสนทนาแหล่งข่าวยังบอกถึงตลาดที่มีการขายหนังเอ็กซ์ที่ขึ้นชื่อให้ลองไปหาเลือกซื้อ
"คลองถมไม่ค่อยมีหนังไทย มันก็พอมีบ้างที่มันดังจริงๆ แต่แหล่งใหญ่ที่สุดตอนนี้ที่หนึ่งเลยคือท่าน้ำนนท์ รองลงมาก็ตวันนา ใต้สะพานพุทธนี่ก็เยอะใช่เล่น แต่แหล่งที่จะหาซื้อหนังโป๊ได้ดีที่สุดคือท่าขี้เหล็ก มีหมดทั้งไทยเทศ ทั้งวีซีดี ดีวีดีและราคาถูกมากๆ"
ตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน เจอะเจอกับใคร(โดยเฉพาะหนุ่มๆ)หลายคนเป็นต้องคุยถึงเรื่องของเธอกันอย่างออกรส(ในลักษณะที่แตกต่างกันไป)แถมมีการเรียกกันอย่างนับญาติอย่างเสร็จสรรพไม่ว่าจะเป็นคนแก่ คนหนุ่ม สาวๆ (ตามชื่อหนังที่เธอแสดง)ว่า "น้องแนท"
จากกระแสที่เกิดขึ้นไม่เพียงจะทำให้ "หนัง" อะไรก็ตามเพียงขอให้มีชื่อแนทเข้ามาเกี่ยวข้องละก็เป็นต้องได้รับความสนใจ (ถึงขนาดที่ว่าพ่อค้าหัวใสบางคนแถวคลองถมโฆษณาขายวีซีดีเรื่องหนึ่งว่า "เด็ดๆ ครับพี่...น้องมะปรางเพื่อนน้องแนท...")ยังส่งผลให้บรรดาสื่อทั้งหลายขุดคุ้ย - เปิดโปงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตหนังโป๊ออกมานำเสนอกันอย่างกว้างขวางในหลายๆ แง่มุมชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
...และต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของกระแสที่เป็นอยู่จากข้อมูลต่างๆ รวมทั้งเรื่องราวคำบอกเล่าของคนในวงการหนังเอกซ์บ้านเรา
นายทุน - ผู้กำกับ
หลังการเรียกร้องเรื่องสิทธิเสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตยในปี 2516 ส่งผลให้ในช่วงเวลาดังกล่าวมีหนัง(บนดิน)ขายฉากโป๊เปลือยจากต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่องและเด่นชัดมากยิ่งขึ้น (จากที่มีการเข้าฉายอยู่เสมอๆ ก่อนหน้านี้)ในช่วงปี 2516 ทั้งสื่อโฆษณาภาพยนตร์และสินค้าหลายชิ้นต่างใช้ภาพที่ล่อแหลมออกเผยแพร่ ถึงขนาดที่สื่อมวลชนยุคนั้นเรียกหนังเล่านี้ว่า "หนังขายเซ็กซ์"
ไม่เพียงแต่หนังนอกเท่านั้นแต่หนังไทยเองก็ค้นพบ "สูตรสำเร็จ" ในรูปแบบของการทำหนังที่มีฉากเซ็กซ์ ฉากเปลือย เข้ามาเกี่ยวข้องตลอด...แต่ถึงแม้จะมีหวือหวาขนาดไหนทว่าหนังบนดินดังกล่าวก็ไม่สามารถเลยเถิดไปถึงการร่วมรักกันอย่างโจ่งแจ้งได้ทางออกที่ดีก็คือการทำหนังเอกซ์มันซะเลย
"ตอนนั้นเราก็ทำตามพวกหนังเอกซ์ญี่ปุ่น หนังเอกซ์ฝรั่งนั่นแหละ" พี่ชอบ(นามสมมติ) หนึ่งในผู้กำกับหนังเอ็กซ์ไทยเล่าให้เราฟัง
"หนังพวกนี้แต่ก่อนไม่ค่อยจะมีวางขายโจ่งแจ้งมากมาย ต้องเช่าเอาตามร้านวิดีโอ แล้วแต่ก่อนหนังเอกซ์ที่เป็นคนไทยเล่นบ้านเราไม่ค่อยจะได้รับความนิยมเท่าไหร่นะ หนึ่งเพราะมีปริมาณไม่มาก สองผู้หญิงของเราสวยสู้เขาไม่ได้ เครื่องเคราหรือว่าลีลาของผู้ชายนี่ยิ่งไปกันใหญ่ เทียบกับฝรั่งไม่ติด แต่หนังไทยมันจะได้เรื่องของบรรยากาศที่คุ้นเคย เรือนแพบ้าง กระท่อมปลายนาบ้าง" พี่ชอบย้อนอดีตก่อนจะเข้าสู่ปัจจุบัน
"ถามว่ามันมีนายทุนสักกี่เจ้า ที่ใหญ่ๆ ถ้าเป็นตอนนี้มันมีอยู่ประมาณ 4 - 5 เจ้าได้ ส่วนย่อยๆ อันนั้นคงตอบไม่ได้..."
จำนวนตัวเลขที่บอกออกมาอาจจะดูไม่มากมายแต่ว่ากันว่า หากมีการเปิดเผยรายชื่อที่แท้จริงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังในกระบวนการผลิตหนังเอกซ์ออกมาแล้วล่ะก็รับรองว่าจะต้องเป็นข่าวชนิดสามวันสี่วันไม่มีสร่าง เพราะคนเหล่านั้นประกอบไปด้วยทั้งคนมีสี เจ้าของสื่อ เจ้าของบริษัทวิดีโอ - วีซีดี เจ้าใหญ่ๆ
"ทำหนังเอกซ์มันก็จะไปยากอะไร นายทุนเขาก็โยนเงินลงมาตูม 2 แสนบาทนี่ก็ได้หนึ่งเรื่องแล้ว หรือไม่บางทีก็ไม่มีนายทุน ทำกันเองเลย แล้วพวกนี้ที่ทำกันซึ่งก็คือพวกผมเนี่ยถามว่าเป็นใคร ส่วนใหญ่บอกเลยว่าคนเก่าๆ แล้วก็คนที่เคยคลุกคลีอยู่ตามกองถ่ายหนัง เป็นพวกไฟบ้าง เป็นตากล้องบ้างที่เคยอยู่กองละครมาก่อน พอที่จะมีความชำนาญในเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือบ้าง"
"ทีมนึงก็ทำกันไม่เยอะ 4 - 5 คนได้"
บางคนอาจสงสัยทำหนังอย่างนี้ต้องมีผู้กำกับด้วยหรือ?
"พี่ได้เงินค่าจ้างต่อเรื่องประมาณ 5 หมื่นบาทนะ เรื่องหนึ่งถ่ายสามวันนี่ได้ห้าหมื่นบาทนะ ที่ผ่านมาก็ทำประมาณ 20 เรื่องได้"
"อย่างถ้าเป็นหนังโป๊แต่ก่อนผู้กำกับก็จะมีบทบาทมากหน่อย อย่างผมก็ต้องเขียนบท เขียนสคริปต์ อ๊ะมีนะครับ แต่ว่ามันก็ไม่ได้มากมายอะไร พล็อตเรื่องเราก็เอามาจากหนังใหญ่ทั่วๆ ไป ดัดแปลงนิดๆ หน่อยๆ ธีมหลักๆ ก็หนีไม่พ้นฉากข่มขืน สาวบ้านป่าบ้านนาถูกหลอกมา อันนี้แบบเก่าๆ"
"แต่ถ้าเป็นรุ่นใหม่ๆ นี่ไม่ยาก บทพูดจะน้อย มาถึงก็ซัดกันเลย อันนี้ผมว่ามันเป็นเสน่ห์ของหนังไทยที่หายไป แต่ที่เขาทำดีๆ เป็นเรื่องเป็นราวก็ยังมีอยู่บ้างนะ"
"ส่วนไอ้ที่ยอดฮิตที่บอกว่าเป็นแอบถ่ายอะไรนั่นน่ะ บอกกันไว้ก่อนเลยว่าร้อยละเกือบจะร้อยเลย ถ้ามันออกมาจากบริษทันนะ เมคขึ้นมาทั้งนั้นแหละ อย่าไปเชื่อ สวนฮงสวนหิน มอมยาเด็กมัธยม จัดฉากทั้งนั้น แต่ถ้ามองแบบคนอย่างพวกผมต้องบอกว่าเป็นทางออกที่ดีของหนังเลยนะ คือถ้าเป็นเรื่องแบบเดิมๆ เอาพล็อตหนังมาทำมันซ้ำซาก"
เอเย่นต์จัดหาดารา
บอกไปอาจจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่จากปากของเอเยนต์จัดหาเด็กสาวหน้าตาดีๆ ไปถ่ายภาพนู้ดยืนยันว่าวันหนึ่งๆ จะมีสาวพาณิชย์หรือว่าเด็กเทคนิค รวมทั้งนักศึกษาเดินเข้ามาหาเธอเฉลี่ยวันละ 4 - 5 คน
"ถ้าเขารู้ว่าเราทำงานอย่างนี้นะเขาก็จะเดินมาหาเราเองเลย..." เอเยนต์กะเทยหาเด็กถ่ายนู้ดและเดินแฟชั่นเผย
"ถามว่าเด็กพวกนี้ไปหาที่ไหน คำตอบก็คือแต่ก่อนอาจจะเป็นหมอนวด เด็กบาร์ ทว่าในระยะหลังก็จะเป็นเด็กไซด์ไลน์ เด็กเที่ยวกลางคืน เด็กคาราโอเกะ ซะเป็นส่วนใหญ่"
"มันจะเป็นปากต่อปากกันค่ะ อย่างคนนึงทำก็ไปบอกเพื่อนอีกคนนึงว่าคนนี้นะเขาหาตังค์ให้เราใช้ได้นะ ถ้าอยากจะมีเงินใช้ พอเด็กคนนั้นสนใจก็จะเดินเข้ามาหาเราเอง นัดหมายดูตัวหรือว่าทำงานอะไรกันก็ไม่ยากแล้ว โทร.กริ๊งเดียว"
"ตอนนี้ที่เริ่มจะนิยมก็คือเด็กเที่ยวที่อยู่ตามต่างจังหวัดใหญ่ๆ ที่มันมีที่เที่ยวกลางคืน อย่างแถบนี้ก็ที่พิษณุโลกแล้วก็จะอยู่กันเป็นแก๊งๆ เยอะมาก เวลาไปทีก็จะได้เครือข่ายมาพอสมควร เริ่มต้นก็อาจจะถ่ายหนังสือก่อน ถ่ายคาราโอเกะ พาไปเดินแบบบ้าง เจอแสงเจอสีเข้าก็ใช้เงินมากขึ้น เอ้ามีคนสนใจเรียกไปนอน ขยับขึ้นไปอีกเอ้าไหนๆ ก็เสียไปแล้วเล่นหนังมั้ย"
ทำไมส่วนมากพอเป็นข่าวร้อยละเกือบร้อยมักจะบอกว่าโดนหลอก?
"เชื่อมั้ยล่ะ..(หัวเราะ) โดนหลอกบังคับนี่มันก็ส่วนหนึ่งแต่น้อยมาก ถามว่าทำมั้ย ไม่ทำเอ้าไม่ทำ หาคนอื่นแทน จริงๆ มันน่าจะเป็นเรื่องของการตกกระไดพลอยโจนแล้วเห็นว่ามันหาเงินได้ไม่ยากมากกว่า เด็กเขารู้อยู่แล้วว่าจะต้องมาเจอกับอะไร มันจะเป็นสเต็ปๆ อย่างที่บอก บางคนก็อาจจะขายตัวก่อน เป็นเด็กไซด์ไลน์ เอ้า ไหนก็ไหนๆ ทำแบบนั้นได้ทีนึงก็พันสองพันถ่ายหนังดีกว่าอย่างต่ำๆ ก็ได้แล้วหมื่น สองหมื่น"
"แต่ถ้าถามว่าจริงๆ เขาอยากทำมั้ย คงไม่มีใครอยากหรอกแต่ว่าด้วยฐานะ ด้วยสติปัญญา ด้วยนิสัยที่เป็นคนชอบเที่ยวชอบสนุก ถ้าไปทำอย่างอื่นมันก็ยาก ส่วนจะอายมั้ย...คือพวกเราอยู่ในที่มืดอยู่แล้ว ถึงจะรู้ก็รู้กันเองภายใน คนที่ดูก็จะเป็นกลุ่มๆ เล็กๆ แต่ที่จะทำให้เด็กกลัวก็คือพวกสื่อนี่แหละ"
"ส่วนผู้ชายก็ลักษณะคล้ายๆ กัน พวกนี้ส่วนหนึ่งก็เด็กเที่ยว บางส่วนก็จะเป็นพวกที่เขาทำงานบริการกลางคืน แต่ว่าค่าตัวผู้ชายที่ไปถ่ายหนังพวกนี้มันจะถูกนะ ถูกกว่าผู้หญิง เรื่องหนึ่งก็อาจจะได้สัก 5,000 บาท แต่ถ้าเป็นผู้ชายพวกฝรั่งอะไรนั่นอันนี้ไม่รู้เหมือนกัน"
ถามถึงเรื่องค่าตอบแทนที่ได้รับเจ้าตัวบอกว่าไม่อยากเอ่ยแต่ดูจากเฟอร์นิเจอร์ที่เธอสวมใส่ รถเก๋งที่เธอขับต้องบอกว่าไม่ธรรมดา
"ทั่วไป 30 - 70 บางทีก็ 40 - 60 แล้วแต่ ไม่มีการเซ็นสัญญา เด็กบางคนไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้วถูกหักเท่าไหร่ พอมารู้ทีหลังก็โวยวาย บางคนก็แยกตัวไปทำเอง อันนี้ก็ว่ากันไปเพราะเอเยนต์ดีก็มีเอเยนต์ไม่ดีก็มี ส่วนพวกที่จ้างเองเขาก็ไม่ค่อยจะเรื่องมาก ถึงเวลาจ่ายก็จ่าย เพราะเขาค่อนข้างจะได้เยอะอยู่แล้วหนังเรื่องนึงก็กินกันยาว แต่ก็อย่างที่บอกมันก็มีทั้งที่ดีที่ไม่ดี เป็นเหมือนกันหมด"
ให้สังเกตที่ไหนมีกะเทย ที่นั่นมักจะมีเรื่องในทำนองนี้
"หนูว่าอย่างหนูเนี่ยเด็กจะกลัวมากกว่า เราก็ต้องคุยกับเขาดีๆ จริงๆ นะเพศอย่างพวกเรามันน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของเรื่องในทำนองนี้แล้วนะ เพราะพวกหนูมันเป็นประเภทที่เข้ากับคนได้ง่ายมั้ยรู้ใจทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย"
ผลิต-โลเกชัน
รถตู้ฟิล์มทึบวิ่งเขาไปจอดที่บังกะโล เด็กหนุ่ม 2 - 3 คนยกของพะรุงพะรังทั้งสปอตไลต์ดวงโต 2 ดวง สายไฟ ฯลฯ ลงจากรถพร้อมด้วยสาวๆ หน้าตาดี สามสี่คนท่าทางโฉบเฉี่ยวก้าวลงตามมา ก่อนจะมีรถเก๋งขับเข้ามาจอดชายหนุ่มวัยกลางคนก้าวเดินเข้ามาสมทบ จากนั้นทั้งหมดพากันหายเข้าไปในบังกะโลกว่าจะออกมาอีกทีก็เช้าของอีกวัน
"ที่ยอดฮิตนั่นแหละ บังกะโลลับๆ ตามชายทุ่งต่างจังหวัดที่คนน้อยๆ น้ำตกบ้าง อีกที่ยอดฮิตก็ที่แพกาญจนบุรี ทะเลที่มันเงียบๆ อุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรมากไฟ 600 หรือว่า 800 เก่าๆ ดวงสองดวง กล้องเบต้าหนึ่งตัว แค่นี้ก็ใช้ได้แล้ว เรื่องแบบนี้ยิ่งคนน้อยก็ยิ่งดี" พี่ชอบคนเดิมเล่าถึงบรรยากาศของวันออกกอง พร้อมกับบอกว่าหากเป็นเมื่อก่อนนี้กองถ่ายจะค่อนข้างจะใหญ่กว่า
"แต่ก่อนถ่ายเป็นฟิล์มเลยก็มีนะ แต่ว่ามันยุ่งยากเดี๋ยวนี้(กล้อง)เบต้าก็หรูแล้ว แต่ส่วนมากจะเป็นดีวีธรรมดา แล้วแต่ก่อนที่ถ่ายก็จะเป็นพวกน้ำตก เป็นทุ่งนาชายป่าชายเขาอะไรนั่นน่ะเวลาจะถ่ายก็จะมีคนคอยดูต้นทางให้ บางทีก็หลอกเจ้าของที่ว่าถ่ายแบบหนังสือ ถ่ายโฆษณา อาจจะให้เงินบ้าง แต่ถ้าที่ไหนเราซี้กับตำรวจในพื้นที่ก็อาจจะขอให้เขาช่วยได้"
ได้เวลาของผู้กำกับแสดงความสามารถ แต่ที่ต้องชื่นชมก็คือพวกนักแสดง
"จริงๆ ก็ไม่ได้กำกับมากมายอะไร จะบอกคร่าวๆ ว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นนะ ต้องมีแบบนั้นนะ ถ้าต้องการให้ผู้ชายเลียของผู้หญิงนี่บางครั้งเขาก็อาจจะคิดหนัก ก็ต้องมีการเพิ่มค่าแรงให้อีกนิด...มีการเทกกลางคันมั้ย ไม่นะ ส่วนมากก็จะถ่ายกันยาวเลยทีเดียว หนังแบบนี้จะมาถ่ายซ่อมอะไรมันคงยากน่ะนะ"
"เรื่องหนึ่งถ้ามันเป็นเรื่องเป็นราว ต้องหาโลเกชันก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 - 5 วันแต่ถ้าเป็นแบบว่าเปิดห้อง เปิดโรงแรมถ่ายกัน วันสองวันก็เสร็จแล้วเรื่องหนึ่ง เข้ากระบวนการตัดต่ออีก 2 - 3 วัน ก็เรียบร้อยได้มาสเตอร์พร้อมปั๊ม เรื่องนึงปั๊มกันประมาณหมื่นแผ่น โรงงานที่ทำส่วนมากก็จะอยู่รอบๆ กรุงเทพฯ แถวชานเมืองอย่างปทุมธานี หรือว่าแถวเมืองนนท์"
ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจหากพบว่าทำไมที่เรียกกันว่า "ท่าน้ำนนท์" จะมีหนังพวกนี้ขายเยอะมาก
"แหล่งปั๊มลองให้สังเกตเอาพวกทาวเฮาส์ที่มันดูดีๆ หน่อยน่ะ คือมันจะไม่ถึงขนาดเป็นตรอกชุมชนหรือว่าสลัมอะไรหรอกอย่างนั้นมันจะเป็นพิรุธ ส่วนมากที่ทำกันก็คือพวกที่เป็นทาวน์เฮาส์ค่อนข้างจะดี เข้าออกสะดวกแต่ต้องเป็นที่เงียบๆ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน"
ทำตรงนี้รู้สึกผิดบ้างมั้ย?
"จริงๆ คงไม่มีใครรู้สึกดีหรอก ก็ลองนึกดูสิถ้าตรงหน้าเป็นลูกสาวเรา ลูกชายเรา เราจะรู้สึกอย่างไร แต่บางทีมันก็คือมันไม่มีทางเลือกที่ดีๆ อย่างนี้นะ อย่างคนที่เขามาเล่นเขาก็ต้องบอกว่ามันค่อนข้างจะได้เงินง่าย แล้วบางคนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่สนุกก็มี"
หนังเอกซ์ไทยในปัจจุบัน/ทัศนะคนดู
"ถ้ารับมาจากเอเย่นต์อีกทีแผ่นนึงจะอยู่ที่ 40 บาท ราคาขายก็ 80 บาท จะฮาร์ดคอร์หรือไม่ฮาร์ด จะฝรั่งหรือไทยก็ราคานี้..." อดีตเด็กขายหนังโป๊ที่จังหวัดเชียงใหม่คนหนึ่งซึ่งปัจจุบันผันตัวมาทำงานเป็นรปภ.ในกรุงเทพฯเปิดเผย ซึ่งเมื่อถามว่าเข้าไปขายได้อย่างไร เจ้าตัวบอกว่าได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่มาอีกต่อหนึ่ง
"รับของ ก็ไม่ยากหรือวุ่นวายอะไร มีเบอร์คนที่เอามาส่งเราก็โทร.ไปนัดกับเขาสะดวกที่ไหน วันไหนอย่างไร คนพวกนี้คุยกันไม่ยากหรอก แต่ถ้าแบบว่าไม่คุ้นหน้าหรือว่าอย่างผมจะให้คนอื่นไปรับแทนนี่ไม่ได้ ต้องคุ้นหรือว่ามีการแนะนำจากคนที่เคยทำมาก่อนนั่นแหละ"
"ส่วนที่กรุงเทพฯนี่ราคาขายของมันจะอยู่ที่ 50 บาท ที่สะพานพุทธนี่ถ้าเราเอาแผ่นเก่าไปแลกก็เพิ่มเงิน 30 บาทเพราะฉะนั้นต้นทุนของมันก็น่าจะอยู่ที่ราคา 20 อันไหนขายดีราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้นได้นะ"
"แต่ก็ใช่ว่ามันจะได้กำไรมากมายอะไรนะ เพราะทำไปทำมาตอนนี้ทุกบ้านแทบจะไรต์ซีดีกันได้แล้ว ซื้อไปแผ่นเดียวไรต์กันสิบแผ่นอันนี้ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบเหมือนกัน แถมพวกนี้บางทีซื้อมาแล้วก็ไรต์ขายเองเลยก็มี"
สภาพการณ์ของหนังเอกซ์ไทยในปัจจุบันต้องบอกว่าคึกคักมากกว่าเดิมมากนัก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเทคโนโลยีที่สะดวกขึ้นทั้งในเรื่องของการผลิตรวมไปถึงการโฆษณาขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อทางอินเทอร์เน็ต
"รักเกินพิกัดเสียว" "ใจแตก" "น้องอยากเป็นอึ้งย้ง" "พิศวาสหาดป่าตอง" "น้องเหมียว" "แอบดูนักเรียนม.3" "เปิดซิงเด็กสาวใจแตก" "ฝันรักนักศึกษา" "สาวมัธยมต้น" "เปลือยนางแบบ" "เด็กเสเพล" "รวมสุดยอดนางแบบ (เพื่อเธอ)" "นวลนาง" "เกาะสวาท" "เชอรี่แอน" "สวิงกิ้งทัวร์" "Love tank" "Be heart" "รสสวาท นางไม้" "รสสวาท สาวพัทยา" "3 สาว เซ็กซ์บอมบ์" "น้องแจงและเพื่อนๆ" "น้องน้อยหน่าและน้องอุ้ม" ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือแค่บางส่วนของหนังเอ็กซ์ไทย(ทั้งเก่าและใหม่)ที่วางขายกันอยู่ในขณะนี้
"ที่ขึ้นชื่อในวงการก็อย่างเช่นที่ใช้ชื่อว่า "A moview" เขาค่อนข้างจะคัดหน้าตาของนางแบบที่มาเล่นรวมทั้งแสงเงาในภาพก็ค่อนข้างจะสวย รวมทั้ง "Butterfly" และ "Erotic Film" ที่จะเน้นไปในทางลักษณะดุเดือดเร้าใจ" นักดูหนังโป๊คนหนึ่งแสดงความคิดเห็น
"ส่วน บีบี ไพรเวท ที่เป็นข่าว พวกนี้เป็นต่างชาติที่เคยทำหนังให้กับไพรเวทบริษัทหนังโป๊ของอเมริกานะ ไพรเวทนี่เป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อและทรงอิทธิพลมากคือพวกนี้ก็ทำขายทั่วโลกอยู่แล้ว ทีนี้ตอนหลังๆ เทรนด์เอเชียเนี่ยมาแรง แล้วที่ไหนมันจะเหมาะเท่ากับเมืองไทย ทั้งที่พัก โรงแรม วิวทิวทัศน์ คือถ้าเป็นทะเลเนี่ยเมืองไทยจะมีพร้อม"
"พวกนี้เคยมาทำให้ไพรเวทแล้วมันก็เห็นช่องทาง หลังๆ ก็มาทำกันเอง ก็กลับเข้ามาเมืองไทยอีกทีแบบไม่มีสังกัด มีช่างกล้อง ดาราคนอเมริกา อิตาลี ส่วนผู้หญิงก็จะคัดเลือกเอาพวกผู้หญิงคาราโอเกะ พวกนอกตู้ที่ดูมีระดับหน่อย ทำเสร็จมาสเตอร์ก็ส่งไปนอกส่วนที่เหลือก็ปั๊มขายเมืองไทย"
"ถ้าเป็นหนังไทยนายทุนส่วนหนึ่งก็จะเป็นเจ้าของแท่นนั่นแหละ แต่ก่อนพวกนี้ก็จะปั๊มหนังโรงพวกแผ่นผีนั่นแหละ แต่ว่าระยะหลังๆ กฎหมายเข้มงวดมากขึ้นแท่นพิมพ์ถูกปิด พวกนี้ก็เลยต้องหาทางออกก็มาปั๊มหนังโป๊บ้างแต่ระยะหลังๆ พวกหนังโป๊ฝรั่งไม่เป็นที่ต้องการมากนัก แต่หนังโป๊ไทยเนี่ยขายได้พวกนี้ก็เลยทำบ้าง พวกที่มาทำให้ก็เป็นพวกที่ทำหนังสือโป๊มาก่อนหรือว่าพวกตามกองถ่ายบ้าง"
จะน่าภูมิใจหรือไม่น่าภูมิใจก็ไม่รู้แต่แหล่งข่าวยืนยันว่าหนังโป๊ไทยทุกวันนี้เริ่มมีมาตรฐานที่ดีขึ้น
"ดูกันง่ายๆ หนังฝรั่งเขาใส่ถุงยางแบบสีขาวสะอาดดูมีคลาสเลยนะ แต่ของไทยสีแดงสีเขียวดูไร้เกรดไร้ราคาเป็นที่สุด แต่ช่วงหลังๆ นี่ก็ดีขึ้นเพราะมีการคัดเด็ก เอาแบบหัวนมไม่ดำ ท้องไม่ลาย มีการตกแต่ง มีดีไซเนอร์เข้ามา"
"มันต้องปรับตัว อุตสาหกรรมนี้คนไทยต้องสู้ เมื่อก่อนถ่ายกันแต่เปิดบริสุทธิ์ไม่ได้ทำหนัง พวกต่างชาติมาก็ทิ้งความรู้ไว้ให้เพียบ เราก็เริ่มจับทางได้ เริ่มผลิตเองตอนนี้ที่มีชื่อก็อย่างผู้กำกับที่ใช้ชื่อว่าช่อ ชะบาแล้วก็แสงตะวัน ที่เขาทำ ทาร์ซาน 1 ทาร์ซาน 2 หรืออย่างเรื่องใจแตกเอาเด็กที่ดูเหมือนนักเรียนจริงๆ มาเลยแล้วก็แบบว่ามีการสัมภาษณ์มีการเล้าโลมกัน"
ก่อนจบการสนทนาแหล่งข่าวยังบอกถึงตลาดที่มีการขายหนังเอ็กซ์ที่ขึ้นชื่อให้ลองไปหาเลือกซื้อ
"คลองถมไม่ค่อยมีหนังไทย มันก็พอมีบ้างที่มันดังจริงๆ แต่แหล่งใหญ่ที่สุดตอนนี้ที่หนึ่งเลยคือท่าน้ำนนท์ รองลงมาก็ตวันนา ใต้สะพานพุทธนี่ก็เยอะใช่เล่น แต่แหล่งที่จะหาซื้อหนังโป๊ได้ดีที่สุดคือท่าขี้เหล็ก มีหมดทั้งไทยเทศ ทั้งวีซีดี ดีวีดีและราคาถูกมากๆ"
