MGR ออนไลน์ - แก้ว เรมี ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ได้เรียกร้องให้ไทยรับผิดชอบตามกฎมหายระหว่างประเทศต่อการรุกรานกัมพูชา โดยกล่าวอ้างว่าไทยมีความผิดจากการก่ออาชญากรรม 3 รูปแบบ
แก้ว เรมี อ้างว่าการที่ทหารไทยข้ามพรมแดนและรุกรานอธิปไตยโดยไม่มีเหตุผลของการป้องกันตนเองถือเป็นอาชญากรรมการรุกราน การโจมตีพลเรือนและทรัพย์สินรวมถึงแหล่งมรดกอย่างเป็นระบบเป็นวงกว้างถือเป็นอาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
“การกระทำที่ยอมรับไม่ได้เหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้การรับผิดชอบตามกฎหมายระหว่างประเทศ” แก้ว เรมี กล่าว
คำแถลงของ CHRC ได้ระบุถึงปัญหาด้านมนุษยธรรมและความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานจากเหตุปะทะที่ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. และยังระบุว่ามีผู้พลัดถิ่น 607,980 คน เสียชีวิต 21 คน และได้บาดเจ็บ 83 คน
CHRC ได้ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีของไทยที่ระบุว่ามีการใช้ปืนใหญ่ เครื่องบินรบ F-16 และ T-50TH ระเบิดลูกปราย และแก๊สพิษ ในพื้นที่พลเรือนของ จ.บันเตียเมียนเจย จ.โพธิสัตว์ จ.อุดรมีชัย จ.พระตะบอง จ.พระวิหาร และจ.เกาะกง
“การกระทำที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเรือนอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิในการดำรงชีวิตและความปลอดภัยของพลเรือน ตลอดจนสิทธิในทรัพย์สินที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” แก้ว เรมี กล่าวอ้าง
คำแถลงของ CHRC ระบุว่าการโจมตีพลเรือนและทรัพย์สินของพลเรือนเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักการพื้นฐานของอนุสัญญาเจนีวา 1949 และพิธีสารเพิ่มเติมที่ห้ามการโจมตีพลเรือนและกำหนดให้มีการคุ้มครองพลเรือนในทุกกรณี
แก้ว เรมี กล่าวว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชาจะส่งคำร้องเร่งด่วนไปยังข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำกรุงเจนีวา และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอื่นๆ เพื่อกดดันไทยและดำเนินการทุกวิถีทางโดยทันที ตลอดจนให้ไทยรับผิดชอบตามกฎหมาย
เขากล่าวอ้างว่าไทยไม่ได้กำลังต่อสู้ที่ชายแดนอีกต่อไป แต่เป็นการรุกรานดินแดนของกัมพูชาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไทยปฏิเสธความพยายามหลายครั้งที่จะดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงที่เสนอโดยฝ่ายที่ 3 และประธานอาเซียน
นอกจากนี้ ยังกล่าวหาว่าไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ ที่ไกล่เกลี่ยโดยนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
เขายังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ สหประชาชาติ และองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค ใช้กลไกและวิธีการต่างๆ กดดันให้ไทยยุติการรุกรานอธิปไตยและพลเรือนกัมพูชา และให้ผู้รุกรานรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น.


