MGR ออนไลน์ - คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ประกาศว่าจะยื่นคำร้องเร่งด่วนเกี่ยวกับ “การกระทำโหดร้ายและป่าเถื่อน” ของผู้นำทหารของไทย พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 และพล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่ CHRC กล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามและละเมิดสิทธิมุนษยชนอย่างร้ายแรง
ในคำแถลงที่เผยแพร่ในวันนี้ (11) CHRC ได้ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีของกองทัพไทย ที่นำโดยพล.ท.วีระยุทธ และพล.ท.วรยส โดยกล่าวหาว่าใช้อาวุธหนักและใช้แก๊สพิษ ในพื้นที่พลเรือนในจ.บันเตียเมียนเจย จ.โพธิสัตว์ จ.อุดรมีชัย จ.พระตะบอง และจ.พระวิหาร ตลอดจนทำลายปราสาทโบราณ ที่เป็นแหล่งมรดกโลกและมรดกของชาติ
รายงานของสื่อกัมพูชาระบุว่า ณ เวลาเที่ยงของวันที่ 11 ธ.ค. มีพลเรือนชาวกัมพูชาเสียชีวิต 11 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 75 คน และพลัดถิ่นเกือบ 200,000 คน
“การกระทำที่โหดร้ายและป่าเถื่อนเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงอาชญากรรมสงคราม ตามอนุสัญญาเจนีวา 1949 การโจมตีหรือการกำหนดเป้าหมายยังสถานที่พลเรือนเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเด็ดขาด และการใช้แก๊สพิษเป็นการละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี ที่ไทยป็นรัฐภาคี” คำแถลงของ CHRC ระบุ
รายงานของสื่อกัมพูชาระบุว่าคำร้องดังกล่าวจะยื่นต่อข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในเจนีวา และฝ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยเรียกร้องให้มีการสอบสวนอิสระ และดำเนินมาตรการที่เข้มงวดและทันที พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบตามกฎหมาย
CHRC ระบุว่ากองทัพไทยได้โจมตีดินแดนกัมพูชาหลายครั้งด้วยอาวุธหลายชนิด รวมถึงเครื่องบินขับไล่ F-16 และแก๊สพิษ ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ CHRC ยังระบุว่าไทยยังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและคำแถลงร่วมว่าด้วยสันติภาพระหว่างกัมพูชาและไทย ที่ลงนามกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย เป็นสักขีพยาน
CHRC เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศและภูมิภาคกดดันให้ไทยยุติการกระทำผิดกฎหมายโดยทันที และประณามผู้นำทหารทั้งสองของไทย และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมทั้งยืนยันว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อผลกระทบจากการรุกรานของไทย
คณะกรรมการฯ เสริมว่ากัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงสันติภาพอย่างเต็มที่ และจะติดตาม บันทึก และรายงานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ต่อไป.


